คลั่งรักเด็กซื่อ 4
“ฝันหวาน พรุ่งนี้ตอนเย็นไม่ติดธุระอะไรใช่ไหม พวกพี่จะพาไปเลี้ยงต้อนรับ” น้ำขิงเอ่ยถามฝันหวานที่กำลังเก็บของใส่กระเป๋าอยู่
“ก็...ไม่มีนะคะ ขอบคุณพี่ๆ ทุกคนเลยนะคะ แต่ว่าฝันเกรงใจยังไงไม่รู้...”
“เกรงใจอะไรกัน พวกเรายังต้องทำงานร่วมกันอีกนาน ฝันอย่าคิดปฏิเสธพวกพี่เชียวนะ หัวหน้าให้เงินสมทบมาแล้วด้วย” ปันปันเอ่ยเสริม โต๊ะทำงานของเธอก็อยู่ใกล้กันกับเด็กสาว ส่วนมินตราที่นั่งอยู่ไม่ไกลก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“ถ้าอย่างนั้นก็รบกวนพี่ๆ ด้วยนะคะ”
“ไม่รบกวนหรอกน่า…รีบกลับเถอะเดี๋ยวรถติด” ฝันหวานยิ้มรับน้อยๆ ในใจรู้สึกกังวลเพราะว่าก่อนหน้านี้ท่านประธานบอกว่าให้เธอรอกลับพร้อมกับเขา เพราะจะพาไปดูสถานที่สำหรับทำงานพิเศษ
แต่ว่าเธอไม่ได้อยากทำเสียหน่อย...
เมื่อถึงเวลาเลิกงานทุกคนก็เริ่มทยอยเก็บของกลับบ้าน ฝันหวานเองก็เดินลงจากลิฟต์ไปชั้นล่างเพื่อสแกนบัตรเลิกงาน แต่เธอยังไม่ทันจะแตะบัตรก็เห็นท่านประธานยืนกอดอกทำหน้าเข้มรออยู่ตรงหน้าตึก A ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามไปไม่ไกล พร้อมกับรถคันหรูสีดำที่จอดอยู่ข้างๆ กัน
“รอฉันหรือเปล่าเนี่ย...” เธอรีบสแกนบัตรอย่างเร่งรีบ กลัวว่าถ้าเขารอเธอจริงๆ แล้วถ้าเธอชักช้าจะถูกตำหนิเอาได้
“สวัสดีค่ะท่านประธาน”
“อืม...ขึ้นรถ” เขาพยักหน้าเบาๆ เมื่อได้ยินพนักงานสาวเอ่ยทักทาย เปิดประตูขึ้นไปนั่งเบาะหลังแล้วส่งสายตาเรียกให้เธอรีบขึ้นรถ
“เอ่อ...คือว่า” ฝันหวานอึกอักเพราะไม่รู้ว่าจะนั่งตรงไหนดี
ถ้าจะนั่งเบาะหลังใกล้ๆ กันกับเขาก็ดูยังไงอยู่ แต่ถ้าให้นั่งเบาะหน้าใกล้คนขับรถหน้าโหดในชุดสูทสีดำก็ไม่กล้า เพราะตอนที่เขาขึ้นรถไปเขาก็เปิดประตูรถค้างเอาไว้เหมือนบังคับให้มานั่งด้วยกัน
“รีบขึ้นมา...อย่าให้ฉันพูดเป็นรอบที่สอง อยากให้คนอื่นจ้องนักหรือไง?” แดเนียลพูดเสียงเข้ม เขาไม่สนใจหรอกว่าจะมีสายตาของพนักงานในบริษัทให้ความสนใจเขาหรือเปล่า แต่สิ่งที่ทำให้เขาไม่ชอบใจก็คือมีพนักงานชายบางคนมองตามฝันหวานตาละห้อย
เขาไม่ชอบให้ใครมามองพนักงานใหม่ของเขา...
ฝันหวานได้ยินเขาพูดแบบนั้นจึงไม่ลังเลอีกต่อไป ก้าวเท้าขึ้นไปนั่งบนเบาะหลังฝั่งเดียวกับเขาแต่ก็เว้นระยะห่างไว้โดยการนั่งชิดขอบประตูฝั่งตรงข้ามกับเขา
“ผมออกรถเลยนะครับบอส” ไคโตะที่เป็นทั้งผู้ช่วยแล้วก็บอดี้การ์ดส่วนตัวเอ่ยขึ้น
“อืม” เขารับคำเบาๆ จากนั้นรถจึงออกตัวไปจากบริษัทใหญ่ท่ามกลางสายตาอยากรู้อยากเห็นของพนักงานหลายคนที่อยู่บริเวณนั้น
@เพนต์เฮ้าส์
ตลอดทางที่นั่งรถมายังเพนท์เฮ้าส์ส่วนตัวของแดเนียล ฝันหวานก็ไม่กล้าพูดคุยอะไรกับเขาแม้แต่คำเดียว แม้แต่คำถามเรื่องงานพิเศษที่เขาจะให้เธอทำก็ยังไม่กล้าถาม เพราะสายตาคมเอาแต่จ้องมองเธออยู่ตลอดเวลา ทำให้รู้สึกประหม่าและนั่งตัวลีบมากยิ่งกว่าเดิม พยายามไม่สนใจเขาและมองออกไปด้านนอกรถ
“ลงมาสิ...มัวแต่คิดอะไรอยู่?”
ร่างสูงลงจากรถอ้อมมาเปิดประตูให้คนตัวเล็กอีกฝั่ง เพราะเห็นเธอนั่งนิ่งเหม่อลอยเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง ไม่ยอมลงมาเสียที ทั้งๆ ที่รถก็มาจอดที่เพนท์เฮ้าส์ของเขาได้สักพักแล้ว
“ฝันหวาน?”
“ค่ะ...คะ? อ๋อ...ถึงแล้วเหรอคะเนี่ย” ฝันหวานเพิ่งได้สติเมื่อเขาเรียกชื่อเล่นเธอเสียงดัง ร่างอวบอิ่มของเธอเดินลงมาจากรถอย่างเกรงกลัว เธอไม่น่าเผลอคิดเรื่องเรื่อยเปื่อยจนโดนดุทางสายตาแบบนี้เลย...
“ตามมา อย่าว่อกแว่ก” แดเนียลเดินนำเด็กสาวเข้าไปในลิฟต์ซึ่งเธอก็เดินตามมาอย่างว่าง่าย
ในหัวของเธอตอนนี้กำลังคิดอย่างสุดความสามารถว่างานที่เขาว่าคืออะไรกันแน่ ทำไมถึงต้องมาที่นี่ด้วย
ตึ๊ง!
เสียงลิฟต์เปิดออกในขณะที่เธอยังคงครุ่นคิดอยู่ แดเนียลเห็นยัยเด็กตุ๊กตาเหม่อลอยอีกรอบจึงได้แต่ส่ายหัวอย่างเอ็นดู
มือหนาดึงข้อมือเล็กให้เดินออกมาจากลิฟต์ จากนั้นก็กดรหัสผ่านตรงประตูของเขาซึ่งกินพื้นที่ทั้งชั้น จากนั้นจึงดึงเธอให้เดินตามเข้ามาในห้องนั่งเล่นที่ตกแต่งอย่างเรียบง่ายทว่าหรูหราเน้นโทนสีดำ แล้วดันไหลบางให้นั่งลงบนโซฟาหนังสีดำตัวยาวที่อยู่กลางห้อง
“คือ...ฉันมีเรื่องจะถามท่านประธานด้วยค่ะ” ฝันหวานเอ่ยเสียงแผ่วอย่างหวั่นเกรง ไม่กล้าสบตากับร่างสูงที่กำลังหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ
“จะถามอะไร...ฉันให้เวลาแค่สามนาที แล้วเราจะมาคุยเรื่องรายละเอียดของงานพิเศษเธอต่อ” ร่างสูงสมบูรณ์แบบนั่งไขว่ห้างด้วยท่าทีสบายๆ ต่างกับเด็กสาวที่นั่งขาชิดพร้อมกับมือประสานกันอยู่ตรงหน้าตักอย่างเรียบร้อย
หึ..น่าแกล้งชะมัดเลย
“ถ้าเกิดว่าฉันไม่รับงานนี้...ท่านประธานจะไม่ไล่ฉันออกใช่ไหมคะ?” เธอตัดสินใจพูดสิ่งที่คิดออกมาอย่างกล้าๆ กลัวๆ เธอไม่ได้อยากทำงานนี้เลยสักนิด ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่ามันคืองานอะไรก็ตาม
แดเนียลได้ฟังแบบนั้นแล้วก็แทบหลุดหัวเราะออกมากับคำถามซื่อๆ ของเธอ แต่ก็ยังคงตีหน้านิ่งเหมือนเดิมเพื่อไม่ให้รู้ว่าเมื่อครู่เขารู้สึกเอ็นดูเธอมากแค่ไหน
นี่เธอกลัวเขาไล่ออกขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย?
เห็นท่าทีเกรงกลัวของคนตัวเล็กเขาก็คิดแผนในใจขึ้นมาได้อีกหนึ่งอย่าง ในเมื่อเธอกลัวโดนไล่ออก ก็ต้องใช้เรื่องนี้ให้เป็นประโยชน์ที่สุดถึงสิ..
“แน่นอน...แต่ว่าเธอคงไม่สิ้นคิดถึงขนาดปฏิเสธงานนี้จากฉันหรอกใช่ไหมฝันหวาน?” แดเนียลใช้สายตาเจ้าเล่ห์มองเด็กสาว รู้สึกพอใจที่เห็นเธอหน้าหงอย เพราะพูดแบบนี้แล้วเธอคงไม่กล้าปฏิเสธเขาแน่
“ฉันไม่กล้าหรอกค่ะ...” ฝันหวานตอบเสียงเบาพลางก้มหน้าลงต่ำกว่าเดิม
เขาพูดแบบนี้แล้วเธอจะทำยังไงได้อีกล่ะ?
“ดี...ถ้าอย่างนั้นฉันจะเริ่มได้อธิบายรายละเอียดให้เธอฟังคร่าวๆ” แดเนียลอธิบายงานที่เธอต้องทำ และข้อเสนอจำนวนหนึ่งที่เธอจะได้รับประโยชน์จากมันอย่างใจเย็น
ซึ่งแน่นอนว่าฝันหวานก็ตั้งใจฟังงานที่เธอต้องทำอย่างจริงจัง เขาเห็นท่าทีแบบนั้นของคนตัวเล็ก ในใจก็รู้สึกเอ็นดูขึ้นมามากกว่าเดิม
งานที่เขาให้เธอทำก็คือทำความสะอาดเพนท์เฮ้าส์แห่งนี้ตั้งแต่ช่วงหนึ่งทุ่มถึงสามทุ่มของทุกวัน ค่าตอบแทนเขาจะให้เป็นรายเดือนในจำนวนที่สูงลิ่วเสียจนเธอเบิกตากว้างอย่างตกใจ
เป็นแค่คนใช้นี่ได้เงินเดือนเป็นแสนเลยเหรอ?
“ทะ ทำไมเงินเดือนมันสูงจังล่ะ...นี่แค่ทำความสะอาดเฉยๆ ฉันไม่ต้องทำอย่างอื่นอีกเหรอคะ?”
“แน่นอนว่าแค่ ‘ทำความสะอาดเฉยๆ’ ที่เงินเดือนสูงขนาดนี้ก็เป็นเพราะว่าของใช้แต่ละอย่างที่นี่มีแต่ราคาแพงทั้งนั้น ถ้าเกิดเธอทำเสียหายฉันจะได้หักจากเงินเดือนเธอเลยทีเดียว” เขาพูดอย่างลื่นไหล ไม่ให้เด็กสาวหน้าซื่อจับผิดได้ว่าเขาอยากจะรวบหัวรวบหางเธอใจจะขาดอยู่แล้ว
ที่จริงเรื่องทำของเสียหายอะไรนั่นเขาไม่ได้เก็บมาใส่ใจเลยแม้แต่น้อย เพราะมันคงไม่สะเทือนเงินจำนวนมหาศาลที่เขามีอยู่หรอก
แต่เขาที่ไม่ได้พูดให้ชัดเจนว่าเธอจะต้อง ‘ทำความสะอาดส่วนไหน’ หรือทำความสะอาด ‘อะไร’ เพิ่มเติมอีกบ้าง...
“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง...ถ้าอย่างนั้นจะให้ฉันเริ่มงานเมื่อไหร่คะ?”
ปกติฝันหวานก็เป็นคนซื่อๆ เชื่อคนง่ายอยู่แล้ว ยิ่งคำพูดนี้มาจากปากของประธานบริษัทใหญ่ที่มีแต่คนเคารพ เธอจึงไม่กล้าเอ่ยขัดหรือสงสัยอะไรมากมาย
“เริ่มวันนี้...แล้วก็ตอนนี้”
“อะ อะไรนะคะ?!”
ดวงตาโตของเธอเบิกกว้าง คิ้วเรียวก็ขมวดเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจ เพราะเพิ่งจะมาถึงและฟังรายละเอียดแค่เล็กน้อยก็ต้องเริ่มงานเสียแล้ว
“ชุดทำงานของเธออยู่ในห้องเล็กห้องนั้น...ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในนั้นได้ ต่อไปมันคือห้องส่วนตัวของเธอ”
“ห้องส่วนตัวของฉันเหรอคะ?”
มาทำงานแค่สองชั่วโมงต่อวันยังจะต้องมีห้องส่วนตัวด้วยเหรอ
“สาวใช้ส่วนตัวของฉันก็ต้องได้รับสิทธิพิเศษมากกว่าคนอื่นเป็นธรรมดา...นี่ก็ใกล้จะถึงเวลาเริ่มงานแล้ว รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ”
“เอ่อ...ค่ะ” ฝันหวานมองนาฬิกาข้อมือของเธอ ก็เห็นว่าใกล้จะหนึ่งทุ่มแล้วจริงๆ เธอจึงรีบลุกขึ้นจากโซฟาเดินไปยังห้องที่เขาชี้ให้ดูก่อนหน้านี้ทันที
และเมื่อก้าวเท้าเข้ามาในห้องเธอก็ต้องเบิกตากว้างอย่างตกใจอีกรอบ เพราะว่ามันไม่ได้เล็กอย่างที่เห็นภายนอกเลยสักนิด ในนี้มีทุกอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเตียงนอนสีขาวขนาดคิงไซส์ โต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เสื้อผ้า และมีห้องน้ำส่วนตัวข้างในอีกต่างหาก
ห้องนี้แม่จะไม่ได้ใหญ่อะไรแต่ก็ตกแต่งอย่างหรูหรามากๆ เธอคิดไม่ถึงเลยว่าห้องคนใช้ของท่านประธานอลังการถึงขนาดนี้
มันค่อนข้างเกินความคาดหมายไปมากทีเดียว...
“นี่มัน...ชุดอะไรกันเนี่ย!” เธอหยิบชุดเมดกระโปรงฟูฟ่องสีขาวดำออกมาจากตู้เสื้อผ้า พลิกหน้าหลังดูแล้วก็พบว่ามันสั้นมากๆ แถมยังยังเว้าตรงหน้าอกลงไปลึกสุดๆ ถ้าใส่ออกมาทำงานมันจะคล่องตัวได้ยังไงกัน?
“เร็วๆ หน่อย มัวแต่ทำอะไรอยู่!”
เสียงของแดเนียลตะโกนถาม ฝันหวานจึงกลั้นใจเปลี่ยนชุดนี้ แล้วออกมาหาเขาในเวลาไม่กี่นาทีต่อมา
“มาแล้วค่ะท่านประธาน...”
“ทำไมเธอถึงแต่งตัชัก...ช้า...” แดเนียลหันกลับไปก็ถึงกับชะงักเมื่อเห็นร่างอวบอิ่มของเธอในชุดที่เขาสั่งตัดไว้ให้ตั้งแต่เมื่อวาน
เขาไม่คิดเลยว่าเธอจะสวมมันออกมาได้น่ารักแล้วก็เซ็กซี่ในเวลาเดียวกันขนาดนี้...
ปกติหน้าตาของเธอก็น่ารักจิ้มลิ้มเหมือนตุ๊กตามากอยู่แล้ว พอมีสวมชุดแบบนี้ก็ยิ่งน่ารักน่าขย้ำเข้าไปใหญ่ เขาแอบกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก รู้สึกว่าท่อนเนื้อยักษ์ของตัวเองกำลังเริ่มขยายใหญ่อยู่ใต้กางเกงราคาแพง
“มานั่งตรงนี้...ฉันจะสอนงานให้ว่าต้องทำความสะอาดตรงไหนแล้วก็ยังไงบ้าง” แดเนียลพยายามพูดให้เป็นเสียงปกติที่สุด ไม่ให้เด็กสาวจับได้ว่าเขากำลังอยากจะเข้าไปขย้ำเธอใจจะขาด
“ค่ะ” ฝันหวานรับคำอย่างว่าง่าย เดินเข้าไปนั่งบนโซฟาตัวเดิมอย่างสงบเสงี่ยม เธอรู้สึกเขินๆ ยังไงไม่รู้ เพราะว่าตรงช่วงคอเสื้อมันแหวกลงมาลึกมากจนหน้าอกใหญ่ของเธอแทบจะทะลักออกมาอยู่แล้ว
คนใช้ท่านประธานเขาแต่งตัวกันแบบนี้กันจริงๆ เหรอเนี่ย...
“อย่างที่ฉันบอกไปว่าเธอต้องทำความสะอาดเพนท์เฮ้าส์นี้ทุกซอกทุกมุม ไม่ให้มีฝุ่นเกาะแม้แต่นิดเดียว...ซึ่งเธอมีเวลาหนึ่งชั่วโมงที่จะต้องทำความสะอาดทุกอย่างให้เรียบร้อย ส่วนอีกหนึ่งชั่วโมงที่เหลือ...” เขาเว้นช่วงการพูดเอาไว้ แอบมองยัยตุ๊กตาน่าขย้ำด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
“อีกหนึ่งชั่วโมงที่เหลือคืออะไรคะ?”
คนตัวเล็กตั้งคำถามด้วยแววตาใสซื่อ
“เธอต้องช่วยทำความสะอาดให้ฉัน”
“หา?...ทะ ทำความสะอาดท่านประธานยังไงคะ ฉันไม่เข้าใจ” ฝันหวานขมวดคิ้วมุ่น มองเขาอย่างสงสัยว่าทำความสะอาดเขามันหมายความว่ายังไงกันแน่
“ไม่ต้องห่วง...ฉันจะสอนงานให้จนกว่าเธอจะเก่งแน่นอน” เขากระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ ดึงข้อมือเล็กให้ลุกขึ้นแล้วพาเธอเดินไปยังห้องน้ำส่วนตัวที่อยู่ภายในห้องนอนใหญ่ ซึ่งเขาไม่เคยให้ผู้หญิงคนไหนเข้ามาในนี้มาก่อน
“เอ่อ...ฉันต้องทำยังไงบ้างคะ?” ฝันหวานยืนงงในห้องน้ำกับเขาสองคน
ทำไมเป็นคนใช้ของท่านประธานถึงได้ยุ่งยากจังเลยนะ...
“ข้อแรก เวลาที่อยู่กับฉันที่นี่เธอต้องแทนตัวเองว่า ‘ฝัน’ แล้วก็เลิกเรียกฉันว่าท่านประธานได้แล้ว ตอนนี้เราไม่ได้อยู่ในบริษัท”
“แล้วจะให้ฝันเรียกว่ายังไงคะ?” ฝันหวานเอียงคอเล็กน้อยอย่างสงสัย แดเนียลเห็นแบบนั้นก็รู้สึกเหมือนว่าหัวใจคล้ายจะเต้นแรงขึ้น เวลาที่เธอเรียกแทนตัวเองแบบนั้นมันดูน่ารักน่าเอ็นดูมากเหลือเกิน
แล้วยังจะมาทำหน้าตาใสซื่อแบบนี้อีก...
เขาล่ะอยากจะขยี้เธอใต้ร่างแรงๆ สักหลายครั้ง อยากจะรู้นักว่าเธอจะยังทำหน้าตาน่ารักแบบนี้อยู่อีกหรือเปล่า
“คุณแดน...ต่อไปนี้เวลาที่อยู่นอกบริษัทเธอต้องเรียกฉันว่าคุณแดน”
“ค่ะ คุณแดน”
แดเนียลยิ้มบางอย่างถูกใจที่เด็กสาวช่างว่าง่ายเสียเหลือเกิน พูดอะไรบอกให้ทำอะไรก็เชื่อฟังไปเสียหมด
“เอาล่ะ...ถอดเสื้อผ้าของฉันออกได้แล้ว”
“ค่ะ...คะ!?”
“ถ้าไม่ถอดเสื้อผ้าฉันออกจะอาบน้ำได้ยังไงล่ะ?”
ได้ฟังแบบนั้นฝันหวานก็คิดครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าอย่างเห็นด้วย เดินเข้าไปใกล้ร่างสูงของเขายื่นมือเรียวเล็กไปปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีดำสนิทของเขาออกจากกันแล้วถอดมันออกให้เขา จนตอนนี้เขาเหลือเพียงกางเกงสแล็คสีดำสนิทอยู่บนตัว
“กางเกงก็ต้องถอดด้วย” แดเนียลสั่งเสียงเข้มเมื่อเห็นท่าทางเขินอายของคล้ายว่าเธอไม่อยากจะถอดให้เขา
“ค่ะ...” ฝันหวานตอบรับเสียงแผ่ว ค่อยๆ ถอดเข็มขัดราคาแพงออกแล้วรูดซิปดึงกางเกงเขาลงด้วยมือที่สั่นเทา
“!!”
เธอเบิกตากว้างเมื่อเห็นท่อนเนื้อยักษ์ดุนดันกางเกงในสีขาวออกมาเห็นเป็นลำชัดเจน
“หึ...ไม่ต้องกลัวมันหรอก เธอต้องทำความรู้จักกับมันอีกเยอะ” ว่าแล้วเขาก็จับท่อนเนื้อยักษ์ที่ปวดหนึบออกมาจากกางเกงใน มองเด็กสาวที่ทำหน้าตกใจอ้าปากค้าง อยากจะรู้จริงๆ ว่าปากอมชมพูเล็กๆ นั่นจะอ้าอมท่อนเนื้อของเขาเข้าไปได้ลึกแค่ไหนกัน
“ซี้ดดด อมมันเข้าไปสิ...ถ้าทำดีฉันจะให้รางวัล” แดเนียลเอ่ยหลอกล่อ พลางชักท่อนเนื้อแข็งร้อนของตัวเองไปมาระหว่างรอ
“คะ คุณแดน...ฝันต้องทำแบบนี้ด้วยเหรอคะ”
เธอไม่ยักรู้เลยว่าคนใช้เขาทำความสะอาดส่วนนี้ให้เจ้านายกันด้วย...
“อ่าส์...อย่าลืมสิว่าเธอเป็นสาวใช้ส่วนตัวของฉัน ฉันสั่งให้ทำอะไรก็ต้องทำ...ถ้าเธอคงยังอยากทำงานอยู่ที่บริษัทต่อน่ะนะ...”
ใจจริงเขาไม่อยากจะเอาเรื่องนี้มาขู่เธอเลยสักนิด แต่เห็นสีหน้าหวาดกลัวเวลาที่มองมาที่ลำใหญ่ ก็เกรงว่าเด็กสาวจะเปลี่ยนใจไม่ยอมทำงานกับเขาต่อ
“ฝัน...ฝันต้องทำยังไงบ้างคะ” เธอเพิ่งได้งานจะอยากโดนไล่ออกได้ยังไงกัน
ร่างอวบอิ่มในชุดเมดน่ารักนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเขา ปากอวบอิ่มอมชมพูอยู่ระดับเดียวกันกับท่อนเนื้อใหญ่ที่มีขนาดพอๆ กับแขนของเธอ
“อ่าส์...เอามันเข้าไปในปาก อย่าให้โดนฟันเด็ดขาดนะรู้ไหม” เขาจับท่อนเนื้อยักษ์จ่อริมฝีปากของเด็กสาว เธอจึงใช้ลิ้นแตะที่ส่วนหัวมันเบาๆ อย่างกล้าๆ กลัว ก่อนจะตัดสินใจอมมันเข้าไปในปากอย่างที่เขาบอก แต่เป็นเพราะมันใหญ่มากจึงอมเข้าไปได้แค่ส่วนหัวกับอีกนิดเดียวเท่านั้น
“อ่าส์...อย่างนั้นแหละฝัน ซี้ดดด…ใช้มือของเธอรูดมันด้วยสิ”