bc

ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวนาผู้ยากจนซ้ำสามียังพิการ

book_age12+
1.5K
ติดตาม
9.3K
อ่าน
จบสุข
เบาสมอง
ลึกลับ
ออฟฟิศ/ที่ทำงาน
like
intro-logo
คำนิยม

ว่าที่แพทย์หญิงที่ย้อนกลับไปสู่อดีตในร่างหญิงอวบอ้วนที่สามีและลูกชิงชัง และอยากให้เธอตายอยู่ทุกวัน เธอจะไม่ยอมใช้ชีวิตอยู่กับผู้ชายที่ไม่ได้รักเธอเป็นอันขาด

..........................

นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายไทยโบราณนะคะ แต่ไม่ได้ย้อนยุคไปไกลมาก ชื่อเรื่องอาจจะเหมือนจีนโบราณแต่ความจริงแล้วคือไม่ใช่ค่ะ

ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวนาผู้ยากจนซ้ำสามียังพิการ เป็นเรื่องราวของนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่หกที่ทะลุมิติไปอยู่ในร่างหญิงอวบอ้วนในปีพุทธศักราช 2495 เธอต้องเลี้ยงลูกสองคนและสามีพิการขาหักทั้งสองข้างอีก แถมพวกเขายังชิงชังหญิงอ้วนใจร้ายอย่างเธอด้วย ภาษาที่ใช้ในเรื่องนักเขียนจินตนาการขึ้นมาเองค่ะไม่ได้อิงประวัติศาสตร์แต่อย่างใด ส่วนประเพณีหรือวัฒนธรรมและความเป็นอยู่บางส่วนไรต์อ้างอิงมาจากเรื่องจริงแต่ส่วนใหญ่เกิดจากจินตนาการอาจมีบางตอนที่ไม่สมเหตุสมผล เนื้อหาค่อนไปทางอีสานนะคะ ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านค่ะ

ใครที่ชอบแนวนี้รอติดตามกันได้เลยนะคะว่าเธอจะไปใช้ชีวิตอยู่ในยุคนั้นให้รอดพ้นได้อย่างไร

ถ้าชอบถ้าใช่อย่าลืมกดหัวใจกดติดตามให้ไรต์ด้วยนะค้า

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
ตอนที่ 1 ทะลุมิติ
แสงตะวันของวันใหม่เพิ่งจะโผล่พ้นก้อนเมฆออกมาในตอนสายจัด หลังจากฟ้าครึ้มฝนพรำลงมาติดต่อกันจนฟ้าปิดมาหลายวันเหตุเพราะเป็นช่วงพายุฝนฤดูร้อนกำลังเข้ามาเยือน หญิงร่างอ้วนท้วนจนเกินคำว่าสมบูรณ์ที่นอนนิ่งมานานเกือบสัปดาห์ อยู่ทางฝั่งตะวันตกของเรือนย้าวหรือจะเรียกว่ากระต๊อบก็ไม่ผิด ปลายนิ้วอ้วนป้อมเริ่มขยับ เปลือกตาค่อย ๆ กะพริบถี่แล้วเปิดกว้างขึ้น ดวงตากลมกลอกมองไปรอบทิศ กลิ่นอายฝนหอมกรุ่นโชยเข้าจมูก แต่กระนั้นเธอก็ยังหายใจลำบากเพราะคนอ้วนนอนราบกับพื้น ดวงตาดำขลับเบิกกว้างมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อเห็นสภาพห้องที่ตัวเองกำลังนอนอยู่ หลังคามุงด้วยหญ้าคาที่สานเป็นตับผนังบ้านกรุด้วยใบตองพลวงสานขัดกับไม้ไผ่ ขณะที่ใจกำลังเต้นโครมครามมือก็ลูบคลำพื้นห้องที่เจ้าตัวนอนไปพลาง ๆ ใต้ร่างของเธอน่าจะเป็นเสื่อ เมื่อมือสัมผัสกับพื้นไม้ไผ่ที่ใช้เป็นพื้นบ้าน สายตาจึงหลุบมองต่ำตามมือ ตรงที่เธอนอนเป็นเสื่อที่ทอด้วยกกผืนเก่าคร่ำคร่า ห้องที่เธอนอนอยู่คงเป็นห้องที่ใช้ทำครัวด้วย มันมีเหมือนชานยื่นออกไปเล็กน้อยมีหวดที่ใช้สำหรับนึ่งข้าวกับหม้อที่ใช้ทำแกงอีกหลายใบ หม้อที่ว่าทั้งสามใบเป็นหม้อดินทั้งหมด หัวใจเต้นแรงตุบ ๆ ทั้งตื่นเต้นระคนหวาดกลัว เมื่อเธอรู้ว่าตนไม่ได้อยู่ในบ้านหลังใหญ่โตที่กรุงเทพฯ หรือไม่ก็โรงพยายาลที่เธอเรียนอยู่ปีสุดท้ายที่ควรจะเป็น แล้วเธออยู่ที่ไหนเธอจำได้ว่ากำลังเดินเข้าไปดูเขาแข่งวอลเลย์บอลซึ่งเป็นกีฬาระหว่างมหาวิทยาลัย พอเดินเข้าไปถึงขอบสนามแล้วจู่ ๆ ลูกวอลเลย์บอลจากทีมฝั่งตรงข้ามก็ลอยลิ่วเข้ามากระแทกกับศีรษะของเธอด้วยความเร็วและแรงจนเธอสลบ ใช่ เธอสลบไป แล้ว?… ไม่สิ ถ้าแค่สลบเธอจะมานอนอยู่ที่นี่ได้อย่างไร บัวชมพูยกแขนทั้งสองข้างของตนขึ้นแล้วก็ต้องตะลึงกับความดำและใหญ่ของมันข้อพับตรงท้องแขนมีริ้วของขี้ไคลอยู่ด้วย ไหนจะนิ้วมืออวบอ้วนและเล็บที่ดำมีแต่ดินนั่นอีก มือสองข้างลูบคลำร่างตัวเอง แล้วค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่ง โอ้ว! พุงใหญ่ที่มีเกินหน้าเกินตาแถมยังหน้าอกที่ใหญ่โตราวกับแตงโมจินตรา ต้นขาที่ใหญ่เกินแม่หมูตอนและสะโพกที่ใหญ่เกินกว่าคำว่าผาย น่าจะใช้คำว่าก้นบานมากกว่าถึงจะถูก น้ำหนักของแม่หญิงผู้นี้น่าจะไม่ต่ำกว่าเก้าสิบกิโลกรัม ให้ตายเถอะ! แล้วจะลดอย่างไรไหว เดี๋ยวก่อนเธอต้องตั้งสติก่อน บัวชมพูหายใจเข้าลึกกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ เธอต้องการกระจก ไม่อยากเชื่อเลยจากว่าที่แพทย์หญิงผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกรูปร่างบอบบางอรชรอ้อนแอ้นจะกลายมาเป็นยายช้างน้ำไปได้ บัวชมพูนั่งนิ่งสักพักแววตาเหม่อลอยหวนนึกถึงความทรงจำในร่างเดิม แล้วทุกอย่างก็เด่นชัดขึ้น อา! เธอมาอยู่ในร่างของหญิงอ้วนที่มีลูกอีกสองคนซ้ำสามีและลูก ๆ ยังรังเกียจ ร้ายกว่านั้นก่อนเธอจะหมดสติไปไม่กี่วัน สามีของเธอยังขาหักทั้งสองข้างเดินไม่ได้และเธอก็เป็นต้นเหตุให้เขาต้องขาหัก มันยิ่งตอกย้ำให้เขาเกลียดเจ้าของร่างนี้มากขึ้น โอย! ช่างโชคร้ายอะไรขนาดนี้ ถ้าเทวดาจะเล่นตลกทำไมไม่ให้ไปอยู่ในร่างของหญิงงามบ้างหรือไม่ก็ให้ไปอยู่เมืองจีนหรือเกาหลีอะไรทำนองนั้นไม่งั้นก็ประเทศทางฝั่งตะวันตกก็ได้ทำไมต้องเป็น เอ่อ…เป็นที่ไหนล่ะ ที่นี่คือที่ไหน บัวชมพูหันมองซ้ายขวา ก้มหน้ามองตรงฝาผนังที่เปิดรับลมทำให้เธอมองเห็นทุ่งกว้างที่เต็มไปด้วยหญ้าและต้นไม้น้อยใหญ่ มันเหมือนจะเป็นเขตนอกเมืองเอามาก ๆ บัวชมพูได้แต่ตัดพ้อในใจ ไม่นานก็นึกขึ้นได้ มันคือหมู่บ้านโนนหนองจานในปีพุทธศักราช 2495 เธอกำลังจะหยัดกายใหญ่ของตัวเองลุกขึ้นก็รู้สึกปวดไปทั่วร่างและลามไปยังศีรษะ ความจำเดิมบอกว่าเธอลื่นเปลือกกล้วยล้มหัวกระแทกพื้นเพราะลูกทั้งสองแอบกินกล้วยสุกที่มีอยู่เพียงสามลูกจนหมดเกลี้ยง เจ้าของร่างเดิมวิ่งเอาแส้ไล่ตีจนเจ้าตัวล้มหัวแตกสลบไปแล้วบัวชมพูก็เข้ามาอยู่ในร่างนี้แทน “โอ้ย! ปวดหัว” หญิงอ้วนเอ่ยขึ้นเสียงแหบแห้งรู้สึกลำคอแห้งผาก แต่ก็ทำให้ลูกอีกสองคนและสามีของนางที่อยู่เรือนทางฝั่งตะวันออกได้ยิน “ท่านพ่อเสียงเหมือนยายอ้วนฟื้นขึ้นมาแล้วขอครับ” ลูกชายคนโตที่อยู่ในวัยเก้าขวบพูดขึ้นและทำหน้าตาตื่น เขยิบกายอันสั่นเทาเข้ามานั่งใกล้พ่อ น้องสาววัยเจ็ดขวบก็ทำเช่นกัน “ฟื้นได้อย่างไรกัน” ผู้เป็นพ่อที่นั่งเอนกายเหยียดขาทั้งสองข้างที่เข้าเฝือกด้วยไม้ไผ่พิงอยู่กับเสาเรือนพูดขึ้นด้วยแววตาฉงน นางสลบไปเป็นอาทิตย์อยู่ดี ๆ จะฟื้นขึ้นมาได้อย่างไร เขาเตรียมจะให้ลูก ๆ ไปบอกญาติพี่น้องเพื่อเตรียมนำศพนางไปฝังแล้วเอาดินกลบหน้าเสียแล้ว

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

ชะตารักพยัคร้าย

read
2.1K
bc

1969 ซินซินไม่ใช่ดาวหายนะ

read
1.6K
bc

เมื่อฉันหลงรักตัวร้ายในนิยายสยองขวัญ

read
1K
bc

ขอโทษที...ชาตินี้ผมเกิดมาเป็นไอดอล

read
1K
bc

สร้างเนื้อสร้างตัวในยุคจีนโบราณ

read
14.9K
bc

เมื่อฉันทะลุมิติไปอยู่ในโลกของสัตว์

read
1K
bc

ชีวิตที่สองของเทพโอสถสาวผู้ทรนง

read
1.2K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook