คลั่งรักเด็กซื่อ 2
[เข้ามาเอาแฟ้ม ฉันเซ็นเรียบร้อยแล้ว]
แดเนียลต่อสายออกมาด้านนอก จอห์นจึงรับคำแล้วเปิดประตูไปเอาแฟ้มเอกสารออกมาจากห้องทำงานส่วนตัวของท่านประธานหล่อสุดเนี้ยบ
“เอ้านี่...เรียบร้อยแล้ว ตอนเย็นประมาณห้าโมงเดี๋ยวฝันขึ้นมาหาพี่อีกรอบนะ” เมื่อเลขาหนุ่มเดินออกมาจากห้องแล้ว ก็ยื่นแฟ้มให้เด็กสาวเอากลับไป
“มีอะไรหรือเปล่าคะพี่จอห์น?”
“เอ่อ...พี่จะเอาบัตรพนักงานให้น่ะ ช่วงนี้มีอบรมพนักงานใหม่ตอนบ่ายด้วย น่าจะไม่ว่างกัน เดี๋ยวพอทำบัตรเสร็จพี่จะเก็บไว้ให้ จะได้เอาไว้สแกนตอนเลิกงาน” จอห์นทำหน้าเลิ่กลั่ก รีบหาเหตุผลขึ้นมาอ้างกับเธอแทบไม่ทัน
“ให้พี่หญิงเก็บบัตรไว้ฝันก็ได้นี่คะ...ลำบากพี่จอห์นเปล่าๆ” เธอเอ่ยแย้งอย่างเกรงใจ เพราะพี่หญิงทำงานอยู่ที่ฝ่ายบุคคลเหมือนกัน เธอไม่อยากขึ้นมาข้างบนอาคารนี้อีกถ้าไม่จำเป็น
ตอนที่เดินผ่านฝ่ายต่างๆ นอกจากพวกผู้ชายที่มองมาทางเธออย่างเปิดเผยแล้ว ก็ยังมีพวกผู้หญิงแอบกระซิบกระซาบคล้ายกับว่ากำลังนินทาเรื่องเธออยู่
เธอเองก็ไม่อยากจะคิดในทางแง่ร้ายหรอก แต่ว่าแอบคุยกันแล้วมองมาที่เธอด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตรมันทำให้อดคิดไม่ได้จริงๆ...
ที่ไหนมีคนชอบ ก็ต้องมีคนที่ไม่ชอบด้วยสินะ...
“ไม่เป็นไรๆ ไม่ต้องเกรงใจพี่ รีบเอาเอกสารไปให้น้ำขิงเถอะ” จอห์นตัดบทแล้วทำท่าเหมือนจะยุ่งๆ อยู่กับงานบนโต๊ะ ไม่รอให้เธอปฏิเสธเป็นรอบที่สอง
“เอ่อ...โอเคค่ะ ขอบคุณนะคะพี่จอห์น” เธอถือแฟ้มไว้แน่น แล้วก้มหัวขอบคุณเขาเล็กน้อย จากนั้นจึงหมุนตัวเดินกลับไปยังอาคารที่ตัวเองทำงานอยู่
“เฮ้ออ...ท่านประธานคิดอะไรของเขาอยู่นะ”
เมื่อเห็นร่างอวบอิ่มเดินออกไปสักพักแล้วเขาก็ถอนหายใจออกมาทีหนึ่ง
ตอนที่เข้าไปรับแฟ้มเอกสารในห้อง ท่านประธานขอให้เขาส่งประวัติของฝันหวานไปให้ดู แล้วบอกให้เขาเก็บเอาบัตรพนักงานของเธอเอาไว้ ให้เธอขึ้นมาเอาอีกรอบ ทั้งๆ ที่บัตรพนักงานของพนักงานใหม่ในบริษัท ฝ่ายบุคคลต้องเป็นคนแจกให้ แถมยังทำเสร็จตั้งแต่เช้าแล้วด้วย...
นับวันท่านประธานก็ดูเหมือนจะเข้าใจยากมากขึ้นไปทุกที!
12 : 02 น.
“ฝันหวาน ไปกินข้าวกัน” พี่น้ำขิงรีบปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์แล้วเอ่ยชวนให้ผู้ช่วยคนสวยไปทานข้าวด้วยกัน
เวลาพักเที่ยงมีแค่ 1 ชม. เท่ากันทุกคน ดังนั้นจึงต้องบริหารเวลาให้ดี เวลาทำงานก็ต้องเต็มที่ ถึงจะมีช่วงเบรกบ้างแต่ก็ไม่พอสำหรับทานมื้อสำคัญ ต้องรีบออกไปจากออฟฟิศให้เร็วที่สุด จะได้เหลือเวลาไว้ไปทำอย่างอื่น
“โอเคค่ะพี่น้ำขิง” ฝันหวานบันทึกงานในคอมพิวเตอร์ของตัวเอง แล้วลุกจากเก้าอี้เดินไปพร้อมกับพี่น้ำขิง พร้อมพี่ๆ ในแผนกคนอื่นอีกสองคนซึ่งเป็นผู้หญิงล้วน
“ไปกันๆ พี่ว่าฝันหวานต้องชอบโรงอาหารของที่นี่มากแน่ๆ” พี่มินตรา สาวตัวเล็กอีกคนเอ่ยขึ้นระหว่างที่ทุกคนกำลังลงจากลิฟต์เพื่อไปยังโรงอาหารที่อยู่ตึกถัดไป
ที่นี่เป็นบริษัทใหญ่ซึ่งผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำของประเทศ จึงมีสวัสดิการต่างๆ ให้พนักงานมากมาย แน่นอนว่ายังมีอาหารกลางวันฟรีสำหรับพนักงานทุกคนซึ่งเติมได้ไม่อั้นอีกด้วย
“หนูคาดหวังมากเลยนะคะเนี่ย” ฝันหวานยิ้มอย่างเป็นมิตร รู้สึกดีใจที่พี่ๆ ในแผนกทุกคนคอยให้คำแนะนำต่างๆ มากมาย และไม่ได้ถือตัวว่าตนนั้นตำแหน่งใหญ่กว่าเลยสักนิด
“เราไปนั่งตรงนั้นกันเถอะ”
เมื่อเดินมาถึงโรงอาหารซึ่งอยู่ด้านนอกอาคารที่พวกเธอทำงานอยู่ น้ำขิงก็ชี้ไปยังที่นั่งประจำของพวกเธอ
“อื้อ นั่งตรงนั้นก็ได้ ฉันไปเอาของกินก่อนนะ เดี๋ยวของโปรดหมดก่อน”
เสียงของ ‘ปันปัน’ เพื่อนสนิทในแผนกอีกคนพยักหน้ารับ รีบเดินไปต่อคิวรับอาหารทันที เพราะของโปรดตัวเองนันเรียกได้ว่าขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
“เฮ้อออ...ของกินเยอะแยะไม่รู้จะรีบอะไรขนาดนั้น” มินตราส่ายหัวเบาๆ หันไปพูดกับฝันหวานที่ยืนทำตาเป็นประกายมองอาหารและขนมละลานตาอย่างตื่นเต้น
“คิกๆ พี่ว่าแล้วว่าฝันต้องชอบ เรารีบไปกันเถอะ เดี๋ยวจะหมดเวลาพักเที่ยงซะก่อน”
“ค่ะพี่มิน”
สาวๆ แยกย้ายกันไปเลือกอาหารและขนมที่ตัวเองถูกใจมาคนละสองสามอย่าง แล้วเดินกลับมานั่งยังโต๊ะที่จองกันไว้ แต่ระหว่างที่ฝันหวานเลือกโดนัทอยู่ ก็ได้ยินเสียงทุ้มมีเสน่ห์เอ่ยขึ้นจากทางด้านหลังของเธอ
“กินแต่ขนมอย่างเดียวหรือไง”
“...” ฝันหวานตัวแข็งทื่อ แทบทำจานโดนัทหล่นจากมือ ไม่คิดว่าท่านประธานจะมาทานข้าวที่โรงอาหารด้วย
ไหนพี่ๆ เขาเคยบอกว่าท่านประธานไม่เคยมาที่นี่ไง?
“เป็นเด็กไม่มีมารยาทเหรอ ผู้ใหญ่ถามทำไมไม่ตอบ?”
เสียงของแดเนียลเข้มขึ้น เมื่อเห็นว่าเธอยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่ ไม่หันกลับมาตอบคำถามของเขา
พนักงานคนอื่นๆ ในโรงอาหารทั้งชายและหญิงต่างก็หันมามองทั้งคู่อย่างสนอกสนใจ โดยเฉพาะท่านประธานจอมโหดที่พวกเขารู้จักกันดีว่าแทบไม่เคยคุยกับใครเกินสองประโยค ยกเว้นเวลาที่ต้องคุยเรื่องงาน
การที่เขามาปรากฏตัวที่นี่ทำให้เป็นจุดสนใจของพนักงานเกือบทุกคนที่นี่...
“ทะ ท่านประธานคุยกันฉันเหรอคะ?” ฝันหวานหมุนตัวกลับไปช้าๆ เอ่ยถามอย่างไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่
สายตาหลายคู่ที่จ้องมองมาทำให้เธออึดอัดอย่างบอกไม่ถูก
ท่านประธานนึกยังไงถึงมาคุยกับเธอเนี่ย!?
