บทที่ 10 พ่อของหนู

1114 คำ
นานแล้วที่ยังนั่งมองอยู่อย่างนี้ พาวินท์ในชุดคลุมอาบน้ำสีขาวสะอาดสะอ้าน เขาพาปานวาดกลับมานอนที่คอนโดมิเนียมสุดหรูของตน “ทำไมดื้อแบบนี้...” ชายหนุ่มพึมพำออกมา เขาให้ไรอัลรอลูกสาวของตนที่อะพาร์ตเม้นต์ของปานวาด ใจก็เป็นห่วงไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่อย่างไร จะถามคนเป็นแม่ก็ไม่อยากปลุก ซึ่งหน้าจอโทรศัพท์ของเธอที่โชว์ข้อความของบุตรสาวก็พลอยทำให้เขาคลายกังวลลงไปบ้าง [หนูนอนบ้านเพื่อนนะ] ชายหนุ่มถือวิสาสะเปิดโทรศัพท์เส็งเคร็งของเธอ ซึ่งเจ้าตัวก็ใช้รหัสผ่านเป็นวันเกิดของเธอเอง มันง่ายแสนง่ายเพราะเขาจำได้ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอ พาวินท์กดโทรศัพท์โทรหาลูกสาวแต่อีกฝ่ายก็ไม่รับสาย แม้นจะบอกว่าอยู่กับเพื่อนแต่เขาก็อดเป็นห่วงไม่ได้อยู่ดี เพื่อนที่ลูกสาวว่านั้น...ให้เดาก็คงเป็นไอ้หนุ่มน้อยคนนั้น...หมัดหนักใช้ได้ หากได้เจอจะต่อยคืนให้ได้ ...พาวินท์ลุกขึ้นจากโซฟาเดี่ยวเดินไปหาร่างบางที่นอนสลบอยู่บนที่นอน จะต่อว่าเขาฉวยโอกาสก็ได้ แต่ว่ารอยเขียวตามตัวของเธอทำให้เขาอยากดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอบ้าง หน้าผากมนเล็กนั้นมีเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่ชายหนุ่มจะเกลี่ยปอยผมออกจากกรอบใบหน้าเล็กของเธอ แม้นว่าจะมีใบหน้านิ่งเรียบ แต่สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเป็นห่วง พาวินท์ค่อย ๆ ถอดชุดยูนิฟอร์มแม่บ้านของเธอออก ป้ายตัวเบ้อเร่อที่ติดอยู่ที่เสื้อทำให้เขารู้ว่าเธอรับงานทำความสะอาดด้วย “คงลำบากน่าดู...” เขาปลดกระดุมเสื้อของเธอออกจนหมด มองดูร่องรอยเขียวเป็นจ้ำเลือดและรอยข่วนที่ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร แต่มันทำให้เขารู้สึกสงสารเธอมาก ปลายนิ้วมือไล้สัมผัสเบา ๆ ตามร่องรอยแผลเป็นนั้น เธอคงใช้ชีวิตบากบั่น ร่างกายก็ซูบผอมราวกับคนไม่มีอะไรจะกิน ...พาวินท์เดินไปหยิบเอากล่องพยาบาลออกมาจากห้องครัว ซึ่งมีติดอยู่ในคอนโดมิเนียมที่เขาคิดไว้ว่าจะซื้อให้กับดาราสาวคนนั้น แต่พอรู้เรื่องของปานวาดความคิดทุกอย่างก็หยุดชะงักไปจนหมดสิ้น หากว่าเขารู้เร็วกว่านี้ก็คงดี หากว่าพี่ชายฝาแฝดอย่างพาทิศไม่หายไปชายหนุ่มก็ไม่คิดกลับประเทศไทย หากเป็นเช่นนั้น...ผู้หญิงคนนี้คงลำบากมากกว่านี้เป็นแน่แท้ พาวินท์ทายาบรรเทาอาการฟกช้ำตามตัวของเธอ เรือนร่างของเธอยังคงทำให้เขาใจสั่นแม้นว่ามันไม่ได้สวยงามเหมือนกับนางแบบดาราที่ดูแลตัวเองอย่างดี แต่มันเป็นความรู้สึกดึงดูดจากใต้จิตสำนึกของเขาที่มีต่อเธอ ชายหนุ่มจับฝ่ามือของเธอขึ้นมามองรอยลอก รอยตะปุ่มตะป่ำตามฝ่ามือคงเป็นรอยด้าน ฝ่ามือของเธอสากกว่ามือของเขาเสียอีก เขาลูบเบา ๆ อย่างอ่อนโยน “เก่งจังนะ...