...แข็งขาอ่อนแรง ก้าวเดินแทบไม่ไหว เจ็บหน่วงไปทั้งใจ ปวดหนึบราวกับจะให้กันตายไปข้าง คำพูดของเขามันทำให้กำลังใจของเธอที่มีถดถอยแทบไม่เหลือ กรีดลงลึกกลางใจเจ็บปวดยากจะลืมเลือน
เขาไม่เคยรู้หรืออย่างไรว่าเธอทรมานมากแค่ไหนกับช่วงเวลายากลำบากที่ผ่านมา ทำไมยังตอกย้ำความเสียใจของเธอ
“ฮึก ฮืออ~” ปานวาดทิ้งตัวลงนั่งร้องไห้กับพื้นหลังจากลงมายังชั้นล่างสำหรับพนักงานโรงงานอย่างเธอ น้อยใจโชคชะตาจนไม่รู้จะเอื้อนเอ่ยอะไรออกมาอีกแล้ว มันเป็นความผิดของเธอที่ไม่เชื่อคำสั่งสอนของพ่อ แต่พ่อของเธอก็เข้มงวดมากเกินไป หาความพอดีจากผู้เป็นพ่อไม่ได้เลยสักนิด
...นกน้อยในกรงทองรอวันออกจากกรงมาโดยตลอด พอได้เจอผู้ชายชื่อพาวินท์ หญิงสาวถึงรู้ว่าอิสระเป็นอย่างไร ทว่าความคึกคะนองและอยากเอาชนะคนเป็นพ่อทำให้เธอพลาดพลั้งตั้งครรภ์ รู้ตัวว่าท้องก็หลังจากที่ได้บอกเลิกเขาไปแล้ว จะให้แบกหน้าไปร้องขอค่าเลี้ยงดูจากเขาหรือ เธอไม่อยากยุ่งกับผู้ชายเจ้าชู้อย่างเขาให้เจ็บช้ำอีกแล้ว...
มันเป็นเพียงแค่คำหลอกลวง เขาบอกจะรักแค่เธอคนเดียว แต่ความจริงแล้ว...มันไม่ได้เป็นอย่างนั้น
“ปาน...” ปานวาดเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนชายที่เดินมานั่งยอง ๆ ตรงหน้าของเธอ เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มีคำถามพร้อมกับความสงสัยจากเพื่อนในโรงงานกันทุกคน ปานวาดรู้จักกับท่านประธานอย่างนั้นหรือ
“ฮึก...ฮืออ~ ทำไงดีแมน เราเสียใจมากเลย” ริมฝีปากรูปกระจับสั่นระริก พอเป็นเขาที่มองเธอด้วยแววตาดูถูกดูแคลนแบบนี้มันยิ่งเสียใจ หากเป็นคนอื่นเธอคงเมินเฉยได้ แต่พอเป็นเขา...มันกลับเจ็บปวดจนเข้ากระดูกเลยก็ว่าได้
“ไม่เป็นไรนะปาน...เธอบอกเองไม่ใช่เหรอว่านี่แหละรสชาติของชีวิต ดื่มน้ำเยอะ ๆ ชำระความขมแล้วก็ค่อยหาอะไรหวาน ๆ กินเหมือนที่เธอชอบบอกเราไง...”
“หึ...ฮึก ฮืออ~” ปานวาดหัวเราะทั้งน้ำตา เข้มแข็งมาโดยตลอด พยายามเข้มแข็งมาโดยตลอดแต่กลับมาตายน้ำตื้นเพราะผู้ชายคนเดิมซ้ำ ๆ ผู้ชายที่ชื่อพาวินท์...
ขณะเดียวกันบนห้องของผู้จัดการโรงงาน พาวินท์ยังคงยืนแข็งทื่ออยู่เช่นเดิม ทั้งเสียใจและรู้สึกสับสน ไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกอย่างไรดี เธอบอกว่าเขาสะใจอย่างนั้นหรือ...แต่พอเห็นใบหน้าของเธอ ความโกรธแค้นที่เธอบอกเลิกเขาอย่างไร้เหตุผลก็หายไปเป็นปลิดทิ้ง มันไม่เหลือเลยสักนิด
“ไอ้วินท์เอ๊ย ไอ้ฉิบหายเอ๊ย...” เขาบ่นพึมพำกับตัวเอง เป็นจังหวะพอดีที่เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของเลขาฯอย่างไรอัลและผู้จัดการโรงงาน
ตุบ!
“บอสครับ ผมขอโทษ อย่าไล่ผมออกเลยนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจคิดอย่างนั้นเลยจริง ๆ แต่ว่าไม่รู้ว่าจะพูดยังไง อึก...” พาวินท์มองผู้จัดการโรงงานด้วยสายตานิ่งเรียบ เขาไม่พอใจที่อีกฝ่ายต่อว่าปานวาดของเขาว่าไม่มีการศึกษา ซึ่งจริง ๆ แล้วปานวาดไม่ใช่คนเรียนไม่เก่ง แต่เป็นเพราะเขาเองที่ทำให้เธอนอกลู่นอกทางและทำเธอท้องเพราะความเห็นแก่ตัวเอง
“ผมไม่คิดว่าท่านประธานคนก่อนจะรับคนที่มีทัศนคติแบบคุณเข้ามาทำงานได้ คนไม่ได้เรียนหนังสือมีหลายปัจจัย อย่าเหมารวมว่าทุกคนอยากไร้การศึกษา”
“อึก ผม...ผมขอโทษครับ”
“ไปขอโทษสองคนนั้น ไม่ใช่ผม”
“ดะ ได้ครับ บอสอย่าไล่ผมออกเลย” ผู้จัดการขยับตัวเข้ากอดขาร้องขออ้อนวอนคนเป็นนาย อายุปูนนี้แล้วกว่าจะได้เป็นผู้จัดการโรงงานนั้นเขาต้องสู้มากแค่ไหน ไม่คิดว่าจะมาถึงวันนี้
“เอาเป็นว่าผมไม่ไล่คุณออก แต่...ช่วยเล่าเรื่องของปานวาดให้ผมฟังที ตั้งแต่วันที่เธอมาทำงานที่นี่” พาวินท์ไม่ได้สนใจงานของตนแม้แต่น้อย เขาหย่อนสะโพกลงนั่งบนโซฟา ทว่า
“บอสครับ แล้วงานล่ะครับ...”
“บอกยกเลิกไป เดี๋ยวให้พี่คินณ์มาดูงานแทน” ไรอัลอ้าปากค้างเล็กน้อย ก่อนจะโดนสายตาดุ ๆ จากคนเป็นนายทำให้เขาพยักหน้ารับในที่สุด
“เอ่อ...ปานวาดเหรอครับ เธอมาทำงานตั้งแต่ผมยังเป็นหัวหน้าวิศวะฯเครื่องกลอยู่เลยครับ” ผู้จัดการคลานเข่าเข้าใกล้ พร้อมกับบีบนวดต้นขาของคนเป็นนายแม้นว่าเขาจะไม่ได้สั่งให้ทำ
“นานแล้วเหรอ...”
“ตอนนั้นก็...สิบกว่าปีแล้วล่ะครับ” พาวินท์ข่มเปลือกตาปิดลง สิบกว่าปีที่แล้วเธอคงอายุสิบแปดสิบเก้าปีเพียงเท่านั้น วัยแค่นั้นเธอต้องทำงานในโรงงานแล้วหรือ
“แล้วเธอได้เงิน...เท่าไร”
“หืม...ก็วันละสองร้อยห้าสิบ”
“ห้ะ...”
“ตามวุฒิการศึกษาครับ” พาวินท์เม้มริมฝีปาก ในหนึ่งวันเขาใช้เงินไปเฉียดแสนบาทต่อวัน แต่เธอกลับเลี้ยงลูกด้วยเงินสองร้อยห้าสิบบาทต่อวันอย่างนั้นหรือ
“ขึ้นเงินให้เธอ”
“ห้ะ...”
“เธอเป็นเมียฉัน”
“อะ...อะไรนะครับ”
“หมายถึงเคยเป็นน่ะ” ผู้จัดการโรงงานตกใจจนดวงตาแทบถลนออกมา ไม่คิดว่าปานวาดจะเคยเป็นภรรยาของท่านประธาน หลังจากนี้ต้องทำดีกับเธอเสียแล้ว ก่อนที่เจ้าตัวจะเบิกตาขึ้นอีกครั้งเมื่อคิดอะไรบางอย่างออก
“อย่าบอกนะว่าลูกของเธอ...” เขาอ้าปากพะงาบ ๆ ด้วยความตกใจ แต่พอตั้งสติได้ก็อยากจะอธิบายให้คนเป็นนายได้เข้าใจ “คือว่าผมรู้ว่าบอสเข้าใจเรื่องเงินเดือนดีนะครับ โรงงานที่นี่มีพนักงานกว่าสามพันคน...เราให้เงินตามวุฒิการศึกษา ถ้าจำไม่ผิดปานวาดจบม.สาม ขืนให้เยอะกว่านี้วุฒิอื่น ๆ ก็คงไม่พอใจ”
“เดี๋ยวนะ...ใครเป็นคนดูแลเรื่องนี้”
“ฝ่ายการเงินครับ” คิ้วหนาขมวดมุ่น สองร้อยห้าสิบบาทมันน้อยเกินไป ชายหนุ่มรู้สึกแปลก ๆ กับสิ่งที่ได้ยิน อาจจะเป็นเพราะว่าเขาอาศัยอยู่ต่างประเทศมาโดยตลอดทำให้ไม่รู้ว่าการบริการเรื่องการจ่ายเงินให้พนักงานนั้นเป็นไปอย่างไร
“เอ่อ...พอพูดเรื่องนี้ผมก็อยากพูดอยู่เหมือนกันครับ มันกดขี่เกินไป คงเป็นเพราะมีโรงงานรับวุฒิม.3 น้อยมาก พวกเขาเลยไม่มีทางเลือก แล้วบ.เราก็ไม่ขึ้นเงินตามรัฐบาลด้วย”
“ห้ะ...ไม่จริง” พาวินท์ส่ายหน้าเบา ๆ ถ้าไม่ขึ้นเงินตามที่รัฐบาลกำหนดแล้วจะผ่านประเมินจากกระทรวงแรงงานได้อย่างไร หรือว่า
พรึ่บ!
“ไว้ผมจะกลับมา...เอาแฟ้มประวัติปานวาดมาให้ผมด้วย” พาวินท์ลุกพรวดขึ้น เขาคิดว่ากำลังมีคนทุจริตเงินในบริษัทอย่างไม่ต้องสงสัย มีหลายอย่างที่เขาต้องศึกษาจากการทำงานที่นี่ แต่เรื่องของปานวาดก็กวนใจเขาไม่ใช่น้อย สงสัยเรื่องนี้คงหนีไม่พ้นขอความช่วยเหลือจากพี่ชายของเขาอย่างพาคินณ์...