“ก็ใช่น่ะสิ...คนที่เลือกโดนัทอยู่ตรงนี้ก็มีแค่เธอคนเดียวไม่ใช่หรือไง?”
เขากอดอกมองเด็กสาวหน้าตาน่ารักนิ่งๆ ราวกับกำลังคุยเรื่องโครงการใหญ่ แต่จริงๆ แล้วในใจกำลังสนุกที่ได้แกล้งพนักงานใหม่อย่างเธอ
“เอ่อ...ขอโทษค่ะ ฝันไม่ได้กินแค่ขนมอย่างเดียวนะคะ...อ๊ะ! ไม่ใช่ค่ะๆ ฉันไม่ได้ทานขนมอย่างเดียว แต่แค่เห็นมันน่าทานเลยเดินมาดูก่อนแค่นั้นเองค่ะ” ฝันหวานเผลอเรียกแทนตัวเองว่า ‘ฝัน’ แบบที่คุยกับพวกพี่ๆ ในแผนก
แต่ลืมไปว่าท่านประธานไม่ใช่ ‘พวกพี่ๆ’ ที่จะคุยกันแบบเป็นกันเองได้ จึงรีบเปลี่ยนวิธีพูดทันที
“หืม...ฝันงั้นเหรอ ชื่อเล่นของเธอสินะ”
ได้ยินเธอแทนตัวเองว่าฝันก็ทำให้เขารู้สึกว่าเด็กคนนี้น่าเอ็นดูมากๆ แต่พอเธอเปลี่ยนไปพูดแทนตัวเองว่า ‘ฉัน’ เหมือนคนอื่นเวลาคุยกับเขา ใบหน้าหล่อเหลาจึงเข้มขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า
“ใช่ค่ะ...ฉันขอตัวก่อนนะคะท่านประธาน” เธอรีบก้มหัวให้เขาน้อยๆ ทีหนึ่ง เดินเลี่ยงจากร่างสูงสง่าแล้วรีบตรงไปยังโต๊ะอาหารอย่างหวาดกลัว ซึ่งตอนนี้พวกพี่น้ำขิงก็กำลังมองมาที่เธอตาค้าง
“ฝันหวาน!...นี่เธอรู้จักกับท่านประธานเหรอ?”
“ให้ตายสิ! ฉันไม่คิดเลยว่าตัวเองจะมีแต้มบุญสูง ได้เห็นท่านประธานมาทานข้าวที่นี่ด้วย”
“งื้ออออ...รู้งี้ตอนออกจากห้องน่าจะเติมลิปสติกซะหน่อย!”
พวกเธอแย่งกันพูดอย่างตื่นเต้น มองไปยังท่านประธานหนุ่มสุดหล่อที่ยืนเลือกอาหารอยู่ แล้วสลับมามองที่ฝันหวานอย่างสงสัย
“ฝันไม่ได้รู้จักกับท่านประธานเป็นการส่วนตัวเลยนะคะ แค่คุยกันนิดเดียวเอง...คงบังเอิญมากกว่าค่ะ แหะๆ” ฝันหวานรีบโบกมือปฏิเสธสายตาจับผิดของรุ่นพี่ในแผนก
เธอกับเขาไม่รู้จักกันมาก่อนจริงๆ นะ!
แค่เจอกันตอนไปส่งเอกสารให้พี่น้ำขิงครั้งเดียวเอง...
“หรือว่าท่านประธานจะสนใจฝันหวาน?” น้ำขิงเอ่ยพลางเบิกตากว้าง มองไปที่ฝันหวานอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา
เมื่อครู่ตอนที่ท่านประธานเดินไปนั่งทานข้าวกับเลขาหนุ่ม ก็เห็นเขามองมาทางฝั่งนี้ด้วย
“ไม่หรอกม้างง...ทำหน้าโหดขนาดนั้นตอนที่คุยกันจะเรียกว่าสนใจได้เหรอ? ถ้าบอกว่าเรียกไปด่าฉันยังจะทำใจเชื่อได้มากกว่า” มินตราพูดขึ้น ส่วนปันปันที่นั่งข้างๆ ก็พยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดนี้
ท่านประธานไม่เคยมีข่าวคบกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน ผู้หญิงในบริษัทสวยๆ ตั้งหลายคนก็ไม่เห็นจะชายตามองเลยสักคน
บางทีพวกเธอก็แอบคิดว่าท่านประธานอาจจะชอบผู้ชายด้วยซ้ำ แต่ไม่นานก็ต้องตัดความผิดนี้ทิ้งไป เพราะไม่กี่เดือนก่อนมีข่าววงในบอกว่านางแบบดังมีความสัมพันธ์ลับๆ กับเขา
“แต่ก็ไม่แน่น้า...ฝันหวานหน้าตาน่ารักขนาดนี้จะไม่ให้สนใจเลยได้ยังไง”
เสียงน้ำขิงเอ่ยแย้ง ทำให้อีกสองสาวแอบคิดตามอย่างสับสน เพราะว่ามันก็อาจจะมีความเป็นไปได้ที่ท่านประธานจะชอบพนักงานสาวสวยหน้าใหม่อย่างฝันหวาน
“คือ...ฝันว่าไม่ใช่อย่างที่พวกพี่ๆ คิดหรอกค่ะ เพิ่งเจอกันครั้งแรกเอง จะเป็นอย่างนั้นไปได้ยังไง” ฝันหวานที่นั่งเงียบคนเดียวเพราะเถียงไม่ทันได้โอกาสพูดขึ้น
เธอคิดว่าท่านประธานจะมาสนใจพนักงานตัวเล็กๆ อย่างเธอ เป็นเรื่องที่ไกลตัวเกินไป...
