INTRO
กาสิโน Phuwin
ภายในกาสิโนหรูที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองของกรุงเทพฯ เต็มไปด้วยนักธุรกิจ และผู้มีฐานะร่ำรวยที่เข้ามาใช้บริการ สถานที่แห่งนี้เป็นบ่อนพนัน เปิดถูกต้องตามกฏหมายของไทยมานาน และเป็นอีกหนึ่งสถานรื่นรมย์ของเหล่าบรรดานักท่องเที่ยวต่างชาติ
ด้านในถูกบอดี้การ์ดในชุดสูทสีดำ คอยทำหน้าที่ตรวจความปลอดภัยและความเรียบร้อยอย่างแน่นหนา
เสียงโห่เชียร์ดังอยู่ภายในโซนชกมวยด้านใน ที่มีการจัดสถานที่ชกไว้สำหรับต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบมวยไทย แต่ทว่าการชกมวยในที่นี้ เต็มไปด้วยพวกป่าเถื่อนและไม่มีกติกาในการชก เพราะต่างเดิมพันด้วยเงินตราและชีวิต
พวกบ้าเลือดที่อยู่ด้านล่างพากันร้องเชียร์และเดิมพันด้วยเงินจำนวนไม่น้อย ต่างตะโกนด่าทอนักมวยฝ่ายที่กำลังจะพ่ายแพ้ให้คู่ต่อสู้ ขณะที่กำลังชกอยู่บนสังเวียนมวย
"ไอ้เวรนี่ อย่ามาแพ้นะเว้ย กูจ่ายไปเยอะนะ"
"ไอ้เด็กนั่นมาจากไหนวะ ไม่ไหวก็ยอมแพ้ไป!"
"นี่ แพ้ไม่ได้นะเว้ย ถ้ามึงแพ้กูเอามึงตายแน่"
กานต์ เด็กหนุ่มในวัยสิบแปดปี กำลังจะหมดเรี่ยวแรง ขณะที่สายตาเริ่มพร่ามัว ร่างกายบอบช้ำ ใบหน้าเด็กหนุ่มเต็มไปด้วยเลือดโชก ทั้งปากและหน้าผากเต็มไปด้วยรอยแผลแตก
เพราะความจน ทำให้กานต์ยอมมาชกมวยในที่แบบนี้ ทั้งที่ไม่เคยชกมวยมาก่อน แต่เมื่อรู้ว่าได้เงินจากการชนะ หรือการบาดเจ็บก็ได้ค่ารักษาไม่ต่ำกว่าห้าหมื่น จึงยอมมาตามคำแนะนำของเพื่อน ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเพื่อนๆของเขาแค่แนะนำเล่นๆเท่านั้น
เด็กหนุ่มอายุน้อยเพียงคนเดียวในที่นี้ เขาเป็นคนร้องขอขึ้นชกเอง ทั้งที่รู้ว่าตัวเองต้องแพ้ แต่ก็ยอมเจ็บตัวเพื่อให้ได้เงินค่ารักษา เขาจะได้นำเงินไปใช้หนี้ให้ครอบครัว
"เฮ้ย! ชกมันเลย เอามันให้เละ"
ความป่าเถื่อนของคนด้านล่าง ตะโกนโหวกเหวกโวยวายใส่คู่มวยบนสังเวียน ด้วยความหงุดหงิด
กานต์ตั้งการ์ดมวยเอาไว้ด้วยความฝืนเรี่ยวแรงที่มี ทั้งยังยืนโซเซ มองฝ่ายตรงข้ามที่มีร่างกายกำยำใหญ่โตกว่าตนหลายเท่า แต่ใจของเด็กหนุ่มก็ไม่หวั่นที่จะถอย
...
ภายด้านนอกของกาสิโน หญิงสาวร่างบางอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตกับกางเกงยีนสีดำธรรมดา เธอเปิดประตูลงจากรถแท็กซี่หน้าทางเข้ากาสิโน แล้ววิ่งตรงมาหมายจะเข้าไปด้านในด้วยสีหน้ากังวลและเป็นห่วงน้องชาย หลังจากที่ได้ข่าวมาจากเพื่อนของกานต์ ว่าน้องชายมาชกมวยหาเงินถึงที่นี่
แต่ทว่าบอดี้การ์ดที่ดูแลความปลอดภัยด้านหน้า ได้ยกมือขึ้นมาปิดทางเธอเอาไว้ ทำเอาหญิงสาวหยุดชะงักไป
"เด็กเข้าไปไม่ได้นะครับ"
"ฉันมาพาน้องชายฉันกลับ น้องฉันอยู่ด้านใน พาเขาออกมาทีค่ะ"
"ขอโทษนะครับ ที่นี่ไม่อนุญาตให้เด็กเข้าไป"
"แต่ฉันอายุยี่สิบเอ็ดแล้วนะคะ แล้วน้องชายฉันแค่สิบแปดเอง ทำไมถึงให้เขาเข้าไปได้ล่ะ"
"ยัยฝ้าย!" เสียงเรียกที่คุ้นเคยของเพื่อนสนิท ทำให้ปุยฝ้ายเจ้าของชื่อ หันไปมองยังเพื่อนของตัวเองที่ก้าวขาลงจากรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ ที่นั่งซ้อนท้ายมากับเพื่อนชายสนิทอีกคนอย่างโซน
"ชมพู่ โซน พวกแกตามฉันมาทำไม" ปุยฝ้ายขมวดคิ้วถาม เพราะไม่อยากให้เพื่อนมาที่แบบนี้กับเธอด้วย
หลังจากที่โซนกับชมพู่ได้รู้ข่าวว่ากานต์น้องชายของปุยฝ้ายมาที่นี่จากปากเพื่อนของกานต์เอง จึงรีบตามปุยฝ้ายมาทันที
"แกนั่นแหละ มาที่นี่คนเดียวได้ยังไง พวกฉันรู้ข่าวก็รีบตามมาเลย"
"เออ แทนที่จะรอพวกกูก่อน" โซนออกปากด้วยสีหน้าเป็นห่วงเพื่อนสาว
"แต่ว่า..ฉันไม่อยากให้พวกแกมาที่อันตรายแบบนี้หนิ"
"เลิกคิดว่าพวกฉันเป็นคนอื่นคนไกลได้แล้วฝ้าย รออีกสักพักนะ ผู้กองน่าจะใกล้ถึงแล้วล่ะ"
"แกหมายความว่าไง นี่แกแจ้งตำรวจเหรอชม"
"เปล่า ฉันแค่ให้พี่เมฆมาช่วยเคลียร์ทางให้ไง เพราะถ้าเป็นพวกเรา พวกบอดี้การ์ดคงไม่ยอมให้เข้าไปง่ายๆแน่"
ทันทีที่ชมพู่พูดจบ รถกระบะที่คุ้นตาของคนที่เพิ่งพูดถึงก็มาถึงพอดี ผู้กองเมฆ เป็นนายตำรวจและเป็นพี่ชายข้างบ้านของปุยฝ้าย ทั้งยังเป็นรุ่นพี่สมัยเรียนตอนที่ทั้งสามคนเรียนมัธยมต้นด้วยกัน
"นั่นไงพี่เมฆมาพอดีเลย" ชมพู่รีบพาปุยฝ้ายเดินเข้าไปหาผู้กอง เมื่อเมฆเปิดประตูลงจากรถมาพอดี
"พี่เมฆ ขอบคุณที่มานะคะ" ปุยฝ้ายยกมือไหว้ด้วยความเกรงใจ ในตอนนี้คงไม่มีใครช่วยพาเธอเข้าไปได้แล้ว นอกจากเมฆ
"ไม่เป็นไร มันเป็นหน้าที่พี่อยู่แล้ว งั้นเราเข้าไปข้างในกันเถอะ"
ทั้งสี่คนเดินตรงเข้าไปยังชายฉกรรจ์สองคน ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบความปลอดภัย และทันทีที่เมฆยกบัตรประจำตัวตำรวจเพื่อแสดงตัวให้พวกเขาดู ทำให้ชายทั้งสองมองหน้ากันครู่หนึ่ง ก่อนจะยอมปล่อยให้ทั้งสี่คนเข้าไปด้านในง่าย ๆ