bc

กว่าจะรัก(แทบขาดใจ)

book_age18+
299
ติดตาม
4.1K
อ่าน
love-triangle
จบสุข
คลุมถุงชน
กษัตริย์
ดราม่า
ชายจีบหญิง
ใจถึง
ฉลาด
อัจฉริยะ
วิทยาลัย
พลังวิเศษ
like
intro-logo
คำนิยม

องครักษ์เทวราชชายหนุ่มหน้าหยกวัย 27 ปี องครักษ์หน่วยลับเฉพาะกิจของเมืองบูรพา จำต้องเข้าพิธีเสกสมรสกับองค์หญิงทรรศิกา ตามคำขอของบิดาก่อนสิ้นใจ เพื่อสืบทอดราชบัลลังก์ต่อก่อนที่จะถูกช่วงชิงเมืองไป เนื่องจากราชันองค์องก่อนถูกลอบสังหาร และไม่มีพระราชโอรสสืบทอดบัลลังก์ต่อ เขาจึงต้องแบบรับหน้าที่ทุกอย่างนี้ไว้ ทว่าเมื่อครั้งวัยเยาว์เขามีรักแรก และหญิงในใจที่ให้คำมั่นสัญญาว่าโตขึ้นจะแต่งงานกัน มาร่วมลุ้นไปด้วยกันค่ะว่าเทวราช และทรรศิกาจะลงเอยกันอย่างไรใน กว่าจะรัก(แทบขาดใจ)

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
บทนำ (จำยอม)
บทนำ ~บนเครื่องบิน มุ่งตรงสู่เมืองบูรพา "แย่แล้ว 'เควัน(K1)' สายของเรารายงานมาว่าขณะนี้เมืองบูรพาถูกเหล่าทหารจากเมืองปูซานเข้าล้อมเมือง และพังทลายเข้าไปปลิดชีพองค์ราชันพุฒิภัทรได้สำเร็จแล้ว..เราจะทำยังไงกันดี?..ท่านสามารถถอดจิตไปได้แล้วหรือไม่!!?" อินทัชสหายคนสนิทขององครักษ์เทวราชกล่าวรายงานอย่างลนลาน จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวด้วยความห่วงชาติบ้านเมือง "ถอดจิตได้..แต่จิตยังไม่มีพละกำลังในการต่อสู้และสัมผัสสิ่งของใดๆได้..ข้ายังฝึกไม่ถึงขั้นวิถีลมปราณระดับเซียน..ยังคงมีอายุขัยดังเช่นมนุษย์ปุถุชนธรรมดาทั่วไปอยู่...ไม่รู้ป่านนี้พ่อข้าจะเป็นอย่างไรบ้างแล้ว!!?" องครักษ์เทวราชมีสีหน้า และแววตาเป็นกังวลอย่างมาก ตอบกลับสหายคนสนิทด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ทว่าภายในใจของเขานั้นกลับเหมือนเปลวไฟที่สุมอยู่เต็มอกร้อนรนกาย และใจด้วยความเป็นห่วงชาติบ้านเมือง และบิดาของตนอย่างเป็นที่สุด ซึ่งเขาพยายามอดกลั้นไว้อย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้เปลวไฟนั้น..ปะทุขึ้นมา? #1 ชม.ต่อมา# เครื่องบิน Landing ลงสู่ภาคพื้นดิน ~ณ พระราชวังไกลกังวลบูรพา องครักษ์เทวราชมุ่งตรงมาถึงพระราชวังด้วยความรวดเร็ว แต่ก็ยังเร็วไม่พอที่จะช่วยเหลือใครไว้ได้เลย ศพทหารที่สู้รบเพื่อปกป้องบ้านเมืองบูรพาต่างตายเกลื่อนทั่วทุกบริเวณพระราชวัง เทวราชนึกหดหู่ในใจยิ่งนัก หอบหายใจถี่แรงขึ้นด้วยความวิตกกังวล พลันรีบวิ่งเข้าไปในส่วนท้องพระโรง และก็ต้องพบกับความสะเทือนใจ เมื่อเห็นบิดาของเขานอนจมกองเลือดอยู่ ด้วยลมหายใจที่รวยรินเต็มที องครักษ์เทวราชรีบวิ่งเข้าไปกอดบิดาของตนไว้ในอ้อมอกทันทีด้วยใจอาทร ทว่าบิดาของเขาก็อาการแย่เต็มทีแล้ว ได้เอ่ยคำสั่งลาแก่เขาด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบา.. "องค์ราชัน และองค์ราชินีถูกลอบปลงพระชนม์แล้ว ท่านไม่มีพระราชโอรสสืบทอดราชบัลลังก์ เหลือเพียงหนทางเดียวคือ..เทวราชต้องเสกสมรสกับองค์หญิงทรรศิกาซะ..แล้วขึ้นครองราชย์เป็นองค์ราชันลำดับต่อไปปกครองเมืองบูรพาแห่งนี้ อย่าปล่อยให้ราชบัลลังก์ต้องว่างเว้นเนิ่นนาน..จนพวกโจรกบฏยกทัพมาช่วงชิงเมืองไปครองได้นะเทวราช" ท่านมาตุภูมิองครักษ์ส่วนพระองค์ขององค์ราชันพุฒิภัทร เอ่ยคำขอเป็นครั้งสุดท้ายด้วยลมหายใจอันรวยรินกับบุตรชายของตน เทวราชชะงักกึก..นิ่งเงียบไปด้วยกำลังคิดพิจารณา..ว่าเขาควรทำอย่างไรดีเพราะนี่คือคำขอของผู้มีพระคุณที่เหลืออยู่เพียงผู้เดียวของเขาแล้ว ครั้นมารดาของเขาได้เสียชีวิตไปแล้วเนื่องจากถูกฆ่ายกครัวเพื่อช่วงชิงทรัพย์เมื่อ 15 ปีที่ผ่านมา.. พ่อ และเขารอดชีวิตมาได้..ด้วยเพราะได้รับความช่วยเหลือจากองค์ราชันพุฒิภัทร บิดาขององค์หญิงทรรศิกานั่นเอง "ระ..รับ.ปะ..ปาก..พะ..พ่อสิเทว..วะ..ราช" ด้วยลมหายใจที่เริ่มติดขัด และร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรงแทบจะหมดลมหายใจลงทุกที ทำให้ท่านมาตุภูมิพูดติดขัด ขาดๆหายๆ เพื่อต้องการคำตอบของบุตรชายตนอย่างแน่ชัด เขาถึงจะตายตาหลับลงได้ "เฮ้อ!!..ครับพ่อ" ใบหน้าที่ดูเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัดของเทวราช..ถอนหายใจออกมาด้วยความจนใจ..ตอบรับคำขอของบิดาน้ำเสียงสั่นเครือด้วยความจำยอม.. "ปะ..ปะ..ไป..ชะ..ชะ..ช่วย..องค์หญิงทรรศิกา..เอื้อก.." เฮือกสุดท้ายของลมหายใจเอ่ยจบประโยคลงพร้อมกับเลือดที่พวยพุ่งกระฉอกออกมาทางปากของท่านมาตุภูมิ สิ้นใจตายในทันที... "พ่อครับ!!!" เทวราชตะโกนขึ้นเสียงดังโอบกอดร่างไร้วิญญาณของบิดาไว้แนบแน่นในอ้อมอกของเขา..หยดน้ำใสๆเอ่อนองขึ้นที่เบ้าตา เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับเขามานานนับ 15 ปีแล้ว นับตั้งแต่มารดาของเขาได้เสียชีวิตไป และนี่คือหยาดน้ำตาที่ไหลออกมาด้วยความเสียใจเป็นที่สุดให้กับบิดาของเขาอีกครั้งในรอบ 15 ปีต่อมา "อ่าาา...กูจะฆ่าพวกมึงให้หมดทุกคน..อ่าาา" เสียงตะโกนเปล่งออกมาอย่างสุดกำลังด้วยทั้งความเคียดแค้น ความเสียใจ ความสะเทือนใจ ความหดหู่ และสิ้นหวังผสมปนเปตีรวนกันไปหมดในใจของเขา ใบหน้าของเทวราชที่ดุดันน่ากลัวอยู่แล้วนั้น กลับแปรเปลี่ยนเป็นเหี้ยมเกรียมดุจดั่งอสูรร้ายขึ้นมาในพริบตา พร้อมสังหารคนที่ปลิดชีพพ่อของตนให้ตายตกไปตามๆกัน ~องครักษ์เทวราชหนุ่มหน้าหยก ลุคแบด สายโหด มาดขรึม วัย 27 ปี องครักษ์หน่วยลับเฉพาะกิจของเมืองบูรพา หรือเรียกเขาสั้นๆว่า(เควัน"K1") เขาคือมือสังหารระดับพระกาฬมือ 1 ของประเทศ...ที่ใครๆต่างก็เกรงกลัวยมทูตหน้าตายอย่างเขา ทว่าเขากลับมีหญิงสาวในดวงใจที่สนิทสนมกันตั้งแต่เมื่อครั้งเยาว์วัยก่อนที่เขาจะเข้ามาเป็นองค์รักษ์ในรั้วพระราชวัง พวกเขาทั้งสองเคยให้สัญญากันไว้ว่าเมื่อโตขึ้นจะแต่งงานกัน ทว่าก็เกิดเรื่องไม่คาดคิดให้ต้องแยกจากกันจากเหตุชิงทรัพย์ที่พรากชีวิตมารดาของเขาไปนั่นเอง เมื่อเขาเข้ามาอยู่ในรั้วพระราชวังได้ห้าปี เขาก็ได้กลับไปหาเธออีกครั้ง แต่กลับไม่พบครอบครัวของเธออาศัยอยู่ ณ ที่แห่งนั้นอีกแล้ว จนเขาได้มาคบหากับคุณหนูพริ้งค์พราวที่เขาคิดว่าเธอคงจะทำให้เขาเลิกคิดถึงรักแรกของเขาไปได้..แต่เธอก็ไม่สามารถเทียบณรดาสาวข้างบ้านรักแรกของเขาได้เลย ~คุณหนูพริ้งค์พราว วัย 26 ปีเป็นลูกสาวของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง..ผู้ดูแลทรัพย์สิน ภาษีอากร และรายได้ของแผ่นดิน เธอหน้าตาสะสวยนิสัยเรียบร้อย อ่อนโยนเป็นกุลสตรีเหมือนผ้าพับไว้ ผิดกับองค์หญิงทรรศิกาวัย 25 ปี ที่มีใบหน้างดงามดังภาพวาด ทว่ากลับมีนิสัยแมนๆ แข็งกระด้างเอาแต่ใจ ชอบใช้พละกำลัง และอารมณ์เป็นที่ตั้ง อยากได้อะไรก็ต้องได้ เพราะองค์ราชัน และองค์ราชินีเลี้ยงดูเธอมาอย่างตามใจนั่นเอง ~องค์หญิงทรรศิกามีวรยุทธสูงระดับนึง เนื่องจากได้รับการฝึกฝนวิชาป้องกันตัวมาตั้งแต่เยาว์วัยแทบทุกแขนง เพราะเธออยู่ในที่แจ้ง ต้องออกปฏิบัติภารกิจต่างๆเพื่อบ้านเมืองอยู่เป็นประจำ เป็นบุคคลสำคัญของประเทศชาติ อาจถูกลอบทำร้าย หรือลอบสังหารได้ทุกเมื่อ "ฆ่ามันให้ได้!!!..เหลือมันอีกแค่คนเดียวเท่านั้น..ที่เป็นเชื้อสายของราชวงศ์บูรพา..ที่หลงเหลือรอดชีวิตอยู่!!!" น้ำเสียงทุ้มต่ำดุดันของปรเมศวร์องครักษ์ฝีมือดี แห่งเมืองปูซาน คำรามดังอย่างทรงพลัง สั่งเหล่าทหารที่อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของตนให้ปลิดชีพองค์หญิงทรรศิกา..ขวากหนามที่เหลือเพียงหนึ่งเดียวของเขาลงซะ เพราะถ้าเขาสามารถกำจัดเหล่าเชื้อพระวงศ์ได้ทั้งหมดแล้วนั้น เขาจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นท่านนายกรัฐมนตรี..ซึ่งมีอำนาจสูงสุดของประเทศ..รองจากองค์ราชันภูวเดช ผู้ปกครองเมืองปูซานแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้นนั่นเอง #ย๊าาาา!!!# เสียงฮึดสู้ของสาวสวยร่างบาง แต่พละกำลังนั้นไม่บางเหมือนร่างของเธอเลย ทรรศิกาได้จังหวะที่ปรเมศวร์เดินทิ้งตัวห่างออกไปแล้วนั้น เข้าโจมตีเหล่าทหารที่อยู่ใกล้รัศมีของเธอนับ 5 นาย เธอวิ่งออกมาจากมุมมืดที่เธอหลบซ่อนอยู่ พุ่งเข้าล็อคคอของนายทหารคนนึงแล้วจับมันทุ่มลงกับพื้น #ตุ๊บ!!# พลันบิดข้อมือของมัน #กึก!!# จนกระบอกปืนของมันหลุดออกจากมือ แล้วเธอก็รีบคว้าปืนขึ้นมาถือไว้ #ปัง! ปัง! ปัง!# เธอไม่รอช้ากราดยิงพวกมันทั้ง 5 ชีวิตดับคาที่ในทันที เสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหวทำให้ปรเมศวร์วิ่งมาในที่เกิดเหตุด้วยความรวดเร็ว "ฤทธิ์เยอะนักนะมึงอีนังองค์หญิงทรรศิกา" สุ้มเสียงดุดันของปรเมศวร์ดังขึ้นในทันทีที่วิ่งมาถึง ณ ที่เกิดเหตุพร้อมกับเหล่าทหารอีกนับร้อยชีวิตที่วิ่งตามมาพร้อมกับเขาติดๆ "เหอะ...ไอ้พวกหมารอบกัด...ให้ฉันตายในวันนี้..ฉันก็จะลากชีวิตของพวกแกไปลงนรกพร้อมกันกับฉันด้วย...ฉันจะล้างแค้นแทนท่านพ่อ ท่านแม่ของฉัน!!" ทรรศิกาตะโกนเสียงสั่นเครือออกมาทั้งน้ำตาด้วยความแค้น แล้วชักปืนขึ้นปลดลำกล้องปืนลั่นไก #ปัง! ปัง!# สองฝ่ายยิงปืนปะทะกัน ทรรศิกาตีลังกาม้วนหน้าหลบลูกกระสุน พลันพุ่งตัวเข้าไปหลบอยู่หลังเสาด้วยความรวดเร็ว "อีนังตัวแสบ..มึงไม่มีทางรอดเงื้อมือของกูไปได้หรอก!!" ปรเมศวร์ค่อยๆย่องเดินเข้ามาตรงบริเวณเสาที่ทรรศิกาหลบอยู่ #กึก! ปัง!# กระสุนเจาะเข้าศรีษะทางด้านหลังของปรเมศวร์เลือดพุ่งสมองกระจายสิ้นชีพกลางอากาศ..ร่างสูงใหญ่ล้มลงกระแทกพื้น #ตุบ!# ดับอนาถในทันที "มึงต่างหาก..ที่ไม่มีทางรอดเงื้อมือกูไปได้..ไอ้ปรเมศวร์" น้ำเสียงเยือกเย็น ดูทรงอำนาจอย่างไม่อาจต้านทานได้ขององครักษ์เทวราชดังขึ้น พร้อมกับเหล่าทหารที่วิ่งกรูกันเข้ามานับร้อยนายเพื่อสังหารเขา "เทวราช!!..ท่านมาช่วยข้าแล้ว!!" องค์หญิงทรรศิกาเอ่ยขึ้นด้วยความดีใจ ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มอย่างมีความหวังขึ้นมาทันตา..เพราะเขาคือยมทูตหน้าตาย..ที่ไม่เคยปราชัยให้ศัตรูหน้าไหนมาก่อนเลยนั่นเอง ~ดวงตาจอมมารของเทวราชเบิกโพลงขึ้นทันตา? พร้อมกับไอสังหารอันแรงกล้าได้ก่อตัวขึ้นแล้ว?พลังลมปราณของเขาเหนือมนุษย์ยิ่งนัก..วรยุทธ์กำลังภายในที่เขาฝึกฝนมานานนับสิบปีสำเร็จถึงระดับขั้นสูงสุดสำหรับมนุษษ์แล้ว..ส่งผลให้เขากำจัดเหล่าทหารนับร้อยได้อย่างไม่คณามือเขาเลยสักนิดเดียว...เหล่าศพทหารแห่งเมืองปูซานนอนตายเกลื่อนแทบเท้าของเขาภายในพริบตาเดียว ~องค์หญิงทรรศิกาทอดเนตรพลังเหนือมนุษย์ขององครักษ์เทวราชอย่างนึกหวาดหวั่น พลันจะเดินเข้าไปหาองครักษ์เทวราชเพื่อกล่าวคำขอบคุณแก่เขา ทว่าเขากลับช่างเย็นชากับเธอซะเหลือเกิน เดินทิ้งห่างออกไปอย่างไม่สนใจใยดี องค์หญิงทรรศิกาทำได้เพียงแค่มองตามแผ่นหลังของเขาเดินจากไปด้วยความชอกช้ำใจ "หึ..ข้าไม่เคยอยู่ในสายตาของท่านเลยสินะ..นางเดียวในใจของท่าน คือพริ้งค์พราวแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้นเชียวเหรอ..รักมั่นซะเหลือเกินนะเทวราช" สุ้มเสียงพึมพำสั่นเครือด้วยความน้อยใจ..ทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยมองมาที่เธอเลยด้วยซ้ำ..แต่เธอก็ยังคงรั้นที่จะรักเขาอยู่ร่ำไป #7 ปีก่อน!!# เทวราช ในวัย 20 ปี..กำลังฝึกฝนวรยุทธ์กำลังภายในอย่างหักโหมอยู่ภายในพระราชวังไกลกังวลบูรพา บริเวณหนองน้ำ เพื่อให้ตนสามารถเหาะเหินเดินอากาศได้ ทว่าเลือดลมภายในร่างกายของเขาเกิดติดขัดแปรปรวนอย่างหนัก ชีพจรเต้นอ่อนลงจนร่างของเขาร่วงหล่นลงไปในหนองน้ำ #ตู้ม!!# องค์หญิงทรรศิกาที่เดินผ่านมาเห็นเข้าพอดีก็ไม่รอช้าพุ่งตัวลงไปในหนองน้ำ #ตู้ม!!# ช่วยชีวิตของเทวราชไว้ได้อย่างทันท่วงที ทว่ากลับคลำหาชีพจรของเขาไม่เจอเสียแล้ว จึงรีบทำการช่วยหายใจฟื้นคืนชีพให้กับเขาโดยการเป่าปาก สลับกับกดหน้าอกของเขาจนเขาสำลักน้ำจากปอดออกมา องค์หญิงทรรศิกาที่ไม่เคยได้ใกล้ชิดกับชายใดมาก่อนถึงเพียงนี้ หัวใจดวงน้อยๆของเธอพลันเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ เลือดในกายฉีดพล่าน พวงแก้มแดงวาบขึ้นมาทันตา แล้วเทวราชก็เริ่มได้สติ ทว่าก็มีเสียงบ่าวรับใช้เข้ามาเรียกองค์หญิงทรรศิกาไว้เสียก่อน "องค์หญิงเพคะ...องค์ราชันเรียกหาเจ้าค่ะ!!" "ฝากดูแลเขาด้วยละกัน..คงไม่เป็นอันใดมากแล้ว" ก่อนจากไปเธอไม่วายฝากให้บ่าวรับใช้คอยดูแลเขาต่อ "เพคะ" บ่าวรับใช้รับคำองค์หญิงทรรศิกา... ~คุณหนูพริ้งค์พราวที่มาเดินทางเข้ามาศึกษาเล่าเรียนที่สำนักศึกษาบูรพา..ภายในรั้วพระราชวังพอดี..เธอพลันเหลือบเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้น..