ปุยฝ้ายเดินกลับมาที่เคาน์เตอร์ พร้อมกับยื่นสมุดออเดอร์ที่ได้มีการจดเอาไว้ให้กับพี่พนักงานอีกคน ด้วยท่าทางหน้าหงิกหน้างอ เหมือนไม่ค่อยพอใจอะไรมา
“เป็นอะไรยัยฝ้าย ให้ไปจดออเดอร์แค่นี้ ดูทำหน้าเข้าสิ” ลัดดาที่เพิ่งเดินกลับมาจากห้องน้ำเอ่ยถามขึ้น เมื่อเห็นปุยฝ้ายชักสีหน้าราวกับหงุดหงิด
“เปล่าสักหน่อยพี่ เดี๋ยวฉันไปรับออเดอร์โต๊ะอื่นก่อนนะ”
ปุยฝ้ายไม่อยากจะเล่าเรื่องที่เคยเกิดขึ้นเมื่ออาทิตย์ก่อน เธอจึงปัดคำถามออกแล้วเดินไปทำงานต่อ
“อะไรของมันวะ วันนี้ดูอารมณ์ไม่ดี”
หญิงสาวเดินเข้ามารับออเดอร์อีกโต๊ะ ทุกการกระทำของเธอนั้นตกเป็นเป้าสายตาของใบหน้าหล่อเหลา ที่มองมาอย่างให้ความสนใจ
“พี่ภูคะ พี่ภูรู้จักน้องคนนั้นด้วยเหรอคะ” จีน่าที่จับสังเกตพี่ชาย ก็เอ่ยถามด้วยแววตาสงสัย
“...ก็ไม่เชิง”
“ไม่เชิงนี่ หมายความว่าไงเหรอคะ” จีน่าเริ่มให้ความสนใจ เพราะสายตาที่ภูวินแอบมองปุยฝ้ายนั้น ราวกับแอบมองคนที่ชอบอยู่ แม้ว่าจีน่าจะไม่ได้อยู่ใกล้กับภูวินเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็เดาสายตาของเขาออก
คนที่มีนิสัยนิ่งสุขุมอย่างเขา กลับให้ความสนใจเด็กคนหนึ่งที่อายุห่างกับเขาเกือบสิบปี
สายฟ้าที่นั่งอยู่ในโต๊ะด้วยนั้นก็เกิดความอยากรู้ไปด้วย เพราะตั้งแต่รู้จักและทำงานด้วยกันมา ภูวินยังไม่มองหญิงคนไหน จนกระทั่งสายตาของเจ้านายที่มองเด็กคนนั้น ทำให้ลูกน้องอย่างเขาชักไม่แน่ใจ
“ก็เพิ่งรู้จักจากจีน่าเนี่ยแหละ”
“งั้นเหรอคะ จีน่าชอบน้องเขาจัง น้องเขาน่ารักมากเลยนะคะพี่ภู แถมยังกล้าจับโจรให้จีด้วย แล้วดูน้องเป็นคนขยันมากเลยนะคะ”
“นั่นสิครับ ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดานะครับเนี่ย” สายฟ้าพูดขึ้นทั้งยังส่งสายตามองคนเป็นนาย กับรอยยิ้มที่กรุ้มกริ่ม
“ไอ้สัส ใครอยากได้ความเห็นจากมึงวะ” ภูวินจ้องหน้าลูกน้องด้วยความไม่พอใจ ทำเอาสายฟ้ายอมเงียบปากลง
“หืม ไม่ธรรมดายังไงเหรอสายฟ้า” จีน่าเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ เมื่อสายฟ้าหลุดปากและท่าทางออกมา ราวกับต้องรู้เห็นอะไรเกี่ยวกับปุยฝ้ายมาแน่ๆ
“เอ่อ ผะ ผมหมายถึง ผู้หญิงคนนั้นดูเก่งน่ะครับ ไม่มีอะไรหรอกครับคุณหนู”
สายฟ้ามองหน้าคนเป็นนายอีกครั้ง แต่กลับถูกสายตาอำมหิต บ่งบอกถึงอิทธิพลด้านมืด จนเขาหวั่นเกรง
ดูท่าแล้วมาเฟียหนุ่มจะไม่ค่อยอยากจะให้จีน่ารู้เรื่องความเป็นมาของเขากับปุยฝ้ายที่รู้จักในทางที่ไม่ดีเท่าไหร่ เลยต้องการเงียบเอาไว้
ไม่นานอาหารที่สั่งเอาไว้ก็มาเสิร์ฟที่โต๊ะ
ปุยฝ้ายเลิกงานจากที่นี่ก็เกือบสี่ทุ่ม ในระหว่างทางที่เธอนั้นกำลังจะกลับบ้าน เธอยืนรอรถเมล์ตามปกติอยู่ทางป้ายรอรถหน้าห้างใหญ่
ความเหนื่อยล้าจากงาน ทำให้ไม่ได้คิดเรื่องวุ่นที่เจอมาในวันนี้ ด้วยความที่เธอนั้นไม่อยากเสียค่าเรียกรถแกร๊ปทางออนไลน์ จึงเลือกที่จะนั่งรถเมล์กลับอย่างทุกวัน เพราะค่ารถเมล์ถูกกว่ามาก
เพราะระยะทางจากที่นี่ถึงบ้านก็ไม่ไกลมาก อีกทั้งรถเมล์ก็ขับผ่านพอดี
หญิงสาวนั่งรอรถไปได้พักหนึ่ง ก็มีกลุ่มนักเลงเด็กแว้นขับรถมอไซค์ผ่านมาทางนี้ ก่อนจะมาจอดอยู่ด้านหน้าที่เธอนั่งรอรถอยู่ ทั้งยังเบิ้ลรถใส่เสียงดังจนน่าหนวกหู ไม่คิดว่าในเมืองกรุงจะมีพวกไร้การศึกษาแบบนี้ ที่มาคอยก่อกวนคนอื่น
เสียงท่อรถดังสนั่น จนปุยฝ้ายต้องใช้นิ้วอุดหูเอาไว้ เหมือนกับคนอื่นๆ ที่นั่งรอรถแถวนั้น ทุกคนต่างชักสีหน้าไม่พอใจ พร้อมกับปิดหูตัวเองด้วยความรำคาญ
“เฮ้ย ไปกับพวกพี่ไหมครับน้องสาว” คำพูดและสีหน้ากวนประสาทของพวกมัน ทำให้ปุยฝ้ายเริ่มโมโห
“ไอ้พวกเวร ไปไกลๆ เลยนะ พ่อแม่ไม่สั่งสอนหรือไงฮะ!”
ปุยฝ้ายออกปากด่ากราดอย่างสุดจะทนกับเสียงท่อรถ ทำให้คนอื่นๆ ก็ต่างมีอาการเดียวกันกับเธอ เพราะได้รับความเดือดร้อนเหมือนกัน
“เออ ไอ้เด็กพวกนี้ พ่อแม่ไปไหนกันหมด ถึงได้มาสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นแบบนี้”
“ไปไกลๆ เลย รำคาญ หนวกหูเว้ย!”
“เฮ้ยๆ ก็รถมันแรงอะค้าบพี่ๆ”
ยิ่งพูด พวกมันก็ยิ่งทำใส่ แล้วยังเบิ้ลเสียงรถพร้อมกัน ท่ามกลางรถที่สัญจรไปมา ราวกับไม่กลัวกฎหมาย
ปุยฝ้ายทำได้แค่ชักสีหน้าใส่ แล้วชะเง้อหน้ามองรถ แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่ารถประจำทางของเธอจะมาสักที ก่อนจะมีเด็กแว้นคนหนึ่งลงจากรถเข้ามาหาเธอ
“สวยๆ แบบนี้ มีแฟนหรือยังจ๊ะ”
“...ไม่มี มีแต่ผัว” เธอบอกออกไปเพื่อตัดความรำคาญ แม้ว่าตัวเองนั้นจะยังไม่เคยมีแม้แต่คนคุยก็ตาม
“หว้า เสียดายจัง”
มันไม่ว่าเปล่า ยังนั่งลงข้างๆ เธออีกด้วย จนหญิงสาวต้องขยับตัวออกห่าง แม้ว่าเธอจะไม่ได้มีความกลัวพวกมัน แต่ด้วยความที่พวกมันมีมากกว่า ขืนมีเรื่องกันตรงนี้คงไม่คุ้มเสีย
เธอจึงทำได้แค่นั่งชักสีหน้าไปอย่างเงียบๆ ยังดีที่แถวนี้มีคนอื่นๆ อยู่ด้วย
ไอ้พวกเด็กแว้นไม่ยอมไปไหน พวกมันส่งสายตามามองยังเธอเพียงคนเดียว
ก่อนที่ไอ้เด็กแว้นที่นั่งข้างเธอนั้นจะยื่นมือมาจับมือเธออย่างถือวิสาสะ ทำเอาปุยฝ้ายรีบสะบัดมือของมันออก
“เฮ้ย! อย่ามาทำตัวรุ่มร่ามกับกูนะ” เธอลุกขึ้นยืนทันที พร้อมกับโพล่งคำหยาบคายออกมาด้วยความไม่พอใจ
“ทำไมต้องเล่นตัววะ ขายเท่าไหร่ เดี๋ยวพี่ซื้อเอง”
คำพูดคำจาของมันบ่งบอกถึงนิสัยและสันดาน ท่าทางของไอ้นี่มันเหมือนคนเมายา ทำตัวคุกคามคนอื่นไปทั่ว
“เท่าไหร่งั้นเหรอ...เอาตีนกูไปก่อนแล้วกัน” ยังไม่ทันได้พูดจบ ปุยฝ้ายก็ยกเท้าถีบกลางอกของมันอย่างแรง จนไอ้เวรนี่หงายหลังตกลงไป
“อันนี้ให้ฟรี ไม่เสียตัง”
“เฮ้ย อีห่านี่ กล้าทำเพื่อนกูเหรอวะ”
ปุยฝ้ายหันขวับมามองหน้าเพื่อนๆ ของมัน ที่ก้าวลงจากรถตั้งท่าหมายจะเข้ามาทำร้ายเธอ จนคนอื่นๆ ที่นั่งอยู่ด้วยนั้น ก็ต่างพากันลุกขึ้นหนี
แต่ยังไม่ทันไร ชายร่างสูงก็เดินเข้ามาขวางพวกมันเอาไว้ พร้อมกับเปิดชายเสื้อเชิ้ตด้านขวาขึ้นเล็กน้อย เผยให้เห็นปลายกระบอกปืนที่เหน็บไว้ในกางเกงของเขา
ทำเอาพวกมันถึงกับหน้าถอดสี แล้วพากันก้าวถอยออกไปอย่างง่ายดาย
ใบหน้าหล่อเหลานิ่งเฉย ยืนมองพวกมันขับรถออกไป ก่อนจะหันมามองหน้าหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านหลัง
“...คุณภูวิน”