เควินนั่งอ่านเอกสารที่โต๊ะทำงานอยู่ด้านนอกห้องนอน เขากำลังตรวจสอบเอกสารสำคัญอีกรอบเพื่อความรอบคอบและรายละเอียดของเอกสารซับซ้อน เพราะเป็นเอกสารการทดลองลับของห้องแล็บวิจัยของเขาซึ่งบางอย่างที่มีแค่เขาและทีมนักวิจัยอีกสองคนเท่านั้นที่รู้กันเกี่ยวกับการทดลองลับๆ ที่ใช้คนเป็นคนทดลอง
ครืดๆๆ เสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น เควินปลายตามองเล็กน้อยพร้อมชะงักมือเรียวที่จับปากกำลังจะเซ็นเอกสาร เขาพลางถอนหายใจเบาๆ มือเรียวยื่นไปหยิบโทรศัพท์มาและกดรับ
" ครับมัม " เควินขานรับปลายสาย น้ำเสียงไม่บ่งบอกอารมณ์ด้านใน เพราะเขากำลังใช้สมาธิอยู่กับเอกสาร เพราะมาตินอัสพี่ชายจะส่งเหยื่อรายใหม่มาให้เขาทดลองเร็วนี้ เพราะยาที่เขาทดลองเป็นสารเคมีต้องห้ามเขาอยากรู้ว่าพิษของมันเวลาอยู่ในร่างกายของคนแล้วจะเป็นอย่างไร
" ตาเค หนูราไม่กลับบ้านมัมเป็นห่วงจังเลย" มัมลินบอกกับเควินน้ำเสียงเป็นกังวลใจ เควินชะงักเล็กน้อยพร้อมยกยิ้มที่มุมปาก เขาพลางคิดถึงคนตัวเล็กที่นอนบนเตียงแล้วรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมา เพราะนานแล้วที่เขาไม่ได้สุขสมและปลดปล่อยแบบจัดเต็มแบบนี้มานาน เพราะเรื่องบนเตียงมีแค่ มาตินอัส แกรนิค เวกัสเท่านั้นที่รู้
" แล้วมัมได้โทรไปถามคนอื่นหรือยังครับ?" เควินถามมัมลินออกมาอย่างใจเย็นๆเพราะเขารู้ดีว่าคนตัวเล็กอยู่ไหน มัมลินถอนหายใจแรงๆ
" มัมไม่ได้โทรไปถามใครหรอกลูก ก็มัมเห็นหนูราทำงานอยู่กับลูกไม่ใช่เหรอ มัมก็ต้องโทรหาลูกสิ" มัมลินพูดออกมาเควินเขาแทบหลุดขำออกมาอย่างอารมณ์ดีเพราะเขาก็ลืมเรื่องนี้ไปเลย
" เดี๋ยวก่อนนะครับมัม ถือสายรอแป๊บนึงนะครับ เดี๋ยวผมโทรลงไปหากลุ่มเพื่อนด้านล่างของเธอก่อนนะครับ" เควินบอกกับมัมลินน้ำเสียงเรียบ นี้เขาต้องแสดงละครอีกแล้วเหรอ
" จ้าลูก มัมเป็นห่วงหนูรามากเลย ไม่รู้ไปไหน" มัมลินพูดออกมาเควินแกล้งยกหยิบโทรศัพท์ตั้งโต๊ะขึ้นมาพร้อม แกล้งทำเป็นถามเสียงเข้มหลายๆประโยคและหลายๆคำถาม พอสักพักเขาก็วางสาย
" ได้เรื่องแล้วครับมัม หนูราของมัมอยู่ที่ห้องแล็บด้านล่างครับ สงสัยคงนอนที่นั้นครับเพราะงานวิจัยที่ผมมอบหมายให้ยังไม่เสร็จครับมัม " เควินบอกกับมัมลินอย่างใจเย็นๆ เขาหมุนเก้าอี้ไปมองประตูห้องนอนของเขาแล้วยกยิ้มเหี้ยมๆ มัมลินถอนหายใจแรงๆด้วยความเป็นห่วงและเป็นกังวล
" แต่มัมโทรไปหนูราก็ไม่รับโทรศัพท์เลยลูก มัมอยากคุยกับหนูรานะ" มัมลินบอกกับเควิน เขาได้ยินพร้อมใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มเกาคางเบาๆพลางคิดอะไรดีๆออกมา
" เธอยุ่งครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ตอนเย็นๆถ้าเธอเสร็จงานเเล้วก็คงกลับบ้านครับ มัมไม่ต้องเป็นห่วงนะครับเดี๋ยวผมจะดูแลเธอเองครับ" เควินบอกกับมัมลิน สายตาของเขายังจ้องมองที่ประตูห้องนอนไม่ลดละ
" ได้ลูก บอกหนูราของมัมด้วยว่ามัมเป็นห่วง" มัมลินบอกกับเควิน
" ครับ " เควินบอกกับมัมลินพร้อมกดสายวาง เขาหันไปมองดูนาฬิกาที่แขวนบนฝาผนังพร้อมดันตัวลุกขึ้น เดินไปที่ห้องนอนทันที เผื่อคนตัวเล็กที่นอนหลับอยู่ตื่นขึ้นมา
เที่ยงคืนราเม็งพยายามลืมตาตื่นขึ้นและพยายามขยับแต่เธอรู้สึกเจ็บไปหมดทั้งตัวและเจ็บมากที่สุดคือช่วงล่าง
" จิ๊... จะ...เจ็บ" ราเม็งร้องออกมาเล็กน้อยพร้อมบ่นพึมพำออกมา ดวงตากลมโตพยายามลืมขึ้นมาในห้องนอนสีดำทึบ มีไฟหัวเตียงเปิดไว้นาฬิกาหัวเตียงบอกเวลาเที่ยงคืน สมองของเธอพยายามประมวลภาพที่เกิดขึ้นกับเธอเมื่อตอนบ่าย มือเล็กพยายามยกขึ้นมาปิดปากเล็กไว้เพื่อไม่ให้ร้องไห้เสียงดัง ' ไอ้ผอ.โรคจิตข่มขืนฉัน' เธอพลางคิดในใจน้ำตาไหลออกมาแก้มทั้งสองข้าง มือเล็กที่ปิดปากตัวเองไว้ยิ่งปิดแน่นกว่าเดิมเพื่อไม่ให้เสียงเล็ดลอดออกมาจากปากเล็ก
" ตื่นแล้วเหรอป้า ลุกมาทานข้าวสิ " เควินเปิดประตูเข้ามาในห้องนอน หลังจากเขาคุยโทรกับมัมลินพึ่งเสร็จ ราเม็งยกมือเล็กชึ้นเล็ดน้ำตาออกจากแก้ม จมูกเล็กแดง เธอพยายามดันตัวลุกขึ้นพิงตัวเตียงอย่างรู้สึกเจ็บไปทั้งร่างกาย เควินยืนพิงขอบประตูจ้องมองนิ่ง เขาเห็นน้ำตาไหลอาบแก้มเนียน มือเล็กยกขึ้นมาเช็ดบ่อยครั้งเพราะเช็ดแล้วก็ไหลออกมาเหมือนเดิม เควินยกยิ้มร้ายที่มุมปากพลางส่ายหน้าเบาๆ ราเม็งปลายตามองคนตัวโตแล้วขบกรามแน่น
" ฉันจะกลับบ้าน " ราเม็งพูดออกมาพลางกลั้นเสียงสะอื้นตาเริ่มแดงอีกรอบ ปากเล็กเริ่มสั่น มือเล็กกำผ้าปูที่นอนแน่น เควินปากคว่ำมองบน พร้อมยักไหล่ส่งให้คนตัวเล็กอย่างไม่ยี่หระ เขาดันตัวจากขอบประตูพลางเดินเข้ามาใกล้ ๆคนตัวเล็กที่พิงหัวเตียงอยู่
" กลับบ้าน หึหึ " เควินพูดออกมาเสียงเหี้ยม เขาเดินมายืนที่ขอบเตียงใกล้ๆเธอ พร้อมยื่นมือเรียวไปสำรวจที่หน้าผากมนเพื่อวัดไข้ ราเม็งเบี่ยงใบหน้าหนี เควินขบกรามแน่น' ดื้อ หยอกอีกสักสองสามรอบดีไหม ' เขาพลางคิดในใจ
