-Differ bar-
“เอ้าโชน~”
“วู้ว~” เสียงโต๊ะเราที่มีฉัน ไอซ์ ไอ้เฟิร์ส แล้วก็ไอ้แหมงดังขึ้นท่ามกลางเสียงดนตรีเร้าใจที่สนุกมาก
มากับเพื่อนแล้วมันสนุกตลอดนั่นแหละ
ยิ่งมีไอ้เฟิร์สกับไอ้แหมงก็ยิ่งสนุกเพราะมันม่อสาวทุกห้านาที สนุกกับการเชียร์ให้พวกมันไปขอเบอร์เขาแล้วก็แห้วกลับมา ฮ่า ๆๆ
“ไม่สนใครบ้างเหรอคะพี่ไอซ์ขา”
“หึ! ไม่ว่ะ ไม่ชอบหาข้างใน ขี้เกียจลุ้นตอนล้างหน้า”
“ฮ่า ๆๆ ไอ้บ้า พูดซะนึกภาพออกเลย”
“ก็มันจริง เคยมาแล้ว”
“แล้วเป็นไง” ฉันเอาไหล่สีไหล่ไอซ์เพราะเขาทำหน้าสยอง อาการอย่างรู้อยากเห็นกำเริบ ยิ่งเป็นผู้ชายเม้าท์นี่ยิ่งสนุกนะคะจะบอกให้
“ก็...” ไอซ์พูดแค่นั้นแล้วยกมือขึ้นมาพลิกมือจากหน้ามือเป็นหลังมือ
“อ่อ ก็ดีที่ไม่ใช่หน้ามือเป็นหลังตีนแล้วกันน่า” ฉันปลอบใจเพื่อนเบา ๆ
“เปล่า กูขี้เกียจยกตีน”
“ฮ่า ๆๆ ไอ้บ้า!”
“เฮียไปไหนวะ” ไอ้ไอซ์มองไปรอบ ๆ แล้วก็ถามหาคนที่พิงค์คนนี้ทั้งอยากเจอและไม่อยากเจอในเวลาเดียวกัน
“ไม่รู้”
“ตามให้หน่อยสิ”
“ตามเองสิ”
“ไม่เอา เธอสนิทกับเฮียมากกว่าฉัน ตามให้หน่อยจะเรียกเฮียลงมาเลี้ยงเหล้า”
“บ้านนายก็รวยนะไอซ์จะหาเจ้ามือทำไม”
“พูดอย่างกับตัวเองไม่ชอบของฟรีเลยว่ะพิงค์”
“ก็ใช่ไง” ที่จริงก็ชอบแต่มาดื่มที่นี่แล้วยังให้เจ้าของผับเลี้ยงอีกเขาก็เจ๊งสิวะ ถึงพยายามตัดใจแต่ไม่อยากตัดทุนตัดกำไรเขานะเว้ย
“ใช่ห่าอะไรก่อนเข้ามายังบอกให้กูเลี้ยงอยู่เลย”
“เสือกไหมไอ้เฟิร์ส”
“ไม่ได้เสือกกูแค่สาระแน~”
เพี้ยะ!
“กวนตีน ไปขอเบอร์ผู้หญิงต่อเลยไป ชิ่ว ๆ” ฉันไล่พร้อมกับดันไหล่มันให้เดินไปให้พ้น ๆ แล้วก็หันกลับมาคุยกับไอซ์ต่อ
“ไปตามเฮียให้หน่อยสิวะ”
“นายจะให้เฮียเลี้ยงเหล้าจริงดิ”
“เปล่า มีเรื่องจะคุยกับเฮียต่างหาก”
“ก็ขึ้นไปเข้าห้องน้ำแล้วแวะคุยสิ”
“ไม่เอา ไป ๆ ไปตามเฮียลงมาให้หน่อย เดี๋ยวเลี้ยงเหล้าเป็นค่าจ้าง”
“...แน่นะ?” ฉันสนใจเรื่องเหล้าฟรีหรอกนะ ไม่ได้จะไปเพราะอยากเจอหน้าใคร ห้ามคิดแบบนั้นเด็ดขาดนะคะคุณขา
“อืม ไปตามให้หน่อย เร็ว ๆ”
“เค๊~” ฉันตกลงแล้วเดินจากโต๊ะไปด้านหลังร้านก่อนจะขึ้นไปที่ชั้นสองของตัวร้าน ก่อนเข้าไปหาก็แวะห้องน้ำก่อน เมื่อกี้เหมือนลิปสติกจะเลอะแก้ว ไม่รู้ว่าปากเลอะด้วยรึเปล่า
นี่พิงค์ไม่ได้จะเติมปากไปให้ใครดูนะคะ แต่คนสวยมันก็ต้องเป๊ะตลอดเวลาป้ะวะ เจตนาพิงค์ก็มีแค่นี้แหละไม่มีอะไรแอบแฝงหรอก
ก๊อก ๆๆ
เคาะไปงั้นแหละเคาะยังไงถ้าไม่เปิดเข้าไปเองคนในห้องก็ไม่เปิดให้หรอก
แอด~
“เฮีย~” ฉันแง้มประตูโผล่หน้าเข้าไปทักทายเฮียฟลุ๊คด้วยความรื่นเริง จะได้ไม่คิดว่าหมวยมานั่งดื่มเพราะอกหักไง
ฉันแฮปปี้ค่ะไอ้ตาถั่ว ดูไว้ซะให้เต็มตา!
ฉันมองข้างในให้ชัดก็เห็นผู้ชายสองคนอยู่ข้างใน
“พี่...”
คนหนึ่งเป็นเจ้าของร้านที่คุ้นหน้า คุ้นมากจนจำได้แม้กระทั่งรูขุมขน ส่วนอีกคนเป็นผู้ชายที่ถึงไม่ได้คุ้นขนาดนั้นแต่ความหล่อของเขาก็ทำให้ฉันจำได้ทันที
“พิงค์?” พี่เขาเรียกชื่อฉันด้วยท่าทางเหมือนจะงง ๆ ที่ได้เจอกัน
“พี่...พี่เช้นต์!” จำได้แล้วค่ะ วันนั้นลืมชื่อแต่ความหล่อนี่จำไม่ลืมพอได้เห็นหน้าอีกครั้งก็จำได้เลยว่าชื่ออะไร
“รู้จักกัน?”
“เออ เจอกันที่ผับมึงอาทิตย์ก่อน”
“เหรอวะ”
“วันนั้นที่มึงไม่มา”
“วันที่เฮียไม่สบายไง” แล้วพิงค์ก็ไปนอนบ้านเฮีย อยากพูดต่อแต่ไม่ดีกว่ามีคนอื่นอยู่ด้วยเดี๋ยวมันไม่ดี
“ใช่ วันนั้นมึงไม่มา กูนั่งคุยกับน้องเขาทั้งคืน เชิญครับเข้ามาก่อนสิ” เออลืมเข้าไปในห้องเลย
“ยินดีที่ได้เจอกันอีกครั้งนะคะพี่เซ้นต์”
“ครับ พี่ก็ยินดีเหมือนกัน” พี่เซ้นต์พูดแล้วก็ชวนฉันนั่งคุย คนหล่อชวนขนาดนี้พิงค์จะปฏิเสธได้ยังไงจริงไหมคะ
“แล้วมาหาเฮียมีอะไร มาคนเดียวเหรอหรือว่ามากับใคร”
“มากับไอ้ไอซ์ ไอ้เฟิร์ส ไอ้แหมง พอดีไอ้ไอซ์มันอยากชนกับเฮียเลยให้พิงค์ขึ้นมาตาม” บอกว่าอยากคุยด้วยเดี๋ยวน่าเกลียด อยากคุยแต่เรียกให้ลงไปหาคงไม่ดีแน่บอกแค่อยากชนดีกว่า
“ไอ้ไอซ์อยากชนกับเฮีย?”
“อื้อ สงสัยมันเบื่อนั่งกับพิงค์สองคนมั้ง ไอ้เฟิร์สไอ้แหมงมันไปจีบหญิง”
“หึ ๆๆ เฮียว่าไม่ใช่หรอก มันไม่ได้อยากชนกับเฮียหรอกแต่มันจงใจไล่เราขึ้นมาแล้วมันจะได้ไปหาสาว ๆ มากกว่า”
“ฮะ?”
“ไม่เชื่อก็ไปส่องดูข้างล่างเลย เฮียว่ามันไม่อยู่ที่โต๊ะแล้วชัวร์” เฮียฟลุ๊คพูดด้วยรอยยิ้มมั่นใจฉันก็รีบเดินไปที่กระจกที่มองเห็นข้างล่างได้ทันที
“...ไอ้ไอซ์!”
มันเป็นแผนหลอกฉันขึ้นมาอย่างที่เฮียฟลุ๊คบอกจริง ๆ สินะ เพราะนอกจากมันจะไม่อยู่ที่โต๊ะฉันยังเห็นมันกำลังยืนให้ชะนีน้อยเต้นสีตัวมันอยู่ที่คนละฟากของโต๊ะเลย!
ไหนบอกไม่ชอบหาข้างไหนวะ! หลอกกูขึ้นมาขอให้คืนได้คนที่สวยไม่สร่างสว่างไม่สวยทีเถอะมึง!
“หึ ๆๆ เอาน่าปล่อยให้มันสนุกไปเถอะ เรามานั่งกับเฮียนี่มา”
“...” ฉันหันไปทำหน้าเซ็งใส่เฮียฟลุ๊คแต่ก็ยอมเดินไปนั่งกับเฮียแกโดยดี
“กูไม่เคยรู้ว่ามึงมีน้องสาว” พอฉันนั่งลงพี่เซ้นต์ก็เอ่ยขึ้นมาทันที
“น้องสาว?” เฮียฟลุ๊คเลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้นมาด้วยความไม่เข้าใจ
“อืม ก็วันนั้นน้องพิงค์บอกว่าเป็นน้องมึง”
“...” ได้ยินคำว่าน้องแล้วเจ็บ แต่เจ็บยังไงก็ต้องทนให้ไหวเพราะอีพิงค์พูดเอง
“อ่อ รุ่นพี่รุ่นน้องไม่ใช่ญาติ แต่รักกันเหมือนพี่น้องนั่นแหละจริงไหมหมวย”
จึก!
จึก! จึก ๆๆๆๆๆ
เข็มประมาณพันเล่มทิ่มใจอีพิงค์จนพลุนไปหมดแล้ว~ T^T
“อื้อ รักเหมือนพี่น้องเลยค่ะ เราสนิทกันมาก~” สนิทเพราะมากินเหล้าที่นี่แล้วพ่วงตำแหน่งเพื่อนรักของวีนัส เมียไอ้เทมป์ แล้วไอ้เทมป์ก็เป็นญาติกับเฮียแก แถมเฮียแกก็รู้จักกับวีนัสมาตั้งแต่เด็กฉันเมาเฮียแกเลยดูแลให้เป็นพิเศษในฐานะของเพื่อนของน้องจนสนิทกัน
“อ่อ พี่ก็นึกว่าพ่อมันแอบมีเมียน้อย”
“เมียน้อยพ่อง จะดื่มอะไรเรา” ด่าพี่เซ้นต์เสร็จก็หันมาถามฉันทันที
“อะไรก็ได้เฮีย”
“ไม่ได้ เมื่อกี้อยู่ข้างล่างดื่มอะไรก็ดื่มเมนูเดิม อย่าดื่มเยอะเดี๋ยวตีกันแล้วเมาตายห่า”
“เค ๆ ถ้างั้นเดี๋ยวพิงค์สั่งก่อน” ฉันพยักหน้ารับแล้วเดินไปที่โต๊ะเฮียแกก่อนจะยกหูโทรศัพท์ขึ้นมาสั่งเครื่องดื่ม แต่ถามว่าใช่เมนูที่ดื่มข้างล่างไหม ไม่จ้ะ ไม่ใช่แน่นอนจ้ะ อิอิ
ฉันกลับมานั่งเราสามคนก็นั่งคุยกัน พี่เซ้นต์วันนั้นกับพี่เซ้นต์วันนี้ยังเหมือนเดิมเลย นอกจากหล่อก็ยังคุยสนุกไม่เปลี่ยน
ส่วนใหญ่จะเป็นฉันที่คุยกับพี่เซ้นต์สองคนมากกว่า คุยกันจนเพลินเพราะเฮียฟลุ๊คแกนั่งทำงานด้วยนิดหน่อยเลยไม่ค่อยได้คุยด้วย
“อ่าส์~ เดี๋ยวพี่ขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ เดี๋ยวมาเล่นเกมกัน”
“ได้ค่า”
“มึงเคลียร์งานเสร็จรึยังไอ้ฟลุ๊ค กูกับน้องพิงค์รอนานแล้วนะเว้ย”
“อืม เสร็จแล้ว” เฮียฟลุ๊คพยักหน้ารับแล้ววางไอแพดในมือลงพอดี
“โอเค กูไปเข้าห้องน้ำแป๊บเดียว กลับมาแล้วเล่นเกมกัน กูจะมอมมึงให้เมาเลย” พี่เซ้นต์กระตุกยิ้มก่อนจะเดินออกไปในห้องก็เลยเงียบลงไปนิดหน่อย
“ไงเรา สนใจเพื่อนพี่รึไง”
“...ไม่รู้สิเฮีย พี่เขาก็น่ารักดี”
“อย่าเด็ดขาด”
“อะไรนะ?”
“อย่ายุ่งกับมันเด็ดขาด”
“ทำไมล่ะ” ทำไมต้องเสียงแข็งทำหน้าดุขนาดนี้ หึงรึอะไรเอ๋ย อย่านะอย่าหึงเชียวนะเพราะพิงค์กำลังจะตัดใจนะเฮีย
“เถอะน่า บอกว่าอย่ายุ่งก็อย่ายุ่ง ไม่เชื่อที่เฮียเตือนรึไง”
“ก็...เชื่อ แต่เฮียพูดเหมือนพี่เขาเป็นคนไม่ดีทั้งที่พิงค์ยังไม่รู้จักพี่เขาเลยแล้วจะให้พิงค์เลิกยุ่งกับพี่เขาอย่างที่เฮียบอกมันก็แปลก ๆ รึเปล่า”
“หึ! ดื้อว่ะ ไม่ต้องอยากรู้จักมันหรอกเชื่อเฮีย”
“ทำไมคะ พิงค์ขอเหตุผล” พี่เขาไม่ดีหรือว่าเฮียหวงก้าง เป็นอย่างหลังเถอะได้โปรด _//_
เฮ้อ! นี่ก็ว่าจะไม่หวังแล้วนะแต่คนมันชอบอ่ะเนอะ นิด ๆ หน่อย ๆ ก็แอบหวังอยู่ดี
“ไม่ต้องรู้หรอก รู้แค่ว่าอกหักจากไอ้ตาถั่วของเราไม่เจ็บเท่าเผลอไปคบกับมันแน่นอน”
“...จริงเหรอเฮีย” มันยังมีอะไรที่เจ็บมากกว่าการอกหักจากไอ้ตาถั่วด้วยเหรอวะ
“จริง ถ้าให้เฮียเลือกให้เฮียว่าเรากลับไปแอบชอบไอ้ตาถั่วของเราดีกว่ามารู้จักไอ้เซ้นต์แน่นอน”
“...” พูดเองนะเฮีย
“เข้าใจที่เฮียบอกไหม”
“...ไม่สงสารพิงค์เหรอเฮีย” ฉันมองหน้าเฮียฟลุ๊คก่อนจะถามเขาออกมาเบา ๆ
“อะไรนะ? ไม่สงสารเรา? ไม่สงสารอะไรวะในเมื่อเฮียเตือนด้วยความหวังดี” เขาถามในขณะที่ฉันรู้ว่ากำลังเผลอมองเขาด้วยสายตาตัดพ้อ
“...เฮียก็เห็นว่าพิงค์เจ็บจากไอ้คนตาถั่วคนนั้นแค่ไหน ไม่สงสารพิงค์เหรอถึงแนะนำแบบนี้”
“เปล่า เฮียแค่เปรียบเทียบให้เห็นภาพว่าถ้ายุ่งกับไอ้เซ้นต์เราจะเจ็บกว่านั้น ทางที่ดีไม่ต้องสนใจใครสักคนดีกว่า เข้าใจความหวังดีของเฮียไหมพิงค์”
“...อื้อ” ฉันพยักหน้ารับแต่ไม่ได้พูดอะไรต่อเพราะพี่เซ้นต์กลับเข้ามาพอดีเลยรีบปรับสีหน้าให้ดีขึ้นจากนั้นพี่เซ้นต์ก็พาเล่นเกมทันที
พอเลยพิงค์ เลิกคิดอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับไอ้ตาถั่วคนนี้เลย อาการเขาชัดเจนมานานแล้วว่าคิดกับแกแค่น้องคนหนึ่ง แกมีดีกว่านั้นสักวันต้องมีคนที่อยากได้ของดีของเด็ดของแกไปครอบครอง!
เพราะฉะนั้นวันนี้สนุกไปกับการเล่นเกมของพี่เซ้นต์เพื่อระบายอาการอกหักครั้งที่สามร้อยสี่สิบหกไปในตัวดีกว่า!
-เวลาต่อมา-
“น้องพิงค์เมาหนักเลยว่ะ”
“ใครล่ะชวนเล่นเกม” แม่งเล่นเกมปัญญาอ่อน ถอนฟันจระเข้ในมือถือ ใครกดฟันแล้วเจอจระเข้งับต้องแดกเหล้า ยัยขี้เมาแม่งก็ซวยเจอแม่งเกือบทุกรอบ ลองลงมาก็ผม ส่วนคนที่แทบจะไม่โดนเลยคือไอ้ห่าเซ้นต์
“หึ ๆๆ มึงกับน้องพิงค์ดวงไม่ดีเองนี่หว่าให้ทำไงวะ”
“หึ!” แล้วที่น่าเจ็บใจมากกว่คืออะไรรู้ไหม คือการที่เกมมันปัญญาอ่อนแต่เสือกหยุดเล่นไม่ได้ไง
“แล้วน้องเขาจะกลับยังไงวะ ให้กูไปส่งไหมเพื่อนน้องเขากลับไปกันแล้วนี่”
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวกูไปส่งเอง”
“แต่มึงก็เมานะไอ้ฟลุ๊ค ให้กูไปส่งดีกว่าน่า กูไม่ทำอะไรคนเมามึงก็รู้”
“ไม่...ถึงเมากูก็มีปัญญาไปส่งของกูเอง มึงไม่ต้องมายุ่ง”