Chapter 12 และ...เขาอีกคน
ในงานเลี้ยงขอบคุณทีมผู้บริหารของบริษัทเคจี กรุ๊ป ฉันคาดหวังว่าจะได้เจอลูกชายคนเล็กของตระกูล ถ้าหากว่าเขากลับมาจริงๆ ฉันคิดว่าคงมีโอกาสได้เจอและทำความรู้จักกับเขา
“ทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม”
ผู้จัดการฝ่ายจัดเลี้ยงของโรงแรมส่งยิ้มให้ฉันและตอบออกมาอย่างสุภาพ “ไม่มีปัญหาครับ ทุกอย่างเรียบร้อยดี”
“แล้วงานแต่งงานฝั่งโน้นล่ะ”
“งานเล็กๆ ที่เชิญแขกเพียง 100 กว่าคน ไม่เคยมีปัญหาสำหรับเรานะครับ” ผู้จัดการบอกอย่างมั่นใจ ซึ่งมันก็เป็นความจริง ปกติงานเล็กๆ แบบนี้ฉันแทบจะไม่ต้องลงมาดูเองด้วยซ้ำ
“ดีแล้ว”
“คุณดาวจะกลับเลยหรือเปล่าครับ”
“ยังหรอก วันนี้ฉันไม่มีธุระต้องรีบไปไหน” เพราะงานของฉันเยอะจนแทบไม่มีเวลา ไม่บ่อยที่ฉันจะลงมาดูแลห้องจัดเลี้ยงด้วยตัวเอง แต่วันนี้ผิดปกติจากที่ทำจนหลายคนแปลกใจ
“พี่พิมพ์กลับบ้านไปก่อนก็ได้ค่ะ ดาวอยู่ที่นี่สักพักก็จะกลับแล้ว” ฉันหันไปบอกเลขาที่เดินตามมาอย่างเกรงใจ เพราะถ้าหากว่าฉันยังไม่กลับเลขาของฉันก็ต้องอยู่ด้วยเหมือนกัน
แต่ว่าพิมพ์วรามีครอบครัว ฉันก็อยากให้เธอกลับไปดูแลครอบครัว ความรู้สึกรอคอยโดดเดี่ยวและอ้างว้างสำหรับคนที่รออยู่บ้านมันเจ็บปวด ฉันไม่อยากให้ลูกของเธอรู้สึกเหมือนอย่างที่ฉันเป็น
“แต่ว่า...” เลขาของฉันเตรียมอ้าปากปฏิเสธ แต่ฉันก็ดักคอไว้ก่อน
“ไม่มีแต่ค่ะ...น้องแพรกับน้องพลอยไม่ได้กินกับข้าวฝีมือแม่มากี่อาทิตย์แล้วนะ” ฉันยิ้มให้พร้อมกับกระเซ้า
ครอบครัวของพิมพ์วราก็เหมือนครอบครัวสังคมเมืองทั่วไป สร้างครอบครัวโดยเริ่มจากการผ่อนบ้านผ่อนรถโดยให้เหตุผลว่าต้องการให้ลูกสุขสบาย พ่อกับแม่ออกไปทำงานแต่เช้าและกลับดึก อาหารของลูกจะเป็นแกงถุงหรืออาหารสำเร็จรูปจากนอกบ้าน แต่ทั้งพ่อและแม่ไม่เคยลืมสร้างความสุขให้ลูกๆ พวกเขามักมีกิจกรรมที่ทำร่วมกันเสมอ
“งั้นพี่กลับนะคะ” พิมพ์วราบอกลา ฉันส่งยิ้มให้แทนคำตอบก่อนที่เธอจะหมุนตัวเดินออกไป
พ้นหลังพิมพ์วราที่ก้าวออกไปเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทซอฟต์แวร์ก็เริ่มทยอยเข้ามาในงาน พราวลดาเพื่อนของฉันก็ตามเจ้านายหนุ่มที่พ่วงตำแหน่งแฟนของเธอมาด้วย
“ดาว...อยู่เหรอ”
“ฉันลงมาดูแลความเรียบร้อยก่อนกลับบ้านน่ะ” ฉันตอบเพื่อนสาวและหันไปทำความเคารพผู้ใหญ่ที่เดินตามหลังมา
“สวัสดีค่ะคุณลุงคุณป้า คุณทวัช”
“ไม่คิดว่าวันนี้จะได้เจอหนูดาว เห็นคุณพิมานบอกว่าหนูงานยุ่งมาก” คุณลุงทวีปส่งยิ้มและชวนคุยอย่างเป็นกันเอง
“ก็ยุ่งเหมือนเดิมค่ะคุณลุง คุณพ่อขยันหางานให้ดาวทำไม่หยุด” ฉันบอกพร้อมรอยยิ้ม แต่ไม่มีใครรู้ว่าภายใต้รอยยิ้มนั้นซุกซ่อนอะไรเอาไว้บ้าง
“เห็นคุณพิมานบอกว่าโปรเจกต์คอนโดฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาก็ขายจะหมดแล้ว นี่กำลังจะเริ่มต้นทำบ้านพักตากอากาศที่เขาใหญ่ใช่ไหม”
“ใช่ค่ะคุณลุง แต่ก็เพิ่งจะเริ่มโครงการได้ 10%”
“เก่งจริงๆ ลุงเสียดายที่ไม่ได้หนูมาเป็นลูกสะใภ้”
“ก็คุณทวิชไม่ยอมมาทำความรู้จักกับดาวสักทีนี่คะคุณลุง” ฉันหยอดอย่างออดอ้อนด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน
“เพราะหนูปฏิเสธพ่อวิชก่อนต่างหากล่ะจ๊ะ นี่พอจับคู่ให้หนูป่าน หนูป่านก็ชิงแต่งงานไปก่อนอีก อาภัพรักจริงๆ ลูกชายป้า รอมา 3 ปีแล้วหนูดาวยอมใจอ่อนบ้างหรือยังนะ” คุณป้าทาริกาหยอกเย้าฉันต่อ
ฉันยิ้มที่มุมปาก เมื่อคุณป้าทาริกาเปิดโอกาสให้ฉันได้หาข้อมูล “วันนี้คุณทวิชมาร่วมงานด้วยหรือเปล่าคะ เห็นคุณพ่อบอกว่าเขากลับมาแล้ว”
“ทวิชยังไม่พร้อมที่จะเข้ามาทำงานครับ” ทวัชเป็นฝ่ายตอบแทน
“อ๋อ...อย่างนั้นเหรอคะ เหมือนจะคุ้นๆ เจ้าบ่าวของป่านฝันชื่อว่าทวิชเหมือนกัน วันก่อนเห็นคุณทวัชเหมือนจะรู้จักกับเจ้าบ่าวของป่านด้วย” ฉันโยนหินถามทางเพื่อดูปฏิกิริยา ฉันเห็นทวัชเงยหน้าขึ้นสบตามารดาเล็กน้อย แต่นั่นก็ทำให้ฉันมั่นใจว่าเดาถูกทาง
พราวลดามองหน้าฉันอย่างประหลาดใจ เธอคงไม่คิดว่าฉันจะพูดออกมาแบบนี้ เมื่อเห็นใบหน้าตกใจของพราวลดาฉันก็แน่ใจว่าเธอก็ไม่รู้เรื่องนี้เช่นกัน ตอนนี้ฉันกำลังคิดไปถึงว่า...ป่านฝันจะรู้จักเจ้าบ่าวของตัวเองจริงๆ หรือเปล่า
“แต่ดาวคงคิดผิด งานแต่งลูกชายทั้งทีคุณป้ากับคุณลุงคงไม่พลาดที่จะมาร่วมงานใช่ไหมคะ”
คุณทาริกาส่งยิ้มให้ฉันพร้อมกับเปลี่ยนเรื่อง “ป้าอยากลองไปรับประทานอาหารที่ Sky House ของโรงแรม หนูดาวพอจะมีเวลาว่างสักวัน ไปแนะนำอาหารให้ป้าได้หรือเปล่า”
“ได้เสมอเลยค่ะคุณป้า ดาวยินดีค่ะ”
“โอเคจ้า เดี๋ยวป้าจะให้หนูพราวนัดให้”
“ค่ะ”
“เข้างานกันเถอะคุณ ทีมผู้บริหารเข้าไปกันหมดแล้ว” คุณทวีปจูงมือภรรยาเดินเข้าไปในงาน พราวลดาหันไปบอกเจ้านาย
“พราวขอคุยกับเพื่อนสักครู่นะคะ เดี๋ยวตามเข้าไป”
ทวัชพยักหน้าน้อยๆ ให้แฟนสาวและเดินเข้าไปในงาน
“เธอรู้อะไรมา” พราวลดาหันมาถามฉันด้วยน้ำเสียงจริงจัง แต่ฉันกลับยักไหล่หัวเราะขำ
“ถ้าฉันไม่บอก คงจะไม่ผิดนะ” พูดได้เต็มปากว่าฉันเองก็ไม่รู้อะไร แต่เพียงสนุกที่จะได้ยั่วเพื่อนเล่น ผู้หญิงเรียบร้อยอย่างพราวลดาน่าแกล้งจะตาย
“เธอคิดจะทำอะไรกันแน่”
“เธอก็รู้อยู่แก่ใจว่าการแต่งงานของยัยป่านเป็นวิวาห์จัดฉาก แม้ว่าตอนนี้ยัยป่านจะแสดงบทบาทไปฮันนีมูนกับสามีหวานชื่น แต่ก็ไม่สามารถตบตาฉันได้หรอก”
พราวลดาหน้าเสียเมื่อโดนฉันจี้จุดได้ตรงประเด็น
“ฉันขอร้องนะดาว ให้ป่านแก้ปัญหาเองเถอะ”
“เธอไม่ต้องห่วงหรอกพราว...งานนี้จะไม่พังเพราะฉันแน่นอน แต่จะพังเพราะคนก่อเรื่องอย่างยัยป่านนั่นแหละ”
“ฉันได้ยินแบบนี้ก็สบายใจ ฉันไปทำงานก่อนนะ”
“บาย...แล้วเจอกัน” ฉันบอกลาเพื่อนแล้วหมุนตัวเดินออกจากหน้าห้องจัดเลี้ยง ตอนนี้ฉันเริ่มสบายใจขึ้นเมื่อรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองคิดมีเค้าลางของความจริง จากนี้ก็เพียงรอเวลาที่จะได้เจอคุณป้าทาริกาอีกครั้ง