FOREVER รักนิรันดร์ 2

1856 คำ
FOREVER รักนิรันดร์ 2 “คนสวยไม่สบายเหรอเนี่ย” “ใช่ ให้นอนพักก่อน พรุ่งนี้ถ้าดีแล้วเดี๋ยวพี่พาไป” “ก็ได้ครับ เอ้อ พี่ก่อนขึ้นห้องผมเห็นอะไรไม่รู้อยู่ระเบียงห้องคนสวยอะ” “หือ? เห็นเหรอ?” “ไม่ชัดครับ มันเป็นเหมือนเงาพี่ได้ไปมองไหม?” “ไม่นะ เดี๋ยวพี่จัดการเอง อยู่เป็นเพื่อนอิ่มเอมไปก่อน” “ครับ ผมอาบน้ำแล้วเดี๋ยวนอนเป็นเพื่อนคนสวยเอง” แม้จะได้ยินเสียงของพี่ชายและน้องชายคุยกัน แต่เพราะความอ่อนเพลียทำให้ฉันเลือกที่หลับไปอีกครั้ง ไร้เรี่ยวแรงที่จะลืมตาตื่นขึ้นมาใช้ชีวิตจริง ๆ หลายคนคงจะสงสัยว่าสาเหตุที่ทำให้ฉันไม่หลับนั้นมันเกิดจากอะไรกันแน่ ฉันน่ะก็ไม่กล้าเล่าเพราะกลัวจะถูกมองว่าบ้า แต่บางครั้งที่ฉันอยู่ห้องคนเดียวกลับไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองอยู่คนเดียวเลย ไหนจะเหตุการณ์แปลก ๆ ที่เกิดขึ้นในบางครั้ง อุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้แต่พอเป็นฉันทุกอย่างนั้นสามารถเกิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย และฉันมักจะได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเอง เสียงหัวเราะ หรือเสียงอะไรต่าง ๆ ดังชัดขึ้นในช่วงเวลาตีหนึ่งถึงตีสาม ฉันเลยพยายามข่มตาตัวเองให้หลับแต่ก็ไม่สามารถนอนหลับได้เลย ทำให้ช่วงนี้ฉันไม่ค่อยได้นอนบวกกับปีหนึ่งเรียนหนักเลยทำให้ฉันทรุดและล้มป่วยง่ายแบบนี้ยังไงล่ะ น่าเบื่อที่สุดเลยล่ะเรื่องแบบนี้น่ะ ใช้เวลาสองวันอาการฉันถึงดีขึ้นบ้างเล็กน้อย สองหนุ่มมานอนเฝ้าที่ห้อง สิ่งที่แปลกอยู่ตลอดคือเวลาที่มีพี่ชายหรือน้องชายฉันมานอนด้วยฉันจะไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยแต่ความรู้สึกที่โดนจ้องมองยังมีอยู่แต่ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นฉันแค่รำคาญก็เท่านั้นเอง เมื่อได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ฉันก็พอจะมีแรงขึ้นมาบ้างบวกกับอาการที่ดีขึ้นหลังจากกินยา วันนี้อุ่นใจเลยบอกว่าจะพาเราไปกินหมูกระทะร้านที่ความสุขอยากกิน ระหว่างวันฉันก็นั่งเล่นที่โซฟาโดยมีความสุขคอยเฝ้าอยู่ข้าง ๆ ด้วยความห่วงใย “พ่อบอกว่าช่วงวันหยุดยาวสิ้นเดือนจะพาลูกค้าไปพักที่ทะเล เราไปด้วยไหม?” อุ่นใจเอ่ยถามฉันและความสุข พร้อมกับเดินมานั่งที่โซฟาฝั่งตรงข้าม “เอาสิ อยากไป” ฉันตอบพี่ชายตัวเองก่อนจะล้มตัวนอนบนโซฟา ความสุขยื่นมือไปหยิบผ้าห่มผืนเล็กมาช่วยคลุมร่างให้ฉันแล้วหันไปคุยกับพี่ชายอย่างอุ่นใจต่อ “พ่อชวนเหรอครับ” “ใช่ ถ้าไปจะได้ให้คนจองห้องให้น่ะ” “อยากข้ามเกาะด้วย ไปสักสามวันสองคืน แล้วกลับมาค้างบนฝั่งอีกสองคืน” “ไปได้นะวันหยุดยาว เดี๋ยวจะลองคุยกับพ่อให้แล้วกัน” อุ่นใจบอกสั้น ๆ พร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาพ่อ ที่ช่วงนี้ยุ่งเล็กน้อยเพราะมีนักธุรกิจติดต่อเช่าสนามในการจัดการแข่งขันรวมถึงการถ่ายโฆษณาแล้วก็อีกอีกมากมายเห็นว่าเป็นลูกค้ารายใหญ่เลย พ่อเลยต้องดูแลอย่างดีรวมถึงพาไปเที่ยวพักผ่อนนี่ด้วย “จะไปเปลี่ยนชุดก่อนไหม” อุ่นใจถามเราสองพี่น้องที่ยังนอนกลิ้งไปมาอยู่บนโซฟาเบดตัวใหญ่ ทั้งยังซุกตัวใต้ผ้าห่มตั้งแต่หลายนาทีก่อน “เค้าไปชุดนี้” เป็นฉันที่เอ่ยตอบคนแรก เพราะชุดที่สวมอยู่ตอนนี้เป็นเสื้อยืดและกางเกงขาสั้น แค่ออกไปกินหมูกระทะหน้าคอนโดคงไม่ต้องแต่งตัวอะไรมากขนาดนั้นหรอกมั้ง “ผมเองก็ไปชุดนี้” ความสุขตอบ ทั้งยังยกขาขึ้นพาดต้นขาฉันพร้อมกับทำหน้าตาดื้อใส่พี่ชายคนโตของบ้าน ที่เห็นแบบนั้นก็ส่ายหน้าเอือม ๆ กับความดื้อของน้องชายตัวเอง “งั้นพี่ไปเปลี่ยนเสื้อก่อน เสื้อสีขาวเปื้อนแน่ ๆ” อุ่นใจบอกกับเราสองพี่น้องก่อนจะเดินออกจากห้องฉันไปเพื่อกลับไปเปลี่ยนเสื้อที่ห้องของเจ้าตัว ห้องเราสามพี่น้องอยู่ติดกันเลยล่ะ ส่วนลูกพี่ลูกน้องเราก็อยู่ฝั่งตรงข้ามทำให้เราเคาะห้องและพูดคุยกันได้อยู่ตลอดและแทบจะทุกเรื่อง รวมถึงเรื่องที่เราชอบวางแผนไปเที่ยวด้วยกันนี่ด้วย เดี๋ยวทริปที่จะไปกันต้องชวนพี่น้องของเราไปด้วยจะได้สนุก ไอริสนะรายนั้นชอบมากนักล่ะไปเที่ยวพร้อมกับฉัน บอกว่าไปกับหนุ่ม ๆ ที่บ้านทำอะไรไม่ค่อยได้เพราะหนุ่ม ๆ ตามติดเป็นเงา ซึ่งฉันเองก็อยากจะบอกเหมือนกันว่าหนุ่ม ๆ บ้านฉันก็ตามติดเป็นเงาเหมือนกัน “พี่เสร็จแล้ว ไปกันเลยไหม?” อุ่นใจที่เปิดประตูห้องฉันกลับเข้ามารีบเอ่ยชวนฉันและความสุข เมื่อได้ยินแบบนั้นเราทั้งสองคนก็รีบลงจากโซฟาหยิบกระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์ติดมือมา เราทั้งสามคนเลือกที่จะเดินจากคอนโดไปยังร้านหมูกระทะที่ตั้งอยู่ไม่ไกลแล้วยังเป็นร้านอร่อยที่เราสามพี่น้องชอบอีกด้วย “สั่งเลยนะ เดี๋ยวพี่ไปรับโทรศัพท์พ่อก่อน” อุ่นใจบอกกับเราทั้งสองคนเมื่อเข้ามานั่งที่โต๊ะได้สักพักก็มีโทรศัพท์จากพ่อดังขึ้นมา ฉันกับความสุขจึงทำหน้าที่สั่งอาหารที่ถูกจัดขายเป็นชุด สั่งตามความชอบของเราเอง รวมถึงเครื่องดื่มด้วย “ตัวเอาแมงกะพรุนไหม?” ฉันเอ่ยถามพร้อมกับหันหน้าไปมองความสุข “เอา ๆ คนสวยสั่งมาให้เลย เอาสาหร่ายด้วยนะ” “ได้ พวกหมูและสามสั้นเค้าสั่งมาแล้วนะ” “เยี่ยมครับ เอาลูกชิ้นไส้กุ้งด้วยนะ” ความสุขเอ่ยย้ำ และเราสามพี่น้องดันชอบกินอะไรเหมือน ๆ กันอีกด้วย เลยทำให้เราเวลาที่ต้องเลือกร้านข้าวหรือสั่งอะไรมากินไม่ได้ยุ่งยากที่ต้องเลือกสิ่งของหรือเมนูให้อีกฝ่าย เพราะไม่ว่าจะสั่งอะไรมาเราก็ชอบเหมือนกันหมดแทบจะทุกอย่าง ระหว่างที่เรานั่งกินหมูกระทะ เสียงหวีดหวิวที่ดังอยู่รอบ ๆ ตัวทำให้ฉันขยับตัวเข้าไปเบียดน้องชายที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ทันที หากมีเพียงเสียงหวีดหวิวคล้ายกับนกหวีดเพียงอย่างเดียวฉันคงไม่รู้สึกกลัวมากเท่ากับเสียงลมหายใจถี่ ๆ ที่ดังอยู่ระหว่างซอกคอ ด้านหลังของเราไม่มีใครเลยสักคนเพราะเป็นโต๊ะตัวสุดท้ายและมีเพียงต้นไม้ที่ปลูกล้อมเป็นรั้วของร้านเท่านั้น “เป็นอะไร?” อุ่นใจทวนถามพร้อมกับสายตาที่ต้องมองเลยไหล่ฉันไป ดวงตาคมเข้มของอุ่นใจยิ่งทำให้ฉันขยับตัวเข้าหาความสุขและกอดแขนไว้เสียแน่น “ปะ เปล่า” “อือ รีบกินเถอะ” “อื้อ กินกันต่อเถอะ” ฉันไม่อยากให้ทั้งพี่ชายและน้องชายของฉันไม่สบายใจไปด้วยหากฉันยังมีท่าทางหวาดกลัวอยู่แบบนี้ แต่ว่านะฉันไม่ได้รู้สึกกลัวขนาดนั้นแต่บางครั้งมันก็รู้สึกเบื่อและรังเกียจซึ่งตัวฉันเองก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้รู้สึกแบบนี้ “ตกลงที่เที่ยวเรายังไงครับพี่อุ่น” ความสุขถามกับพี่คนโตของบ้านเมื่อเรานั่งกินหมูกระทะไปได้สักพักใหญ่และฉันไม่ได้รู้สึกเหมือนกับช่วงแรก ๆ แล้ว “พ่อตกลง ขอให้พี่จัดทริปให้เลยล่ะ เดี๋ยวพี่จะให้มาช่วยเลือกที่พักนะว่าจะเอาที่ไหน” “ได้เลยครับ” ความสุขตอบ “เค้าเองก็จะเลือกด้วย อยากได้ที่พักติดทะเล แล้วก็จะไปซื้อชุดว่ายน้ำด้วย” “อีกแล้ว ชุดว่ายน้ำอีกแล้ว” อุ่นใจหรี่ตามองฉันดุ ๆ แต่ฉันน่ะไม่กลัวหรอกนะ เพราะยังไงสุดท้ายแล้วอุ่นใจและความสุขก็เป็นคนพาฉันไปซื้ออยู่ดี” “ชวนในกลุ่มบ้านพี่น้องด้วยไหมครับ เผื่อทุกคนไปด้วย” “อื้อ พี่ว่าจะชวนอยู่ พ่อบอกให้ชวนน่ะจะได้พาไปเที่ยวด้วยกันหมดเลย” บ้านพี่น้องคือกลุ่มลูกพี่ลูกน้องของเรานี่แหละ มีหลายคนมากทั้งพี่ ๆ ที่อยู่ปากช่องและพี่ ๆ น้อง ๆ ที่อยู่หมู่บ้านเดียวกัน เวลารวมตัวกันทีไรพ่อกับแม่พวกเรากุมขมับทุกทีเลยล่ะ แต่ทุก ๆ ปีก็จะพาเราไปเที่ยวพักผ่อนด้วยกันนะ หรือหากไม่มีที่ไปเราก็จะไปที่ปากช่องกินเลี้ยงในวันหยุดยาวอะไรแบบนั้น นอกจากมีกลุ่มพี่น้องแล้ว หนุ่ม ๆ ก็จะมีกลุ่มเฉพาะหนุ่ม ๆ ด้วยนะ ส่วนสาว ๆ เราก็มีกลุ่มเฉพาะของเรา “ทีมปากช่องมาไม่ได้เพราะมีงานน่ะ ส่วนกลุ่มที่จะไปก็ไอริส พี่ซัมเมอร์ แล้วก็ไออุ่น” อุ่นใจสรุปให้ฟังหลังจากที่ส่งข้อความเข้าไปนัดแนะกับบ้านพี่น้องเสร็จแล้วเรียบร้อย “พี่ขอบคุณล่ะครับ” “เฮียบินไปฮ่องกง มีประชุมงานน่ะ” “อ๋อ ต้องขอขนมจากฮ่องกงแล้วนะเนี่ย” ความสุขแกล้งแซวพี่คนโตของเราที่ช่วงนี้ขยันบินไปทำงานที่ต่างประเทศเหลือเกิน “ขอเลย ๆ เค้าขอด้วยอยากกินขนมจากฮ่องกง” “ก่อนจะกินขนม ช่วยกินหมูตรงหน้าให้หมดก่อนนะ” พี่อุ่นใจเอ่ยแซวเราสองพี่น้องเมื่อเห็นว่าเรานั้นเริ่มที่จะสนใจขนมมากกว่าอาหารบนโต๊ะ “โอเค กินต่อแล้วค่ะ ส่วนที่พักเค้าจะหาแล้วส่งให้เลือกนะ” เงยหน้ามองอุ่นใจอย่างมีความหวังอยู่ไม่น้อย “ได้ครับ เดี๋ยวเค้าจะได้จัดทริป ตอนนี้ก็กินก่อนหมูไหม้หมดละ” อุ่นใจบอกอีกครั้งและคอยคีบหมูมาใส่จานให้ฉันและความสุขสลับกันไปมาไม่หยุด ส่วนฉันก็กินหมูกระทะอย่างมีความสุข หลงลืมความรู้สึกอึดอัดที่เกิดขึ้นไปเสียสิ้นเชิง กระทั่งถึงเวลากลับ ฉันชวนสองหนุ่มเดินไปซื้อขนมที่ร้านสะดวกซื้อหน้าคอนโด ระหว่างที่รออุ่นใจจ่ายเงินฉันจึงเดินออกมารอหน้าร้านสะดวกซื้อ ระหว่างที่ก้มหน้าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดส่งข้อความคุยกับเพื่อน คล้ายกับมีเสียงตะโกนและเสียงดังกริ๊ง ๆ ดังขึ้น เสียงแค่เสี้ยววินาทีที่เงยหน้าขึ้นมองทางต้นกำเนิดเสียงก็มีจักรยานคนหนึ่งที่พุ่งมาทางฉัน ฉันรีบขยับหลบแต่ก็เหมือนจะไม่ทันการณ์เมื่อรถจักรยานคันนั้นพุ่งเข้าชนฉันเต็มแรง ทำให้ทั้งฉันและคนที่ปั่นจักรยานมานั้นล้มลงไปกองที่พื้นจนเกิดเสียงดังโครมคราม “เอม!!” “อิ่มเอม!!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม