บทที่ 2 เธอคนนั้น
เพียงไม่กี่สิบนาทีต่อมาเสียงรถพยาบาลก็มาถึง พร้อมกับตำรวจก็เข้ามาถึงที่เกิดเหตุ
เมื่อเฌอรินเห็นดังนั้นเธอจึงปลีกตัวออกมาเพื่อไม่ให้เป็นการขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ เธอดูจนมั่นใจว่าพวกเขาปลอดภัยแล้ว
“ตายแล้ว ลืมพี่รัญไปเลย โดนดุอีกแน่"
กว่าจะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองเผลอลืมเรื่องสำคัญ ร่างบางก็เปียกปอนด้วยสายฝนจนตัวโชก ถึงต่อให้เธอเอาเอกสารมาให้พี่สาวเธอได้ทัน แต่สุดท้ายด้วยสภาพแบบนี้ เฌอรินก็ไม่สามารถเข้าไปร่วมประชุมกับพี่สาวตัวเองได้อยู่ดี
“ทำไงดีเลยเวลาแล้วด้วย” เฌอรินขับรถไปที่ลานจอดก่อนจะวิ่งกระหืดกระหอบเพื่อขอเข้าไปพบพี่สาวที่หน้าตึกขอบริษัทชาร์โตที่พี่สาวมาเจรจาธุรกิจ แต่ด้วยสภาพที่เปียกปอนและเนื้อตัวเปื้อนเลือด ทำให้ รปภ.ไม่ยอมอนุญาตให้เธอเข้า
เธอพยายามโทรหาพี่สาวครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อให้พี่สาวลงมารับเอกสาร แต่เหมือนว่าพี่สาวของเธอจะปิดเครื่องไปเสียแล้ว หยดน้ำตาใสเกลือกกลิ้งบนดวงตาอย่างนึกโทษตัวเอง เพราะรู้ดีว่าการที่พี่ของเธอปิดเครื่องคือน่าจะเข้าไปพบผู้บริหารของชาร์โตเรียบร้อยแล้ว
หากบริษัทของคุณพ่อต้องพลาดการเจรจาธุรกิจครั้งนี้ เฌอรินจะโทษว่าเป็นความผิดของเธอแต่คนเดียว
....
เกือบสามชั่วโมง ที่เฌอรินยังยืนคอยพี่สาวอยู่หน้าตึกอย่างกระวนกระวาย แม้สายฝนที่ค่อย ๆ ซาลงไปจนเหลือเพียงกลิ่นอายของสายฝนและน้ำที่เจ่อหนองตามพื้นถนน เฌอรินก้มมองสภาพของตัวเอง มองเห็นรอยเลือดที่ยังเปรอะเปื้อนด้วยคราบเลือด
-เขาคนนั้นจะเป็นยังไงบ้างนะ-
“เฌอริน!!”
เสียงตวาดแวดของพี่สาวทำให้เธอสะดุ้งก่อนจะเห็นพี่สาวของตัวเองเดินออกมาจากหน้าตึก
“พี่รัล” ทั้งที่ตัวเองเพิ่งโดนพี่สาวเอ็ด แต่ครั้นเห็นพี่สาวที่ตัวเองยืนรอมาเกือบสามชั่วโมง ใบหน้าหวานก็คลี่ยิ้มออกมาอย่างดีใจ ก่อนจะต้องหุบยิ้มลงอีกครั้ง เพราะเฌอรัลยังคงมีสีหน้าไม่พอใจกับความผิดพลาดของน้องสาว
“นี่เธอเห็นงานของบริษัทเราไม่สำคัญหรือไง พี่บอกแล้วใช่ไหมให้รีบมา แล้วดูสภาพแต่งตัวสิ เปียกปอนจนไม่เหลือคราบลูกเจ้าของบริษัท”
นอกจากเฌอรัลไม่ได้ขอบคุณน้องสาวที่รีบร้อนเอาเอกสารมาให้ เธอยังโดนหล่อนต่อว่า และแน่นอนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เฌอรินมักจะโดนพี่สาวของเธอต่อว่าแบบนี้
“แล้วนี่ทำไมเนื้อตัวถึงเปื้อนเลือดแบบนี้” ไม่มีสายตาที่เป็นห่วงแต่ที่ถามเพราะแค่รู้สึกสงสัย
“ขอโทษค่ะพี่รัล พอดีมาถึงหน้าตึกแล้วรินเจออุบัติเหตุพอดี”
“แล้วเธอก็ยุ่งเรื่องชาวบ้าน จนลืมว่าตัวเองมีเรื่องที่ต้องทำสำคัญกว่า!” เฌอรัลกอดอกมองน้องสาวอย่างดูแคลน
“เออว่าแต่การเจรจาเป็นอย่างไงบ้างคะ”
“เพราะไม่มีเด็กอย่างเธอมาร่วมด้วยมั๊ง งานถึงสำเร็จ”เฌอรัลเบะปากใส่น้องสาว ก่อนจะยกโทรศัพท์ออกมา เพื่อโทรมาผู้เป็นพ่อที่นอนป่วยอยู่ที่บ้าน หากไม่เช่นนั้นแล้วคนที่ต้องมาเจรจาครั้งนี้คงเป็นพ่อของเธอเอง
(ว่าไงเรียบร้อยไหมรัล)
“เรียบร้อยสิคะ แหมระดับรัลมาเองเขารีบตกลงเซ็นต์สัญญาร่วมกับเราทันทีเลยละค่ะ”
(ตัวแทนของตระกูลภัควรเดช คงไม่ได้มาสินะ หึ หึ หึ)
“คุณพ่อรู้ได้ยังไงคะ ว่าบริษัทนั้นไม่มา”
(พ่อรู้ของพ่อก็แล้วกัน ว่าแต่ครั้งนี้ลูกสาวของพ่อทั้งสองคนทำได้เยี่ยมมาก)
“สองคนที่ไหนคะ รัลคนเดียวค่ะ พอถึงเวลารินหายไปไหนก็ไม่รู้” เฌอรัลไม่ยอมบอกพ่อของเธอไปตามตรง ว่าเธอเป็นคนให้เฌอรินน้องสาวกลับไปเอาเอกสารที่บริษัท
เฌอรินที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ยังคงมองพี่สาวด้วยความชื่นชมเพราะดีใจกับความสำเร็จของพี่สาว เพราะนั่นหมายถึงการเจรจาในครั้งนี้จะทำให้กิจการของทางบ้านของเธอไปต่อได้
.......
อาทิตย์ต่อมาในขณะที่ตระกูลดิษสถาวงศ์ เลี้ยงฉลองกับความสำเร็จที่สามารถแย่งโปรเจคพันล้านมาครอบครองจนถึงขึ้นลงนามทำสัญญากันเป็นที่เรียบร้อย
แต่อีกฝากฝั่งคือตระกูลภัควรเดช กำลังเคืองแค้นเพราะ ปราบ หรือ ปัณณทัต ลูกชายคนโตของตระกูล ภัควรเดช กลับโดนลอบยิงจนบาดเจ็บสาหัส และเขาต้องถูกนำตัวส่งเข้าโรงพยาบาล ทั้ง ๆ ที่อีกไม่ถึงชั่วโมงเขาจะเดินทางเข้าไปที่ตึกของบริษัทชาร์โต ทำให้สัญญาพันล้านต้องหลุดลอยไปให้บริษัทคู่แข่งอย่างตระกูลดิษสถาวงศ์ไปอย่างน่าเสียดาย
ภายในห้องพักผู้ป่วยวีไอพีของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง ปราบที่เพิ่งฟื้นจากอาการบาดเจ็บนอนพิงตัวอยู่บนเตียงนอนปรับระดับ ในมือมองสร้อยคอจี้เพชรราคานับแสนคำว่า Char-r แต่ตัวอักษรสองตัวหลังน่าจะหักไปจนเหลือข้อความมาไม่ครบ และพยาบาลเพิ่งนำมาให้เมื่อเช้านี้โดยบอกว่าติดมากับกระเป๋าเสื้อสูทของเขา
-ของเธอคนนั้นสินะ-
ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้ปราบหลุดออกจากภวังค์
“เข้ามา”
ปราบเอ่ย เพราะรู้ว่าคนหน้าห้องคือ ก้องภพ ลูกน้องของพ่อเขาที่เพิ่งถูกส่งตัวมาคุ้มครองเขาเป็นกรณีพิเศษ
ก้องภพมีอายุไม่ห่างจากปราบมากนัก ระหว่างทั้งคู่ ก้องภพก็เป็นทั้งลูกน้องและเพื่อนเล่นในวัยเด็กเลยก็ว่าได้ เนื่องจากคุณพ่อของก้องภพรับใช้ตระกูลของภัควรเดชมาอย่างยาวนาน ลูกหลานจึงล้วนแต่ถูกเลี้ยงดูมาพร้อมกับการฝึกฝนให้รับใช้คุณหนูภายในตระกูลควบคู่กัน พอก้องภพเรียนจบตำรวจได้ไม่นาน แต่เขากลับถูกดึงตัวเข้ามาเพื่อคุ้มครองปราบโดยเฉพาะ
ที่ผ่านมาคงครอบครัวภัควรเดชประมาทศัตรูทางการค้าจนเกินไป ไม่คิดว่าการทำธุรกิจแบบขาวสะอาด แต่กลับต้องมาเจอวิธีการที่สกปรกแบบนี้จากคู่แข่งอย่างตระกูลดิษสถาวงศ์
“นายมาก็ดีแล้วก้องภพ เดี๋ยวออกไปทำเรื่องให้ออกจากโรงพยาบาลให้ด้วย”
“จะออกจากโรงพยาบาลทั้งที่แผลยังไม่หายดีมากหรือครับ”
“ไกลหัวใจ ไม่ตายหรอกน่า นายไปทำเรื่องให้ฉันไว ๆ จะดีกว่า”
ก้องภพพยักหน้ารับคำ ก่อนที่ปราบจะเอ่ยถามออกไปถึงข้อสงสัยที่เกิดขึ้นภายในใจ
“เดี๋ยว แล้วนายให้คนไปตรวจสอบมาหรือยังว่าฝีมือใคร”
“ได้ความมาแล้วครับ ตอนนี้คนของเราตามจนจับตัวคนที่ลอบยิงมาได้แล้ว เป็นคนของตระกูลดิษสถาวงศ์ส่งตัวมา ตอนนี้นายท่านจับตัวมันไว้แต่ยังไม่ได้ส่งเรื่องให้ตำรวจ”
“หึ ... ดิษสถาวงศ์งั้นเหรอ สกปรกดี” ปราบแค่นหัวเราะ “แล้วอีกเรื่องที่ฉันให้ตามหา” น้ำเสียงครั้งนี้ดูอ่อนลงกว่ารอบแรก
“เออ...เรื่องผู้หญิงคนนั้นที่เข้ามาช่วยเหลือคุณปราบหรือครับ”
“อืม”
“นี่ครับเป็นข้อมูลของทะเบียนรถของคุณผู้หญิงที่เขามาช่วยเหลือคุณปราบในวันนั้น”
ปราบรับเอกสารจากก้องภพ ก่อนมองเอกสารเจ้าของรถในมืออย่างสนใจ
รสรัล ดิษสถาวงศ์ (เฌอรัล) Char-ral งั้นเหรอคือชื่อของเธอคนนั้น ใช่ถ้าดูจากสร้อยที่หายไป Char-r ตัวที่หายไปคงจะเป็น al สินะ ปราบเผลอยิ้มออกมาที่มุมปาก ขนาดว่าตัวเองเพื่อรอดตายจากคนในตระกูลดิษสถาวงศ์มาแท้ ๆ แต่ดันกลับไปคิดถึงอ้อมกอดเธอคนนั้น
ชั่วขณะที่สติใกล้จะเลือนหายแต่กลิ่นอายความหอมอ่อน ๆ กับเนื้อตัวนุ่มนิ่มบนตัวหญิงสาวคนนั้น ยังติดตรึงอยู่ไม่หาย ก่อนจะเปลี่ยนใบหน้าสีหน้าอย่างแค้นเคียง
ดิษสถาวงศ์ กล้าดียังไงที่ส่งคนมาฆ่าเขา!