4

4575 คำ
ห้องอาหาร... แม่บ้านทยอยยกอาหารขึ้นมาวางเสิร์ฟจนครบ จากนั้นก็ออกไปยืนรอที่ด้านนอก เพื่อปล่อยให้ผู้เป็นนายทานข้าวกับหญิงสาวแบบส่วนตัว ออร์แลนโด้หยิบมือถือขึ้นมากดดูงานไปเรื่อยๆ จนกระทั่งได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามา จึงหันไปมอง “ว้าว! ผมชอบที่คุณใส่เสื้อผ้าของผมจัง” ชายหนุ่มลอบกลืนน้ำลาย ขณะมองหญิงสาวที่กำลังเดินเข้ามาหา เขาไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนที่ล้างหน้าล้างตา ลบเครื่องสำอางออกแล้วก็ยังสวยแบบนี้มาก่อน เธอไม่ต้องเติมแต่งใดๆ ก็สวยใสและดูเด็กลงอย่างเห็นได้ชัด ขนาดเมื่อคืนเขายังหวั่นๆ ว่าเธอจะไม่ถึงสิบแปด จนถึงตอนนี้เขาก็ยังคิดว่าเธออายุไม่ถึงสิบแปดอยู่ดี! คนที่ถูกมองอายจนหน้าแดงพลางคิดในใจ ‘เขาจะสังเกตเห็นตรงนั้นตรงนี้ของเธอหรือเปล่า ถ้ามองใกล้ๆ คงจะเห็นทะลุ เพราะเธอไม่ได้ใส่ชั้นในแถมคนบ้านั่นก็นั่งยิ้มอยู่ได้!’ แพรณาราเริ่มคิดฟุ้งซ่าน จนไม่กล้าจะเข้าไปใกล้อีกฝ่าย เพราะเธออยู่ในสภาพที่ล่อแหลม และสายตาแวววาวของเขามันก็ดูไม่ปลอดภัยเอาซะเลย! “มานั่งตรงนี้สิ” ออร์แลนโด้บอกพร้อมกับตบที่เก้าอี้ข้างๆ “เอ่อ...มิกิขอนั่งตรงนี้ได้ไหมคะ” เธอรีบต่อรอง ‘ใครจะกล้าเข้าไปใกล้ล่ะ ทำท่าทางหื่นออกหน้าออกตาซะขนาดนั้น’ “ไม่! ที่นั่งของคุณคือตรงนี้” ออร์แลนโด้ย้ำอีกครั้งพร้อมกับชี้มาที่ตักของตัวเอง แพรณาราหน้าซีดหนักกว่าเดิม เมื่อครู่บอกให้นั่งเก้าอี้ ตอนนี้ให้นั่งที่ตัก อีตาบ้านี่น่ากลัวชะมัด! เธอถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ก่อนจะเดินเข้าไปหา  อีกฝ่ายอย่างกล้าๆ กลัวๆ ‘ให้ตายสิ เขามันอสูรร้ายนี่! เธอยังไม่ลืมเรื่องที่เขาทำกับเธอ แล้วนี่อะไรเข้าสิงให้เปลี่ยนไปกัน ไหนบอกว่าจะเฉดหัวเธอส่งทันทีที่หมดประโยชน์ไง’ หญิงสาวครุ่นคิดในใจและประเมินสถานการณ์ ว่าตอนนี้เธอควรตามน้ำไปก่อน พอสบโอกาสเมื่อไหร่ ค่อยหนีไปก็ยังไม่สาย อีกอย่างเธอก็ยังไม่แน่ใจว่า คาทอร์จะดักรออยู่หรือเปล่า เธออุตส่าห์หนีมาตั้งไกล อีกฝ่ายก็ยังตามหาจนเจอ แสดงว่าป้าของเธอกำลังต้องการเงินในบัญชีของบิดา ที่เธอมีสิทธิ์เบิกจ่ายอยู่เป็นแน่! แพรณาราไม่มีทางเลือก จึงกลั้นใจนั่งลงบนตักของคนที่กำลังส่งยิ้มกว้างมาให้ ด้วยหัวใจสั่นๆ “เอ่อ...คุณหนักไหม? ให้ฉันนั่งเก้าอี้ดีกว่า...”  “ไม่ต้อง นั่งตรงนี้แหละกำลังดี!” ออร์แลนโด้บอกพร้อมสอดวงแขนเข้าไปกอดกระชับเอวบางอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ ส่งผลให้คนถูกกอดสะดุ้งน้อยๆ อย่างตกใจ “ละ...แล้วคุณจะทานสะดวกเหรอคะ? ถ้ามิกินั่งบนตักของคุณแบบนี้” เธอถามต่อด้วยใบหน้าแดงก่ำอย่างเขินอาย “ถนัดสิ มาเดี๋ยวพี่ป้อนให้ แล้วก็เรียกพี่ว่า...พี่อลัน! ที่รัก หรือจะเรียกผัวขาก็ได้ แต่ห้ามเรียกว่าคุณอีกนะ มันดูห่างเหินยังไงไม่รู้!” ออร์แลนโด้บอกเสร็จก็ทำเนียนหอมแก้มนวลอย่างอดใจไม่ไหว “คะ...คุณไม่ใช่สามีของมิกิซะหน่อย!” แพรณาราเอ่ยท้วงด้วยน้ำเสียงสั่นๆ ‘ผัวบ้าผัวบอน่ะสิ ข่มเหงเธอชัดๆ’ “ทำไมจะไม่ใช่! มิกิเป็นเมียของพี่แล้วนะ แหวนนี่พี่สวมให้เมื่อคืนรักษาให้ดีล่ะ ห้ามทำหายเด็ดขาด! ไม่งั้นเป็นเรื่องแน่” ออร์แลนโด้เอ่ยเสียงจริงจัง ผิดกับท่าทีก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง “ค่ะ” แพรณาราตอบรับอย่างมึนๆ ราวกับอยู่ในฝัน “งั้นมาทานข้าวต้มกันดีกว่าค่ะ” ออร์แลนโด้บอกพลางตักข้าวต้มขึ้นมาเป่าเบาๆ แล้วป้อนคนในอ้อมกอด ‘ทำไมเราต้องทำอะไรแบบนี้ด้วยวะ แต่ก็ช่างสิ! ใครจะสน เขาแค่รู้ว่า...มันรู้สึกดีเป็นบ้าที่ได้ดูแลเธอ’ แพรณาราอ้าปากรับข้าวต้มแทบไม่ทัน ‘พระเจ้า! นี่เธอหูฝาดไปหรือเปล่านะ เมียพี่งั้นเหรอ? ไหนบอกว่าในชีวิตสิ่งที่เกลียดที่สุด คือการต้องผูกมัดใครสักคนไปจนตายไง! นี่เขาคงจะเพี้ยนจนลืมคำพูดของตัวเองไปแล้วแน่ๆ’     สามสิบนาทีต่อมา...หลังจากทานข้าวเสร็จ ออร์แลนโด้ก็ส่งยาพร้อมกับน้ำให้คนในอ้อมกอด เพราะรู้ว่าสาวเจ้ามีไข้ตั้งแต่ที่อุ้มกลับขึ้นลิฟต์มา แพรณารารับยากับน้ำมาดื่มอย่างว่าง่าย เพราะเธอก็รู้สึกร้อนๆ หนาวๆ อย่างบอกไม่ถูก พอทานยาเสร็จ เขาก็เอ่ยชวนเธอไปนั่งดูหนังที่ห้องนั่งเล่น เธอพยักหน้ารับเบาๆ อย่างไม่รู้ว่าจะพูดหรือคุยอะไรกับอีกฝ่ายดี เพราะหลายครั้งที่หันไปมอง เธอก็เห็นเขาจ้องมองเธออยู่แทบตลอดเวลา มันทำให้เธอรู้สึกเกร็งจนไม่เป็นตัวของตัวเองเอาซะเลย   ยี่สิบนาทีต่อมา...ออร์แลนโด้แอบก้มมองคนที่นั่งบนตักเป็นพักๆ กระทั่งเห็นสาวเจ้าหลับไปแล้ว จึงอุ้มเธอเข้าไปในห้องนอน และวางลงบนเตียงนอนขนาดคิงไซส์ที่ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนได้สัมผัสมาก่อน จากนั้นก็ดึงผ้าห่มมาคลุมให้สาวเจ้า ก่อนจะขยับตามขึ้นไปนอนบนเตียง แล้วสอดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่ม พร้อมกับรั้งสาวเจ้าเข้ามากกกอดเอาไว้อย่างหวงแหน ความเหนื่อยล้าของร่างกายบวกกับนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้ออร์แลนโด้หลับตามหญิงสาวไปอย่างง่ายดาย   ทั้งสองหลับไปนานถึงหกชั่วโมงเต็ม แพรณาราตื่นขึ้นมาก็รู้สึกปวดเมื่อยไปหมดทั้งเนื้อทั้งตัว เพราะแขนของอีกฝ่ายโอบรัดเธอเอาไว้แน่น ‘ทำไมไม่รัดให้ตายไปซะเลยล่ะ’ เธอแอบด่าในใจ ก่อนจะพยายามแกะมือเขาออกจากเอว ออร์แลนโด้ที่รับรู้ถึงแรงขยับจึงลืมตาตื่นขึ้นมองช้าๆ “ตื่นแล้วเหรอจ๊ะ เมียจ๋า!” “คะ... คุณช่วยเอามือออกไปก่อนได้ไหมคะ คือ...ฉันปวดชิ้งฉ่องน่ะค่ะ” แพรณารารีบบอก “พี่บอกว่าให้เรียกยังไงคะ ถ้าต่อไปนี้เรียกพี่ว่าคุณ แล้วแทนตัวเองว่าฉันเมื่อไหร่ที่ไหนจะจับฟัดตรงนั้นเลย ไหนลองเรียกใหม่อีกทีสิคะ” ออร์แลนโด้เอ่ยเสียงดังและทำหน้าดุๆ ใส่คนที่พยายามดึงแขนของเขาออก “เอ่อ...” แพรณาราหยุดชะงักไปทันใดกับคำขู่แกมบังคับของอีกฝ่าย “ถ้าไม่เรียกเดี๋ยวนี้ พี่จะจับฟัดสักสองยกบนเตียงนี่ เร็วสิ!” ออร์แลนโด้หัวเสียขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ‘ให้ตายสิ! มันเรียกยากนักยากหนาหรือไงวะ ถึงทำท่าอึกๆ อักๆ แบบนี้’ คนอารมณ์ร้อนหงุดหงิดขึ้นมาทันใด “พี่อลันคะ มิกิขอไปเข้าห้องน้ำค่ะ” แพรณารากลั้นใจเรียกเพราะกลัวอีกฝ่ายจะทำแบบที่พูด ‘ผู้ชายบ้าอะไร เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย’ “เชิญค่ะ” ออร์แลนโด้ยิ้ม ยอมปล่อยแขนออกจากเอวบางอย่างว่าง่าย “ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวประชด ก่อนจะรีบลงจากเตียงตรงไปยังห้องน้ำ ‘จะบ้าตาย! จะไปฉี่ยังต้องขออนุญาตก่อนเหรอนี่’ เธอส่ายหัวอย่างเพลียๆ ท่ามกลางเสียงหัวเราะของคนบนเตียงที่ดังแว่วตามหลังมา   ห้องทำงาน... ไลน์! ไลน์! เสียงข้อความดังขึ้นติดๆ กัน ทำให้อันโตนีโอ้ที่เข้ามานั่งรอผู้เป็นนาย หยิบมือถือขึ้นมากดเปิดอ่านข้อความไลน์แทบจะทันที จิมมี่เจมส์ : ‘วันนี้คุณแพททริกออกเดต’ คนที่เพิ่งเปิดอ่านกะพริบตาอยู่สองสามครั้ง เพื่ออ่านข้อความซ้ำอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าหัวเรือใหญ่ของโรคาซานเดอร์อย่างแพททริกสัน ที่จำชื่อผู้หญิงที่ขึ้นเตียงยังไม่ได้ จนกลายเป็นที่มาของฉายา หล่อลืมชื่อ! กำลังจะออกเดต ทำเอาต่อมเผือกของอันโตนีโอ้ร้อนผ่าวขึ้นมาทันใด รีบต่อสายตรง โทร. หาจิมมี่เจมส์เพื่อสอบถามแบบส่วนตัวทันที   หลังจากที่สาวเจ้าเข้าห้องน้ำ ออร์แลนโด้ก็เดินออกมาที่ห้องทำงานและนั่งตรวจงานบนโต๊ะไปได้สักพัก อันโตนีโอ้ก็เดินยิ้มร่าเข้ามารายงานข่าว “บอสครับ เจเจรายงานว่าวันนี้คุณแพททริกจะออกเดต” “หึ! ป๋าทำตัวอย่างกับเด็กเลยว่ะ” ออร์แลนโด้เอ่ยติดตลกที่พี่ชายทำตัวราวกับเด็กหนุ่มที่เพิ่งจะมีความรัก พลางส่ายหน้าน้อยๆ อย่างไม่ใส่ใจแต่แล้วอยู่ๆ ก็ฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้! ‘เดต! จริงสิเขายังไม่เคยมีเดตครั้งแรกในชีวิตเลย’ แวบหนึ่งในหัวของออร์แลนโด้ก็มีภาพของแพรณาราแล่นเข้ามา ‘ใช่! ถ้าเขาจะเดตกับใครสักคน คนคนนั้นก็ต้องเป็นเธอ!’ เมื่อฉุกคิดขึ้นมาได้ คนที่ยังไม่เคยมีเดตแรกมาก่อนก็ลุกขึ้นเดินกลับไปยังห้องนอนทันทีทันใด ทิ้งให้อันโตนีโอ้มองตามอย่างงงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น   แพรณาราทำธุระส่วนตัวเสร็จ ก็จัดการอาบน้ำชำระร่างกายต่อจนกระทั่งผ่านไปยี่สิบนาที ก็ใส่เสื้อคลุมสีขาว ที่ปักหน้าอกด้วยเส้นด้ายสีเทาเข้มว่า Orlando เดินออกมาจากห้องน้ำ “อุ๊ย!” แพรณาราตกใจที่เห็นอีกฝ่ายเปิดประตูเข้าห้องนอนมาพอดี จึงรีบหลบสายตาที่มองมาอย่างอายๆ เพราะเธอแอบใช้เสื้อคลุมของเขาอยู่  “มิกิคะ เดี๋ยวตอนค่ำๆ พี่จะพามิกิไปดินเนอร์ พี่สั่งให้เด็กเอาชุดมาให้แล้ว อีกสองชั่วโมงเราเจอกันที่ล็อบบีนะคะ” ออร์แลนโด้บอกเสร็จก็ก้มลงหอมแก้มนวลทั้งสองข้าง จากนั้นก็เดินผิวปากออกจากห้องไปอย่างอารมณ์ดีที่เห็นสาวเจ้าใส่เสื้อผ้าของตน  ‘พระเจ้า! ผีตัวไหนก็ช่างที่สิงร่างของอสูรร้ายตนนี้อยู่ขออย่าเพิ่งออกตอนนี้เลย สาธุ!’ แพรณารายกมือไหว้ บ่นพึมพำตามหลัง     ด้านอันโตนีโอ้ถึงกับงงในท่าทีของผู้เป็นนาย เมื่อครู่ยังหัวเราะอยู่ดีๆ แต่แล้วก็ทำสีหน้าจริงจังเหมือนคนมีอะไรในใจ จากนั้นก็เดินออกจากห้องไปไม่บอกกล่าว แล้วกลับเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มที่ตัวเขาได้เห็นนับครั้งได้ตั้งแต่ที่ทำงานกับอีกฝ่ายมา “พีเคเตรียมตัวด้วยนะ อีกสองชั่วโมงฉันจะออกไปข้างนอก” ออร์แลนโด้ที่เดินผิวปากเข้ามาในห้องทำงาน เพื่อบอกมือขวาคนสนิท “บอสจะไปไหนครับ” อันโตนีโอ้ถามอย่างสงสัย “จะไปดินเนอร์!” ออร์แลนโด้บอกเสร็จก็เดินออกไปจากห้อง เพื่ออาบน้ำและเตรียมตัว พร้อมกับคิดว่าจะพาสาวเจ้าไปที่ดินเนอร์ไหนดี ที่จะทำให้เธอรู้สึกประทับใจ! มือขวาคนสนิทมองตามอย่างมึนงง ‘ดินเนอร์อย่างนั้นเหรอ? เท่าที่จำได้ เจ้านายเขาไม่เคยดินเนอร์กับสาวคนไหนเลยสักครั้ง เพราะมันเสียเวลา! แล้วนี่มันอะไรกัน ทั้งคุณแพททริกสันและเจ้านายของเขา กำลังจะแข่งกันอัปเลเวลเป็นผู้ชายโรแมนติกหรือไง?’ อันโตนีโอ้รีบกดส่งข้อความเข้าไปในไลน์กลุ่มแก๊งมือขวา เพื่อรายงานสถานการณ์ของเจ้านายตนบ้าง อันโตนีโอ้ : ‘คืนนี้เจ้าชายน้ำแข็งจะไปดินเนอร์!’  ไม่ถึงนาทีก็มีรูปสติ๊กเกอร์ทำหน้าตกใจ ผวา ส่งเข้ามาสามสี่อันจากเหล่ามือขวาคนสนิทอีกสี่คนในกลุ่ม มาร์ค : ไม่จริง จิมมี่เจมส์ : ขุ่นพระ โดโนเวล : OMG! ไทเลอร์ : คุณหลอกดาว จิมมี่เจมส์ : พระเจ้า! น้ำแข็งขั้วโลกเหนือละลายแน่ๆ (มือขวาของแพททริกสัน) อันโตนีโอ้ : กูก็ไม่อยากจะเชื่อ แต่เรื่องจริงว่ะ ไทเลอร์ : กูอยากจะยลโฉมนางฟ้าคนนั้นจัง (มือขวาของแดเนียล) โดโนเวล : เรื่องนี้ต้องถึงหูคุณเพชร! (มือขวาของคารอสที่กำลังทำงานอยู่ เตรียมเก็บข้อมูลไปบอกให้ผู้เป็นนายทราบ)   มาร์ค : แม่เจ้า! เจ้าชายน้ำแข็งจะดินเนอร์ เรื่องนี้ต้องขยาย (มือขวาของเจคอปที่อยู่ดูไบเตรียมเก็บข้อมูลด้วยอีกเช่นกัน) โดโนเวล : รอเผือกติดขอบเตียง เอ๊ย! ขอบเวทีครับท่าน จากนั้นข้อความไลน์ก็เด้งขึ้นมาอีกหลายประโยค ตามด้วยสติ๊กเกอร์ตกใจบ้าง ปักธงรอฟังข่าวบ้างและอีกเยอะแยะมากมาย บลาๆๆ อันโตนีโอ้เองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าเจ้านายของตนจะเปลี่ยนไป เพียงแค่ได้เจอกับแพรณารา ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ทำให้อสูรร้ายยอมฉีกกฎทุกข้อของตัวเองได้อย่างไม่น่าเชื่อ   หลังจากที่ออร์แลนโด้เดินออกไป ไม่ถึงสิบห้านาทีก็มีเสียงเคาะที่ประตูห้องนอน แพรณารารีบเดินไปเปิดประตูห้อง ก็เห็นแม่บ้านยืนถือชุดรออยู่พร้อมกับช่างแต่งหน้าและช่างทำผม เธอกะพริบตามองอย่างอึ้งๆ  ‘อีตาบ้านี่คงจะรวยมากสินะ! ทั้งช่างและชุดมาถึงมาพร้อมกันได้ในยี่สิบนาที!’   สามสิบนาทีต่อมา...ช่างแต่งหน้าและช่างทำผมใช้เวลาแต่งเติมใบหน้าจิ้มลิ้มให้สวยหวานและเย้ายวนเพียงไม่นานก็เสร็จ แม่บ้านเตรียมชุด   เดรสเข้ารูป สีฟ้าอ่อนและรองเท้าส้นสูงสีขาวมุกรอ แพรณาราเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องถัดไป ไม่ถึงห้านาทีประตูห้องแต่งตัว ก็เปิดออกมา ช่างและแม่บ้านหันไปมอง ก่อนจะยิ้มกว้างกันถ้วนหน้า เพราะตอนที่แพรณารามาเปิดประตูห้องให้ พวกเธอก็ตกใจในความสวยกันไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่ตอนนี้...ต้องเรียกว่าโคตรสวยถึงจะถูก สมแล้วที่เจ้านายผู้แสนเย็นชาจะอ่อนไหว และหลงหนักถึงขนาดพามาค้างที่สกาล่า ที่ที่ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนได้เข้าใกล้ความเป็นส่วนตัวขนาดนี้มาก่อน! สิบห้านาทีต่อมา... หลังจากที่ตรวจเช็กความเรียบร้อยเสร็จ แม่บ้านก็รีบพาสาวน้อยแสนสวยลงมายังล็อบบีของวิลล่า ตามที่บอสใหญ่สั่งเอาไว้ ออร์แลนโด้ที่กำลังยืนสั่งงานคนสนิทอยู่ พอได้ยินเสียงกริ่งของลิฟต์ส่วนตัวดังขึ้น จึงหันไปมอง...และทันใดนั้น! “โอ้ พระเจ้า!!” ออร์แลนโด้อุทานออกมาอย่างลืมตัว ทำให้เหล่าลูกน้องคนสนิทที่กำลังฟังผู้เป็นนายสั่งงานอยู่หันไปมอง และตกตะลึงในความสวยของหญิงสาวที่เดินออกมาจากลิฟต์กันเป็นแถว ‘พระเจ้าที่ไหนกัน? นี่มันนางฟ้าชัดๆ ครับบอส’ อันโตนีโอ้แอบเถียงผู้เป็นนายในใจ พร้อมกับจ้องมองหญิงสาวที่สวยสง่าและเย้ายวนอย่างทึ่งๆ แพรณารารู้สึกอายกับสายตาและท่าทางของออร์แลนโด้ที่มองมาเหมือนกับจะกลืนกินเธอซะให้ได้ “ว้าว! มิกิของผม คุณสวยจัง” เขาเอ่ยชมเสียงหวาน ‘พากลับขึ้นห้องดีไหมวะ! ทั้งสวยทั้งน่ารักแบบนี้ เขาชักไม่อยากจะพาไปไหนแล้วสิ!’    “ขะ...ขอบคุณค่ะ เราจะไปไหนกันเหรอคะ” แพรณารารีบเปลี่ยนเรื่องคุย เพราะเธอทั้งอายและใจเต้นอย่างไม่เป็นจังหวะ ‘เขาดูมีเสน่ห์ สมบูรณ์แบบราวกับเทพบุตร จนเธอทำตัวไม่ถูก มันจะดีขนาดไหนนะ ถ้าเขาเป็นแบบนี้ไปตลอด ไม่ดิบเถื่อนและหยาบคายเหมือนในวันนั้น แล้วเป็น    ออร์แลนโด้ที่เป็นอยู่ตอนนี้!’ “ยังไม่บอกค่ะ พี่อยากให้แปลกใจ” ออร์แลนโด้เอ่ยพร้อมกับยื่นแขนมาให้สาวเจ้า แพรณารายกแขนของตัวเองเข้าไปคล้องแขนของอสูรร้าย ที่กลายร่างมาเป็นเทพบุตรแค่ข้ามคืนอย่างอายๆ แล้วออกเดินไปพร้อมกับอีกฝ่าย ท่ามกลางสายตาของเหล่าบอดี้การ์ด พนักงานต้อนรับที่ล็อบบี และคนดังที่มาซื้อวิลล่าหรูราคาแพงหูดับใจกลางกรุงลอนดอนอยู่ ซึ่งห้องหนึ่งราคาสูงกว่าหนึ่งล้านปอนด์ ทั้งสองเดินออกมาที่หน้าวิลล่า ตรงที่การ์ดนำแอสตันมาร์ตินมาจอดรอ ออร์แลนโด้รีบเดินไปเปิดประตูรถให้หญิงสาวเข้าไปนั่ง ก่อนจะอ้อมไปนั่งอีกฝั่ง พร้อมกับกดเปิดเพลงในรถฟัง แล้วขับรถออกไปอย่างอารมณ์ดี ขณะที่รถแล่นออกมาได้ไม่ถึงนาที เสียงเพลง Animals ของวง Maroon 5 ก็ดังขึ้นกับจังหวะดนตรีที่ค่อนข้างตรงและดิบเถื่อน พอถึงท่อนฮุก (Hook) หญิงสาวก็ต้องตกใจ หลังได้ยินเสียงของอีกฝ่ายร้องเพลงดังขึ้น!            Baby I'm preying on you tonight          (ที่รัก เธอจะเป็นเหยื่อของฉันในคืนนี้นะ)           Hunt you down eat you alive                    (จะไล่ล่าเธอ กลืนกินเธอทั้งเป็น)                  Just like animals                                          (เหมือนกับสัตว์ร้าย)                 Animals Like animals                                   (สัตว์ร้าย เหมือนสัตว์ร้าย)          Maybe you think that you can hide               (เธออาจจะคิดว่าเธอจะซ่อนตัวได้)            I can smell your scent for miles                  (แต่ฉันดมกลิ่นเธอได้เป็นไมล์ๆ เลย)                    Just like animals                                            (เหมือนกับสัตว์ร้าย)             Animals Like animals Baby I'm                       (สัตว์ร้าย ฉันนี่แหละสัตว์ร้าย)   ‘พระเจ้า! นี่เธอคิดผิดหรือเปล่านะ ที่เมื่อกี้แอบคิดว่าเขาช่างดูเหมือนกับเทพบุตร หึ! เขามันอสูรร้ายจอมสร้างภาพดีๆ นี่เอง สายตาท่าทางที่ร้องเพลงแบบหื่นๆ นั้น มันช่างน่ากลัวจนไม่อยากจะเข้าใกล้ ’ แพรณารา เริ่มหวั่นใจกับอนาคตอันใกล้ ก่อนจะรีบเบือนหน้าหนีและขยับตัวไปนั่งติดกับประตูรถอย่างรวดเร็ว “หึๆ!” ออร์แลนโด้มองตามแล้วอดหัวเราะไม่ได้ กับท่าทางที่ดูราวกับคนเสียขวัญของสาวเจ้า ‘ให้ตายสิ นี่เธอไม่รู้หรือไง ว่าการกระทำที่แสดงออกอยู่ตอนนี้ มันกระตุ้นความอยากในตัวของเขามากขนาดไหน พระเจ้า! เดี๋ยวก็หักรถเข้าข้างทางซะเลย! จะได้กลืนกินเธอทั้งเป็นเหมือนกับสัตว์ร้ายในเพลง’ คนหื่นยกยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะลอบหันมามองเหยื่อสาวเป็นพักๆ แม้ว่าเธอจะเอาแต่หันหน้าไปมองข้างทาง และไม่ยอมหันกลับมามองเขาอีกเลยก็ตาม ออร์แลนโด้ขับรถเข้ามายังสนามบินที่อยู่ไม่ไกลกับสกาล่า ก่อนจะแล่นรถเข้าไปจอดใกล้ๆ กับเฮลิคอปเตอร์ขนาดใหญ่ที่สกรีนคำว่า My Angel Rocasander แพรณาราหันไปมองเจ้าแมงปอยักษ์สีดำเงาอย่างรู้สึกทึ่งๆ ‘เขานามสกุลโรคาซานเดอร์ แสดงว่านี่คือเฮลิคอปเตอร์ของเขาสินะ! ตอนนั้นเธอมัวแต่โมโหเขาจนหูอื้อไปหมด ไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง ถึงว่า...ตอนที่เขาตามไปช่วยเธอ คาทอร์ถึงได้ยอมปล่อยเธอมาง่ายๆ เพราะตระกูลโรคาซานเดอร์เป็นตระกูลใหญ่ แถมเป็นมาเฟียที่โด่งดังอีกด้วย! แล้วแบบนี้!เขาจะยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ งั้นเหรอ?’ หญิงสาวตกอยู่ในโลกส่วนตัวไปชั่วครู่ “ถึงแล้วค่ะ มิกิพร้อมหรือยัง?” ออร์แลนโด้ถามสาวเจ้าที่ทำหน้าตื่นๆ ก่อนจะส่งยิ้มหวานไปปลอบโยนอย่างที่ไม่เคยคิดจะยิ้มให้สาวคนไหนมาก่อน ปกติแค่เขาทำหน้าดุๆ พวกเธอก็แทบคลั่งกันอยู่แล้ว แต่กับแพรณารา เขาแทบจะไม่เป็นตัวเอง และยังทำอะไรที่ไม่คิดว่าจะทำมันมาก่อน เช่นพาเธอมาดินเนอร์ ซึ่งจริงๆ มันก็แค่ทานข้าว จะทานที่ไหนก็ได้ ที่หรูๆ มีออกเยอะแยะ แต่เพราะเป็นเธอ...เขาจึงอยากจะทำให้ประทับใจกับครั้งแรก! “คะ?” แพรณาราเอ่ยอย่างมึนๆ พลางมองไปที่เฮลิคอปเตอร์ขนาดใหญ่อย่างหวั่นๆ นี่คงไม่ได้หมายความว่า... “เชิญค่ะ” ออร์แลนโด้เอ่ย “เอ่อ...เราจะไปไหนกันเหรอคะ?” แพรณาราเอ่ยถามเมื่อลงมาจากรถ รู้สึกราวกับถูกอสูรร้ายครอบงำความคิด ความรู้สึก ความเป็นตัวเอง และทุกๆ อย่าง เขาเหมือนจะอบอุ่น แต่ก็อันตราย เธอเหมือนจะดีใจ แต่ก็ระแวงจนไม่รู้ว่าต้องรู้สึกยังไงกับผู้ชายตรงหน้าที่ส่งยิ้มมาให้แทบจะทุกๆ   หนึ่งนาที! “ให้พี่จูบทีหนึ่ง แล้วพี่จะบอกให้หมดทุกอย่างเลยค่ะ” ออร์แลนโด้บอกพร้อมกับส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ไปให้ ทำเอาคนที่ได้ฟังถึงกับหน้าเหวอขึ้นมาทันทีทันใด “งั้นไม่ดีกว่าค่ะ มิกิไม่อยากรู้แล้ว” แพรณาราปฏิเสธพร้อมกับถอยออกห่างจากอีกฝ่ายไปสองก้าวอย่างรวดเร็ว “ฮ่าๆ พี่นึกว่าจะได้จูบหวานๆ จากมิกิซะอีก” ออร์แลนโด้หัวเราะอารมณ์ดีที่ได้หยอกเย้า ‘ให้ตายสิ! เวลาที่เธออายทำไมมันน่ารักจังเลยวะ’ “ระ... เราจะไปกันหรือยังคะ” แพรณารารีบเปลี่ยนเรื่อง “ไปสิคะ เชิญค่ะนางฟ้าของพี่” ออร์แลนโด้ผายมือเชิญอย่างสุภาพ แพรณาราถึงกับอึ้งหนักตรงที่อีกฝ่ายเรียกเธอว่า นางฟ้าของพี่ แล้วแบบนี้เธอจะทนได้นานแค่ไหนนะ เพราะต่อให้มันเป็นแค่ภาพลวงตา แต่เธอก็อดใจสั่นไม่ได้อยู่ดี “เดี๋ยวค่ะ เราจะนั่งแมงปอยักษ์นี่ไปเหรอคะ” เธอเอ่ยถามด้วยสีหน้าหวั่นๆ เพราะไม่เคยนั่งมาก่อน “ใช่ค่ะ เราจะนั่งเจ้านี่ มิกิไปไม่ต้องกลัวนะ พี่รับรองว่ามันปลอดภัย” เขาปลอบเพราะรับรู้ถึงความเย็นจากปลายนิ้วของสาวตรงหน้า ที่บ่งบอกได้ว่าเธอทั้งกลัวและตื่นเต้นขนาดไหน! “ค่ะ” แพรณาราพยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะก้าวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ตามออร์แลนโด้ ที่ก้าวขึ้นไปก่อนและส่งมือมารับเธอ   เฮลิคอปเตอร์ลำใหญ่ที่ทันสมัยและใหม่เอี่ยม มีอันโตนีโอ้  นั่งประจำตำแหน่งนักบิน พร้อมกับการ์ดอีกคนหนึ่งเพื่อทำหน้าที่นักบินของค่ำคืนนี้ อันโตนีโอ้เช็กความพร้อมก่อนจะติดเครื่อง จากนั้นก็ส่งสัญญาณไปให้หอบังคับการบิน “หอบังคับการ...นี่ My Angel Rocasander เรากำลังจะนำเครื่องขึ้นบินสู่น่านฟ้าทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และจะลงจอดที่ The Lion Sea กรุณาส่งพิกัดเส้นทางการบินที่ปลอดภัยของค่ำคืนนี้มาให้เราด้วย” อันโตนีโอ้แจ้งหอบังคับการบินใหญ่ในประเทศ “สวัสดี My Angel Rocasander นี่หอบังคับการบิน เราได้ส่งพิกัดไปให้แล้ว โปรดทราบ...” หอบังคับการบินตอบกลับ พร้อมส่งพิกัดเส้นทางการบินมาให้ตามคลื่นสัญญาณ “รับทราบ! เราได้รับพิกัดแล้ว” “กรุณาส่งสัญญาณแจ้งหอบังคับการบิน ให้ทราบเป็นระยะๆ” “เราจะรายงานให้ทราบเป็นระยะจนกว่าเครื่องจะลงจอด ขอบคุณ” “เป็นเกียรติที่ได้รับใช้โรคาซานเดอร์ เลิกการติดต่อ” “รับทราบ!” อันโตนีโอ้ตอบก่อนจะนำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบิน “อ๊ะ!” แพรณาราตกใจเมื่อระดับการบินค่อยๆ ทะยานสูงขึ้น “ไม่ต้องกลัวค่ะ” ออร์แลนโด้ลูบแผ่นหลังของสาวเจ้าเบาๆ อย่างปลอบโยน แพรณารารับรู้ถึงความอบอุ่นที่ส่งผ่านมาได้อย่างชัดเจน จึงหันไปยิ้มบางๆ ให้อีกฝ่าย “ดูนั่นสิคะ!” ชายหนุ่มชี้ให้หญิงสาวดู หลังจากที่เฮลิคอปเตอร์บินขึ้นมาได้ในระดับหนึ่ง “ว้าว! สวยจังเลยยค่ะ” เธอมองดูความสวยงามของแสงไฟในเมืองผ่านกระจกใสๆ ด้านข้างอย่างตื่นตาตื่นใจ จนกระทั่งเริ่มเข้าสู่ความมืดมิดในยามค่ำคืนของท้องทะเล และยี่สิบนาทีต่อมาก็เริ่มมองเห็นแสงไฟจากข้างล่างที่ค่อยๆ ใหญ่และชัดขึ้นเรื่อยๆ ‘พระเจ้า! มันเป็นเรือสำราญขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมาเลย’               The Lion Sea… อันโตนีโอ้นำเครื่องลงจอดอย่างนุ่มนวล แพรณาราถอนหายใจอย่างโล่งอก เพราะยังเกร็งกับความแปลกใหม่ของทุกอย่างในวันนี้ ออร์แลนโด้    ก้าวลงมายืนรอรับสาวเจ้าที่สวยสะพรั่งและเย้ายวนไปทั้งเนื้อทั้งตัวด้วยสีหน้า ยิ้มแย้ม “The Lion Sea  ยินดีต้อนรับนางฟ้า...เชิญครับ” “ขอบคุณค่ะ” แพรณารายืนนิ่งกับมนตร์เสน่ห์ของอีกฝ่าย ‘พระเจ้า! เขายิ้มแบบนี้ให้เธอกี่ครั้งแล้วนะ’ “พีเคนายช่วยถ่ายรูปให้หน่อยได้ไหม ขอหลายๆ รูปเลยนะ” ออร์แลนโด้เอ่ยพร้อมกับส่งมือถือให้กับอันโตนีโอ้ เพราะอยากจะเก็บช่วงเวลาดีๆ กับสาวเจ้าเอาไว้ ‘ผู้หญิงอะไรวะ! น่ารักเป็นบ้าเลย’ แพรณาราหันไปยิ้มให้กล้องมือถือราคาแพง ขณะที่คนหน้ามึนทั้งโอบกอดและหอมแก้มเธอโชว์กล้องไปมาอย่างไม่รู้จักอาย “เราเข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ พี่สั่งอาหารเอาไว้แล้ว รับรองว่ามิกิจะต้องชอบ” ชายหนุ่มเอ่ยชวนหลังจากที่คนสนิทถ่ายรูปให้เสร็จ “ค่ะ” แพรณารารู้สึกเขินๆ อย่างบอกไม่ถูก ออร์แลนโด้ยิ้มกว้างก่อนจะพาสาวเจ้าเดินมายังประตูทางเข้า การ์ดที่ยืนรออยู่ด้านหน้ารีบเปิดประตูให้ทั้งสองเข้าไปข้างในห้องอาหารขนาดใหญ่มีดนตรีขับกล่อมอย่างไพเราะ พร้อมด้วยการตกแต่งที่หรูหรา  หญิงสาวกวาดตามองรอบๆ อย่างตื่นตาและตกตะลึงกับหลายๆ อย่าง ที่อีกฝ่ายทำให้อึ้งแล้วอึ้งอีกจนเธอไม่มีเวลาได้หยุดคิดอะไรเลย! ขณะที่ทั้งสองเข้ามาถึงห้องอาหาร สายตาหลายคู่หันมามองกันอย่างอยากรู้อยากเห็น เพราะการ์ดมายืนรอที่ประตูทางเข้าห้องอาหารราวๆ สิบกว่าคน ทำให้เป็นจุดสนใจ และป้ายจองที่วางตรงโต๊ะโซนวีไอพีนั้น บ่งบอกว่ากำลังจะมีบุคคลสำคัญเดินทางมายังห้องอาหารแห่งนี้ หลายคนที่เคยมาเที่ยวต่างรู้กันดีว่าออร์แลนโด้เป็นเจ้าของเรือสำราญ เดอะไลออนซี ที่ทุ่มทุนสร้างร่วมกับคารอส เพชรดนัย ร็อฟเวลล์ ภายในเรือสำราญขนาดมหึมานี้สามารถบรรจุคนได้ถึงห้าพันคน มีทั้งกาสิโน สำหรับเหล่าคนมีเงินจากทั่วโลก ได้คลายเครียดและแสวงหาโชค ทั้งยังมีฟิตเนส สระว่ายน้ำ สวนสนุก สปาที่เตรียมเอาไว้อย่างครบครัน พร้อมกับห้องอาหารขนาดใหญ่ ที่มีนักดนตรีขึ้นมาขับกล่อมเสียงเพลงตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง และไนต์คลับที่เหล่า  เซเลบคนดังจากทั่วโลกต่างพากันมาลิ้มลองความหรูหราระดับโลก ที่สักครั้งในชีวิต ต้องมาเช็กอินที่ The Lion Sea   ให้ได้  
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม