FOREVER รักนิรันดร์ 5
1411 คำ
FOREVER รักนิรันดร์ 5
วันไปเที่ยว
บ้านเราใช้รถตู้ของครอบครัวที่มีเจ็ดที่นั่ง คนขับคือพี่คนขับรถและมีพี่อุ่นใจนั่งที่เบาะด้านหน้าข้างคนขับ โดยที่นั่งด้านหลังคือพ่อและแม่ ส่วนฉันและความสุขนั่งที่เบาะด้านหลังพ่อกับแม่ นอกจากนี้ก็มีรถของพี่ซัมเมอร์ที่จะมีพี่ไออุ่นและไอริสขับตามกันไป ป้ายินดีกับลุงวาโยไม่ได้ไปด้วยเพราะติดงาน ส่วนลูกค้าของพ่อบอกว่าจะไปเจอกันที่ท่าเรือเลย ระหว่างเดินทางเรียกได้ว่าฉันหลับแทบจะตลอดทางเลยก็ว่าได้ มีตื่นลงไปซื้อเครื่องดื่มที่จุดพักรถจากนั้นกลับขึ้นรถมาก็หลับยาวเลย
และนี่นับเป็นครั้งแรกที่มีโอกาสได้เจอกับลูกค้าของพ่อ ระหว่างรออุ่นใจติดต่อขอเช่าสปีดโบ๊ตพ่อก็ได้แนะนำให้เราได้รู้จักกับลูกค้าของพ่อ รวมถึงแนะนำให้ลูกค้าพ่อรู้จักกับเรา
“สวัสดีฉันคามิล” ลูกค้าพ่อทักทายกลับ
“สวัสดีค่ะอิ่มเอมค่ะ” ฉันยื่นมือไปจับกับคนตรงหน้า ซึ่งอีกฝ่ายก็ยอมยื่นมือมาจับเช่นเดียวกัน ไออุ่นจากฝ่ามืออีกฝ่ายทำให้ฉันถึงกับฉงนพร้อมกับอาการหัวใจที่เต้นแรงตึกตัก
“น้องคนนั้นนี่นา จำพี่ได้ไหมคะ?” พี่ผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยช่วยฉันเมื่อวันหลายวันก่อนเอ่ยทักฉันพร้อมกับรอยยิ้มดีใจ
“จำได้ค่ะ วันนั้นยังอายไม่หายเลย” ฉันส่งยิ้มเขิน ๆ ให้พี่เขาไป เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น ที่จู่ ๆ ก็ล้มหน้าคะมำแล้วได้พี่เขาเข้ามาช่วยไว้
“แผลหายดีแล้วใช่ไหมคะ?” พี่แอนที่ฉันจำชื่อได้ทวนถามอย่างเป็นห่วง ฉันจึงพยักหน้าและตอบไปตามตรง
“หายแล้วค่ะ ถลอกนิดหน่อยค่ะ”
“ดีแล้วค่ะ บังเอิญจังนะคะว่าไหม?” พี่แอนส่งยิ้มให้บางๆ ก่อนจะรีบเดินไปอีกมุมเพื่อซื้อน้ำเปล่าให้กับเจ้านายตัวเอง ก็ลูกค้าพ่อนั่นแหละเจ้านายพี่แอนน่ะ
“แผลอะไร?” อุ่นใจที่เดินกลับเข้ามายืนใกล้ ๆ ทวนถามฉันเสียงเข้มเมื่อได้ยินพี่แอนถามถึงแผล
“เอ่อ...” เรื่องนั้นฉันไม่ได้บอกใครเลยนี่นา มีคนที่รู้ก็คือพี่ไอแต่ฉันก็พอจะรู้ว่าพี่ไอไม่ได้บอกใคร พอตอนนี้อุ่นใจและความสุขได้ยินถึงได้รีบต้อนเอาคำตอบจากฉันแบบนี้
“อิ่มเอม”
“ก็เค้าล้ม แล้วพี่แอนช่วย ไม่เจ็บตรงไหนเลยอย่าทำหน้าดุนักสิ” ปรามทั้งพี่ชายและน้องชายไว้ทันทีเมื่อเห็นว่าทั้งคู่กำลังจะดุฉัน
“เรือได้หรือยัง? พ่อกับแม่ร้อนแล้วนะ” รีบกอดแขนอ้อนพี่ชายพร้อมกับถามเสียงหวาน ไม่อยากให้พี่โมโหเลย ทั้งอุ่นใจและความสุขเวลาใจดีก็ดีใจมาก ๆ เลยนะ แต่อย่าให้ถึงตอนที่ดุหรือโมโหเลย น้อยคนที่จะเอาอยู่
“เรือพร้อมแล้ว เดี๋ยวเราเอากระเป๋าไปที่เรือได้เลยนะครับ ประมาณสิบห้านาทีถึงเกาะครับ แล้วจะมีรถจากที่พักมารับ” อุ่นใจแจ้งทุกคน พร้อมกับช่วยกันขนกระเป๋าไปขึ้นเรือ หนุ่ม ๆ ทั้งสี่คนช่วยกันขนย้ายกระเป๋าให้เรา กระทั่งขึ้นมาบนเรือฉันก็เลือกที่นั่งโดยที่ด้านข้างเป็นความสุขและอุ่นใจ และฝั่งตรงข้ามฉันจะเป็นลูกค้าของพ่อและผู้ช่วยเขาทั้งสองคน ส่วนไอริสก็นั่งบ่นพี่ชายของตัวเองไปเรื่อย
“พี่ ๆ ครับถ่ายรูปกันหน่อยครับ” ความสุขเอ่ยบอกกับเราก่อนจะยกกล้องถ่ายรูปขึ้นมากดถ่ายรูปพวกเขาไว้ นอกจากนี้ยังมีลูกค้าของพ่อและผู้ช่วยของเขาด้วยที่อยู่ในเฟรมเดียวกับเรา เสร็จจากถ่ายกล้องเราพี่น้องก็ถ่ายรูปกลุ่มเฉพาะเราส่งเข้าไปในกลุ่มไลน์ที่มีพี่น้องของเราอยู่ในนั้นด้วย พี่ขอบคุณส่งข้อความกลับมาคนแรกว่าขอให้สนุกแล้วก็เที่ยวเผื่อพี่ขอบคุณด้วย พี่ ๆ คนอื่นก็เช่นเดียวกัน
“โอ๊ย!” จังหวะที่เรือนกระแทกเข้ากับคลื่นลูกใหญ่ฉันนั่งโอนเอนศีรษะโขกเข้ากับราวเหล็กด้านหลังจนเผลอร้องออกมาด้วยความเจ็บและตกใจ อุ่นใจรีบยกท่อนแขนโอบกอดฉันไว้ทันทีโดยใช้มือข้างหนึ่งลูบที่ศีรษะบริเวณที่กระแทกเหล็กปลอบให้ฉันหายตกใจ
“เจ็บไหม?” พี่อุ่นใจถาม
“นิดหน่อย มึนหัวเลย”
“อีกนิดก็ถึงแล้วล่ะ” อุ่นใจบอก แต่รู้ไหมคะเรื่องที่ตลอดตอนนี้คือ พวกเราทุกคนในเรือนั้นตัวเปียกกันแบบเหมือนเล่นน้ำมาทุกคนเลย เพราะโดนน้ำทะเลกระเซ็นเข้ามาภายในเรือจึงทำให้เราเปียกกันไปคนละเล็กละน้อยเลยก็ว่าได้ แต่ก็สนุกดีนะ
เสียงไอริสหัวเราะคิกคักไม่หยุดเลยเพราะเจ้าตัวไม่อยากเปียกพี่ชายเลยต้องถอดเสื้อคลุมตัวนอกมาคลุมให้ทำให้พี่ชายเจ้าตัวเปียกไปหมดทั้งตัว ใช้เวลาไม่นานเราก็มาถึงที่พักที่จองไว้ เป็นที่พักติดทะเลที่มีบริการต่าง ๆ ทั้งกิจกรรมทางน้ำและการเช่ารถทั้งมอเตอร์ไซค์และรถกอล์ฟเพื่อที่จะได้ขับไปยังจุดชมวิวหรือหาดต่าง ๆ เมื่อมาถึงก็จัดการแยกย้ายกันเข้าห้องพักที่จองไว้
เราทยอยเข้าห้องพักเพื่อที่ถึงช่วงเวลาบ่ายสามเราจะออกไปถ่ายรูปกันที่ริมชายหาดติดกับที่พัก บริเวณชายหาดตรงนี้เรียกได้ว่ามีความเป็นส่วนตัวอยู่ไม่น้อย คงเป็นเพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะไปตามหาดชื่อดัง อีกทั้งที่พักกลุ่มลูกค้าที่พักโรงแรมนี้ก็ออกไปเที่ยวเล่นด้านนอกโรงแรมหมดทำให้คนมีไม่เยอะ ส่วนเราวันนี้ขอถ่ายรูปเล่นที่ชายหาดติดที่พักดีกว่าค่ะ ส่วนที่อื่น ๆ เรายังมีเวลาอีกมากในการเที่ยวเล่น
ชุดว่ายน้ำแบบทูพีทสีเขียวถูกหยิบขึ้นมาสวมหลังจากที่อาบน้ำและแต่งหน้าเสร็จแล้วเรียบร้อย ระหว่างที่เช็กหน้าผมก่อนออกจากห้อง ประตูห้องพักก็ถูกเคาะสองสามทีเบา ๆ ฉันวางลิปสติกในมือลงพร้อมกับเดินไปส่องดูว่ามีใครมาเคาะห้องฉันในตอนนี้
“ไอริส” เอ่ยทักคนที่มาเคาะห้องเรียก โดยที่ไอริสเองก็อยู่ในชุดว่ายน้ำสีสันสดใสแล้วเช่นเดียวกัน แต่ระหว่างที่เดินออกจากห้องไปที่ชายหาดคงต้องหาเสื้อคลุมมาสวมหน่อยเพราะกลัวจะหูอื้อจากหนุ่ม ๆ บ่นนั่นแหละ พ่อกับแม่นะไม่มีหวงฉันหรอกมีแต่พี่ชายและน้องชายฉันนี่แหละที่หวงจนออกนอกหน้า
“แต่งหน้าหรือยัง?” ฉันถามไอริสที่วางกล้องและโทรศัพท์ลงบนเตียงนอน
“แต่งแล้วล่ะ แต่อยากทำผมทรงใหม่อีกนิด”
“ทำเลย ๆ เค้าทำเสร็จแล้วกำลังแต่หน้าอีกนิดหน่อย” ฉันบอกกับไอริสก่อนจะเดินกลับมานั่งทาครีมกันแดดตามร่างกายเตรียมออกไปถ่ายรูปเล่นด้านนอก
ด้วยความที่ชุดว่ายน้ำเป็นแบบทูพีททำให้สัดส่วนบนร่างกายนั้นโชว์เด่นอยู่มาก บวกกับผิวขาว ๆ ที่เรียกได้ว่าหากถูกแสงแดดแล้วแทบจะแสบตาทำให้เมื่อเราก้าวออกจากห้องพักก็เรียกสายตาทั้งจากพนักงานและนักท่องเที่ยวคนอื่น ๆ ได้อย่างดีเลยทีเดียว แต่พวกเขาก็ไม่ได้ไร้มารยาทจ้องมองมาจนน่าอึดอัด บวกกับมีเสื้อคลุมอยู่ด้วยเลยทำให้พรางสายตาคนรอบข้างได้เล็กน้อย
“ไปถ่ายรูปกันตรงนั้นดีไหม?” ไอริสชี้ไปยังริมหาดที่มีชุดโต๊ะเก้าอี้และร่มสนามกางอยู่ ระหว่างที่เดินไปเราสองคนก็หัวเราะคิกคักยามได้คุยกันถึงมื้อเย็นที่จะขับรถออกไปซื้อด้วยกันที่ตลาด
=====
คอมโบเซ็ต อิ่มเอมxไอริส หนุ่ม ๆ กุมขมับ เราขอฝากเด็กๆด้วยนะคะทุกคน
กดหัวใจ คอมเมนต์เป็นกำลังใจได้นะคะ ^_^
- ผู้เขียน