" จิ๊.... อย่าดื้อ ทานข้าวแล้วทานกินยา เดี๋ยวพรุ่งนี้เราค่อยหยอกกันใหม่ " เควินพูดออกมาเสียงเหี้ยมๆเพื่อให้คนตัวเล็กกลัว ราเม็งแทบหยุดหายใจเพราะประโยคที่เขาพูดออกมาบอกเธอ ปากเล็กอ้าค้างไว้ ใบหน้าเรียวเล็กเงยขึ้นมามองหน้าเขาแววตาเกลียดชัง
" หยอกบ้าอะไร ไอ้บ้า นายข่มขืนฉัน" ราเม็งพูดออกมาเสียงดัง เควินขบกรามแน่น 'ยังปากดีอยู่ ' เขาจ้องมองคนตัวเล็กนิ่งแววตาดุดันน่ากลัว
" กินข้าวราเม็งแล้วกินยา ไม่งั้นฉันจะไม่หยอกเธอแบบเมื่อตอนกลางวัน ไม่เชื่อก็ลองดู หึหึ" เควินบอกกับคนตัวเล็กที่ทำท่าจะร้องไห้อีกรอบ เควินก้มลงไปสบตากับเธอใกล้ๆ
" หยุดร้อง แค่หยอกกันเล่นๆ แชร์ประสบการณ์อ่ะ อย่าคิดมากน่าป้า ทานข้าวเดี๋ยวนี้" เควินพูดออกมารอดไรฟัน แววตาดุดันน่ากลัว ราเม็งขบกรามแน่น เธอพยายามสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ กระพริบตาถี่ๆเพื่อไล่น้ำตา พร้อมละสายตาจากคนตัวโตที่สบตากันอยู่ มือเล็กยื่นไปหยิบข้าวต้มที่อุ่นๆอยู่ขึ้นมา มือเล็กที่สั่นเทาตักข้าวต้มเข้าปากช้าๆ เควินยกยิ้มร้ายให้เขานั่งลงข้างๆขอบเตียงมองการกระทำของคนตัวเล็ก พอทานข้าวเสร็จมือเล็กก็ยื่นไปหยิบยาและน้ำขึ้นมาดื่ม พลางล้มตัวลงนอนหันหลังให้เขา เควินดันตัวลุกขึ้นยืนพร้อมเดินออกไปจากห้องทันที
ตอนเช้าราเม็งต้องลางานตลอดวันเพราะเธอเดินไม่ไหว ขนาดลุกไปเข้าห้องน้ำเธอยังลุกไม่ไหว ต้องเป็นเควินที่เขาช่วยเธอโดยการอุ้มไปเข้าห้องน้ำและยังพาออกไปนั่งที่ระเบียงนอกห้องนอน เพื่อให้เธอรับอากาศบริสุทธิ์เข้าปอด ' สำออยจังป้า แค่หยอกเล่นเบาๆเองนะเนี่ย' คำพูดของเขาที่พูดกระแนะกระแหน แต่เขาก็ดูแลอย่างดี จนตกตอนเย็นเขาเปิดประตูห้องนอนเข้ามา ราเม็งนั่งที่ขอบเตียงพร้อมชุดที่เข้าไปซื้อใหม่มาให้เธอทุกอย่าง เควินชะงักไปเล็กน้อยเพราะชุดเดรสที่เขาเลือกให้เธอเป็นชุดเดรสสีชมพูอ่อนลูกไม้เเขนสั้นกระโปรงยาวเข่าเล็กน้อย ตอนนี้ดูเธอแตกต่างจากชุดที่เคยใส่บ่อยๆ
" เดินไหวไหม หยอกเล่นนิดเดี๋ยวเล่นใหญ่ทั้งวันเลย" เควินพูดออกมาเสียงนิ่ง เขาจ้องมองคนตัวเล็กนิ่ง ราเม็งขบกรามแน่น แววตาที่มองเขาว่างเปล่า วันนี้เธอนอนแช่น้ำอุ่นทายาที่เขาให้ ดีขึ้นบ้างแต่มันต้องใช้เวลาสามสี่วัน เพราะอาการที่โดนไม่ใช่เบาๆ ทั้งร่างกายด้วยที่เป็นรอยฟันและรอยดูดสีกุหลาบใหญ่
