Chapter 8 พระอาทิตย์ที่ร้อนแรง

1206 คำ
Chapter 8 พระอาทิตย์ที่ร้อนแรง Sunshine Studio...ปลายนิ้วมือหนาของชายหนุ่มนวดบนขมับของตัวเองเบาๆ ดวงตาเหม่อลอยมองจอมอนิเตอร์ที่อยู่ตรงหน้า “แกทำบ้าอะไรวะซัน ผูกมัดตัวเองทำไม” เสียงโทรศัพท์ส่งสัญญาณเตือนให้เจ้าของเครื่องตื่นจากภวังค์ หม่อมหลวงเทวานุพงศ์กำลังครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน คิดถูกหรือเปล่าที่ซื้อคอนโดฯ ให้พินทุอร แม้ว่าสำหรับเขาจะเป็นการตอบแทนในเชิงธุรกิจ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาสร้างสิ่งผูกมัดให้ตัวเอง ใช่...เขายอมว่ารู้สึกดีกับพินทุอร เธอเป็นผู้หญิงฉลาดเฉลียว ตลอดระยะเวลาที่คบกันเธอไม่เคยทำให้เขารู้สึกหนักใจ เป็นผู้หญิงในแบบที่เขาต้องการ นิ่งและเงียบ พร้อมจะอยู่รอในพื้นที่ของตัวเองโดยไม่เรียกร้องใดๆ เขายกโทรศัพท์ขึ้นมองหน้าจอ เมื่อเห็นว่าต้นสายคือโปรดิวเซอร์รายการ เขาจึงรีบกดรับ [มีอะไรหรือเปล่า] [คุณเจนจิราอยู่กับคุณซันหรือเปล่าครับ] [เปล่านี่ มีอะไรด่วนหรือเปล่า] [กองถ่ายตั้งกล้องและเซตฉากรอคุณเจนจิรามา 3 ชั่วโมงแล้ว แต่ไม่มีใครสามารถติดต่อเธอได้เลย] [มีคอนเฟิร์มคิวงานมาหรือยัง] [วันนี้เป็นคิวปกติของเธอนะครับ] [หมายความว่ายังไม่มีคอนเฟิร์มจากเธอ คิดไปเองว่าเธอจะต้องมาใช่ไหม] เสียงของเจ้านายหนุ่มแสดงความไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน ทำให้โปรดิวเซอร์รายการรีบลนลานตอบ [ฝ่ายประสานงานติดต่อแจ้งคิวงานเธอไปตามปกติ เธออ่านและตอบรับมาแล้วครับ] [แล้วการตามเรื่องพิธีกร มันเป็นหน้าที่ของฉันหรือไง] [ขอโทษครับคุณซัน ผมไม่มีทางเลือกจริงๆ ถ้าไม่สามารถติดต่อเธอได้ภายในวันนี้ ทีมงานก็ต้องยกกอง นั่นหมายถึงปัญหาที่จะตามมาอีกมากครับ ช่วงนี้เป็นช่วงไฮซีซั่นทางโรงแรมไม่สามารถให้คิวรายการถ่ายทำได้อีก เพราะมีนักท่องเที่ยวจองล่วงหน้ามาเต็มหมดแล้ว] เสียงของโปรดิวเซอร์ไม่ค่อยจะสู้ดีทำให้หม่อมหลวงเทวานุพงศ์ลดความหงุดหงิดในน้ำเสียงลง [เดี๋ยวฉันจะช่วยตามให้ เทปนี้ถ่ายที่ไหนนะ] [ที่แหลมงอบจังหวัดตราดครับ] [OK] หม่อมหลวงเทวานุพงศ์ตอบรับก่อนจะวางสายโทรศัพท์ ลุกออกจากโต๊ะทำงานของตัวเอง เป้าหมายคือที่พักของเจนจิรา ปลายนิ้วมือกดต่อโทรศัพท์หาเพื่อนและคนรู้จักของเธอไปด้วย เพราะรู้ว่าทีมงานพยายามติดต่อเธอและผู้จัดการส่วนตัวอยู่แล้ว ทุกสายตอบกลับว่าไม่มีใครพบตัวเจนจิรา เขาจึงรีบตรงดิ่งไปที่คอนโดฯ ของเธอ สถานที่คุ้นเคยที่เขาแวะเวียนมาเป็นประจำ นิติกรของคอนโดฯ ให้การยืนยันว่าเธอยังอยู่ในห้อง ย้ำว่าเพิ่งเห็นเจนจิรากลับเข้ามาไม่นาน หม่อมหลวงเทวานุพงศ์จึงขอขึ้นไปพบเธอที่ห้อง ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากเย็นเพราะเขามาที่นี่บ่อยจนคุ้นเคยกับนิติกรและเจ้าหน้าที่ทั้งหมดของที่นี่ รวมไปถึงการยินยอมของเจ้าของห้อง เธอแจ้งเจ้าหน้าที่เอาไว้ว่าเขาสามารถเข้าออกห้องของเธอได้ตลอดเวลา หลังจากเคาะประตูส่งสัญญาณ เจ้าของห้องก็เดินมาเปิดประตู “ทำไมไม่เปิดโทรศัพท์ รู้หรือเปล่าว่าทีมงานกำลังเดือดร้อนตามหาคุณมากแค่ไหน” “เจนท้องเสียนะคะ ลุกไม่ได้ตั้งแต่เมื่อคืน” เจนจิราตอบ ซึ่งขัดแย้งกับคำบอกเล่าของนิติกรคอนโดฯ เมื่อครู่ หม่อมหลวงเทวานุพงศ์เก็บข้อมูลโดยไม่โต้แย้งอะไร “แล้วคุณไปหาหมอหรือยัง” เขาถามอย่างใจเย็น “คุณเป็นห่วงเจนด้วยเหรอคะ” “ทำไมคุณพูดแบบนั้นล่ะ” “คุณทำตัวห่างเหิน ช่วงนี้คุณไม่ค่อยแวะมาหาเจนบ้างเลย” เจนจิราตัดพ้ออย่างน้อยอกน้อยใจ หม่อมหลวงเทวานพพงศ์ลอบถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย “คุณก็รู้ว่าผมงานยุ่งแค่ไหน และตอนนี้ก็ไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดถึงความสัมพันธ์ของเรา ผมอยากรู้ว่าทำไมคุณถึงปิดโทรศัพท์จนทีมงานติดต่อไม่ได้” เขาบอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ซุกซ่อนความไม่พอใจเอาไว้ ดูจากใบหน้าของเจนจิราที่ไม่เหมือนคนป่วย หม่อมหลวงเทวานุพงศ์เกลียดคนไร้ความรับผิดชอบมากที่สุดในชีวิต เพราะถึงแม้ว่าเธอจะมีอาการป่วยจริงหรือมีเหตุสุดวิสัย อย่างน้อยควรจะแจ้งทีมงานหรือเปิดโทรศัพท์ให้ติดต่อได้ ไม่ใช่ว่าหายไปโดยไม่บอกกล่าวและปล่อยให้ทีมงาน 10 กว่าชีวิตเดือดร้อนและรออย่างไร้จุดหมาย แม้ว่าเขาจะเป็นนักท่องราตรีตัวยงและขึ้นชื่อในเรื่องใช้ผู้หญิงเปลือง แต่เขาก็แยกแยะระหว่างเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวออกจากกันอย่างชัดเจน ถึงเวลางานก็ทุ่มเท ถึงเวลาหาความสุขให้ตัวเองก็สุดกู่ไม่ต่างกัน “เจนเพิ่งจะลุกไหวตอนที่คุณมานี่เองค่ะ” “เหรอ” “คุณไม่เชื่อเจนเหรอคะ” เขาพยักหน้าแบบขอไปที เดินผ่านหน้าเจนจิราไปหย่อนก้นลงนั่งบนโซฟา “ไปแต่งตัวเถอะ ผมจะไปส่งที่ตราด ทีมงานรออยู่” “แต่เจนป่วยอยู่นะคะ” หม่อมหลวงเทวานุพงศ์มองเจนจิราอย่างสำรวจอีกครั้ง “จากที่ผมเห็นคุณก็ปกติดีนะ” “แต่เจนอยากพัก คุณช่วยโทรไปแจ้งยกกองหน่อยได้ไหมคะ” ทันทีที่ได้ยินประโยคนั้นหม่อมหลวงเทวานพพงศ์ก็ยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน รอยยิ้มของเขาทำให้เจนจิราคิดเข้าข้างตัวเองว่าเขาจะตามใจ เธอโผเข้ากอดเขาอย่างขอบคุณ แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินประโยคที่หลุดออกมาจากปากของเขา “ก็ได้...คุณสามารถพักได้ยาว ผมคืนคิวให้คุณตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป” น้ำเสียงเข้มและหนักแน่นทำให้เจนจิราหน้าเสีย เจ้าของเสียงลุกขึ้นจากโซฟาและเดินออกจากห้องไปทันทีโดยไม่มองหน้าเธอ “คุณซันคะ” เจนจิราร้องตาม แต่เขาไม่หันกลับมามอง “คุณซันรอเจนด้วยค่ะ” เจนจิราวิ่งตาม เธอรู้ว่าเขาเอาจริง ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เธอจะมายืนตรงจุดนี้ เธอจะไม่ยอมปล่อยมันให้หลุดมือไปง่ายๆ เด็ดขาด หม่อมหลวงเทวานุพงศ์สาวเท้ายาวๆ โดยไม่หันกลับมามอง ปล่อยให้พิธีกรสาววิ่งตามจนกระทั่งถึงรถ เจนจิราเปิดประตูตามก่อนที่เขาจะออกรถ แต่เพราะช่วงขาของเขาที่ยาวกว่าและไม่หยุดรอเธอ ทำให้หญิงสาวมีอาการหอบน้อยๆ “ไหวแล้วเหรอ” เขาถามโดยไม่หันหน้ามามอง น้ำเสียงบอกให้รู้ว่าคนพูดกำลังไม่พอใจ เขาเร่งเครื่องยนต์ให้ไปถึงจุดหมายให้ทันเวลา “ไหวค่ะ” เจนจิราตอบเสียงเบา เธอกำลังกลัวปฏิกิริยาของเขาเพราะทำผิดเต็มประตู เมื่อคืนปาร์ตี้จนลืมเวลา เผลอหลับที่คอนโดฯ ของเพื่อนและกลับเข้ามาคอนโดฯ ตอนเช้า แต่พอกลับมาถึงก็เกิดขับรถไม่ไหวจนต้องนอนพัก แต่ก็เผลอพักยาวจนเลยเวลาและลืมเปิดเครื่องโทรศัพท์ด้วย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม