ฉันมองเห็นรอยยิ้มของพ่อที่มุมปากอีกครั้ง ซึ่งเป็นรอยยิ้มที่ฉันไม่สามารถคาดเดาความคิดของท่านออก
“ก็ไม่เห็นว่าจะเกี่ยวกับเราตรงไหน ในเมื่อพินัยกรรมระบุเอาไว้อย่างนั้น มันก็ไม่มีทางใดที่วังแห่งนั้นจะตกไปอยู่ในมือของคนอื่น”
“มีทางเลือกเดียวที่จะได้วังมาครอบครอง คือถ้าแกแต่งงานกับหม่อมหลวงเทวานุพงศ์ หม่อมพิศพิไลจะยกวังสุรีรัตน์ให้เป็นสินสอด”
ฉันอ้าปากค้างเมื่อได้ยินสิ่งที่พ่อต้องการ “ดาวไม่แต่งงานเพราะหวังสมบัติพัสถานหรอกนะคะ คนอื่นจะพูดว่ายังไง”
“ก็จะพูดว่าแกเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลกน่ะสิ หรือแกจะหาผู้ชายมาแต่งงานได้ทันวันที่แกประกาศออกไป”
“พ่อคะ...” ฉันพยายามเปล่งเสียงให้ออกมาจากลำคอ แต่มันก็แผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน
แม้ว่าสิ่งที่ฉันทำจะไม่ใช่เรื่องดี แต่นั่นก็ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ดีเหมือนกัน
“คิดดูดีๆ นะดาว ถ้าแกแต่งกับหม่อมหลวงเทวานุพงศ์ นอกจากจะชนะคำท้าของเพื่อน แกยังจะยืดอกได้อย่างภาคภูมิ เพราะสามีของแกเป็นถึงหม่อมหลวงและได้ครอบครองวัง”
สายตาคมกริบของประมุขแห่งพิมานหันมาสบตาฉันนิ่ง และพูดดักคอฉันอีกรอบ “ไม่ต้องคิดว่าจะไปลากผู้ชายที่ไหนมาแต่งงานจัดฉากเหมือนอย่างที่เพื่อนแกทำ เพราะฉันจะไม่มีวันยอมรับเด็ดขาด”
“พ่อรู้เหรอคะ”
“ฉันอาบน้ำร้อนมาก่อน เรื่องแค่นี้ตบตาไม่ได้หรอก แกอย่าลืมว่าฉันเป็นเจ้าของโรงแรม แค่ยกโทรศัพท์ไปถามพนักงานฉันก็รู้เรื่องทั้งหมดแล้ว เพราะฉะนั้น...แกไม่ต้องหามุขตื้นๆ แบบนั้นมาใช้กับฉัน”
ฉันยิ้มแหยส่งให้ท่าน พ่อมีวิธีการจัดการและดักคอในสิ่งที่ฉันคิดไว้ก่อนเสมอ
“ฉันรู้มากกว่านั้นอีกนะ” ประมุขของบ้านบอกอย่างเนิบนาบเหมือนอยากจะเล่าต่อ สายตาคมกริบมองมาที่ฉันอย่างหยั่งเชิง
ทั้งที่อยากรู้ใจจะขาดแต่ฉันก็ไม่กล้าถาม แต่ก็เหมือนพ่อของฉันจะเดาความรู้สึกของฉันออก
“ไม่ต้องมาทำหน้าอยากรู้ ฉันไม่บอกแกหรอก”
‘เอ้าพ่อ! ทำให้อยากแล้วจากไปแบบนี้ได้เหรอ’
“สารภาพว่าดาวทำไปก็เพราะเมา ตอนนี้ดาวก็คิดไม่ออกเหมือนกันว่าจะทำยังไง”
“ฉันอยากรู้เหมือนกันว่าความฉลาดของแกจะมีมากพอที่จะเลือกคู่ครองหรือเปล่า ฉันจะให้แกเลือกชีวิตของแกเอง แกจะลองศึกษาผู้ชายที่ฉันหมายตาเอาไว้ให้ก่อน คือคุณทวิช กุลบริฉัตรทายาทคนรองของบริษัทซอฟต์แวร์ หรือหม่อมหลวงเทวานุพงศ์ก็ตามใจแก แต่ไม่รู้ว่าพวกเขาจะยังโสดรอแกหรือเปล่า เป็นหน้าที่ของแกไปหาข้อมูลเอง”
‘เอ๊ะ! แต่ทำไมชื่อเหมือนสามีเพื่อนจังวะ...ทวิช’
“แต่ทายาทของคุณป้าทาริกายังอยู่ต่างประเทศนี่คะ” ฉันถามอย่างแปลกใจ
ฉันเคยเจอและรู้จักคุณป้าทาริกามาก่อน ท่านก็ให้ความเอ็นดูฉันเหมือนลูกหลาน แต่ก็ยังไม่มีข่าวว่าบุตรชายคนเล็กของท่านจะกลับมาจากต่างประเทศ จะมีก็แต่เพียงทวัชบุตรชายคนโตที่เป็นแฟนของพราวลดาเท่านั้น
บุตรชายคนเล็กของท่านใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกตั้งแต่เด็ก ไม่เคยมีใครเคยเห็นภาพของเขาตามสื่อสักครั้ง จนหลายคนคิดว่าทายาทมีเพียง ทวัชคนเดียว
“เขากลับมาแล้ว” พ่อบอกด้วยน้ำเสียงเนิบนาบไม่ต่างจากเดิม
“อีกคนที่พ่อหมายถึงคือหม่อมหลวงเทวานุพงศ์ ทายาทของวัง สุรีรัตน์ใช่มั้ยคะ”
“ฉันก็อยากเห็นฝีมือของแก จะเอาชนะผู้ชายโพรไฟล์ระดับนั้นได้หรือเปล่า ถ้าทำได้เพื่อนของแกทุกคนต้องตะลึง แต่ผู้ชายหนึ่งในสองคนนั้นมีตำหนิเล็กน้อย แต่ฉันก็พอรับได้”
“พ่อหมายความว่ายังไงคะ”
“ฉันคิดว่าแกจะฉลาดมากกว่านี้เสียอีก เอาเวลาที่มานั่งถามไปนอนดีกว่ามั้ย สภาพแกดูไม่จืดเลย”
“ค่ะพ่อ” ฉันตอบรับคำท้าทายอย่างไม่ต้องเสียเวลาคิด อย่างน้อยพ่อก็การันตีระดับหนึ่ง
ฉันเตรียมตัวจะลุกออกไป แต่พ่อก็พูดแทรกมาอีกประโยค
“ฉันกลัวอย่างเดียวว่า ถ้าผู้ชายเจอแกจะหนีเตลิดเปิดเปิงไปหมด” คำท้าทายของพ่อคือแรงฮึดของฉัน ฉันบอกอย่างมั่นใจ
“พ่อเตรียมตัวพิมพ์การ์ดแต่งงานและสั่งพนักงานจัดงานแต่งได้เลยค่ะ”
“หวังว่าจะไม่มีดีแค่ปากเก่งนะ หมดธุระแล้ว แกไปนอนต่อเถอะ” ประมุขของบ้านไล่ฉันดื้อๆ หลังจากที่คุยธุระจบ ฉันพยักหน้าน้อยๆ
“พ่อคะ ดาวถามอะไรอีกหน่อยได้หรือเปล่า”
“ก็ถามมาสิ”
“ดาวรู้มาว่าสุรีรัตน์กำลังขาดสภาพคล่อง ทำไมคุณพ่อถึงอยากให้ดาวแต่งงานกับคนในตระกูลนี้”
“มันเป็นทางเดียวที่เราจะได้ครอบครองวัง วังจะถูกโอนเป็นชื่อของแกหลังจากแต่งงาน หลังจากนั้นเราจะเอาไปทำอะไรก็ได้ วังแห่งนั้นจะสร้างเม็ดเงินให้เรามหาศาลและแกก็มีอำนาจที่จะบริหารสุรีรัตน์ทรานสปอร์ตของเขาด้วย เห็นมั้ยว่ามันง่ายและคุ้มค่าขนาดไหน”
ฉันรู้สึกเหมือนกำลังขาดอากาศหายใจ แต่ก็พยักหน้ารับรู้ในสิ่งที่พ่อต้องการ “ค่ะพ่อ ดาวขอตัวนะคะ”
เพียงขยับตัวลุกจากเก้าอี้และหมุนตัวเดินออกไป น้ำตาที่ฉันพยายามอัดอั้นเอาไว้ก็พังทลายลง ฉันก็เป็นเพียงแค่ข้อต่อรองในเชิงธุรกิจเท่านั้น
สิ่งที่รับรู้สร้างความเจ็บปวดจนฉันแทบไม่มีแรงยืน เมื่อรู้ว่าตัวเองเป็นแค่หมากที่พ่อของตัวเองยืมมาใช้ในเชิงของธุรกิจ ฉันเฝ้าถามตัวเองนับร้อยรอบ พ่อเคยรักฉันแบบที่พ่อคนอื่นรักลูกบ้างไหม
นักธุรกิจที่มีเขี้ยวเล็บรอบด้านอย่างพิมานยิ้มตามหลังลูกสาวออกไปอย่างมีความหวัง เขาคิดแผนออกเมื่อเห็นดารกาประกาศแต่งงานทั้งที่โสดสนิท เพราะรู้ว่าดารกากลัวคำท้าทายและแพ้ไม่ได้เขาจึงรีบยื่นมือเข้ามาช่วย
คนอย่างดารกาไม่ชอบถูกบีบบังคับหรือมัดมือชกเขาจึงเพิ่มตัวเลือกให้อีกหนึ่งเพื่อความท้าทายอยากเอาชนะ ทั้งที่รู้ว่าคุณทาริกาก็เปลี่ยนเป้าหมายไปเป็นป่านฝัน หลังจากที่ดารกาบ่ายเบี่ยงไม่อยากรู้จักทวิชตั้งแต่ 3 ปีก่อนแล้ว
แต่ก็ไม่รู้ว่าเรื่องราวอลวนในงานแต่งงานของป่านฝันเมื่อคืน เจ้าบ่าวถูกเปลี่ยนตัวและจะจับพลัดจับผลูมาเป็นทวิชได้อย่างไร ทั้งที่ชื่อในการ์ดเป็นกัปตันนวิน เพียงแค่เห็นภาพแต่งงานของป่านฝันเมื่อคืนพิมานก็รู้ในทันทีว่าเจ้าบ่าวเป็นใคร เพราะทวิชเคยไปต้อนรับและอำนวยความสะดวกให้เขาตอนที่ไปประชุมที่อเมริกา แต่ก็อยากรู้ว่าลูกสาวจะจัดการกับคนที่ตัวเองเลือกให้ทั้งสองคนอย่างไร
สำหรับหม่อมพิศพิไล พิมานมีข้อตกลงในเชิงผลประโยชน์และธุรกิจเกี่ยวกับวังสุรีรัตน์และสินสอดสมรส แม้ว่าบุคลิกภาพของว่าที่ลูกเขยจะไม่เข้าตา แต่เขาก็เชื่อว่าไม่เกินความสามารถของ ดารกาที่จะสามารถจัดการทุกอย่างได้
ฝ่ายนั้นดำเนินธุรกิจติดลบและมีหนี้หลายร้อยล้าน เพราะความจมไม่ลงและหน้าบางเกินกว่าจะบอกกับคนอื่นว่าใกล้จะล้มละลายเต็มที นางจึงบ่ายหน้ามาพึ่งเขา นักธุรกิจที่อยากได้วังสุรีย์รัตน์เพื่อทำธุรกิจจึงไม่รีรอที่จะรับข้อเสนอ
โดยมีข้อตกลงร่วมกันว่าเขาจะต้องยกลูกสาวให้แต่งงานกับหม่อมหลวงเทวานุพงศ์ทายาทเพียงคนเดียวของวัง ฝ่ายโน้นจะยกวังสุรีรัตน์และสุรีรัตน์ทรานสปอร์ตให้เป็นสินสอด โดยมีเงื่อนไขพิเศษคือต้องรับชำระหนี้สินที่ติดกับธนาคารของวังทั้งหมด หากใช้พื้นที่สุรีรัตน์ไปทำธุรกิจอื่นที่ก่อให้เกิดรายได้ จะต้องแบ่งหุ้นให้ร้อยละ 30
แม้จะเป็นข้อเสนอที่เขาเสียเปรียบ แต่นักธุรกิจอย่างพิมานยอมรับได้เพราะเห็นช่องทางที่จะทำรายได้อีกมากจากวังสุรีย์รัตน์หรือแม้แต่ สุรีรัตน์ทรานสปอร์ตที่กิจการย่ำแย่ตัวเลขติดลบมากว่า10 ปี
พิมานกังวลว่าลูกสาวจะไม่ได้แต่งงาน หากได้มีโอกาสที่จะได้เห็นลูกสาวออกเรือนนับว่าเป็นผลประโยชน์ที่คุ้มเกินคุ้ม เมื่อข้อตกลงนี้เป็นผลสำเร็จได้เกี่ยวดองกับคนมีเชื้อสายก็จะช่วยเกื้อหนุนในเชิงธุรกิจอีกทาง อย่างน้อยสุรีย์รัตน์ก็ยังคงเป็นที่นับหน้าถือตาและมีสายป่านที่ทอดยาวอยู่ไม่น้อย
แต่มีอีกหนึ่งเหตุผลที่พิมานจะบอกลูกสาวหลังจากจดทะเบียนสมรส คือเธอจะต้องมีทายาทถึงจะได้ครอบครองวังสุรีรัตน์อย่างสมบูรณ์ ถึงตอนนั้นดารกาจะไม่มีสิทธิ์คัดค้านทุกกรณี
พิมานยิ้ม นึกขอบคุณเหตุการณ์เมื่อคืน มันทำให้ทุกอย่างลงตัวและเกิดขึ้นได้เร็วขึ้นโดยไม่ต้องวางแผน ตอนนี้ก็เพียงแค่รอให้ทุกอย่างเดินไปตามสิ่งที่ดารกาก่อเอาไว้แค่นั้น
หากทุกอย่างสำเร็จเขาก็จะได้ทั้งลูกเขยและหลานสืบสกุล รวมถึงวังสุรีรัตน์และกิจการทั้งหมดของพวกเขาด้วย ถ้าในมุมมองนักธุรกิจอย่างเขาก็มีแต่ได้กับได้เท่านั้น
เหลือเวลาอีกเพียง 87 วัน ทุกอย่างจะเป็นไปตามสิ่งที่เขาต้องการ