02 อุบัติเหตุ

1203 คำ
02 อุบัติเหตุ ญาณิสา ‘ใยไหม’ เด็กสาววัย 19 ปี เธอกำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยชั้นปีที่ 1 คณะบริหารธุรกิจ เธอเป็นลูกสาวของนักธุรกิจ บ้านของเธออยู่ข้าง ๆ บ้านของเปมิกานั่นเอง ญาณิสาเป็นลูกสาวคนเดียว เธอเป็นเด็กที่ค่อนข้างแก่นแก้วเป็นเพราะเธอถูกเลี้ยงแบบตามใจมาตั้งแต่เด็ก แม้ว่าญาณิสาจะมีความแก่นแก้วแต่เธอมีความน่ารักอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว “ใยไหม ลูกเก็บของเสร็จหรือยังเราต้องไปแล้วนะคะ” ‘ญาณี’ แม่ของเธอร้องบอกให้รีบ ๆ เพราะวันนี้พ่อของเธอมีประชุมตอนบ่ายแต่ตอนนี้ญาณิสาก็ยังไม่มีท่าทีจะลงมาสักที “เสร็จแล้วค่ะ” สาวน้อยหน้าตาน่ารักวิ่งถือของพะรุงพะรังลงมาจากชั้นบนของบ้าน “มัวทำอะไรอยู่ใยไหมแม่รอหนูเป็นชั่วโมงแล้วเนี่ยเดี๋ยวพ่อของลูกก็ไปประชุมไม่ทันเสียการเสียงานหมด” ญาณีบ่นให้ลูกสาวที่โตแค่ไหนก็ยังทำตัวเป็นเด็ก ๆ ไม่เลิกเสียที “หนูก็มาแล้วนี่ไงคะ บ่นเป็นคนแก่อยู่ได้แม่นะแม่” ญาณิสาเดินไปพูดใกล้ ๆ แม่ของเธอเพื่อยั่วโมโห “เด็กคนนี้เถียงคำไม่ตกฟากจริง ๆ เลย” ญาณีบ่นพึมพำให้ลูกสาวไม่รู้จักโตของเธอ ญาณิสาออกเดินทางไปประชุมกับ ‘อภิชาติ’ พ่อของเธอไม่ใช่ว่าเธอเป็นการเป็นงานหรอกนะเพียงเธออยากไปเที่ยวทะเลก็แค่นั้นเพราะการประชุมครั้งนี้พ่อของเธอต้องเดินทางไปประชุมกับบริษัทคู่ค้าซึ่งใกล้ ๆ กับทะเลพอดิบพอดี ญาณิสากับญาณีกำลังเดินไปขึ้นรถเพื่อออกเดินทางในจังหวะนั้นเองเปมิกาที่กำลังจะไปตามอลินดากำลังขับรถออกเดินทางเช่นเดียวกันด้วยความเร่งรีบบวกกับความร้อนใจเธอจึงขับรถผ่านหน้าบ้านของญาณิสาและญาณีด้วยความเร็วและแรง “แม่คะ นี่พี่ปริมเขาจะรีบไปไหนเนี่ย ขับรถซะเร็วเลยถ้าชนหนูกับแม่ตายขึ้นมาจะว่ายังไง” เธอพูดออกมาอย่างไม่ได้คิดอะไรแต่ผู้ใหญ่อย่างญาณีเธอถือว่าพูดเป็นลางมันไม่ดี “นี่ใยไหมหนูพูดอะไรปากเสียตบปากตัวเองเดี๋ยวนี้เลยนะ” ญาณีผู้เป็นแม่ไม่ชอบที่ลูกพูดจาออกมาอย่างนั้น “ทำไมหนูต้องตบปากด้วยหนูไม่ได้พูดอะไรผิดนี่นาแค่เปรียบเปรยเฉย ๆ นะคะแม่” ญาณิสาพูดออกไปตามที่เธอคิด “เถียงอะไรกันสองคนแม่ลูกไป ๆ ขึ้นรถกันได้แล้วเดี๋ยวพ่อไปประชุมไม่ทัน” อภิชาติที่เดินตามหลังลูกและเมียมาติด ๆ เร่งให้สองแม่ลูกขึ้นรถ *************************************************************************** หลังจากที่เมื่อคืนอลินดานอนทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมาเธอตั้งใจจะบอกเลิกเปมิกาเพื่อที่เธอและเปมิกาจะได้ไม่ต้องมาทนเสียใจอยู่อย่างนี้แต่ตอนนี้เธอขอใช้ช่วงเวลานี้สร้างความสุขกับพ่อและแม่ของเธอ อลินดาชวนพ่อกับแม่ไปนอนดื่มด่ำบรรยากาศแสนสดชื่นนอนดูเด็ก ๆ ที่มากับครอบครัวเล่นทรายเล่นน้ำทะเลเมื่ออัมพากับองอาจเห็นดังนั้นก็อดที่ตะคิดถึงตอนที่อลินดายังตัวเล็ก ๆ อัมพาจูงมือเธอลงเล่นน้ำแต่เธอร้องไห้ขี้มูกโป่งเพราะกลัวคลื่นทะเลที่พัดมาแต่ล่ะทีทำเธอตกใจทุกครั้งไป “อันดา หนูรู้ไหมตอนเด็ก ๆ หนูกลัวคลื่นทะเลมาก ๆ เลยนะแม่จะพาเดินลงไปเล่นริม ๆ น้ำแต่อันดาไม่ยอมเลยนะร้องไห้ใหญ่เลยจนพ่อต้องมาอุ้มขี่คอหนูถึงหยุดร้องไห้” อัมพาพูดไปหัวเราะไปอย่างมีความสุข “พอพ่อจะวางหนูลงริม ๆ น้ำ หนูก็ร้องขึ้นมาเสียงดังลั่นพ่อก็เลยต้องพาหนูมานั่งเล่นไกล ๆ น้ำแต่พอโตขึ้นมาหน่อยหนูก็เลิกกลัวแต่กลับเป็นพ่อเสียเองที่กลัวลูกไปเล่นน้ำไกล ๆ พ่อกลัวหนูจมน้ำไม่เป็นอันนอนเอาแต่ตะโกนให้หนูขึ้นมาบนหาดเสียอย่างนั้น ก็ธรรมดาแหละคนเป็นพ่อก็ต้องห่วงลูกเป็นธรรมดาก็มีลูกกับเขาแค่คนเดียว” องอาจพูดพร้อมกับมองหน้าลูกสาวที่ตอนนี้นอนเปลชายหาดตรงกลางระหว่างเปลพ่อกับแม่ “อันขี้แยขนาดนั้นเลยเหรอนี่” อลินดาพูดไปหัวเราะไปกับความขี้แยของตนเอง ตอนเด็ก ๆ ก็ขี้แยตอนนี้ก็ยังคงนอนร้องไห้อยู่บ่อยครั้งเพียงแต่ตอนนี้ร้องไห้คนเดียวโดยที่ไม่มีพ่อกับแม่ปลอบใจเหมือนตอนเด็ก ๆ ไม่ใช่อะไรเธอแค่ไม่อยากให้พ่อกับแม่ทุกข์ใจกับเรื่องไม่เป็นเรื่องของเธอเท่านั้นเอง เปมิกาใช้เวลาเดินทางไม่นานก็มาถึงทะเลที่อลินดามาเที่ยว เมื่อเปมิกามาถึงเธอก็เดินตามหาอลินดาตามที่ต่าง ๆ เธอหวังว่าจะจะได้เจออลินดาไม่ว่าที่ใดก็ที่หนึ่ง ญาณิสาและครอบครัวของเธอเดินทางมาถึงที่ทะเลเช่นเดียวกันไม่รู้ด้วยความบังเอิญหรืออะไร ญาณิสามาเที่ยวทะเลที่เดียวกันกับอลินดา ญาณิสาลงจากรถก็ขึ้นห้องพักไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงมาเล่นน้ำทะเลเธอเป็นเด็กสาวที่มีพลังงานเยอะมาก ๆ เดินทางมาเหนื่อย ๆ เธอไม่พักเลยสักนิด ญาณิสาเดินลงมาที่ชายหาดบังเอิญเดินไปเจอกับเปมิกาที่กำลังตามหาอลินดาอย่างร้อนใจ “อ้าว! พี่ปริมมาทำอะไรที่นี่คะ” ใยไหมเอ่ยถามปริมอย่างสนิทสนม “อ๋อ! พอดีพี่กำลังตามพี่อันดา ใยไหมพอจะเห็นพี่อันดาไหมคะ” เปมิกาเอ่ยถามเธอเผื่อว่าเธอจะเห็น “ใยไหมพึ่งมาถึงค่ะยังไม่ได้เดินไปไหนเลย ถ้าอย่างนั้นให้ใยไหมตามหาช่วยดีไหมคะ” ญาณิสาอาสาตามหาอลินดาเป็นเพื่อนเปมิกา “ดีเลยถ้าอย่างนั้นพี่ไปทางนี้หนูไหมไปทางนี้นะคะ” เปมิกาพูดจบก็แยกย้ายกันไปคนละทางกับใยไหม ใยไหมเป็นเพื่อนบ้านของเปมิกาทั้งสองรู้จักกันเป็นอย่างดี ใยไหมนับถือเปมิกาเป็นเหมือนพี่สาวเวลาที่เธอเรียนไม่เข้าใจก้จะปถามเปมิกาอยู่บ่อย ๆ ทั้งสองจึงเป็นเพื่อนบ้านที่ค่อนข้างสนิทกันเลยทีเดียว อลินดาที่ไปบ้านของเปมิกาบ่อย ๆ ทำให้ใยไหมก็รู้จักมักคุ้นกับอลินดาเป็นอย่างดีและอีกอย่างทั้งอลินดาและญาณิสาเรียนคณะบริหารธุรกิจเช่นเดียวกัน ใยไหมเดินไปได้สักพักก็เห็นอลินดานอนอยู่ที่เปลชายหาดกับพ่อและแม่ของเธอ ใยไหมเห็นอย่างนั้นจึงรีบวิ่งไปหาเปมิกาเพื่อบอกว่าเธอเจออลินดาแล้ว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม