สองวันผ่านไป
" หนูรา กลับมาแล้วเหรอลูก" มัมลินรีบเดินออกมาจากห้องรับแขกไปรับราเม็งที่หน้าบ้านพร้อมเข้าไปกอดราเม็งและหอมแก้มเบาๆสองข้าง ราเม็งที่เปิดประตูรถลงมา เธอส่งยิ้มให้มัมลินทันทีพร้อมพยายามเดินให้ปกติที่สุด ราเม็งกอดตอบมัมลินแน่นๆเช่นกัน มัมลินได้นั่งรอฟังเสียงรถของเธอในห้องรับแขกพอได้ยินเสียงรถของราเม็ง ท่านก็รีบเดินออกมารับเธอเลย โดยมัมลินเห็นลูกของตัวเองเควินได้ขับตามรถของราเม็งเข้ามาพร้อมกัน มัมลินปลายตามองเควินที่เปิดประตูรถลงมาเล็กน้อย พร้อมถอนหายใจเบาๆ
" ค่ะ คุณป้ารากลับมาแล้วค่ะ" ราเม็งกอดมัมลินแน่นๆพลางคลายอ้อมกอดออกพลางส่งยิ้มหวานตอบมัมลิน ถึงแม้ยังเดินไม่ค่อยปกติแต่ก็ดีเกือบร้อยแล้ว เเค่เจ็บตอนเดินบ้างเธอพอจะอดทนไหว มัมลินยิ้มหวานให้ด้วยความดีใจ เหมือนได้ลูกสาวกลับมาเพราะตั้งแต่ราเม็งย้ายมาอาศัยที่นี้ มัมลินเหมือนมีเพื่อนคู่คิดเวลาไปจ่ายของที่ตลาด สี่สาวก็ไปด้วยกันโดยราเม็งขับรถให้
" ตาเค ทำไมให้หนูราต้องไปนอนที่แล็บด้วย ใช้งานหนูราหนักเกินไปนะมัมเริ่มไม่ชอบงานแบบนี้แล้ว " มัมลินแกล้งบ่นลูกชาย เควินยิ้มหวานให้มัมลิน พลางเดินเข้ามาใกล้ๆมัมลินที่ยังกอดราเม็ง เขาแกล้งสวมกอดราเม็งไปทางด้านหลังเพื่อกอดมัมลิน
" อุ๊ย ผอ.! คุณเควินทำอะไร" ราเม็งอุทานออกมาด้วยความตกใจ มัมลินยิ้มออกมาพร้อมส่ายหน้า เพราะลูกชายชอบแกล้งแบบนี้ไงล่ะถึงไม่รู้ว่าเควินทำจริงๆหรือแค่หยอกเล่น เควินรีบถอยออกไปห่างๆออกยกมือเรียวทั้งสองข้างขึ้น ใบหน้าหล่อเหลานิ่งแต่รอยยิ้มร้ายที่มุมปากผุดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ราเม็งขบกรามแน่น แววตาดุใส่เขา
" แค่หยอกเล่นนะป้า อย่าคิดมาก" เควินบอกกับราเม็งเสียงนิ่ง พลางยักไหล่ให้ ราเม็งยิ่งหน้าแดง หัวใจที่ทำงานหนักยิ่หน้ากว่าเดิม เพราะกลัวว่ามัมลินจะรู้ มัมลินยิ้มออกมาเล็กน้อยพร้อมส่ายหน้ากับความขี้เล่นของลูกชาย
" อย่าให้มัมรู้ว่าไม่หยอกเล่นนะตาเค มัมจะจับแต่งงานเลย" มัมลินพูดกับลูกชาย เควินยักไหล่ให้พร้อมทำหน้าทะเล้นส่งให้มัม ราเม็งแทบหายใจไม่ออกกับคำพูดของมัมลินเธอกลัวที่สุด
" แค่หยอกเองมัม จะจับตงจับแต่งงานเลยเหรอครับ?" เควินแกล้งพูดแซวเล่นออกมา แต่ราเม็งหน้าซีดเผือดเพราะกลัวได้แต่งงานกับเควิน เควินปลายตามองคนตัวเล็กแล้วยกยิ้มที่มุมปาก
" อย่าสนใจตาเคเลยหนูรา เราเข้าบ้านดีกว่าป้าทำของโปรดหนูราไว้รอนะ ไปล้างมือล้างหน้าแล้วลงมาทานข้าวกันดีกว่านะ" มัมลินบอกกับราเม็งพร้อมดึงราเม็งให้เดินตามเข้าไปในบ้านทันที เควินยืนมองตามหลังทั้งสองสาวต่างวัยแล้วส่ายหน้า ' รักมากกว่าลูกจริงๆมัม '
" หึหึ ก็ป้าน่าหยอก " เควินพึมพำออกมาเบาๆ พร้อมเดินเข้าไปในบ้านตามหลังทั้งสองสาวเข้าไป
ก๊อกๆๆๆเสียงเคาะประตูหน้าห้องทำงานของ ผอ.เควินดังขึ้่น เควินละสายตาจากเอกสารเงยหน้าขึ้นมามองประตูที่โดนผลักเข้ามาในห้องทำงานของเขา เฮลท์นักวิจัยหนุ่มเดินเข้ามา เขาโค้งคำนับเล็กน้อยเพื่อเป็นการทักทาย
" เหยื่อทดลองพร้อมแล้วครับ ผอ. " เฮลท์บอกกับเควิน เพราะวันนี้มาตินอัสได้ส่งเหยื่อมาสองคน พวกมันเข้ามาก่อกวนโดยเอายามาปล่อยในสนามแข่งรถ เควินยกยิ้มเหี้ยมๆ แววตาดุดัน
" อืม แล้วตัวอย่างสารเคมีที่เราจะทดลองพร้อมไหม?" เควินถามออกมาด้วยความสงสัย เพราะเขาได้สั่งซื้อแอนแทรกซ์แบบลับๆแต่มีปัญหาตรงที่ต้องเอาแอบส่งทางเรือสินค้าของเด็กเล่นมันต้องมีการแพ็คส่งที่ดีและรอบคอบไม่ให้สารเคมีรั่วไหลออกมาเดี๋ยวเป็นอันตราย ส่วนแก๊สชารินเควินได้สั่งล่วงหน้านานเป็นเดือนถึงได้มา
" ทั้งสองอย่างพร้อมแล้วครับ ผอ. เหลือแค่รอคำสั่ง ผอ. ครับ" เฮลท์บอกออกมาเพื่อรอให้เควินไปดูการทดลองในห้องแล็บที่เหยื่อรออยู่ เควินยกยิ้มเหี้ยมๆ
" งั้นเดี๋ยวขอเวลาผมสักครู่ เดี๋ยวผมตามออกไป" เควินบอกพร้อมกับก้มเก็บเอกสารบนโต๊ะ เฮลท์โค้งคำนับเล็กน้อยแล้วเดินออกไปจากห้องทันที
ในห้องทดลองสีขาวตอนนี้มีเหยื่อที่ยืนรอในห้องทดลองเล็กสองห้อง ทั้งสองคนคือคนที่เอายาไปปล่อยในสนามแข่งรถของมาตินอัสที่เขาดูแลอยู่ เควินเดินเข้ามาพร้อมเดินตรงไปด้านบนห้องเพื่อมองดูผู้ชายคนหนึ่งในห้องทดลองเป็นชาวเอเชียสวมใส่แค่กางเกงขายาวตัวเดียว เขาเดินวนไปวนมารอบๆห้องเพื่อหาทางออก เควินและนักวิจัยอีกคนจ้องมองนิ่งๆ แววตาที่น่าสมเพช เพราะทุกคนที่ได้มายืนในนี้คือพวกที่อบยากลองดีกับพวกเขา พวกท้าทายอำนาจมืด พวกมันสมควรตาย
" ปล่อยกู จับกูมาทำไม?" ผู้ชายในห้องทดลองพูดออกมาหลังจากที่เงยหน้าขึ้นมาเห็นเควินและเฮลท์ยืนจ้องมองเขาอยู่ เควินยกมือขึ้นทักทาย พร้อมยิ้มเหี้ยมๆเฮลท์ยืนนิ่งเฉย
" ปล่อยกูสิว่ะ ปล่อยกู" ผู้ชายในห้องทดลองเริ่มโวยวายหนักกว่าเดิม เขาเริ่มพยายามใช้มือหนาทุบกำแพงห้องที่เป็นกระจกแต่ก็ไม่ได้ผล เพราะกระจกชนิดนี้คือทนทุกอย่าง เควินยกยิ้มเหี้ยม พร้อมปลายตามองเฮลท์
" สารเคมีพร้อมหรือยัง ?" เควินหันไปถามเฮลท์นักวิจัยที่รวมในการทดลองครั้งนี้ ทั้งสองคนทดลองสารเคมีหลายต่อหลายตัวเพื่อใช้ทั้งในสงครามและรักษาโรค เฮลท์จ้องมองเหยื่อที่เดินอยู่ในห้องแล้วยกยิ้มเหี้ยม เควินทำหน้านิ่งเพราะทุกครั้งที่เขาทดลอง ก็ต้องเหมือนเดิมคือตายแค่นั้น แต่ก่อนตายพวกมันแค่ดิ้นทุรนทุรายและชักเกร็งและขาดใจตาย ดูๆแล้วก็เหมือนเดิม แต่มันคือสีสันของชีวิตความสนุกในการมองดูคนดิ้นตายตรงหน้า เขาดูแลบ้วรู้สึกไม่รู้สึกเบื่อเลยเพราะแต่ละรายมีความพยายามเอาตัวรอดต่างกัน แต่สุดท้ายก็ผลลับแบบเดิมคือตาย
" พร้อมแล้วครับ รอแค่ ผอ.สั่งแค่นั้นครับ" เฮลท์บอกกับเควิน เพราะแก๊สชารินที่จะปล่อยเข้าไปในห้องที่ผู้ชายเอเชียยืนอย่างกระวนกระวายและพยายามตะโกนด่าบ้าง ทุบกระจกบ้าง ตอนนี้พร้อมทุกอย่างแล้วเพราะเขาได้ต่อท่อใส่เข้าไปในห้องทดลองเรียบร้อยแล้ว เควินยิ้มเหี้ยมๆ พร้อมพยักหน้าให้
" ปล่อยแก๊สเข้าไปช้า ผมอยากเห็นว่ามันจะเก่งไปได้สักเท่าไร หึหึ" เควินบอกกับเฮลท์เสียงนิ่ง แต่รอยยิ้มเหี้ยมผุดที่มุมปากตลอดเวลาแถมหัวเราะอย่างสะใจในลำคอหนา เฮลท์พยักหน้ารับพลางยื่นมือไปกดปุ่มเพื่อปล่อยแก๊สชารินเข้าไปในห้อง
" พวกบ้าจับกูมาทำไมปล่อยกู แค่กๆๆๆ " ผู้ชายในห้องทดลองเริ่มหายใจไม่ออก เริ่มไอออกมา เขายกมือขึ้นมาจับคอหนาเอาไว้ มืออีกข้างอยากมีปิดจมูกเอาไว้ เควินส่ายหน้าเบาๆ ผู้ชายในห้องทดลองเงยหน้าขึ้นมาดูเขาและพยายามทุบกระจกห้องเสียงดัง
ปึ่กๆๆๆๆ เสียงทุบที่พยายามขอความช่วยเหลือ เควินยืนจ้องมองนิ่งๆ ผู้ชายในห้องทดลองเริ่มมีเลือดออกมาตามจมูก ตา หู เพราะปริมาณของแก๊สเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และสุดท้ายก็ล้มลงไปนอนกองกับพื้นดิ้นทุรนทุรายและขาดใจตาย
" หึหึ ได้ผลดีว่ะ แบบนี้น่าสนุก" เควินพูดออกมาพร้อมเดินไปอีกห้องเพื่อทำการทดลองสารเคมีแอนแทรกซ์ พอทำการทดลองเสร็จสิ้นเควินและเฮลท์ก็เดินออกไปจากห้องทดลอง
" เรื่องไอ้โรเบิร์ตไปถึงไหนแล้วว่ะ?" เควินถามเฮลท์ออกมาเพราะตั้งแต่มันพยายามให้ไอ้แทนไทและห่มรักพยายามสลับยาเพื่อเอาตัวอย่างของเขาแต่ก็ทำไม่ได้ผล และตอนนี้ก็เริ่มเงียบไปได้สักพักแล้ว แต่เขาก็ไม่ไว้ใจมันอยู่ดีเพราะบริษัทวิจัยของมันคือคู่แข่งค้นคว้ายารักษาโรคเพื่อนำไปขอทะเบียนและลิขสิทธิ์ของบริษัทของมันเอง
" ผมในคนตามดูอยู่ครับ แต่เมื่อสามวันก่อน สายของเรารายงานว่ามันมีนัดทานข้าวกับ รพ.คู่แข่งของเราครับ ผอ. " เฮลท์รายงานให้เควินรับทราบเรื่องราว รพ.เอกชนที่ว่าก็คือ รพ.ของหลงเหว่ยที่มาเปิดเมื่อไม่นานมานี้เอง เสียดายแกรนิคไม่ได้อยู่ทำงานกับเขาที่นี่ ต้องไปช่วยแด๊ดคอนส์เพื่อรักของแด๊ดของเขาดูแลธุรกิจสีดำ ไม่งั้นมีอะไรๆให้แกรนิคได้เล่นสนุกแน่ๆเลย
" สงสัยพวกมันคงมีแผนหรือไม่ก็ร่วมมือกัน บอกคนขอเราให้จับตาดูพวกมันไว้อย่าให้คาดสายตา " เควินบอกเสียงเหี้ยมๆแววตาดุดัน
" ครับ ผอ. " เฮลท์ตอบรับ ทั้งสองคนเดินไปยังห้องทดลองของนักวิจัยคนอื่นๆที่กำลังคิดค้นยาตัวใหม่กับโรคต่างๆอยู่ นั้นสายตาของเควินไปสะดุดกับคู่หนุ่มสาวคู่หนึ่งที่ผู้ชายยืนอยู่ด้านหลังและผู้หญิงที่นั่งบนเก้าอี้ด้านหน้ามีกล้อง Microscope ทั้งสองคนพูดคุยกันอยู่และผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันส่องกล้องMicroscope ดูทั้งสองคนสนิทสนมกันมาก เควินชะงักเท้าหยุดเดินแล้วเขายืนจ้องมองทั้งสองคน เฮลท์ที่เดินตามเกือบเดินชนเขา เฮลท์หันไปมองตามสายตาของเควินทันที พร้อมยกยิ้มออกมา
" คู่นี้เหมาะสมกันดีนะครับ ผอ. " เฮลท์พูดออกมาแบบไม่คิดอะไร เควินปลายตามองเฮลท์เล็กน้อยพร้อมส่ายหน้า แล้วเขาก็หันไปจ้องมองทั้งคู่อีกรอบ ' ป้ารานี้ชอบหยอกกับผู้ชายจัง เดี๋ยวเถอะ'เขาพลางคิดในใจมือเรียวกำเข้าหากันแน่นๆแววตาดุดัน ขณะที่จ้องมองทั้งคู่อยู่
" หึหึ เหมาะสมเหี้ยอะไร " เควินพูดออกมาพึมพำคนเดียว พร้อมเดินหมุนตัวเดินต่อไป ' ห้องแล็บหรือห้องแสดงความรักว่ะ หัวเราะคิกคักรบกวนคนอื่น ไม่มีมารยาท' เขาได้แต่บ่นพึมพำในใจ
ราเม็งเปิดประตูงานทำงานส่วนตัวของตัวเอง พอปิดประตูห้องทำงานของเธอปิดลง ราเม็งถึงกับต้องสะดุ้งเพราะเควินยืนอยู่ที่ข้างๆประตูในห้องทำงานของเธอ
" ผอ.!คุณเข้ามาทำไมห้องทำงานของฉัน" ราเม็งเรียกเขาออกมามาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาๆพร้อมถามออกมาด้วยความตื่นกลัว เควินยิ้มเหี้ยมๆที่มุมปากส่งให้ ราเม็งกัดริมฝีปากล่างแน่น