"........" ราเม็งดันตัวลุกขึ้น พร้อมขยับก้าวเท้าเล็กใบหน้าเหยเกเพราะรู้สึกเจ็บที่น้องสาว เธอกัดริมฝีปากล่างแน่น น้ำตาคลอเบ้า เควินมองการกระทำของคนตัวเล็กตรงหน้าแล้วรู้เลยว่าเธอเดินไม่ไหว เควินเดินเข้ามาอุ้มคนตัวเล็กขึ้นราเม็งถึงกับอ้าปากค้าง หัวใจดวงน้อยเต้นแรงโครมครามด้วยความตื่นกลัว เควินก้มมองคนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดแล้วยกยิ้มเหี้ยมพร้อมส่ายหน้า
" คราวหน้าจะหยอกแรงกว่าเดิมอีกเป็นสองเท่าค่อยดู หึหึ" เควินพลางพูดออกอุ้มคนตัวเล็กออกจากห้องไป ราเม็งแทบมือไม้สั่นเทา หัวใจที่เต้นแรงยิ่งเเรงกว่าเดิม
รถสปอร์ตจอดที่หน้าคอนโดหรูของมาตินอัส ราเม็งหันมามองหน้าเควินอีกรอบกับคำถามที่เข้าเต็มใบหน้า เควินปลายตามองเล็กน้อยพร้อมถอนหายใจแรงๆ
" เจอเสาเข็มเดินไม่ไหวก็พักที่นี่แหละ" เควินพูดออกมาพร้อมเปิดประตูรถลงไป เขาเดินอ้อมมาที่เปิดประตูรถของคนตัวเล็กพร้อมเปิดออก เขาก้มตัวลงๆอุ้มคนตัวเล็กพร้อมพาขึ้นห้องทันทีโดนไม่สนใจสายตาของสาวๆที่ประชาสัมพันธ์และสาวๆที่จ้องมองมาที่เขา ราเม็งกอดคอหนาแน่นๆเพราะกลัวเขาปล่อยเธอตก เควินปลายตามองคนตัวเล็ก
" โทรหามัมด้วย บอกกับมัมไปว่าเธอทำงานที่แล็บต้องนอนค้างที่นั้นสามวัน " เควินยื่นโทรศัพท์ในคนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนโซฟาในห้อง หลังจากเดินเข้าห้อมมาแล้ว ราเม็งยื่นมือเล็กออกไปรับเอาโทรศัพท์มา แต่เควินชักกลับคืน
" อย่าขี้ฟ้อง ไม่งั้นหนักสองเท่าจำไว้" เควินเค้นเสียงพูดออกมารอดไรฟันเพื่อบอกคนตัวเล็ก เขารู้ดีว่ามัมรักราเม็งมากแค่ไหน ทั้งรักทั้เอ็นดูไม่ต่างจากลูกสาวด้วยซ้ำ ราเม็งทำหน้างอง้ำลงพร้อมถอนหายใจเบาๆ เธอจะกล้าฟ้องคุณลุงคุณป้าได้ไงเรื่องแบบนี้ เควินหมุนตัวเดินไปกดโทรสั่งอาหารขึ้นมาทานบนห้อง
ตื้ดดดด เสียงรอสายของโทรศัพท์มัมลินที่บน
" สวัสดีค่ะ ต้องการพูดสายกับใครคะ?" เสียงปลายสายคือกองฟาง ราเม็งยกยิ้มดีใจแต่ต้องหุบยิ้มเพราะเควินเดินมานั่งข้างๆพร้อมดึงโทรศัพท์มาเปิดลำโพงคุย
" ฟางนี้พี่ราเองนะ ของสายคุณป้าลินหน่อยได้ไหม ราอยากคุยกับท่านนะ" ราเม็งพูดออกมาพลางปลายตามองเควิน เควินยักไหล่ให้เล็กน้อย
" ค่ะพี่รา รอแป๊บนึงนะคะ" กองฟางตอบ ราเม็งถือสายรออย่างใจจดใจจ่อหัวใจดวงน้อยเต้นแรงโครมครามเพราะต้องโกหกครั้งแรกกับผู้ใหญ่
" อย่ามีพิรุธ อย่าขี้ฟ้อง" เควินยื่นใบหน้าอันหล่อเหลาเข้ามาใกล้กระซิบเบาๆที่ข้างใบหูเล็ก เขาใช้ฟันคมขบเม้นเบาๆที่ติ่งหูเล็ก ราเม็งถึงกับต้องหดคอลงเพราะรู้สึกป่วนปั่นที่ท้องน้อย เธอกัดริมฝีปากล่างแน่น เควินยกยิ้มเหี้ยม
" หนูรา อยู่ไหนลูกวันนี้หนูจะกลับบ้านไหม ป้าเป็นห่วงหนูมากรู้ไหมลูก?" มัมลินพูดออกมา ราเม็งสะดุ้งเล็กน้อยพร้อมหันมามองโทรศัพท์บนโต๊ะ เควินหันมามองตามเช่นกัน
" ระ....รานอนที่แล็บค่ะคุณป้า คะ...คงนอนสองวันค่ะงานวิจัยถึงจะเสร็จค่ะ" ราเม็งบอกกับผู้สูงวัยปลายสายในใจรู้สึกผิดที่โกหกออกไป เควินจ้องมองด้วยแววตาดุดันน่ากลัว ราเม็งขบกรามแน่น ' ฉันเกลียดแก ไอ้โรคจิต' เธอพลางคิดในใจด้วยแววตาเกลียดชังเควิน
ตุบ! เควินผลักคนตัวเล็กล้มลงบนโซฟาพร้อมขึ้นคล่อม มือเล็กโดนมือหนารวบขึ้นไว้เหนือศีรษะ
" หนูราทานข้าวหรือยังลูก แล้วหนูราเห็นตาเคบ้างหรือเปล่าลูก?" มัมลินถามออกมาด้วยความเป็นห่วงทั้งสองคน เควินก้มลงไปใกล้ๆคนตัวเล็กด้านล่างด้วยรอยยิ้มเหี้ยมๆ
" ตอบดีๆห้ามเสียงสั่น" เควินเค้นเสียงรอดไรฟันบอกกับคนตัวเล็ก ราเม็งพยายามดิ้นแต่ดิ้นไม่ไหวเพราะร่างกายโดนทับด้วยร่างคนตัวโต หัวใจยิ่งเต้นแรงกว่าเดิม เธอสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ
" รากำลังจะทานค่ะคุณป้า ส่วน ผอ.ราไม่เห็นค่ะคุณป้า" ราเม็งบอกกับมัมลิน เควินก้มลงไปซุกชอกคอขาวจมูกโด่งคลอเคลียสูดกลิ่นหอม ราเม็งตัวสั่นเทาเริ่มใจไม่ดีเพราะจมูกโด่งเริ่มคลอเคลียลงเรื่อยๆมาที่หน้าอกใหญ่ ฟันคมพยายามกัดเสื้อที่หน้าอก ราเม็งขนลุกขนชัน ขาเล็กดิ้นตีโซฟา
" งั้นเดี๋ยวกลับมาบ้านเมื่อไหร่ป้าจะทำของโปรดหนูราไว้รอนะลูก เเค่นี้แหละป้าไม่รบกวานแล้วนะ " มัมลินบอกกับราเม็งน้ำเสียงสบายใจและดีใจที่ได้คุยกับเธอ ราเม็งปลายตามองโทรศัพท์แล้วถอนหายใจเเรง
" ค่ะคุณป้า " ราเม็งบอกกับมัมลิน เควินยื่นมือหนาไปกดวางสายทันที พร้อมหันหน้ามามองสบตาคนตัวเล็กที่อยู่ด้านล่าง
" อย่าคิดด่าฉันในใจ เพราะเธอจะโดนหนักเป็นสองเท่า" เควินบอกกับคนตัวเล็กด้านล่างเค้นเสียงรอดไรฟันอีกรอบ ราเม็ง ขบกรามแน่น
ติ่งหน่องๆๆเสียงออดหน้าห้องดังขึ้น เควินเงยหน้าไปมองที่ประตูแล้วคลายมือออกจากข้อมือเล็ก เพราะอาหารที่สั่งได้มาส่งแล้ว เขาดันตัวลุกขึ้่นพร้อมเดินตรงไปที่ประตูเพื่อเปิดออกรับอาหาร ราเม็งดันตัวลุกขึ้นพร้อมมองตามหลังคนตัวโต มือเล็กกำเข้าหากันแน่น ' ฉันจะฆ่าแก ไอ้โรคจิต' เควินหันหน้ามาสบตากับราเม็ง พร้อมยกยิ้มเหี้ยม
"ผมจะฆ่าคุณด้วย ปาก ลิ้น ฟัน และ เสาเข็ม ค่อยดู หึหึ' เควินพูดออกมาเสียงเหี้ยม พร้อมเดินเข้ามาใกล้ๆวางอาหารที่สั่งมาไว้ด้านหน้าคนตัวเล็ก