"...ยังไงก็แล้วแต่ กูเชื่อว่าถ้ามึงไม่ยอมตัดใจจากคัพเค้ก ชีวิตมึงวุ่นวายแน่นอน"
"คนอย่างกู แค่แอบรักก็ผิดแล้วเหรอวะ?" ผมถามออกมาพร้อมกับยกยิ้มอย่างเย้ยหยัน ที่ผ่านมาแค่อยู่เฉยๆ ไม่เคยแสดงตัวว่าชอบเลยสักครั้งมันยังผิดอยู่อีกหรือไง
"ก็คนมันมีเจ้าของแล้ว รอดูตัวมึงเองก่อน ถึงคิวมึงเมื่อไหร่มึงจะหวงไหมรอดูได้เลย" ไอ้ฉลามส่ายหน้าอย่างเอือมระอาก่อนจะหยัดตัวลุก สีหน้าบ่งบอกเหลือเกินว่าคนอย่างมันล่วงรู้เรื่องของอนาคตแม่งทุกเรื่อง ส่วนลีโอกับติณห์ที่ฟังอยู่ก็ยังปล่อยใจลอยๆ ไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ ออกมาอยู่ดี
ผมเดินออกมาจากห้องของฉลามพร้อมกับยกโทรศัพท์เพื่อโทรออกหาคนบางคนที่กำลังนึกถึง รอสายไม่นานปลายทางก็กรอกเสียงตอบกลับมา
( องศาว่าไงลูก )
"ช่วงบ่ายมี๊พอจะมีเวลาว่างบ้างไหมครับ ผมมีเรื่องอยากคุยกับมี๊หน่อย"
( เรื่องอะไรเหรอลูก ไม่สะดวกเข้าบ้านเหรอ? )
"ไม่อยากให้แด๊ดดี้รู้เรื่องครับ กลัวไม่สบายใจ"
( เข้าใจแล้ว องศาอยากให้มี๊ออกไปเจอที่ไหน )
"ร้านประจำของเราดีไหมครับ จำได้ว่ามี๊ชอบชาร้านนั้นมากเลย"
( ได้เลย บ่ายโมงมี๊ออกไปนะ )
"ครับ" ผมตอบรับคนในสายก่อนจะละโทรศัพท์ออกจากหู มีหลายเรื่องที่อยากคุยกับคนเป็นแม่ อยากคุยกันแค่สองคน ไม่ต้องเป็นทางการมากนักแด๊ดดี้จึงไม่จำเป็นต้องมา
GREEN CAFE
"...หม่ามี๊หวัดดีครับ"
"เอ๋ มี๊มาช้าหรือองศามาเร็วเอ่ย" เปี่ยมรักก้าวขาเข้ามาในร้านกาแฟและพุ่งตรงไปยังโต๊ะที่ลูกชายจองไว้ องศายังดูแลตัวเองเรื่องการแต่งกายดีเยี่ยม หนุ่มแฝดของแม่โตเป็นหนุ่มมาก จะเรียนจบอยู่ร่อมร่อไม่เคยทำให้พ่อแม่ผิดหวังเรื่องอะไรเลย
"ผมผ่านมาพอดีครับเลยมารอก่อน เครื่องดื่มรับเหมือนเดิมไหมครับ"
"เหมือนเดิมจ๊ะ" คนเป็นแม่หย่อนตัวลงบนเก้าอี้ สายตามองตามหนุ่มแฝดที่เดินไปสั่งเครื่องดื่ม แอบเห็นว่าสาวๆ ในร้านมองตามด้วยความสนใจ
"หล่อเหมือนพ่อตอนหนุ่มๆ ไม่แปลกเลยถ้าสาวจะเยอะ" คนเป็นแม่พึมพำยิ้มๆ ไม่นานเกินรอองศาก็เดินกลับมาที่เดิม
"รอคิวนิดนึงนะครับ วันนี้ลูกค้าเยอะเลย"
"ไม่มีปัญหา องศาอยากคุยอะไรกับมี๊เหรอลูก พูดได้เลยนะ"
"เรื่องของขวัญ" เปี่ยมรักวางกระเป๋าบนโต๊ะก่อนจะพยักหน้ารับ
"น้องขวัญเป็นอะไรหรือเปล่าลูก"
"เมื่อคืนของขวัญบอกว่าฝันร้าย น้องดูกลัวและตกใจมาก ผมไม่แน่ใจว่าขวัญเป็นแบบนี้บ่อยแค่ไหน"
"ตายจริง ของขวัญยังไม่เลิกฝันแบบนี้อีกเหรอ" เปี่ยมรักยกมือขึ้นทาบอก สีหน้าหลุดความกังวลออกมาอย่างชัดเจน
"น้องบอกอะไรลูกบ้าง"
"เขาบอกว่า...เขาเกือบไม่ได้กลับมา มันมีเรื่องแบบนี้จริงๆ เหรอครับมี๊ คนเราจะฝันถึงเรื่องแย่ๆ ได้ตลอดจริงๆ เหรอ"
"ของขวัญดวงตก พระท่านว่าเจ้ากรรมนายเวรตามเจอ เขาพยายามจะเอาน้องไปตอนที่น้องหลับ ที่เขายังเอาไปไม่ได้เพราะองศา ตัวเลขดวงชะตาขององศาตรงกับของน้อง ดวงชะตาของเราอุปถัมภ์น้องอยู่ ได้ถามน้องหรือเปล่าว่าน้องฝันว่าอะไรบ้าง" ผมถอนลมหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะส่ายหน้ากลับไป
"มี๊รู้ว่าองศาไม่โอเคที่อยู่ดีๆ ก็มามีคู่หมั้นทั้งที่ไม่ได้รักกันมาก่อน มี๊เชื่อเรื่องโชคชะตามากกว่าความบังเอิญนะลูก โชคชะตาทำให้เรามาเจอกับเรื่องแบบนี้ การช่วยคนเป็นเรื่องที่ดี ถ้าองศาเหนื่อยมี๊ก็อยากให้องศาอดทนต่อก่อน แบบนั้นพอได้ไหมลูก"
"ผมยังมีอีกเรื่องที่อยากถามมี๊ตรงๆ" เปี่ยมรักพยักหน้ารับ คนเป็นแม่พร้อมให้โอกาสพูดในสิ่งที่ลูกกังวลได้เสมอ หนุ่มแฝดคนนี้ไม่มีเรื่องอะไรปิดบังแม่อยู่แล้ว องศากล้าพูด กล้าคุย กล้าที่จะแสดงความรู้สึกของตัวเองออกมาอย่างชัดเจน
"อีกหนึ่งเดือนเต็มจะถึงวันเกิดของขวัญ มี๊คิดว่าทุกอย่างมันจะจบได้จริงๆ ไหมครับ"
"องศากลัวฝั่งนั้นผูกมัดเหรอ"
"บางครั้งก็คิดว่าเรื่องมันอาจจะไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เรื่องที่คุยกันมันอาจจะง่ายเกินไป เหตุการณ์จริงเราไม่สามารถเดาเอาเองได้เลย"
"บ้านนั้นรับปากเราชัดเจน มี๊ขอเวลาองศาถึงแค่วันเกิดน้องเท่านั้น วันข้างหน้าถ้ามันจะเกิดอะไรขึ้น ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของอนาคตดีไหมลูก มี๊ไม่อยากให้องศาคิดมากเกินไป" มือแม่แตะลงที่หลังมือหนุ่มแฝดผู้เป็นบุตรชายคนโตอย่างอ่อนโยน
"แค่ทำหน้าที่ของตัวเองตอนนี้ให้ดีที่สุด แล้วต่อจากนี้มี๊จะไม่ขออะไรองศาอีกเลย"
"ครับ เอาเป็นว่าระหว่างนี้...ผมจะดูแลของขวัญให้ดีที่สุด"
อย่างน้อยๆ หากวันหนึ่งที่ต้องจากกัน ก็คิดว่าผมทำหน้าที่ของตัวเองดีที่สุดแล้วเท่านั้นก็พอ!
[ END ]
-ของขวัญ-
( ...ว่าไงจ๊ะคนป่วย สรุปป่วยหรือแฮงค์กันแน่เอาดีๆ )
"ปวดหัวนิดหน่อย ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว"
( แล้วนี่อยู่กับใครอ่ะ )
"จะอยู่กับใครล่ะ ก็อยู่คนเดียวไง"
( จริงดิ... )
"พูดแบบนี้แปลว่าอะไร" ฉันมองยัยมีนที่อบยิ้มส่งผ่านหน้าจอโทรศัพท์ขณะที่จ้องจับผิดฉัน
( ก็คนป่วยดูสดใสผิดหูผิดตานี่นา การมียาดีอยู่ใกล้ๆ มันก็อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้อารมณ์และสีหน้าดีขึ้นมาป่ะล่ะ )
"อยู่คนเดียว"
( หมุนกล้อง )
"ยัยมีน"
( เถอะน่าหมุนกล้องหน่อย ถึงจะไม่ได้เห็นหน้าหล่อๆ ของคู่หมั้นใครบางคน แต่ขอดูก่อนเถอะว่าคนป่วยกำลังทำอะไร ) ฉันย่นจมูกใส่คนที่ต่อรองแบบปิดหูปิดตาไม่คิดจะฟังเสียงของเพื่อนเลยสักนิด ก่อนจะหมุนกล้องไปยังหน้าจอไอแพดเพื่อให้มีนเห็นในสิ่งที่ฉันกำลังสนใจ
( ดูอะไรอยู่อ่ะ )
"วิธีทำอาหาร"
( ห๊ะ! )
"เสียงดังเกินไปแล้ว แค่ดูวิธีทำอาหารเมนูง่ายๆ ก็แค่นั้นเอง"
( เดี๋ยว! อะไรทำให้เพื่อนฉันอยากลุกขึ้นมาทำอาหารกันจ๊ะ ขอคำตอบแบบที่ชัดเจนที่สุดในสามโลกเลยนะ )
"เกินไปแล้ว ก็แค่อยากทำอาหารเป็นเหมือนคนอื่นบ้าง อยาก...น่ารักในสายตาพี่องศามั้ง" ฉันเฉลยออกมาด้วยรอยยิ้ม และแน่นอนยัยมีนยิ้มตามอย่างชอบใจ
( แกน่ารักขนาดนี้ ผู้ชายที่ไหนมันจะไม่ชอบวะขวัญ ฉันว่านะ ตัวตนของแกนี่แหละที่มันจะทำให้พี่องศาชอบแก )
"แกก็พูดเหมือนกับว่าตอนนี้เขาไม่ได้ชอบฉัน" ฉันมองยัยมีนอย่างงุนงง ทบทวนคำพูดของเพื่อนแล้วรู้สึกแปลกๆ ยังไงชอบกล
( ไม่ๆ หมายถึงสิ่งที่แกไม่สบายใจไง แกสงสัยความสัมพันธ์ระหว่างแกและพี่องศา ฉันก็กำลังบอกแกอยู่นี่ไงว่าพี่เขาชอบแกอยู่แล้ว ผู้ชายหน้าไหนก็เถอะ ต่อให้จะเย็นชาสักแค่ไหนแต่ถ้าเจอความน่ารักของแกเข้า ร้อยทั้งร้อยยังไงก็หลงเพื่อนฉันชัวร์ )
"ชมฉันเกินไปแล้ว ช่วงเย็นแกว่างไปซุปเปอร์มาเก็ตกับฉันไหมอ่ะ อยากไปซื้อของมาติดห้องครัว"
( ไม่ชวนพี่องศาของแกไปด้วยล่ะ )
"อยากชวนนะ แต่ไม่เอาดีกว่า บางทีฉันก็คิดว่าการที่ฉันพยายามเรียกร้องมากเกินไปมันอาจจะทำให้พี่องศาไม่ชอบก็ได้ แกเป็นเพื่อนสนิทของฉันนะมีน แกต้องรู้สิว่าก่อนที่ฉันจะเกิดอุบัติเหตุ ตัวตนของฉันมันเป็นยังไง สรุปพี่องศาชอบที่ฉันเป็นแบบไหน"
( เอ่อ...เขาก็ชอบที่แกเป็นแกนั่นแหละ อย่าคิดมากสิขวัญ เชื่อฉันเถอะว่าไม่มีใครไม่รักแก ) ฉันยิ้มให้ยัยมีน ยอมรับว่ามีนทำให้ฉันสบายใจขึ้นเยอะมาก
ความน้อยอกน้อยใจหายเป็นปลิดทิ้ง มีความหวังขึ้นมาเยอะเลย!
------------
สงสารน้องนะ น้องไม่รู้ไงว่าเมื่อก่อนไม่เคยรักกัน ตอนนี้น้องเลยพยายามมากหน่อย อยากได้คอมเมนต์ ช่วยคอมเมนต์ กดไลก์ รีวิวนิยายให้เนมหน่อยน๊า