ปฐมบท
“เดินไป เดินตามทางไป” ชายใส่ผ้าคลุมหน้าแบบอาหรับเต็มตัวส่งเสียงดังเป็นภาษาอังกฤษ ระริน ก้มหน้าก้มตาเดินตามชายทั้งสามคนที่เดินไปก่อนเธออยู่รั้งท้ายขบวน หยุดอยู่ตรงด่านตรวจคนเข้าเมือง ชายที่มาคุมตัวเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าชายที่ท่าทางเป็นหัวหน้า ระรินเห็นเขาส่งภาษาอาหรับกันสองสามคำ ชายคนที่เป็นตำรวจตรวจคนเข้าเมืองทำความเคารพทันที แล้วก็ผายมือเชื้อเชิญด้วยความนอบน้อม ระรินมองแล้วรู้สึกทึ่งนิดๆนี่เธอสามารถผ่านเข้าเมืองอย่าง่ายดายเพียงเพราะแค่ชายมาดเข้ม
เธอนึกกระหยิ่มอยู่ในใจ 555+ ฉันผ่านเข้าเมืองได้แล้ว ฉับพลันนั้นเองความคิดอย่างหนึ่งก็แวบเข้ามาในสมอง ทำให้หัวใจพองโตนั้นห่อเหี่ยวทันที
ระริน ถือพาสปอร์ต ของพี่ชายฝาแฝด ที่ทำสัญญาเดินทางเข้ามาทำงานต่างแดน ด้วยค่าแรงสูงลิบลิ่ว เงินทองเป็นของยั่วใจ ระริน ไม่เข้าใจว่าตัวเองตัดสินใจแบบนี้ได้อย่างไร เธอเคยดูแต่ในละครเรื่องการปลอมตัวของหญิงสาวให้เป็นชายเพื่อทำเรื่องบางอย่าง ไม่คิดว่าตัวเองจะกล้าทำให้มันเป็นเรื่องจริงขึ้นมา การปลอมตัวนั้นออกจะยุ่งยากนิดหน่อยแต่ไม่เกินความสามารถ เธอเดินทางมาพร้อมกับเพื่อนแรงงาน ชายหญิงหลายคน ที่หวังมากอบโกยเงินทองในประเทศที่ขึ้นชื่อว่าร่ำรวยเป็นเศรษฐีน้ำมัน
แต่คงไม่มีใครบ้าดีเดือดเหมือนเธอ ที่ปลอมตัวเป็นชายเข้ามาแทนพี่ชายแบบนี้ ชายคนเดิมพาพวกเธอทั้งสามเดินลัดเลาะ ขึ้นบันไดเลื่อนของสนามบินโดยมีชายหน้าเข้มอีกคนคอยรั้งท้ายอยู่ ระรินเริ่มสงสัยแล้วว่า พวกนี้จะพาเธอไปไหน
จนชั้นสูงสุดของสนามบิน ผ่านชายชุดดำที่มีผ้าคลุมหน้าหลายสิบคนจนกระทั่ง ขบวนมาหยุดอยู่ตรงหน้าห้องห้องหนึ่งที่มองภายนอกก็รู้ทันทีว่าห้องนั้นคงเป็นห้องรับรองสำหรับแขกคนสำคัญ ชายมาดเข้มเข้าไปกระซิบกระซาบอะไรบางอย่างก่อนที่ชายผู้อยู่หน้าห้องที่เป็นชายค่อนข้างสูงอายุร่างเล็ก หน้าตาเป็นมิตร แต่งกายด้วยชุดทักซิโด้ แบบบริกรชาย จะหันมายิ้มเยือนกับพวกเธอ
“มาจากเมืองไทยใช่ไหม ยินดีต้อนรับ ท่านฟีรอสบุตรชายท่านสุลต่าน ต้องการเด็กรับใช้คนใหม่หลังจากที่คนเก่า....จากไป” รอยยิ้ม ที่ลึกลับนั้นทำเอาระรินเย็นวาบตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าเลยทีเดียวซวยแล้วไหมล่ะเธอคิดในใจ ทำอย่างไรดี
“ขอสละสิทธิ์ค่ะ....ครับ” ปากไวเท่าความคิด สายตาทุกคู่หันมามองเธอเป็นตาเดียว
“ชื่ออะไร เจ้าหนุ่ม” ชายสูงอายุเอ่ยปากถาม
“เออ.. เออ... ชื่อ...ชื่อ..ระวิน ครับ “สายตาลึกลับจ้องมองไม่วางตา
“ท่าทางอ้อนแอ้นไปหน่อย แบบนี้ก็ดีไปอย่าง ทำอาหารเป็นไหม”
“ขอสละสิทธิ์ครับ” สายตามุ่งมั่น
“เจ้าหนุ่มนี่ท่าจะบ้าใครๆเขาก็อยากจะเข้าไปทำงานใน พระราชวังทองคำกันทั้งนั้น คนนี้แปลก” หลายคนหัวเราะคิกคักทำเอาระรินยิ้มแบบอายๆ
“เอออ..คือผมอยากไปทำสวนทำการเกษตรนะครับ เห็นเขาบอกว่าสวนสวยดี” ระรินพูดแก้ตัวไปแบบเก้อๆ ยิ่งกลับเพิ่มเสียงหัวเราะให้กับคนรอบข้างชายสูงอายุ ยกไม้ยกมือปรามอาการขบขันนั้นก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“นี่คงคิดว่าเราสุ่มเลือกมามั่วๆหรืออย่างไร รู้ไหมว่าท่าน ฟีรอส ท่านทรงทอดพระเนตร พวกเจ้าตั้งแต่ลงจากเครื่องบิน และทรงเลือกไว้แล้ว คิดว่าจะไปก็ตัดสินใจเองได้หรืออย่างไร คนที่ตัดสินใจ ท่านรอพวกเจ้าอยู่ในห้องรับรอง เดี๋ยวเข้าไปให้ท่านสัมภาษณ์อีกที” แป่ว ! ซวยแล้วระริน คิดในใจ จะโดนประหารตั้งกะยังไม่ได้เริ่มงานเสียล่ะมั่ง ไม่น่าเลย