Love Song 4

2342 คำ
​ Love Song 04​ “ขออาบน้ำก่อนได้ไหมอ่ะ” ฉันถามเลิฟเมื่อเลิฟจอดรถที่หน้าบ้านฉัน ส่วนเพื่อนคนอื่นๆอาสาไปซื้อของมาจัดปาร์ตี้กันส่วนฉันโดนไล่ให้กลับมารอที่บ้าน ไม่เข้าใจจริงๆนะทำไมเพื่อนๆถึงได้ทำเหมือนฉันเป็นเด็กจนบางทีรู้สึกว่าพวกเขามองฉันเป็นน้องแทนที่จะมองเป็นเพื่อนซะอีก “ได้ ตอนนี้พวกนั้นยังไม่มาเราขอเข้าไปรอในบ้านได้ไหม แต่ถ้าไม่สะดวกเราก็จะรอที่นี่ๆแหละ” เลิฟบอก “คิดอะไรมาก เข้าไปข้างในได้วันนี้พี่เราอยู่” “ขอบคุณครับ” เลิฟบอกก่อนเราทั้งสองจะลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในบ้าน เลิฟอาสาถือกระเป๋าให้แม้จะปฏิเสธแต่เขาก็ยังคงทำหน้ามึนแล้วถือให้ “ซอง” “คะ?” “ตอนนี้ยังไม่มีแฟนใช่ไหม” อะไรของเขากัน “ยังไม่มี ทำไมเหรอ?” ฉันถามกลับ “เปล่าหรอก รีบอาบน้ำนะเผื่อพวกนั้นมากันก่อน” “โอเค เอ่อเดี๋ยวบอกพี่ลงมาคุยเป็นเพื่อนนะ” ฉันบอกเลิฟก่อนจะรีบเดินขึ้นบนชั้นสองของบ้านก่อนเข้าห้องตัวเองฉันก็เดินไปเคาะที่ห้องพี่เต้เพื่อที่จะให้ลงไปนั่งเป็นเพื่อนเลิฟเจ้าตัวงัวเงียเดินออกจากห้องทันทีเมื่อได้ยินฉันบอก สองคนนี้เคยเจอกันบ้างแล้วเห็นคุยกันถูกคอเชียวล่ะ ฉันรีบเข้าไปอาบน้ำจัดการตัวเองเพราะกลัวว่าเพื่อนจะรอนาน “มีอะไรก็ลองถามลองคุยดู ซองมันพูดไม่เก่งก็จริงแต่ถ้าทำให้มันเชื่อใจได้มันจะพูดทุกอย่างเลย” “ผมพยายามอยู่ครับ” “อือ ลองคุยกันดูถ้ามีอะไรให้พี่ช่วยก็บอกนั่นไงมาแล้ว ฝากดูแลด้วยนะ” “ได้ครับ” ระหว่างที่กำลังเดินลงบันไดก็ได้ยินเสียงพี่เต้กับเลิฟคุยกันแต่ฟังไม่รู้เรื่องว่าพวกเขากำลังคุยเรื่องอะไรกันแน่ พอเห็นฉันเดินเข้าไปพี่เต้ก็ลุกขึ้นพรางยกมือปิดปากหาว “ถ้าดื่มเยอะแล้วกลับไม่ไหวโทรบอกกพี่นะเดี๋ยวเดินออกไปรับ พี่ขอไปนอนก่อน” พี่เต้ยกมือลูบผมฉันเบาๆก่อนจะเดินเลยไป ส่วนเลิฟก็ลุกขึ้นแล้วเข้ามาจับมือฉันก่อนจะพาเดินออกจากบ้าน “ไม่จับมือก็ได้” *เราเป็นแค่เพื่อนกันนะ* ท้ายประโยคฉันได้แต่พดในใจ เพราะเมื่อไหร่ที่พูดแบบนี้เขาก็จะงอนถ้าหนักหน่อยก็จะโกรธเลยกว่าจะง้อได้นี่เป็นอาทิตย์ “อยากจับ” สั้นๆง่ายตามสไตล์คุณเลิฟนี่แหละค่ะ ฉันเงียบเพราะไม่รู้จะพูดอะไรต่อเพราะดูแล้วเขาไม่มีทางปล่อยแน่ๆ เลิฟเปิดประตูให้ก่อนจะปล่อยมือ “พวกนั้นบอกว่าจะย่างเนื้ออ่ะ ถ้าอยากทานอย่างอื่นก็บอกเราเข้าใจไหม” “เข้าใจค่ะ” ฉันตอบ “ปะไปกัน เพื่อนน่าจะรอกันแล้วล่ะ” เลิฟบอกมาก่อนจะเคลื่อนรถ เรามาถึงสนามหญ้าบ้านต้นเพื่อนๆก็กำลังเตรียมของปาร์ตี้กัน “ไปไหน” ฉันที่กำลังจะเดินไปในตัวบ้านเพื่อที่จะเข้าไปในครัวก็ต้องชะงักเมื่อเลิฟจับมือแล้วถามขึ้นเสียงดัง แต่ไม่ได้ดุ “ไปในครัวค่ะ” “ระวังด้วย” เลิฟบอกสั้นๆฉันพยักหน้าก่อนจะวิ่งเข้าไปในบ้านของต้น เสียงเพื่อนฉันคุยกันดังออกมาแต่ด้วยความซุ่มซ่ามทำให้ฉันที่วิ่งเข้าไปในบ้านลื่นแล้วไถลหน้าผากชนขาโต๊ะเสียงดังปึ้ก! ทำให้เพื่อนที่อยู่ในครัววิ่งออกมาดู “เฮ้ย! ไปทำอะไรตรงนั้นน่ะ” ดาวร้องถามปนเสียงหัวเราะ แต่ก็วิ่งเข้ามาประคองฉันให้ลุกขึ้น อ่า มึนเหมือนกันนะเนี่ย “แดงเลยอ่ะ ฮาๆๆ อะไรจะรีบขนาดนั้น” ตูนพูดก่อนจะเดินไปเปิดดูตามตู้ต่างๆก่อนจะยื่นยาหม่องมาให้ อย่างกับบ้านตัวเองเลย “เอาไปให้เลิฟทายาให้เลย พวกเรามือเปื้อน อ้อตรงนี้เสร็จแล้วรอข้างนอกเลยนะไม่ต้องเข้ามาแล้วเดี๋ยวได้แผลอีก” ดาวบอกและก็ยังขำอยู่ ฉันพยักหน้าก่อนจะเดินออกจากห้องครัว ด้านนอกพวกผู้ชายกำลังจัดโต๊ะและตั้งเตาเลิฟยืนอยู่ข้างๆอาร์มเหมือนพวกเขากำลังคุยอะไรกันอยู่ฉันเลยไม่กล้าที่จะเดินเข้าไปแต่อาร์มก็หันมาเจอซะก่อนและเขาก็สะกิดบอกเลิฟ เลิฟยิ้มก่อนจะกวักมือให้ฉันเดินเข้าไปหา “โดนอะไร” เลิฟหรี่ตามองดุๆ ฉันเลยยื่นยาหม่องในมือให้เขาไป “วิ่งแล้วล้มมันไถลไปชนขาโต๊ะ” ฉันเล่าให้เลิฟฟังคนตัวโตกว่าส่ายหน้าไปมาอย่างเอือมๆมือก็ทายาหม่องที่หน้าผากให้ “อ๊ะ เจ็บ” “ซน อยู่นิ่งๆเลย” “ก็มันเจ็บ เลือดออกไหม” ฉันยกมือแตะๆตรงที่เจ็บแต่เลิฟก็ตีมือเบาๆและจับมือลง “ไม่มีเลือดแต่โนมาก อะเสร็จแล้วนั่งอยู่นี่เลยนะเพื่อนเอาของออกมาแล้วเดี๋ยวเข้าไปเอาของให้” เลิฟบอก “แต่เราอยากช่วย” “อือ เข้าไปกับเรามา” เลิฟบอกก่อนจะจูงมือฉันเดินเข้าไปในบ้าน จับมือขนาดนี้อย่าหวังเลยว่าเขาจะปล่อยให้ฉันห่างเพราะเขาจะสวมบทเป็นคุณพ่อยังไงล่ะ “มันบอกยัง” ตูนถามเลิฟเมื่อเห็นเราทั้งสองคนเดินเข้าไปในห้องครัว “บอกแล้ว ซนมากอ่ะเพื่อนเธอ” ถ้าจะว่าให้ขนาดนี้นะ ตีฉันเลยเถอะ ชิ จะงอนแล้วนะ ทำไมต้องชอบดุด้วยนี่มันเป็นอุบัติเหตุนะไม่มีใครคิดหรอกว่ามันจะเกิดขึ้นน่ะ “ทำหน้าหงอยอีกแล้ว” ตูนว่าขำๆมือก็ยกจานเนื้อมายื่นให้ “ทำไมต้องว่าเราด้วยล่ะ มันเป็นอุบัติเหตุนะ” ฉันบอกตูนก่อนจะมองเลิฟงอนๆ รายนั้นแค่หัวเราะเท่านั้น “ก็ซน บอกแล้วไงว่าให้ระวังหรือไม่ฟังกันเลย” “ก็ฟังแต่มันลื่นอ่ะ มันตั้งตัวไม่ทัน โอ๊ย ไม่เอาแล้วไม่คุยด้วยแล้วมีแต่คนดุ” ฉันถือจานเนื้อเดินออกจากห้องครัวพรางพึมพำอย่างงอนๆ ทุกคนชอบดุจริงๆนะ แต่ดุบ่อยก็คงจะเป็นเลิฟนี่แหละ ต่อหน้าคนอื่นไม่เท่าไหร่หรอกแต่ถ้าอยู่ด้วยกันสองคนนะ อย่าพูดถึงเลยเราเคยบ่นตั้งแต่คอนโดจนถึงบ้านฉันก็มีอ่ะ “ไหงทำหน้างั้นอ่ะ”ดาวทักขึ้นเมื่อฉันเดินเข้าไปใกล้ “โดนบ่นมา” ฉันบอกเพื่อนไปงอนๆ ดาวหัวเราะอย่างเอ็นดู “ก็เขาเป็นห่วงไงเลยบ่น แล้วนี่เจ็บมากไหมโนอยู่เลยอ่ะ” “เจ็บ มันปวดด้วยอยากกลับไปนอนแล้ว” “เดี๋ยวๆๆ ไม่ใช่ละ” ดาวว่าพรางหัวเราะอย่างรู้ทัน “ก็ได้ๆ” จากนั้นก็ยืนย่างเนื้อช่วยดาว “ทำไมตูนยังไม่ออกมาล่ะ ซองทำหน้าที่” ตาลบอก แต่ให้ตายสิ ฉันเดินวนไปมาหลายรอบแล้วนะพวกนี้ตั้งใจจะแกล้งฉันใช่ไหมถึงได้บอกให้เดินไปมาหลายรอบแบบนี้ “ซองเอาแก้วมาให้ด้วยได้ไหม” อาร์มตะโกนบอก “ได้สิ รอแปบนะ” ฉันบอกเพื่อนก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านเพื่อที่จะเข้าไปตามตูนและเอาแก้วฉันเดินเข้าไปใกล้ห้องครัวเรื่อยๆแต่ ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกใจหวิวๆแปลกๆชอบกล “ก็คบกันอยู่ไม่ใช่เหรอ” เสียงนี้ของเลิฟนี่ คบอย่างนั้นเหรอ “อือ ก็คบอยู่แต่ยังไม่กล้าบอกเพื่อนเลย” เสียงตูน? “เราว่าพวกนั้นเข้าใจอยู่หรอก ไม่อึดอัดเหรอที่อยู่แบบนี้ไม่เหนื่อยเหรอเราเหนื่อยเหมือนกันนะ...” อ่า นี่พวกเขาคบกันเหรอ เลิฟกับตูนแอบคบกันเหรอ ฉันเดินถอยห่างจากห้องครัวก่อนจะเดินกลับไปยังด้านนอกฉันเดินเข้าไปหาอาร์มก่อนจะแกล้งถามเสียงปกติ “เมื่อกี้จะเอาอะไร เราคุยกับปลาทองเลยลืม” “โอ๊ย ปวดหัวเลยงานนี้แก้วครับเพื่อน ปะๆไปด้วยกันนี่แหละ” อาร์มลุกยืนก่อนจะเดินนำไปที่ห้องครัว ฉันเดินตามเข้าไปด้วยเพราะกลัวว่าเพื่อนจะสงสัยเอา “นี่ไงปลาทองอ่ะ เมื่อกี้เราคุยกันด้วยนะเลยลืมว่านายฝากเอาอะไร ฮาๆๆๆ” ฉันดึงมือให้อาร์มดูตู้ปลาทองขนาดใหญ่ “ต่อไปถ้าจะไปเอาของแต่อยากแวะคุยกับปลาก็บอกปลาก่อนว่าจะไปเอาอะไรเผื่อลืมก็จะได้ถาม” อาร์มว่าขำจากนั้นก็เดินไปที่ห้องครัว “มันจะตอบเราได้เหรอ” ฉันถามกลับแต่ใจเต้นแรงเมื่อเห็นตูนกับเลิฟเดินออกจากห้องครัวมา “ตูนๆ ดาวบอกให้มาตามนะ” ฉันบอกตูนก่อนจะยิ้มให้เพื่อน และไม่กล้าที่จะเงยหน้ามองเลิฟเลยไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองว่าเขาก็กำลังมองฉันอยู่ “โอเค แล้วนี่จะไปไหนกัน” ตูนบอกและถามกลับมา “ไปเอาอะไรนะอาร์ม” ฉันแกล้งถามอาร์มจนเจ้าตัวโตโวยวายใหญ่ “ฮาๆๆๆ จะไปเอาแก้วน่ะเดี๋ยวตามออกไปนะ” ฉันบอกตูนพร้อมกับเสียงหัวเราะและจนแล้วจนรอดก็ไม่กล้ามองหน้าเลิฟเลย ฉันแค่กลัว กลัวตัวเองจะร้องไห้ “อาร์ม! เราจำได้อยู่นะว่าจะมาเอาแก้ว” ฉันเดินตามอาร์มเข้าไปในห้องครัวดูคนที่กำลังหัวเสียเพราะโดนแกล้ง ฉันยิ้มให้อาร์มขำๆก่อนจะปล่อยให้อาร์มบ่นพึมพำแล้วออกจากห้องครัวไปส่วนตัวเองยังยืนนิ่งไม่ขยับ ฉันเปิดตู้เย็นแล้วหยิบโซจูออกมาขวดหนึ่งก่อนจะกระโดดขึ้นนั่งที่เคาน์เตอร์กลางห้องครัวมือก็เปิดขวดโซจูขึ้นดื่ม ฉันนั่งดื่มไปเรื่อยๆพร้อมกับบอกตัวเองว่าอย่าร้องไห้ ไม่รู้ว่านั่งนานแค่ไหนแต่พอโซจูหมดฉันก็กระโดดลงจากเคาน์เตอร์ อย่าเสียใจสิ คนที่เรารักทั้งสองคบกันมันก็ดีแล้วนี่นาจะเศร้าทำไมกัน ฉันได้แต่ปลอบตัวเองในใจ จากนี้คงต้องเว้นระยะกับเลิฟแล้วล่ะเพราะกลัวว่าเขาและตูนจะอึดอัด ฉันหันหลังกลับตั้งใจจะออกจากห้องครัวแต่ไม่คิดว่าจะมีคนยืนอยู่หน้าห้องครัว ร่างสูงของเลิฟยืนกอดอกพิงกรอบประตูมองเข้ามายังห้องครัวแววตาคุกรุ่นของเขายิ่งทำให้ฉันรู้สึกไม่ดี “เป็นอะไร?” เขาถามสั้นๆ น้ำเสียงฟังดูห้วนจัง “หือ? เปล่านะมาตั้งแต่เมื่อไหร่มาเอาของหรอ” ฉันถามกลับไปก่อนจะเดินเลี่ยงไปคนละมุมเมื่อเห็นเขาก้าวเข้ามา “ซองมานี่ก่อน” เลิฟสั่งเสียงดุ “เราอยากออกไปดื่มต่อแล้วอ่า มีอะไรหรือเปล่า” ฉันเอียงคอถามเลิฟ “เป็นอะไรทำไมทำตัวแปลกๆ” “เปล่านะ เราแปลกเหรอหรือว่าเราจะเมาแล้วนะ” ฉันแกล้งพูดกลับไปอย่างนั้นก่อนจะรีบบอกเขาว่าอยากดื่มต่อแล้วรีบออกจากห้องครัว ทันทีที่ออกมาถึงด้านนอกฉันก็เข้าไปนั่งข้างๆดาวตรงที่ว่างๆส่วนที่ว่างอีกมุมคงเป็นของคนที่ยังอยู่ในครัวล่ะมั้ง “ไปแอบดื่มอะไรมาหรือเปล่า” “โซจูขวดเดียวเอง” “ทำไมไม่เอาออกมาดื่มข้างนอกล่ะ” ดาวถามมือก็วางแก้วเหล้าลงตรงหน้า “อารมณ์อินดี้” “จ้าแม่คุณ” ดาวส่ายหน้าเอือมๆเมื่อได้ยินคำตอบของฉัน เรานั่งดื่มกันไปเรื่อยๆ ไปๆมาๆทำไมขวดเหล้าถึงได้มาตั้งตรงหน้าฉันก็ไม่รู้เหมือนกันแต่เพื่อนไม่คิดอะไรมากหรอกเพราะพวกมันซื้อมาเยอะ ฉันที่ไม่ค่อยคุยอะไรอยู่แล้วเลยนั่งดื่มเงียบๆไปมีบางครั้งดาวหันมาดุเมื่อฉันดื่มถี่ขึ้น หนึ่งกลมตรงหน้าฉันดื่มคนเดียวจนเหลือต่ำกว่าครึ่งขวดแล้ว “ซอง พอก่อน” ดาวแย่งทั้งแก้วทั้งขวดเหล้าออกห่างจากฉัน “อื้อ ไม่เอาอย่าแกล้งสิ” “เป็นอะไรปกติไม่ดื่มหนักตั้งแต่ต้นแบบนี้นะ” ดาวถามเสียงเข้มและฉันก็พอจะรู้ว่าเพื่อนคนอื่นก็เงียบฟังเช่นเดียวกัน “เปล่า เราไม่ได้ดื่มนานแล้วอ่ะ อยากดื่มอีกอย่างพรุ่งนี้หยุดด้วย” “อีกสามสิบนาทีค่อยดื่มต่อ” ดาวสั่งเสียงเข้ม ฉันจำต้องพยักหน้ารับก่อนจะเอียงคอไปซบไหล่ดาวไว้อย่างอ้อนๆ มือก็เอื้อมไปหยิบบาร์บีคิวมากิน ฉันได้แต่บอกตัวเองว่ารีบดื่มรีบเมารีบบอกให้พี่ลาเต้มารับ “ขอต่อได้ยัง” ฉันเงยหน้าอ้อนดาวเสียงหวานพรางกระพริบตาปริบๆ หวังให้เพื่อเห็นใจแต่แอบใจกระตุกเมื่อดาวเอ่ยประโยคนั้นออกมา “ถามเลิฟก่อนสิว่าจะให้ดื่มต่อได้หรือยัง” “ไม่เอาๆ อยู่กับดาวขอดาวได้” ฉันบอกเพื่อนพร้อมกับกลิ้งหน้าไปมาบนแขนเนียนของดาว กระทั่งดาวก้มหน้ามากระซิบนั่นแหละ “ทะเลาะอะไรกันหรือเปล่า เลิฟมองตลอดเลยนะ” “ปะ เปล่าสักหน่อยแค่อยากดื่มทำไมต้องทะเลาะกับเขาด้วยล่ะ” ฉันว่าก่อนจะยืดตัวนั่งตรงตามเดิม อ่า ทำไมฉันทำตัวไม่น่ารักเลยล่ะ อาการแบบนี้จะเรียกว่าอกหักก็ไม่ได้สินะเพราะสถานะเรามันเป็นแค่เพื่อนกัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม