คุณหญิงปวีณาเป็นห่วงลูกชายคนเล็ก ที่วัน ๆ เอาแต่ทำงานโหมงานหนักข้าวปลาไม่ยอมกิน เป็นแบบนี้มาสองเดือนกว่าแล้ว เย็นวันนี้นางจึงนั่งรอลูกชายคนเล็กกลับมาบ้าน เพื่อที่จะได้พูดคุยกันว่าเป็นอะไร งานที่โรงพยาบาลก็ไม่ได้หนัก ทำไมต้องหักโหมจนร่างกายซูบโทรมขนาดนี้ “ฟักมาคุยกับแม่หน่อยสิลูก” นางเดินมาดักรอลูกชายที่เพิ่งจอดรถเสร็จ “อะไรครับแม่ปลิว” ฟักทองยิ้มให้ผู้เป็นแม่อ่อนโยนเหมือนที่เคยยิ้มให้ทุกครั้ง ก่อนจะส่งกระเป๋าทำงานของตนให้เด็กรับใช้เอาไปเก็บไว้บนห้องนอนให้ มือใหญ่ดึงเน็กไทของตนออกด้วยความอึดอัด “ไปคุยกันในห้องนั่งเล่นเถอะ” แล้วนางก็เดินนำลูกชายเข้าไปในบ้าน ฟักทองเดินตามแม่เข้าไปในห้องนั่งเล่น ไม่รู้ว่าท่านมีเรื่องอะไรจะคุยกับเขา เพราะเขาก็เดาผู้เป็นแม่ไม่ค่อยออกเช่นกันในตอนนี้ ตั้งแต่อาทิตย์ก่อนที่พี่ชายเขาแวะมากรุงเทพฯ แวะมาทานข้าวด้วย และบอกว่าอยากแต่งงานกับบุญป่วง ท่านก็โวยวายจนความด