แสงจันทร์นวลส่องจับใบหน้าสวยหวานของระรินเพียงเสี้ยววินาทีนั้น ดวงหน้าที่ไม่อาจปกปิดได้ของระรินวูบไหวอยู่ในสายตา องครักษ์หนุ่มหัวใจไหววูบด้วยมีบางอย่างแล่นเข้ามาในความคิดคำนึง
"เจ้าอายุเท่าไหร่"คำถามที่จงใจถามเพื่อคำตอบ
"ยี่สิบ ครับ ผมอายุยี่สิบ"ระรินตอบตามความจริง เธอเพิ่งเรียนจบ ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาการโรงแรมมาเมื่อไม่กี่วันนี้เอง
"หน้าตาเจ้า ไม่น่าถึงยี่สิบ"อมยิ้มที่มุมปากเหมือนจะหยิกแกมหยอก ชิชะหาว่าเราอ่อนหัด ระรินคิดในใจ
"มีแฟนรึยัง" ไม่บอกระรินคิดต่างจากคำพูดคิดถึงเพื่อนร่วมห้องที่เคยคบหากันมาแต่สุดท้ายก็เลิกรากันไปด้วย ความห่างเหินเมื่อเขาต้องไปเรียนต่อมหาลัย
"ใครอยู่ข้างนอกเข้ามาข้างในหน่อย"น้ำเสียงค่อนข้างฉุนเฉียว ดังมาจากห้องบรรทมขององค์ฟีรอส ฮาฟซาและระรินถลาเข้าไปในห้องพร้อมกันยุติการสนทนาเพียงเท่านั้น
" ใครเป็นคนจัด แท่นบรรทมของเราวันนี้" ฮาฟซามอง ไปที่แท่นบรรทมพร้อมกับหลุดเสียงหัวเราะออกมาทันที
" ระวิน กระหม่อม " อาการกลั้นหัวเราะเปลี่ยนเป็นอมยิ้มแต่อีกคนไม่ขำด้วย สายตาคมกริบ แข็งกร้าวหันมามองระวินแทบจะกินเลือดกินเนื้อ ระรินเสียวสันหลังวาบ
๑_๑ อะไรอีกหนอทีนี้
"บอกมันสิฮาฟซา ว่าทำไม ว่ามันผิดอะไร"สายตาตำหนิยังคงส่งมาถึงร่างบอบบางที่ทำตัวลีบ อยากจะหายตัวในบัดดล
" เจ้านี่นะระวิน เห็นไหมว่าต้องวางหมอนไว้ตรงไหน เจ้าวางผิดตำแหน่ง"ฮาฟซาเปลี่ยนน้ำเสียงเป็นจริงจัง ซวยอีกแล้ว ทำไมไม่มองเลย คงจะคิดถึงบ้านมากไปหน่อยเหม่อไปนิดคิดไถลไปหน่อยเฮ้อ! หันไปทางผิดทางทิศต้องห้าม โธ่ถัง ระรินเอาอีกแล้ว เรียนการโรงแรมแต่เรื่องเล็กน้อยกับพลาดไม่เป็นท่า
"เดี๋ยวกระหม่อมจัดการให้ใหม่"ฮาฟซารู้สึกสงสารระริน จับใจดวงตากลมโต คล้ายลูกกวางระวังภัยนั้นตื่นตกใจไม่น้อย
"ทำให้มันดูเป็นตัวอย่างสิ คราวหลังถ้าทำผิดอีก เราจะให้มันนอนกลับหัวบนแท่นนี้แทนเรา" ระริน หน้าตาบูดบึ้ง ฮาฟซา ขยิบตาเป็นสัญลักษณ์
ระรินรีบปรับสีหน้าให้เรียบเฉย
"ให้มันนอนอยู่ ห้องเดิมของเจ้าคนเก่านะ เรามีอะไรต้องเรียกใช้มันอาจจะทั้งคืน" ฮาฟซาส่งสายตาแสดงความเห็นใจความสงสาร แล่นเข้าสู่หัวใจของฮาฟซาอย่างไม่รู้ตัว ระรินเข่าอ่อน เวรแล้วระรินเอ่ย