อีกฝั่งของโลก
คาร์ดิโก้ เข่นเขี้ยวกับปลายสาย...โมโหกับการเสียรู้แผนการของบิดาในใจ พร้อมกับเดินย้อนกลับมาหาหญิงสาวหลังจากที่วางสายไป งานนี้คนประสานงานชั้นดีให้บิดาคงหนีไม่พ้นแม่นมของเขา
‘รู้จักพ่อหนุ่มนักรักน้อยไปเสียแล้วสาวน้อย มาดูกันว่า เธอจะเก็บเสื้อผ้าหนีกลับเมืองไทยทันหรือเปล่า’ ชายหนุ่มปรามาสแม่สาวไทยอยู่ในใจ แต่สายตาก็ยังไม่ละจากสะโพกผายแม้สักนาที
“เชิญครับ” เสียงนุ่มดังขึ้น พร้อมกับผายมือเชื้อเชิญหญิงสาวไปยังโซนรับรองวีไอพี เจอแผนตุกติกไม่ทันให้เขาตั้งตัวแบบนี้ คนโชคร้ายคงหนี ไม่พ้นแม่สาวเนื้อหวานตรงหน้า อย่างน้อยระหว่างนั่งโดยสารเครื่องบิน สาวน้อยนางนี้ก็คงจะได้เจอบทรับน้องแบบหื่นๆ บ้างล่ะ
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวตอบรับและเดินตามชายหนุ่มไป แอบคิดอยู่ในใจว่า ผู้ชายเครื่องหน้าหล่อครบสมบูรณ์อย่างเขาไม่น่าเดินเสียบุคลิกเลย
ดารัณไม่รู้เลยสักนิดว่า ผู้ชายที่เดินนำหน้าคิดไปอีกอย่าง เขาจ้องเธอตาเป็นมัน แม่สมันสาวอย่างเธอก็แค่รอวันโดนเคี้ยวแล้วคายทิ้งเท่านั้น
“แล้วคุณมาทำงานอะไรล่ะ” ชายหนุ่มเปิดประโยคสนทนาหยั่งเชิง หลังจากที่เดินผ่านงวงเข้ามาถึงที่นั่งชั้นพิเศษ เขาไขว้เท้ายืนพิงผนังสบายๆ ที่จริงเขาต้องการยืนพักขาอีกข้างเท่านั้น ถ้านั่งก็จะเสียบุคลิกตอนลุกขึ้น เขาไม่ต้องการให้ใครได้เห็นมุมอ่อนแอของเขา นอกเสียจากว่า คนคนนั้นจะสังเกตจริงๆ
“เรื่องนั้นฉันจำเป็นต้องรายงานคุณด้วยหรือคะ เข้าใจว่า คุณมีหน้าที่แค่มารับดิฉันเท่านั้น”
“นั่นคือสิ่งที่ผมอยากรู้ที่สุด” ชายหนุ่มถอดแว่นสีชาบนใบหน้าของเขาออก จ้องหน้าหญิงสาวนิ่ง
พอดารัณเห็นใบหน้าของเขาชัดๆ เธอถึงกับอึ้งพูดไม่ออก ดวงตา สีมรกตของเขาสะกดวิญญาณของเธอให้ยึดตรึงอยู่ตรงนั้น แน่นอนว่า เธอไม่เคยรู้สึกสั่นประหม่าเพียงสบตากับใครมาก่อนเลยสักคน
“ว่ายังไงล่ะสาวน้อย”
“ฉันไม่ได้เป็นสาวน้อยของใคร”
“แล้วจะดั้นด้นไปทำไมถึงอเมริกาล่ะ หรือจะไปจับสามีรวยๆ สักคน” ชายหนุ่มสวนกลับทันควัน อารมณ์หงุดหงิดก่อตัวเร็วราวพายุ ช่วงอายุที่ผ่านมาของเขา ไม่มีใครกล้ายอกย้อนท้าทายเขาได้
เสียงเข้มจริงจังของคนพูดทำให้หญิงสาวรู้สึกตัว ทั้งที่โกรธกับคำ สบประมาทเหลือแสน แต่ผู้หญิงตัวคนเดียวที่กำลังเดินทางไปใช้ชีวิตใน ต่างแดนไม่สมควรที่จะก่อศัตรูตั้งแต่ยังไม่ออกจากเมืองไทย ความอ่อนน้อมของสตรีไทยถูกดึงกลับมาใช้
“เอ่อ...ฉันต้องไปเป็นพยาบาลพิเศษให้คุณคาร์ดิโก นอร์ตันค่ะ”
หญิงสาวคนเมื่อครู่หายไป เปลี่ยนเป็นแม่สาวติดอ่างขึ้นมาทันที แม้เธอพยายามฝืนตัวเชิดหน้าตอบกลับแต่ความกระดากอายในตัวก็มีมากพอที่จะไม่พูดออกมาหมด ทว่าอีกคนเหมือนจะจงใจแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง
“งั้นรึ...แล้วเขาบอกว่าต้องทำอะไรบ้างล่ะ”
“ดูแลพยาบาลคนป่วยจนสามารถหายเป็นปกติ คุณเป็นพนักงานคงจะรู้จักเจ้านายของคุณดีกว่าฉันที่เพิ่งจะมารับงานนะคะ” หญิงสาวบอกเล่าในสิ่งที่เธอรับรู้ในสัญญา ตัวเธอเองก็ไม่รู้อะไรมากไปกว่านั้น
ชายหนุ่มยืดตัวยืนเต็มความสูง ล้วงมือเข้ากระเป๋ากางเกงในท่วงท่าสบายๆ เหมือนเดิม พยักหน้าเหมือนเข้าใจกับข้อมูลน้อยนิดที่หญิงสาวตรงหน้ามี หล่อนคงยังไม่ได้รับรู้รายละเอียดเบื้องลึกเหมือนกับเขา
“เอาล่ะ ทีนี้ก็ถึงเวลาเริ่มงานของคุณแล้ว” ชายหนุ่มบอกพร้อมกับ ย่อตัวลงนั่งข้างๆ จงใจเบียดกระแซะหญิงสาว ดารัณรีบกระถดตัวออก
“คุณหมายความว่าอย่างไร”
“ผมคาร์ดิโก้ นอร์ตัน คนที่คุณต้องมาดูแลตามสัญญา” ชายหนุ่มบอกเสียงเรียบ แต่คนฟังกลับอึ้งอยู่อย่างนั้น เขาไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคาดเอาไว้แม้แต่สักนิดเดียว และที่สำคัญ เขาไม่ได้มีอาการเหมือนคนเจ็บป่วยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ นอกจากการเดินที่ผิดบุคลิกไปบ้าง
“ไม่ใช่” หญิงสาวรำพึงกับตัวเองเบาๆ
ชายหนุ่มหันกลับมามองหญิงสาวอีกครั้ง สายตาโลมเลียจาบจ้วงบน อกอิ่มของเธออย่างเปิดเผย พร้อมกับทิ้งรอยยิ้มเยาะที่มุมปาก
“คงรู้นะว่า ไอ้พยาบาลส่วนตัวหมายถึงอะไร เพราะคนระดับผมจะจ้างมืออาชีพในอเมริกามาดูแลสักกี่ร้อยคนก็ได้ แต่นี่ไม่ใช่อย่างนั้น ตั้งใจมาทำงานบนเตียงด้วยหรือเปล่า เรื่องพวกนั้นถ้าผมต้องการ ทุกคนที่อยู่ข้างกายต้องพร้อมเสมอ” ชายหนุ่มจงใจเยาะให้อีกคนถอดใจ
คนฟังกำหมัดแน่น หญิงไทยที่ไม่เคยต้องมือชายและทำตัวเสื่อมเสียสักครั้ง แต่วันนี้กลับถูกตีแสกหน้า ยิ่งแววตาหยามหยันนั่นยิ่งทำให้อารมณ์อยากเอาชนะลุกโชน แต่ในสถานะของเธอที่มีสัญญาค้ำคอ ได้แต่เพียงท่อง คำว่าอดทนไว้ในใจเท่านั้น ลืมคำว่าตอบโต้และเพียงเก็บงำความโกรธไว้ในใจ
“ถ้าคุณมีแรงพอที่จะทำนะคะ” หญิงสาวเยาะ นึกถึงเงินโบนัสก้อนพิเศษที่เธอจะได้รับ หากคนที่เธอต้องดูแลหายเป็นปกติ ไม่นึกเลยว่า คนป่วยที่เธอต้องดูแลจะหื่นขึ้นบาร์โค้ดที่ใบหน้าขนาดนี้ ทั้งที่เพิ่งเห็นหน้ากันไม่ถึงชั่วโมง และสังขารของเขาไม่เอื้อสักนิด
อาการป่วยที่ระบุในสัญญาที่เธอเซ็นประเมินออกมาได้ว่า คนป่วยไม่สามารถบังคับขาข้างซ้ายได้ครบร้อยเปอร์เซ็นต์ เป็นเหตุให้เขาต้องได้รับการตรวจเช็กถึงสาเหตุให้ละเอียด ไอ้การรุกเร้าทำเรื่องอย่างว่าคงทำไม่ได้ นอกเสียจากอีกคนจะเป็นผู้กุมบังเ**ยน ซึ่งไม่มีทางที่จะเป็นเธอเด็ดขาด
“รู้ไหม! ว่าเธอกำลังท้าทายใคร สาวน้อย”
หญิงสาวปรายตามองกึ่งขำ ไม่นึกว่า ผู้ชายอย่างเขาจะจริงจังกับเรื่องบนเตียงจนถึงขึ้นหมกมุ่น
“คุณก็รีบรักษาตัวให้หายก่อนสิคะ ฉันจะรอดูว่า คุณจะทำอะไรฉันไหวไหม” ดารัณตั้งใจที่จะปลุกความมุ่งมั่นอยากหายในตัวเขา เพราะยิ่งเขาหายเป็นปรกติเร็วขึ้นเท่าใดก็หมายถึงอิสรภาพและโบนัสก้อนโตจะมาเยือนเธอเร็วเท่านั้น
หากสิ่งที่หญิงสาวแสดงออกมากลับยิ่งปลุกเร้าความอยากเอาชนะในตัวชายหนุ่มเกินคาด ไม่ใช่อยากหายป่วยเร็วๆ แต่ความหมายของเขาคือ เขาต้องลากแม่สาวไทยนักท้าทายปากเก่งขึ้นเตียงแล้วเขี่ยทิ้งให้ได้ ความโกรธ ทำให้เขาลืมแม้กระทั่งคำประกาศของตัวเองที่จะไม่พาหญิงไทยขึ้นเตียง
ดารัณผายมือเชิญให้เจ้านายหนุ่มนั่ง ไม่อยากต่อปากต่อคำให้ มากความ เพราะไม่ว่าอย่างไรเขาก็ได้ขึ้นชื่อว่า เป็นเจ้านายของเธออยู่วันยังค่ำ เอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุงก็คงไม่มีประโยชน์อะไร
“ที่นั่งของคุณอยู่ตรงนี้ใช่ไหมคะ เชิญนั่งก่อนค่ะ ฉันจะได้ไปหาที่นั่งของตัวเองบ้าง”
“เธอเป็นพยาบาลส่วนตัว ถ้าฉันเป็นอะไรจะให้ตะโกนเรียกหรือไง ที่นั่งของเธออยู่ตรงนี้” ชายหนุ่มบอกพร้อมใช้สายตาชี้ไปยังที่นั่งให้หญิงสาวนั่ง
“ฉันคงไม่กล้าตีเสมอนั่งกับเจ้านาย ขอนั่งที่นั่งข้างหลังดีกว่า” ที่นั่งด้านหลังที่หญิงสาวหมายถึงคือโซนสำหรับเจ้าหน้าที่ที่ติดตามชายหนุ่มที่เธอเพิ่งสังเกตเห็นตอนใกล้เวลาเครื่องกำลังจะเทคออฟ
“นั่งลง เธอไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะคิดคัดค้านคำสั่งของฉัน” ชายหนุ่มบอกเสียงกร้าว ดารัณต้องทำตามแต่โดยดี เพราะเจ้าหน้าที่ส่งสัญญาณเตือนให้นั่งประจำที่และคาดเข็มขัดนิรภัย
ในความโชคร้ายก็มีความโชคดีอยู่บ้าง ผู้หญิงธรรมดาอย่างเธอคงจะไม่มีโอกาสได้ใช้บริการที่นั่งระดับวีไอพีหรูหราอย่างนี้ เพราะฉะนั้นเธอควรจะตั้งใจจดจำทุกรายละเอียดและทุกความรู้สึกที่กำลังจะเดินเข้ามา สลัดความคิดเล็กๆ น้อยๆ ที่มี ตั้งใจทำตามคำสั่งเจ้านายให้หมดเวลาการทำงานคงจะมีความสุขมากกว่า