“เฮีย”
“อืม ว่าไง”
“น้องพิงค์ฟุบโต๊ะไปแล้วเฮีย”
“กูว่าแล้วไง พาไปส่งบ้านกูไป พาเด็กเสิร์ฟผู้หญิงไปด้วยนะมึง”
“ไม่ไปส่งเหรอเฮีย”
“ไม่ล่ะ กูไม่ว่าง” ผมตอบลูกน้องแล้วก้มมองเอกสารต่อ ผมไม่ว่างแล้วคืนนี้งานจะเสร็จรึเปล่ายังไม่รู้เลย ให้พิงค์นอนที่บ้านผมไปเลยก็แล้วกัน
- วันต่อมา –
“ฮ้าว~” มึนหัวฉิบหาย ภาพตัดไปตอนไหนก็ไม่รู้ แต่ที่รู้คือถ้าเมาที่ผับเฮียฟลุ๊คไม่ว่ายังไงก็ปลอดภัย
ฉันลืมตาช้า ๆ แล้วก็พบว่าตัวเองตื่นขึ้นมาในห้องนอนที่คุ้นตาอยู่บ้าง
“...” อ่อ ห้องรับแขกบ้านเฮียฟลุ๊คนี่เอง เคยมานอนสองสามครั้งค่ะเวลาที่เมาแล้วเฮียแกไปส่งไม่ได้
“อืม~” หนักหัวมาก~ ไม่น่าเลย ไม่น่าสั่งเครื่องดื่มหวาน ๆ แก้วสุดท้ายมาดื่มไม่งั้นนะสายแข็งอย่างอีพิงค์ไม่ฟุบลงไปกับโต๊ะให้เสียชาติเกิดแน่นอน อย่างน้อยถึงต้องเมากลับบ้านก็ไม่ฟุบหมดสติบนโต๊ะอย่างเมื่อคืนแล้วกันวะ
เอาล่ะเรื่องเมาช่างมันก่อนเพราะตอนนี้หิว ตื่นขึ้นมาก็หิวเลยไม่รู้เมื่อคืนอ้วกรึเปล่าถึงได้หิวตั้งแต่ตื่นแบบนี้
“แจ๊บ แจ๊บ แจ๊บ~ แหวะ!” สงสัยว่าตัวเองอ้วกรึเปล่าเลยทดสอบแล้วก็...อืม อีพิงค์อ้วกแน่ ๆ -_-!
ไปค่ะ ไปล้างหน้าแปรงฟันดีกว่า พอรู้ตัวว่าอ้วกก็คาวปากขึ้นมาทันที ฉันมาที่นี่หลายครั้งฉันรู้ว่าที่ห้องนี้มีของใช้สำรองอย่างแปรงสีฟันไว้ให้แน่นอน รีบล้างหน้าแปรงฟันล้างรสเฝือน ๆ ในปากออกดีกว่า
ตึก ตึก ตึก
“...” เดินลงบันไดมาเกือบถึงขขั้นสุดท้ายก็บังเอิญได้สบตากับเจ้าของบ้านที่เงยหน้ามามองตามเสียงฝีเท้าพอดี
“ไงขี้เมา”
“...หวัดดีเบล”
“ฮะ?”
“เอ้า~ เฮียฟลุ๊คนี่นา ฮ่า ๆๆ โทษที ๆ นึกว่าไอ้เบลมาค้างด้วย”
“อะไรของเราวะ เป็นไงแฮงค์รึเปล่า”
“หิว”
“หึ ๆๆ คนอกหักแม่งเมาอ้วกแล้วตื่นมาหิวแบบนี้เหรอวะเฮียเพิ่งรู้”
จึก!
เหมือนเอาเสาเข็มของตึกมหานครมาที่มที่กลางใจอีพิงค์เลย
อกหักเหรอ? หึ! อย่าให้มีผัวนะ สักวันถ้าเลิกชอบไอ้ตาถั่วบางคนได้อีพิงค์จะมีผัวหล่อล่ำลำใหญ่โตมโหฬารบานตะไทให้ดู!
“เฮียแม่ง อย่าให้เฮียอกหักบ้างพิงค์จะซ้ำเติมให้คอยดู” ฉันหน้าบึ้งเดินลงบันไดแล้วก็ไปทิ้งตัวลงที่โซฟาอีกตัว
“หึ ๆๆ โทษทีคงไม่มีวันนั้นว่ะ”
“มั่นใจขนาดนั้นเชียว?”
“อืม เฮียไม่คิดจะรักใครจะอกหักได้ไงวะ”
“...เหอะ!” หมั่นไส้ว่ะ
แต่...มันเป็นยังไงนะความรู้สึกของคนที่ไม่คิดจะรักใคร มันน่าจะสบายใจกว่ารักแล้วต้องเก็บเอาไว้รึเปล่า
“หิวใช่ไหม”
“อือ บ้านเฮียมีไรกินบ้าง”
“บะหมี่”
“ฮะ?”
“มีแค่บะหมี่ แต่ถ้าอยากกินอย่างอื่นเดี๋ยวสั่งให้”
“โอเค ถ้างั้นเฮียสั่งให้หน่อยแล้วกันพิงค์ไม่ชอบกินบะหมี่มันไม่อยู่ท้อง พิงค์ไม่อยากใช้เครื่องพิงค์ด้วย ขี้เกียจปักหมุดที่อยู่”
“หึ ๆๆ ไม่อยากใช้เงินตัวเองมากกว่ามั้งเฮียว่า”
“อือ ค่าเหล้าผับเฮียโคตรแพงเลย คืนกำไรให้ลูกค้าบ้าง”
“นั่นสิ ลูกค้าประจำแถมโคตรวีไอพีเพราะว่าอกหักมาดื่มทีไรลำบากเฮียทุกทีนี่ยิ่งต้องคืนกำไร”
“ชิส์! เลิกพูดเรื่องอกหักของพิงค์เลย พูดแล้วอารมณ์เสีย” ฉันทำหน้าเซ็งมองค้อนเขาแล้วหันหน้าหนี
ตอกย้ำอยู่ได้เรื่องอกหัก ไม่อกหักบ้างให้มันรู้ไป คนเราไม่มีใครที่ทั้งชาติไม่เคยไม่อกหักหรอกอยู่ที่จะเกิดช้าเกิดเร็วแค่นั้นแหละ ส่วนอีพิงค์คนนี้ก็เกิดเร็วไปหน่อยแถมเกิดนานด้วย
โอ้ย~ แม่งเอ้ย~ อยากลืม อยากหยุดชอบไอ้ตาถั่วแล้วโว้ย! ขี้เกียจเมา! T_T
เฮียฟลุ๊คไม่พูดอะไรแค่ยิ้มขำนิดหน่อยแล้วกดโทรศัพท์
“กินอะไรดี”
“ก๋วยเตี๋ยวต้มยำมีไหมเฮีย แฮงค์อยากซดอะไรร้อน ๆ”
“มี เอาเส้นไร”
“เส้นหมี่ พิเศษนะ ขอพริกเพิ่มให้ด้วยอยากกินเผ็ด ๆ”
“โอเค” เฮียฟลุ๊คสนใจโทรศัพท์ต่อแล้วไม่นานก็วางโทรศัพท์ไว้ข้างตัว
“แล้วที่บ้านเป็นไงบ้าง” พอสั่งอาหารเสร็จก็ถามไถ่ตามมารยาทเลยนะพ่อคุณ
“ที่บ้านเหรอ เดิม ๆ แหละเฮีย”
ที่ถามถึงไม่ใช่ว่าเฮียฟลุ๊คสนิทกับที่บ้านฉันหรอกแค่เคยไปที่บ้านฉัน บ้านฉันอยู่นครปฐม ป๊าเป็นเถ้าแก่โรงสีใหญ่กับเจ้าของโรงงานขาหมูส่งออกนอก ของกินเด็ด ๆ ของนครปฐมแต่ยังไม่ใช่ของที่เด็ดสุดหรอกนะเพราะของที่เด็ดที่สุดนั่งอยู่ตรงนี้ต่างหาก เหอะ!
ก็ตามนั้นแหละ เฮียฟลุ๊คเคยพาฉันกับวีนัสเพื่อนฉันไปส่งที่บ้านฉันด้วยความบังเอิญเมื่อปีก่อน มีโอกาสกินข้าวกับที่บ้านฉันหนึ่งมื้อ เวลาได้นั่งคุยกันเฮียแกก็เลยถามถึงที่บ้านประจำตามแบบฉบับคนมีมารยาท
“เดิม ๆ คือ?” เฮียฟลุ๊คถามอีกครั้งให้ฉันขยายความพร้อมกับเลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้นเพื่อรอเอาคำตอบ
“ก็เดิม ๆ ไง เฮียจะถามทำไมเนี่ย” ฉันทำเสียงรำคาญใส่เฮียแกนิดหน่อย บอกว่าเดิม ๆ ก็คือเดิม ๆ ไงวะมันจะมีอะไรเพิ่มเติมอีกนอกจากเดิม ๆ
“อ่อ...ยังหาผัวให้เราแบบเดิม ๆ ไม่หยุดอีกเหรอวะ”