ตัวแค่นี้” ชายหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปาก เขาเงยหน้าขึ้นมองเพดานเพื่อไม่ให้น้ำตาไหลออกมา ยังคงจำวันที่เธอบอกเลิกเขาอย่างไร้เยื่อใยนั้นได้ ถามก็ไม่บอกเหตุผล พูดแค่ว่าเขารู้อยู่แล้ว มันเหมือนกับเป็นความเจ็บปวดที่ไม่อาจลืมเลือน เสียใจตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ แม้นจะมีผู้หญิงมากมายเข้าหาแต่เขาก็ไม่เคยลืมเธอ พาวินท์ถอดเสื้อผ้าของเธอออกจนหมดไม่เว้นแม้แต่ซับใน เขาอยากให้เธอนอนหลับสบาย ก่อนจะห่มผ้านวมหนานุ่มหลังจากทายาให้เธอเสร็จสรรพ ชายหนุ่มกลับไปนั่งที่โซฟาเดี่ยวดังเดิม เขามองใบหน้าของเจ้าหล่อนไม่ละสายตาพลางรินไวน์ไปด้วย ปานวาดยังคงมีหน้าตาเคล้าเดิมเหมือนกับวันที่เขาตกหลุมรักเธอเมื่อสิบหกปีที่แล้ว ...เพียงแค่ห้าวินาทีเท่านั้นที่เขาตกหลุมรักเธอ “เราเก็บที่คั่นหนังสือของเธอได้...” เขาเจอเธอที่ร้านเช่าหนังสือการ์ตูน พาวินท์ในวัยสิบห้าขวบยื่นที่คั่นหนังสือให้กับเด็กสาวร่างเล็ก “ของเราเหรอ...ไม่ใช่นี่” “หึ แค่ข้ออ้างน่ะ” เด็กหนุ่มหัวเราะเบา ๆ เป็นแค่ข้ออ้างที่เขาใช้เข้ามาทักเธอ เพราะจริง ๆ แล้วเขาไม่ได้เก็บที่คันหนังสือได้ เพียงแต่มองเห็นเธอแล้วเกิดอาการอยากทำความรู้จักเลยหยิบเอาที่คั่นหนังสือแถวนั้นมาเป็นข้ออ้าง “เธอน่ารักจัง” เด็กสาวตาโตขึ้นทันที เธอมองใบหน้าหล่อเหลาของเขา ไม่คิดว่าเขาจะพูดคำนี้ออกมา แล้วดูการแต่งกายของเขาสิ...ผู้ดีมาก “บะ บ้า อยู่ ๆ มาชมกันแบบนี้” “ไม่ได้บ้าหรอก แต่ถ้าเธอคิดงั้นเราจะเป็นคนบ้าให้เอง” พาวินท์ว่าพร้อมกับอมยิ้ม “เราพาวินท์นะ” “_” “เธอล่ะ...ชื่ออะไรเหรอ” “ไม่บอกหรอก” เด็กสาวมีท่าทีเหนียมอายให้กับสายตาคมของเขา “หึ ไม่บอกหน่อยเหรอ แต่ป้ายชื่อบนเสื้อของเธอ...ปานวาดเหรอ” “อ้าว! นายเห็นงั้นเหรอ!! แล้วมาแกล้งถามเนี่ยนะ!” ปานวาดเม้มริมฝีปากพร้อมกับมองเขาตาขวาง ขณะที่อีกฝ่ายยิ่งมองก็ยิ่งตกหลุมรัก “เราเปล่าแกล้งถามนะ แค่อยากคุยด้วยน่ะ” “ชิ๊!...” เด็กสาวยกแขนขึ้นกอดอก ก่อนที่เธอเชิดหน้าขึ้นด้วยท่าทีหยิ่ง ๆ “มีเบอร์ไหม เราขอหน่อย” “ไม่มี พ่อไม่ให้ใช้โทรศัพท์” เธอตอบอย่างไม่ใส่ใจ แม้นว่าอีกฝ่ายจะทำสายตาละห้อยด้วยความเสียดาย “จริงเหรอ เธอไม่โกหกเราแน่นะ” “ไม่มีจริง ๆ อย่าเซ้าซี้หน่า” พาวินท์กระตุกยิ้ม ปกติแล้วสาว ๆ ต้องกรี๊ดเขา แต่ผู้หญิงตัวเล็กคนนี้กลับเมินเฉยแถมยังต่อว่าเขาเซ้าซี้อีกต่างหาก ตกหลุมรักหน้าตาจิ้มลิ้มแล้วยังจะต้องมาตกหลุมรักท่าทีหยิ่ง ๆ นี้อีก ให้ตายสิ...หัวใจของเขาล่องลอยไปหาเธอแล้วสิ “แล้วเธอมาที่นี่บ่อยหรือเปล่า” “ก็...หลังเลิกเรียน” ปานวาดหลุดปากบอกกับเขา คนอะไรไม่รู้หล่อเป็นบ้า หญิงสาวเม้มริมฝีปากเมื่อไม่สามารถหยุดยิ้มให้กับใบหน้าของเขาได้...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม