Chapter 8 พระอาทิตย์ที่ร้อนแรง
Sunshine Studio...ปลายนิ้วมือหนาของชายหนุ่มนวดบนขมับของตัวเองเบาๆ ดวงตาเหม่อลอยมองจอมอนิเตอร์ที่อยู่ตรงหน้า
“แกทำบ้าอะไรวะซัน ผูกมัดตัวเองทำไม”
เสียงโทรศัพท์ส่งสัญญาณเตือนให้เจ้าของเครื่องตื่นจากภวังค์ หม่อมหลวงเทวานุพงศ์กำลังครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน
คิดถูกหรือเปล่าที่ซื้อคอนโดฯ ให้พินทุอร แม้ว่าสำหรับเขาจะเป็นการตอบแทนในเชิงธุรกิจ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาสร้างสิ่งผูกมัดให้ตัวเอง
ใช่...เขายอมว่ารู้สึกดีกับพินทุอร เธอเป็นผู้หญิงฉลาดเฉลียว ตลอดระยะเวลาที่คบกันเธอไม่เคยทำให้เขารู้สึกหนักใจ เป็นผู้หญิงในแบบที่เขาต้องการ นิ่งและเงียบ พร้อมจะอยู่รอในพื้นที่ของตัวเองโดยไม่เรียกร้องใดๆ
เขายกโทรศัพท์ขึ้นมองหน้าจอ เมื่อเห็นว่าต้นสายคือโปรดิวเซอร์รายการ เขาจึงรีบกดรับ
[มีอะไรหรือเปล่า]
[คุณเจนจิราอยู่กับคุณซันหรือเปล่าครับ]
[เปล่านี่ มีอะไรด่วนหรือเปล่า]
[กองถ่ายตั้งกล้องและเซตฉากรอคุณเจนจิรามา 3 ชั่วโมงแล้ว แต่ไม่มีใครสามารถติดต่อเธอได้เลย]
[มีคอนเฟิร์มคิวงานมาหรือยัง]
[วันนี้เป็นคิวปกติของเธอนะครับ]
[หมายความว่ายังไม่มีคอนเฟิร์มจากเธอ คิดไปเองว่าเธอจะต้องมาใช่ไหม] เสียงของเจ้านายหนุ่มแสดงความไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน ทำให้โปรดิวเซอร์รายการรีบลนลานตอบ
[ฝ่ายประสานงานติดต่อแจ้งคิวงานเธอไปตามปกติ เธออ่านและตอบรับมาแล้วครับ]
[แล้วการตามเรื่องพิธีกร มันเป็นหน้าที่ของฉันหรือไง]
[ขอโทษครับคุณซัน ผมไม่มีทางเลือกจริงๆ ถ้าไม่สามารถติดต่อเธอได้ภายในวันนี้ ทีมงานก็ต้องยกกอง นั่นหมายถึงปัญหาที่จะตามมาอีกมากครับ ช่วงนี้เป็นช่วงไฮซีซั่นทางโรงแรมไม่สามารถให้คิวรายการถ่ายทำได้อีก เพราะมีนักท่องเที่ยวจองล่วงหน้ามาเต็มหมดแล้ว] เสียงของโปรดิวเซอร์ไม่ค่อยจะสู้ดีทำให้หม่อมหลวงเทวานุพงศ์ลดความหงุดหงิดในน้ำเสียงลง
[เดี๋ยวฉันจะช่วยตามให้ เทปนี้ถ่ายที่ไหนนะ]
[ที่แหลมงอบจังหวัดตราดครับ]
[OK]
หม่อมหลวงเทวานุพงศ์ตอบรับก่อนจะวางสายโทรศัพท์ ลุกออกจากโต๊ะทำงานของตัวเอง เป้าหมายคือที่พักของเจนจิรา ปลายนิ้วมือกดต่อโทรศัพท์หาเพื่อนและคนรู้จักของเธอไปด้วย เพราะรู้ว่าทีมงานพยายามติดต่อเธอและผู้จัดการส่วนตัวอยู่แล้ว
ทุกสายตอบกลับว่าไม่มีใครพบตัวเจนจิรา เขาจึงรีบตรงดิ่งไปที่คอนโดฯ ของเธอ สถานที่คุ้นเคยที่เขาแวะเวียนมาเป็นประจำ
นิติกรของคอนโดฯ ให้การยืนยันว่าเธอยังอยู่ในห้อง ย้ำว่าเพิ่งเห็นเจนจิรากลับเข้ามาไม่นาน หม่อมหลวงเทวานุพงศ์จึงขอขึ้นไปพบเธอที่ห้อง
ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากเย็นเพราะเขามาที่นี่บ่อยจนคุ้นเคยกับนิติกรและเจ้าหน้าที่ทั้งหมดของที่นี่ รวมไปถึงการยินยอมของเจ้าของห้อง เธอแจ้งเจ้าหน้าที่เอาไว้ว่าเขาสามารถเข้าออกห้องของเธอได้ตลอดเวลา
หลังจากเคาะประตูส่งสัญญาณ เจ้าของห้องก็เดินมาเปิดประตู
“ทำไมไม่เปิดโทรศัพท์ รู้หรือเปล่าว่าทีมงานกำลังเดือดร้อนตามหาคุณมากแค่ไหน”
“เจนท้องเสียนะคะ ลุกไม่ได้ตั้งแต่เมื่อคืน” เจนจิราตอบ ซึ่งขัดแย้งกับคำบอกเล่าของนิติกรคอนโดฯ เมื่อครู่ หม่อมหลวงเทวานุพงศ์เก็บข้อมูลโดยไม่โต้แย้งอะไร
“แล้วคุณไปหาหมอหรือยัง” เขาถามอย่างใจเย็น
“คุณเป็นห่วงเจนด้วยเหรอคะ”
“ทำไมคุณพูดแบบนั้นล่ะ”
“คุณทำตัวห่างเหิน ช่วงนี้คุณไม่ค่อยแวะมาหาเจนบ้างเลย” เจนจิราตัดพ้ออย่างน้อยอกน้อยใจ
หม่อมหลวงเทวานพพงศ์ลอบถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย
“คุณก็รู้ว่าผมงานยุ่งแค่ไหน และตอนนี้ก็ไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดถึงความสัมพันธ์ของเรา ผมอยากรู้ว่าทำไมคุณถึงปิดโทรศัพท์จนทีมงานติดต่อไม่ได้” เขาบอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ซุกซ่อนความไม่พอใจเอาไว้
ดูจากใบหน้าของเจนจิราที่ไม่เหมือนคนป่วย หม่อมหลวงเทวานุพงศ์เกลียดคนไร้ความรับผิดชอบมากที่สุดในชีวิต เพราะถึงแม้ว่าเธอจะมีอาการป่วยจริงหรือมีเหตุสุดวิสัย อย่างน้อยควรจะแจ้งทีมงานหรือเปิดโทรศัพท์ให้ติดต่อได้ ไม่ใช่ว่าหายไปโดยไม่บอกกล่าวและปล่อยให้ทีมงาน 10 กว่าชีวิตเดือดร้อนและรออย่างไร้จุดหมาย
แม้ว่าเขาจะเป็นนักท่องราตรีตัวยงและขึ้นชื่อในเรื่องใช้ผู้หญิงเปลือง แต่เขาก็แยกแยะระหว่างเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวออกจากกันอย่างชัดเจน ถึงเวลางานก็ทุ่มเท ถึงเวลาหาความสุขให้ตัวเองก็สุดกู่ไม่ต่างกัน
“เจนเพิ่งจะลุกไหวตอนที่คุณมานี่เองค่ะ”
“เหรอ”
“คุณไม่เชื่อเจนเหรอคะ”
เขาพยักหน้าแบบขอไปที เดินผ่านหน้าเจนจิราไปหย่อนก้นลงนั่งบนโซฟา “ไปแต่งตัวเถอะ ผมจะไปส่งที่ตราด ทีมงานรออยู่”
“แต่เจนป่วยอยู่นะคะ”
หม่อมหลวงเทวานุพงศ์มองเจนจิราอย่างสำรวจอีกครั้ง “จากที่ผมเห็นคุณก็ปกติดีนะ”
“แต่เจนอยากพัก คุณช่วยโทรไปแจ้งยกกองหน่อยได้ไหมคะ”
ทันทีที่ได้ยินประโยคนั้นหม่อมหลวงเทวานพพงศ์ก็ยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน รอยยิ้มของเขาทำให้เจนจิราคิดเข้าข้างตัวเองว่าเขาจะตามใจ เธอโผเข้ากอดเขาอย่างขอบคุณ แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินประโยคที่หลุดออกมาจากปากของเขา
“ก็ได้...คุณสามารถพักได้ยาว ผมคืนคิวให้คุณตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป” น้ำเสียงเข้มและหนักแน่นทำให้เจนจิราหน้าเสีย เจ้าของเสียงลุกขึ้นจากโซฟาและเดินออกจากห้องไปทันทีโดยไม่มองหน้าเธอ
“คุณซันคะ” เจนจิราร้องตาม แต่เขาไม่หันกลับมามอง
“คุณซันรอเจนด้วยค่ะ” เจนจิราวิ่งตาม เธอรู้ว่าเขาเอาจริง ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เธอจะมายืนตรงจุดนี้ เธอจะไม่ยอมปล่อยมันให้หลุดมือไปง่ายๆ เด็ดขาด
หม่อมหลวงเทวานุพงศ์สาวเท้ายาวๆ โดยไม่หันกลับมามอง ปล่อยให้พิธีกรสาววิ่งตามจนกระทั่งถึงรถ
เจนจิราเปิดประตูตามก่อนที่เขาจะออกรถ แต่เพราะช่วงขาของเขาที่ยาวกว่าและไม่หยุดรอเธอ ทำให้หญิงสาวมีอาการหอบน้อยๆ
“ไหวแล้วเหรอ” เขาถามโดยไม่หันหน้ามามอง น้ำเสียงบอกให้รู้ว่าคนพูดกำลังไม่พอใจ เขาเร่งเครื่องยนต์ให้ไปถึงจุดหมายให้ทันเวลา
“ไหวค่ะ” เจนจิราตอบเสียงเบา เธอกำลังกลัวปฏิกิริยาของเขาเพราะทำผิดเต็มประตู
เมื่อคืนปาร์ตี้จนลืมเวลา เผลอหลับที่คอนโดฯ ของเพื่อนและกลับเข้ามาคอนโดฯ ตอนเช้า แต่พอกลับมาถึงก็เกิดขับรถไม่ไหวจนต้องนอนพัก แต่ก็เผลอพักยาวจนเลยเวลาและลืมเปิดเครื่องโทรศัพท์ด้วย