“ฉันปวดฉี่ จะราดอยู่แล้วเนี้ย พาออกไปฉี่หน่อยได้ไหม”
นับทรายเสียงดังขึ้นอีกครั้งหลังจากที่เงียบเสียงมานานสองนาน เมื่อเธอรู้สึกปวดฉี่อยากจะเข้าห้องน้ำขึ้นมา
ที่เธอเงียบไปก็ไม่ได้ยอมแพ้อะไรหรอกนะ แต่พยายามที่จะใช้ไม้เล็กๆ ที่แงะมาได้จากผนังห้องมาสะเดาะกุญแจที่ข้อมือ
ดูเหมือนว่าเธอจะสะเดาะกุญแจให้คลายล็อกได้หลายครั้งหลายหนหลังจากพยายามมานาน แต่ทว่าเธอกลับปวดฉี่เสียก่อนทำให้ทำต่อไปไม่ไหว
และการปวดฉี่นั้นก็นำพาความคิดดีๆ มาให้กับเธอด้วย เพราะเธอจะได้ออกไปจากห้องแคบๆ นี้ เธอเลยไม่รอช้าที่จะเรียกคนด้านนอกนั้น
“ไม่ได้ยินเหรอว่าฉันปวดฉี่ หูแตกกันหรือไง”
เรียกครั้งแล้วไปแล้วคนด้านนอกก็ยังเงียบไม่มีเสียงตอบกลับเธอมาเลย
คนที่ใจร้อนรอคอยอะไรไม่ได้อย่างเธอ เพราะถูกตามใจมาอย่างสุดโต่งจากคนเป็นพ่อเลยเรียกเชิงตะคอกคนด้านนอกอีก
“โอ๊ย ปวดฉี่ จะให้ฉี่รดเสาบ้านเลยไหม”
แต่ทว่าพอเรียกครั้งที่สองไปแล้ว คนด้านนอกที่เป็นเด็กวัยรุ่นที่น่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเธอก็ยังเงียบเสียงอยู่
เธอก็เลยหยิบดินที่อยู่ใกล้ตัวมากที่สุดเพราะมันอยู่ที่พื้นขึ้นมาเต็มกำมือแล้วขว้างปาไปที่ประตูจนเกิดเสียงดัง
“รอเดี๋ยว”
เซลที่นั่งฟังเสียงโวยวายของคนที่โดนขังราวนักโทษนั้นมาสักพักได้แล้วหันไปพยักหน้าเรียกเพื่อนที่เดินผ่านมาพอดีให้แวะเข้ามาหา
เขาให้เพื่อนคนนั้นไปตามนายหัวชลธรมาเพราะกุญแจล็อกห้องนั้นอยู่กับนายหัว การที่จะพาเธอไปห้องน้ำจะต้องบอกนายหัวก่อน ส่วนเขานั้นก็นั่งเฝ้าเธอต่อไปอย่างเงียบๆ
ใช้เวลาราวครึ่งชั่วโมงได้ ชลธรถึงได้เดินมาถึงบ้านไม้หลังเล็กที่อยู่ห่างไกลจากที่พักของเขาค่อนข้างมาก
เขาเดินตรงไปไขกุญแจที่ล็อกห้องอยู่ให้กับเธอเพื่อจะได้ให้เรื่องเข้าห้องน้ำนั้นมันจบสิ้นไปเร็วๆ
ด้วยเขามีงานต้องทำต่ออีกไม่อยากจะชักช้าเสียเวลา แต่จะใช้ลูกน้องให้ทำแทนก็ไม่ได้เพราะเธออาจหนีไปได้ในระหว่างที่ไปเข้าห้องน้ำ
ไม่ใช่ว่าเขาไม่ไว้ใจลูกน้อง แต่เขาไม่ไว้ใจเธอที่ถูกสอนมาแบบมาเฟียผู้มีเล่ห์เหลี่ยมรอบตัว
“ชักช้าชะมัด ไถนาอยู่หรือไง”
ทันทีที่ประตูเปิดออกหญิงสาวก็ด่าทอเขาอย่างไม่สนใจว่าเขาจะเป็นโจรหรือเป็นใคร
ด้วยเธอนั้นปวดฉี่จนแทบจะราดออกมาแล้ว แต่เขาก็ยังมาช้าราวกับต้องการกลั่นแกล้งกันอีก
“ปากเก่งดีหนิ่ นอนดมฉี่ไปก็แล้วกัน”
ชลธรดึงประตูกลับเพื่อปิดและตัวเขาก็กลับออกมาในทันทีด้วย
เขาไม่ใช่ลูกน้องใต้อานัสของเธอถึงจะได้ให้เธอมาต่อว่าเขาเหมือนวัวเหมือนควายแบบนั้นได้
โชคดีแค่ไหนแล้วที่เขาแค่ถอยหลังกลับไม่ได้เข้าไปบีบคอเธอให้ตายคามืออย่างที่ควรจะเป็น
“เดี๋ยวก่อน”
เสียงหวานเอ่ยเรียกเขาอย่างรวดเร็วเมื่อหนทางจะหนีรอดไปได้ของเธอกำลังจะปิดลง
เธอจะไม่ยอมเสียโอกาสนี้ไป ไม่ว่าจะหนีได้หรือไม่ได้เธอก็จะต้องออกไปดูว่าสภาพด้านนอกของที่นี่เป็นอะไรกันแน่
และนั้นอาจทำให้เธอรู้ก็เป็นได้ว่าเธอนั้นอยู่ตรงส่วนไหนของโลกใบนี้
“อ้อนวอนซิ”
เขากลับเข้ามาอีกพร้อมกับการแก้แค้นเล็กๆ ที่คงทำให้เธอแทบดิ้นตาย
ด้วยเขารู้ดีว่านิสัยอย่างเธอนั้นไม่ชอบการขอร้องอ้อนวอนอะไรทั้งนั้น
คนอย่างเธอมันมีแต่ทุกคนรอบตัวคอยยอมรับใช้ แต่ที่นี่และเขาไม่ใช่แบบนั้น และเธอก็ต้องอยู่ให้ได้
“พาออกไปเข้าห้องน้ำหน่อย”
นับทรายพูดออกไปเบาๆ อย่างเสียศักดิ์ศรีพอสมควรที่ต้องอ้อนวอนโจรลักพาตัวอย่างเขา
นี่ถ้าไม่ได้วางแผนในหัวว่าจะหนีไปให้ได้ละก็เธอไม่ยอมทำอะไรแบบนี้หรอก
“เสียงลมตดใครวะ”
คำพูดที่แทบจะไม่ได้ยินของเธอนั้น ทำเอาเขาตอบกลับอย่างยียวนกวนประสาทออกมา
เพราะมันก็จริง ด้วยเสียงของเธอนั้นมันเบาราวกับลมที่ต้องผ่านช่องแคบๆ ออกมา
“พาฉันออกไปเข้าห้องน้ำหน่อยได้ไหม”
หญิงสาวกลั่นใจแล้วพูดออกไปให้ดังเท่าที่พอจะทำได้
สุดความสามารถของคนอย่างเธอที่ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยต้องขอร้องอ้อนวอนใครมาก่อนแบบนี้
ชลธรพยักหน้าให้ลูกน้องเข้ามาปลดโซ่ที่ล่ามอยู่กับขาเตียงนอนออก แล้วเขาก็พาเธอเดินไปยังห้องน้ำที่อยู่ด้านนอกตัวบ้าน
“หยุดความคิดโง่ๆ ในหัวซะด้วย”
ระหว่างทางเดินไม่กี่ก้าวนั้น เขาเอ่ยเตือนสติเธอ
เขาไม่ได้หวังดีกับเธอมากนักหรอก เพียงแต่กลัวว่าเธอจะเหนื่อยเปล่าถ้าเกิดต้องวิ่งพล่านไปทั่วเกาะของเขาเพื่อจะหนี
“เดี๋ยวก็รู้ว่าใครกันแน่ที่โง่”
เธอเดินนำเขาเมื่อเห็นว่าห้องน้ำนั้นอยู่ตรงไหน รีบเดินให้เร็วเท่าที่ความยาวของโซ่จะทำได้ เพราะความไม่ชอบเดินตามใคร
อีกอย่างเธอได้สังเกตการณ์ไปรอบๆ ด้วยโดยที่ไม่มีเขาคอยขัดจังหวะ
สมองของเธอกำลังประมวลผลว่าที่นี่คือที่ไหนของโลกใบนี้กันแน่ เป็นสถานที่ที่เธอเคยมาบ้างหรือเปล่า