“เดี๋ยวก็เจอ ยังไงนายหญิงน้องสาวเขาก็อยู่ที่นี่ หลานเขาอีก พี่สุดหล่อต้องมาหาอยู่แล้ว”
“แต่เราฝึกงานจบก็ต้องกลับแล้วนะ”
“เออใช่” บัวสวรรค์หันมามองหน้าเพื่อนสาว ดูสลดลงเล็กน้อย
“คงไม่มีโอกาสได้เจอกันอีกแล้ว”
“เฮ้อออ... กว่าจะเจอผู้ชายที่ไอ้พลอยชอบ เขาก็ดันมาหายตัวไป คงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของบุพเพแล้วว่ะ” บัวสวรรค์พูดออกมาเสียงดังจนกรรณิการ์ต้องร้องห้าม แล้วเสียงทักทายจากด้านหลังก็ดังขึ้น
“ว่าไง เราสองคนสนใจจะทำงานที่นี่ไหม?” กรรณิการ์กับบัวสวรรค์เงยหน้าขึ้นพร้อมกัน เมื่อเห็นว่าเป็นเจ้านาย พวกเธอก็ส่งยิ้มไปให้
“ก็อยากทำเหมือนกันค่ะนายสิงห์ แต่ว่าพ่ออยากให้กลับไปช่วยงานที่บ้าน” กรรณิการ์เอ่ยตอบ ภูสิงห์
“ไม่สนใจลองทำงานหาประสบการณ์ไปก่อนล่ะ อีกอย่างที่นี่ไม่มีอะไรน่าสนใจให้อยากอยู่ต่อเหรอ” คำพูดแฝงนัยจากเจ้านาย ทำให้กรรณิการ์ชะงัก ก่อนจะอ้อมแอ้มตอบกลับไปใหม่
“ไม่ใช่ค่ะ พลอย.. เอ่อ.. คุยกับบัวแล้วว่าจะไปทำงานด้วยกัน”
“ใช่ค่ะ พอดีพวกเรายื่นใบสมัครงานไว้แล้ว จริง ๆ ก็อยากทำที่นี่นะคะ กำลังสนุก” บัวสวรรค์รีบสนับสนุนคำพูดของเพื่อน แต่ก็ยังแสดงไมตรีต่อไร่ให้เจ้านายฟัง ไม่กล้าพูดความจริงออกไปว่า เจ้านายน่ากลัวมากพวกเธอหรือจะกล้าอยู่
“อ้อ... เปลี่ยนใจได้นะ เผื่อจะสนใจคนที่นี่ เอ้ย ไม่ใช่ เผื่อจะสนใจทำงานที่นี่”
ภูสิงห์ชักชวนสาวน้อยน่ารักสดใส ดูก็รู้ว่าเป็นสเป็คของใครบางคน เขาแกล้งส่งกรรณิการ์เข้าไปก่อกวนในห้องนอน ไอ้ราเชนดันรู้ทันจับตัวสาวเอาไว้ทั้งคืน ถ้าไม่ชอบจะปล่อยให้สาวอยู่ในนั้นทั้งคืนได้ไง คงไล่ตะเพิดออกมาแล้ว ในเมื่อพี่เมียชอบก็ต้องช่วยดึงไว้ให้หน่อย มัวแต่ทำงาน สักวันก็โดนคาบไปก่อน
“เอ่อ...แล้วพี่...” กรรณิการ์กำลังจะเอ่ยปากถามถึงใครบางคน แต่สุดท้ายก็ไม่กล้า
“ว่าไง” ภูสิงห์เลิกคิ้วมองหน้าหญิงสาว
“ไม่มีอะไรค่ะ ขอบคุณนายสิงห์นะคะ”
เมื่อเห็นว่าหญิงสาวยืนยันแบบนั้น ภูสิงห์ก็ไม่ขัด คงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของคนสองคน ถ้าเขารักชอบกันจริงสักวันก็ต้องตามหากันเอง ภูสิงห์จึงขอตัวเดินไปหากลุ่มลูกน้องที่กำลังดื่มฉลองเสียงดังครึกครื้น ปล่อยให้หญิงสาวนั่งกับกลุ่มเพื่อนไป
เมื่อบัวสวรรค์ลุกออกไปตักอาหาร กรรณิการ์นั่งเงียบคนเดียว เธออดไม่ได้ที่จะสอดสายตามองหาเขาอีกครั้ง อยากเอ่ยถามถึงราเชน แต่ก็อายเกินกว่าจะพูดออกมา จึงได้แต่คอยมองหาเอง พอไม่เจอหัวใจก็ห่อเหี่ยว รู้สึกเหมือนตัวเองถูกทิ้ง
เขาไม่สนใจแล้วมาจูบเธอทำไม แค่คิดก็รู้สึกน้อยใจ โหวงเหวงในอกอารมณ์ความรู้สึกราวกับคนอกหัก กรรณิการ์ต้องบอกตัวเองว่าเธอจะอกหักได้ยังไง ในเมื่อยังไม่ใช่แฟนเขา
กรรณิการ์อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยตั้งแต่เช้า ส่องกระจกดูก็มองเห็นหญิงสาวหน้าตาสดใส ดวงตาเป็นประกายมีความสุข วันนี้คือวันแรกที่ราเชนจะแวะมารับเธอไปส่งที่ทำงาน วันแรกสำหรับฐานะแฟน อดรู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษไม่ได้ จนต้องลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวตั้งแต่ 05.00 น. พิถีพิถันเลือกชุดสวมใส่ไปทำงาน คิดไปก็ขำตัวเอง
เรานี่มันไม่ธรรมดาจริงๆ ไม่ทันไรก็ออกอาการเห่อผู้ชายแล้ว
เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำเอากรรณิการ์กระวีกระวาดรีบจัดเสื้อผ้าหน้าผมใหม่อีกครั้ง ทั้งที่จัดเต็มมาตั้งแต่ตีห้าแล้ว ยังมีอะไรต้องจัดอีก มือสั่นน้อยๆ เมื่อเอื้อมไปเปิดประตูให้กับแขก ผู้มาเยือน
“สวัสดีครับ”
ราเชนยืนนิ่งอยู่หน้าประตู ส่งยิ้มมาให้เธอ ร่างสูงใหญ่วันนี้สวมใส่เสื้อโปโลสีเข้มคู่กับกางเกงยีนส์ เป็นชุดลำลองสบายๆ แต่กลับดูหล่อเข้ม อาจจะด้วยรูปลักษณ์บวกกับท่าทางน่าเกรงขามของเขา ทำให้หล่อเข้มกระชากใจเธอจนแทบจะหลอมละลาย นี่เธอเข้าขั้นอาการหลงแฟน ... หนักมาก!!
“ทำไมมาเช้านักละคะ นี่ยังไม่ถึงเจ็ดโมงเลย”
“มารอแฟน แล้วมันรู้สึกดี” ราเชนพูดออกมายิ้มๆ ทำเอาหญิงสาวเบิกตาโตทึ่งกับคำตอบ ก่อนจะหน้าแดงด้วยความเขิน
“โอ๊ย..เผื่อพลอยยังแต่งตัวไม่เสร็จจะทำไง”
ราเชนกวาดตามองหญิงสาวตรงหน้า ชุดแซ็กสีอ่อน กระโปรงสั้น เข้ารูปส่งให้เธอดูสูงเพรียว สวยงาม เข้ากับใบหน้าที่แต่งแต้มอ่อน ๆ “ก็ดูสวยแล้วนี่ ยังไม่เสร็จเหรอ งั้นพี่รอก่อนก็ได้ครับ ไม่ต้องรีบ”
“เสร็จแล้วค่ะ”
กรรณิการ์ส่งยิ้มให้ พอสบตาเขาที่กำลังจ้องมองเธอด้วยสายตาชื่นชม ก็ทำให้เขินอาย ทำหน้าไม่ถูก มือไม้เกะกะ ข้าวของพะรุงพะรังเต็มมือที่เธอรีบหยิบออกมารอเขา ทำท่าจะร่วงหล่นเอาเพราะแขนขาไร้เรี่ยวแรง
“งั้นเราไปหาข้าวเช้ากินก่อน เดี๋ยวพี่ค่อยไปส่งพลอยที่ทำงานจะได้ไม่หิว เออ..พี่ลืมถามไป แล้วปกติเราต้องไปกินข้าวกับเพื่อนที่ทำงานหรือเปล่า?”
“ไม่ค่อยได้กินข้าวเช้าค่ะ ส่วนใหญ่ก็จะหาอะไรที่สะดวกกินไปด้วยขับรถไปด้วย หรือไม่ก็ไปหาอะไรกินง่ายๆ ไม่ค่อยพิเศษอะไร”
ชีวิตของกรรณิการ์ ชีวิตมนุษย์เงินเดือน ค่อนข้างเรียบง่ายปกติเหมือนเดิมทุกวัน ตื่นตอนเช้าก็เตรียมตัวไปทำงาน เรื่องอาหารการกินเธอไม่ค่อยเรื่องมาก ไม่เคยคิดจะซื้อมาทำกินเอง เพราะฝีมือทำกับข้าวของเธอหาความอร่อยไม่ได้สักนิด ส่วนตอนเย็นเลิกงานก็กลับห้องพักผ่อน ไม่ค่อยไปเที่ยวไหน
“ถ้าอย่างนั้น วันนี้น้องพลอยไปกินข้าวเช้ากับแฟนก่อนไปทำงาน พอจะดูพิเศษขึ้นไหม”
หญิงสาวพยักรับอย่างเขินๆ แค่เขาเอ่ยคำว่าแฟน เธอก็ วางหน้าไม่ถูกแล้ว ส่วนราเชนยิ้มทั้งปากทั้งตา ก่อนจะเอื้อมมือมาช่วยถือกระเป๋าโน๊ตบุ้ค เอกสารทั้งหมด และก้าวถอยให้เธอปิดประตูห้อง
กรรณิการ์รู้สึกเกรงใจจะถือเองเขาก็ไม่ยอม จึงหันกลับไปปิดประตูล็อคห้องให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินเคียงข้างเขาตรงไปยังลิฟท์ สายตาหวานเชื่อมลอบมองผู้ชายตัวโต
ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้กลับมาเจอกันอีก ทั้งที่เธอเคยติดตามถามข่าว ก็ไร้ร่องรอย แต่พอจะได้เจอกันก็ไม่ทันตั้งตัว ทั้งตกใจ ทั้งตื่นเต้น ที่สำคัญเขากลับมาทำให้เธอตกหลุมรักเขาอีกครั้ง