จึงแอบมองดูอยู่หลังต้นไม้ครั้นนึกอิจฉาในใจที่องค์หญิงได้สัมผัสใกล้ชิดกับองครักษ์เทวราชชายหนุ่มที่ตนหลงรักได้ถึงเพียงนี้..เมื่อองค์หญิงทรรศิกาเดินจนลับสายตาไปแล้ว..เธอก็ไม่รอช้ารีบวิ่งหน้าตั้งเข้าไปหาเขาอย่างฉับไว เมื่อมาถึงที่หมาย เธอก็เอ่ยให้บ่าวรับใช้ออกไปในทันทีด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล "เจ้าไปเถอะ...เดี๋ยวข้าดูแลท่านเทวราชเอง" "เพคะ" เมื่อทุกคนออกไปกันหมดแล้ว คุณหนูพริ้งค์พราวก็รีบวิ่งไปที่หนองน้ำ แล้วชโลมตัวจนเปียกปอนไปทั้งตัวด้วยความรวดเร็ว แล้วรีบวิ่งกลับมานั่งดูอาการของท่านองครักษ์เทวราชอยู่ข้างกายเขา "เฮอ..เฮอ..เฮอ" องครักษ์เทวราชที่จิตเกือบดับ..ฟื้นคืนสติขึ้นมาหายใจอย่างหอบเหนื่อย..แล้วยันตัวลุกขึ้นนั่ง..ก็เห็นใบหน้าของหญิงสาวนางนึงที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน เพราะเขาไม่เคยสนใจมองผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลยนั่นเอง..กำลังนั่งตัวเปียกปอนมองดูเขาอยู่ด้วยท่วงท่าห่วงใยข้างกายของเขา "เจ้าเป็นใคร!!?...ช่วยชีวิตข้าไว้อย่างงั้นเหรอ!!?" สุ้มเสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามทันทีเมื่อได้สติ "ใช่ค่ะ..พริ้งค์พราวช่วยท่านเอาไว้เอง" คุณหนูพริ้งค์พราวไม่รีรอที่จะฉวยโอกาสที่ดีนี้มาเป็นของตน ด้วยการพูดปดมดเท็จตอบกลับเขาไปด้วยใบหน้าอันใสซื่อบริสุทธิ์ "ข้าพอจะตอบแทนเจ้าได้อย่างไรบ้าง!!?" องครักษ์เทวราชที่ไม่ชอบเป็นหนี้บุญคุณใครเอ่ยถามกลับไปอย่างทันควัน "ถ้าไม่เป็นการฝืนใจท่านมากจนเกินไป...ท่านลองเปิดใจคบหากับพริ้งค์พราวเยี่ยงคนรักจะได้หรือไม่!!?" คุณหนูพริ้งค์พราวสบโอกาสเหมาะที่จะได้ใกล้ชิดคนที่เธอหลงรักมานานจึงใช้กลอุบายมัดใจ และกายของเขาเอาไว้ให้เป็นของเธอแต่เพียงผู้เดียว เทวราชนิ่งคิดเพียงหนึ่งอึดใจ แล้วตอบเธอกลับไปอย่างไม่ลังเล และไม่ใส่ใจมากนักด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง "งั้นข้าจะลองคบกับเจ้าดู!!" ในความคิดของเขา คิดเพียงเรื่องชดใช้หนี้บุญคุณ และหวังว่าเธอน่าจะช่วยทำให้เขาเลิกคิดถึงณรดารักครั้งแรกของเขาลงได้ชั่วขณะในช่วงที่เขายังหาตัวเธอไม่พบก็เท่านั้น เพราะยังไงซะ..เธอก็ถือเป็นผู้มีพระคุณที่ได้ช่วยเหลือชีวิตของเขาเอาไว้ ถ้าไม่มีเธอจิตของเขาคงดับสูญเป็นแน่แล้ว...

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook