คืนนี้เขื่อนเลิกงานตามปกติ แต่มีบางสิ่งที่แตกต่างออกไปจากทุกครั้ง เพียงเขื่อนก้าวเท้าออกจากร้านอาหาร หลังเลิกงานในช่วงเวลาสามทุ่มเศษ
เขื่อนเลิกงานซะทีพี่รอตั้งนาน”พีคเอ่ยขึ้น
“พี่พีค เขื่อนนึกว่าพี่กลับบ้านไปแล้วซะอีก”เขื่อนมีสีหน้าที่ประหลาดใจ
“จะให้กลับได้ไง ในเมื่อพี่มาส่งเขื่อนก็ต้องรอรับกลับซิ “
“เขื่อนเกรงใจพี่ ไม่น่ารอรอรับเลย เสียเวลาพักผ่อนของพี่พีคแย่เลย”
“ไม่เสียวเวลาหรอก พี่กลับไปบ้านก็ไม่ได้ทำอะไร อยู่นี่เดินเที่ยวห้างแล้วมารับน้องเขื่อนกลับบ้านดีกว่า”
“ขอบคุณพี่พีคมากนะ”
“มัวแต่ขอบคุณไม่ได้กลับกันซะที ไป เดี่ยวพี่ไปส่งที่ห้อง”
“ครับพี่พีค”
พีคได้ขับรถมาส่งเขื่อนยังห้องพัก ในระหว่างทางพีคได้ชวนเขื่อนคุยหลายเรื่อง ซึ่งทำให้เขื่อนมีความรู้สึกที่ดีต่อพีคมากขึ้น
“อ่านบทไปบางส่วน เขื่อนคิดอย่างไงกับบทนี้”
“บทดีนะ ทั้งของเขื่อนและกัส แต่ของกัสจะลึกกว่าเล่นยาก ส่วนของเขื่อนเป็นคนตรงแสดงออกมาตรงๆ คือมันง่ายไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงหรอกครับ”
“พี่ว่าไม่น่ายากนะ เพราะพี่ว่ากัสเขามีนิสัยอย่างนั้นอยู่แล้ว เหมือนเล่นเป็นตัวเองนั่นแหละ”
“แต่ก็ยากอยู่ตรง กัสขี้อายไม่ค่อยพูดเก็บเนื้อเก็บตัว”
“ถ้างั้นพี่ก็ต้องชวนกัสออกมาสลายพฤติกรรม เพราะถ้ายังมีอะไรที่เกรงใจกันหรือมีความรู้สึกที่กั้นขวางน่าจะเล่นด้วยกันยาก”
“ถ้าพี่ชวนกัสออกมาได้ เขื่อนขอคาราวะเลย เขื่อนชวนไปไหนก็ไม่ไป”
“รู้จักพึ่น้อยไปซะแล้ว เดี๋ยวพี่จะทำให้ดู รอพรุ่งนี้ก่อนเถอะ”
“เขื่อนจะรอดู แต่ตอนนี้ถึงห้องของเขื่อนแล้ว”
“ว้า ถึงไวจังวันหลังพี่มาส่งเขื่อนใหม่ก็แล้วกัน จะได้คุยกันบ่อยๆเราจะได้สนิทกันมากขึ้น”
“ครับพี่พีค”
พีคจอดรถหน้าห้องเช่าของเขื่อน ที่ดูไม่ใหญ่มากและค่อนข้างเก่าพอสมควร ก่อนเขื่อนจะลงจากรถเขายิ้มให้พีคด้วยสายตามีนัยแฝง ส่วนพีคยิ้มตอบด้วยสายตาเป็นประกายวาววับ จนเขื่อนต้องรีบลงจากรถด้วยความเขินอาย
เมื่อเขื่อนมาถึงที่ห้อง เขาเห็นกัสนั่งนิ่งๆหน้าโน๊คบุ๊ค เขื่อนจึงเดินเข้าไปหาด้วยความสงสัย และกังวลว่ากัสอาจมีปัญหาอะไรบางอย่าง
“เป็นอะไรกัส เรามาตั้งนานนายยังนั่งนิ่งอยู่เลย”
“อ่อ เรากำลังคิดว่าจะดำเนินเรื่องนิยายไปทางไหนดี”
“ถ้าคิดยังไม่ออกพักก่อนก็ได้ วันหลังค่อยเขียนใหม่”
“ก็คงงั้น ว่าแต่นายทำไมกลับไวจัง”กัสหันมามองเขื่อน
“พี่พีคมาส่งนะ”เขื่อนยิ้มนิดๆ
“อ้าว พี่พีครอนายอยู่จนเลิกงานเลยเหรอ”
“ฮือ พี่เขาเป็นคนดีมากเลย พี่พีคบอกว่ามาส่งแล้วก็ต้องรับด้วย”เขื่อนยิ้มหนักกว่าเดิมอีกเท่าตัว
“พี่พีคเขาเป็นคนดีจริงๆ”กัสพูดเสียงอ่อยลง
“ใชพี่พีคเป็นคนดีมากๆ ถ้าใครได้เป็นแฟนคงโชคดี”
“ถ้างั้นายคงโชคดี”กัสมีสีหน้าที่เปลื่ยนไปพอสมควร
“ถ้าเป็นอย่างนั้นได้ก็ดีหนอ พี่เขาออกจะรวย หล่อ เก่ง แ ล้วดูพวกเราซิ นายต้องเขียนนิยายหาเงิน ส่วนเราต้องเป็นพนักงานเสริฟ เขาคงไม่มองหรอก”
“ไม่เกี่ยวหรอก ถ้าคนมันจะรักก็รัก ถ้าไม่รักทำอย่างไงก็ไม่รัก”
“ขอให้เป็นจริงอย่างที่นายพูดก็แล้วกัน ตอนนี้เราขอไปอาบน้ำก่อน”เขื่อนเดินไปเปลื่ยนเสื้อผ้าและเข้าไปในห้องน้ำ
ความรู้สึกของกัสตอนนี้อยู่ในห้วงอิ จฉาเล็กๆ กัสคิดเลยเถิดไปว่าทำไมพีคไม่มาส่งเขาที่ห้อง แต่ไปส่งเขื่อนในที่ทำงาน ในช่วงเวลานี้นี่เอง ทำให้กัสนึกบทนิยายตอนต่อไปของเขาออก กัสจึงเริ่มลงมือเขืยนต่อทันที จากที่กัสร่างไว้คราวๆว่าจะให้แม่ทัพวิศรุฒได้พายิวไปยังเมืองศิลานครเพื่อเป็นเมียลับๆ กัสได้เปลื่ยนบทนิยายตอนนี้ใหม่หมด
ในถ้ำกลางป่าที่เริ่มมีแสงสว่างเข้ามา แต่นั่นไม่ได้ทำให้ความรู้สึกปลอดภัยของยิวมีมากขึ้น เพราะแม่ทัพวิศรุฒออกไปจากถ้ำตั้งแต่ยังไม่รุ่งสาง เพื่อไปหาเสื้อกางเกงให้ยิวใส่ จนป่านนี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะกลับมาแต่อย่างใด ยิวจึงตัดสินใจเดินออกไปยังหน้าถ้ำ แต่เขายังไม่ลืมนำเสิ้อมาใส่ปกปิดร่างกายส่วนบน อันขาวดังหยวกกล้วย พร้อมกับนำผ้าโพกเอวของแม่ทัพวิศรุฒ มาคุมศีรษะยันหน้าอกเพื่อไม่ให้เห็นทรงผม อันผิดแผกแตกต่างจากคนยุคนี้
เพียงยิวออกไปยังหน้าถ้ำ เขาพบกับโจรป่าที่ออกปล้นสะดมชาวบ้าน ที่กำลังเดินทางกลับค่ายชุมเสือ ยิวเห็นคนกลุ่มใหญ่เขาตกใจอย่างหนัก ยิวจึงรีบวิ่งเข้าไปภายในถ้ำ แต่ไม่พ้นสายตาของหัวหน้าโจร
“จับผู้หญิงคนนั้นไว้”
ยิวก้าวเท้าเข้าไปในถ้ำไม่กี่ก้าว ลูกน้องโจรมารุมจับร่างของเขาไว้ ซึ่งยิวไม่สามารถต้านแรงกลุ่มโจรพวกนี้ได้
“จะทำอะไรเรา”ยิวพยายามขัดขืนดิ้นเพื่อให้หลุด ในขณะเดียวกันหัวหน้าโจรก็เดินเข้ามาใกล้ๆ
“หน้าตาสะสวยดีนี่”หัวหน้าชุมโจรจับปลายคางของยิว พร้อมส่งสายตาอันหื่นกระหาย เพราะเขาเข้าใจผิดคิดว่ายิวเป็นผู้หญิง
“เอาทำเมียเลย ถ้าเบื่อแล้วยกให้พวกเราต่อก็ได้”ลูกน้องชุมโจรพูดขึ้น
“สวยอย่างนี้ข้าไม่มีวันเบื่อหรอก ข้าจะเอาทำเมียเป็นนายหญิงของพวกเอ็ง ครั้งก่อนๆที่เจอไม่ได้สวยแบบนี้นี่หว่า พวกเอ็งเลยรับต่อจากข้า แต่คนนี้ช่างงดงามดั่งนางฟ้านางสวรรค์ ถ้าลูกของข้าเกิดกับนางคนนี้ ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย หน้าตาคงหล่อสวยหมดจด”
“ข้าไม่ใช่ผู้”
“หยุดพูด เอาไว้ร้องครางคืนนี้”หัวหน้าชุมโจรใช้นิ้วปิดริมฝีปากของยิว
ยิวหยุดพูดทันที สายตาของเขาจ้องมองไปยังหัวหน้าชุมโจร ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเครา สักยันต์เต็มตัวยิ่งกว่าแม่ทัพวิศรุฒหลายเท่า ยิวจึงเกิดความกลัวจึงยอมจำนนไม่ขัดขืนใดๆทั้งสิ้น
“เชื่องดีแท้บอกให้หยุดพูดก็หยุดทันที”
หัวหน้าชุมโจรหันไปบอกลูกน้องให้รีบกลับยังค่ายชุมโจร ในส่วนของยิวนั้นหัวหน้าชุมโจรได้จับมือให้เดินตาม ระยะทางระหว่างถ้ำกับค่ายชุมโจรไม่ห่างกันมากนัก จึงใช้เวลาไม่นานก็มายังค่ายชุมโจร
“เมียจ๋าไปนอนบ้านผัวก่อน เดี๋ยวคืนนี้จะเข้าไปหา อย่าลืมอาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อย ส่วนเสื้อผ้าใส่ของข้าไปก่อน พรุ่งนี้จะไปหาชุดสวยๆมาให้ใส่ สมฐานะนายหญิงแห่งชุมโจรเสือเข้ม”
เสียงหัวเราะของเสือเข้มดังลั่น ก่อนจากไปยังแหล่งเก็บสมบัติที่ปล้นสะดมชาวบ้านมา จำนวนมากมาย เพื่อที่จะแบ่งปันให้ลูกน้องไว้ใช้สอยส่วนตัว
“นายหญิงขึ้นไปบนบ้านก่อน ไปเอาเสื้อผ้าแล้วลงมาอาบน้ำ”ลูกน้องเสือเข้มนายหนึ่งที่อยู่เฝ้าหน้าบ้านเอ่ยขึ้น
ยิวจำใจยอมด้วยความหวาดกลัว เขาจึงปืนขึ้นบันได้ไม้ไผ่ห้าขั้น ไปยังเรือนชานไม้ไผ่เช่นกัน ก่อนที่ยิวจะเปิดประตูเข้าไปในบ้าน เขายืนนิ่งมองรอบบ้านซึ่งเป็นไม้ไผ่ทั้งหลัง เพื่อหาลู่ทางหลบหนี
“นายหญิงเข้าไปข้างในได้แล้ว ”เสียงตะโกนมาจากด้านล่าง
ยิวจึงรีบเปิดประตูเข้าไปในห้องทันที ซึ่งภายในห้องมีเพียงเสื่อฟาง หมอนลูกมะพร้าว มีผ้าห่มผืนใหญ่หนึ่งผืนวางไว้ข้างๆ ส่วนเสื้อกางเกงอยู่ไกลกัน ยิวจึงหยิบมาดูซึ่งใหญ่กว่าตัวเขามาก นั่นเป็นสิ่งที่ยิวต้องการเพื่อปกปิดร่างกาย เพราะอย่างน้อยกลุ่มโจรคิดว่าเขาเป็นผู้หญิง ก็จะทำให้เขาปลอดภัยชั่วระยะเวลาหนึ่ง ยิวถือเสื้อผ้าลงมายังข้างล่างที่มีห้องน้ำเป็นไม่ไผ่กั้นไว้ ซึ่งในระหว่างอาบน้ำเขาต้องระวังกลัวอย่างมาก เพราะกลัวใครมาแอบดูแล้วรู้ว่าไม่ใช่ผู้หญิง
หลังจากอาบน้ำเสร็จยิวขึ้นมาบนเรือนอีกครั้ง เขาจึงนั่งลงกอดเข่าด้วยความกลัดกลุ่ม เพราะอีกเวลาไม่นานเสือเข้มจะขึ้นมาหา ซึ่งในช่วงนั้นยิวไม่รู้จะทำเช่นไร ด้วยในความเป็นจริงเขาไม่ใช่ผู้หญิง ยิ่งเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นนั้น มีความแตกต่างกับแม่ทัพวิศรุฒอย่างมาก
แม่ทัพวิศรุฒถึงรู้ว่ายิวเป็นผู้ชาย เขาก็ยังอยากลองได้ยิวเป็นเมียในแบบผู้ชาย แต่กับเสือเข้มคิดว่ายิวเป็นผู้หญิง ถ้าเกิดเสือเข้มรู้ความจริง ด้วยความเป็นโจรนิสัยค่อนข้างโหดเหี้ยม ยิวคิดว่าเสือเข้มคงไม่ปล่อยเขาไว้อย่างแน่นอน ยิวถอนหายใจเฮือกใหญ่ไม่รู้จะทำเช่นไร เขายังคิดไม่ออกแม้แต่นิดเดียว ซึ่งยิวก็ไม่มีเวลาคิดทางหนีได้อีกแล้ว เพราะเสือเข้มเข้ามาในห้องด้วยความมึนเมา
“เมียจ๋ามาให้ผัวกอดซะดีๆ”เสือเข้มถอดเสื้อออกจนเผยเห็นมัดกล้ามและรอยสัก
“เดี๋ยวก่อนเรายังไม่พร้อม”
“เมียยังไม่พร้อมแต่ผัวพร้อม”
เสื้อเข้มเข้ากอดร่างของยิวทันที พร้อมพรหมจูบทั่วใบหน้าอันขาวใสนุ่มนิ่ม จนเสือเข้มติดใจหลงใหลใคร่รัก ยิ่งเขาได้กอดรัดฟัดเหวี่ยงยิว เสือเข้มยิ่งหื่นกระหายมากขึ้น เพียงแต่ติดใจเนินอกเล็กไปหน่อย
“ปล่อยเรานะ”ยิวพยายามดิ้นหนีจนหลุด
เสือเข้มยังไม่ยอมหยุดตามไปดึงร่างของยิว แต่หาได้จับร่างของยิวไม่ เขาจับได้เพียงแต่ผ้าที่โพกหัวกับเสื้อหลวมๆ ซึ่งได้หลุดติดมือของเสือเข้มมา เสือเข้มมองเสื้อและผ้าโพกศีรษะ เขาถึงกับอมยิ้ม เพราะนั่นจะทำให้เขาได้เห็นร่างอันเปลือยเปล่าท่อนบ่อน เสือเข้มรีบเงยหน้าขึ้น เพียงเห็นเรือนร่างอันเปลือยเปล่าของยิว เขาถึงกับตาโตอ้าปากค้างเพราะเรือนกายตรงหน้านั่น มิได้แตกต่างกับเขาเท่าไรนัก
“มึงหลอกกูมึงเป็นผู้ชาย”เสือเข้มพูดค่อยๆ เพราะกลัวลูกน้องได้ยิน
“เราไม่ได้หลอก พวกนายเข้าใจผิดไปเอง”ยิวมีสีหน้าตื่นกลัว
“มึงทำให้กูได้คิดว่าขึ้นสวรรค์ ดี ถ้างั้นกูจะส่งมึงไปนรก”
เสือเข้มหยิบดาบที่วางไว้ข้างประตูขึ้นมา พร้อมกับยกฟันไปยังส่วนคอของยิวที่ยืนงงชั่วเสี้ยววินาที หลังจากนั้นเขาวิ่งไปยังประตูเพื่อจะหนีออกไป เสือเข้มเดินตามพร้อมเงื้อมดาบสุดแรงกะให้โดยแผ่นหลังของยิว
กัสค้างไว้ก่อนค่อยเขียนตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ เขายิ้มกับหน้าจอโน๊ตบุ๊ค เพราะสะใจบทของยิวได้โดนทำร้าย
“กัสยังไม่นอนอีกเหรอ”เขื่อนมายืนข้างๆกัส
“กำลังจะไปนอน”กัสปิดโน๊ตบุ๊คพับไว้ แล้วมองหน้าเขื่อนแวบหนึ่ง หลังจากนั้นเขาขึ้นไปบนเตียงนอน พร้อมกับอมยิ้มที่ใส่ความเคียดแค้นในบทนิยายของเขา