เป็นไปไม่ได้หรอก...
สาวๆ เลิกถกเถียงกันเรื่องของเธอกับเขาแล้วจัดการทานอาหารตรงหน้าต่อ เพราะตอนนี้ก็ผ่านมาหลายนาทีแล้ว กลัวว่าจะไม่เหลือเวลาพัก
ฝันหวานแอบเหลือบมองท่านประธานหน้าโหดที่นั่งห่างไปไม่ไกล เมื่อเห็นเขาหันมาสบตากับเธอพอดีจึงสะดุ้งเบาๆ อย่างตกใจ รีบหันกลับไปกินโดนัทของตัวเองต่ออย่างลนลาน
17 : 05 น.
“อะนี่ บัตรพนักงานของฝัน” จอห์นยื่นบัตรพนักงานให้กับฝันหวานเมื่อมาถึงเวลาที่นัดกันเอาไว้
“ขอบคุณค่ะพี่จอห์น งั้นฝันไปก่อนนะคะ” เธอก้มหน้าขอบคุณเลขาหนุ่มอย่างมีมารยาท ทีแรกเธอยกมือไหว้เขา แต่เขากลับไม่รับไหว้เพราะกลัวว่าตัวเองจะแก่เร็ว จึงได้แต่ก้มหน้าให้แทนคำขอบคุณ
“เดี๋ยวๆ...คือ...”
“มีอะไรเหรอคะ?” ฝันหวานกำลังจะเปิดประตูออกจากห้อง ได้ยินเขาเรียกจึงหันกลับมา
“ท่านประธานฝากนี่มาให้...” เขายื่นเอาถุงกระดาษแข็งที่ครีมที่มีกล่องอาหารและขนมให้กับเธอ
“ฝากให้ฝันเหรอคะ?” เธอถามอย่างไม่แน่ใจ ท่านประธานจะฝากนี่ให้เธอทำไมกัน
“รีบรับไปเถอะ ฝากให้ฝันนั่นแหละ พี่ต้องรีบเคลียร์งานแล้ว เดี๋ยวจะไม่ทันเลิกงาน” จอห์นตัดบท แล้วยื่นถุงสีครีมไปให้เธอ
“เอ่อ ค่ะ...ขอบคุณนะคะ” ฝันหวานรับมาไว้อย่างงงๆ จากนั้นก็เดินออกไปจากห้อง เพื่อกลับไปยังออฟฟิศของตัวเอง
“นี่ท่านประธานคิดอะไรอยู่กันแน่นะ” จอห์นส่ายหัวอย่างไม่เข้าใจ หันหลังกลับไปมองประตูห้องทำงานของเขาแล้วก็คิดไม่ตก สุดท้ายก็เลิกสนใจหันมาทำงานของตัวเองต่อ
@เพนท์เฮ้าส์
“แม่ครับ...เรื่องแม่บ้านที่จะให้มาช่วยที่เพนท์เฮ้าส์ไม่ต้องส่งมาแล้วนะครับ ผมหาคนใหม่ได้แล้ว”
เสียงของแดเนียลคุยโทรศัพท์กับแม่ของเขาอยู่ภายในห้องทำงานอย่างสบายใจ
[อ้าว ทำไมล่ะลูก ตอนนั้นยังบอกให้แม่เป็นคนจัดการให้อยู่เลย]
เธอเอ่ยถามอย่างสงสัย เพราะลูกชายคนเดียวในตระกูลเป็นคนที่จุกจิกมากๆ เปลี่ยนสาวใช้เป็นว่าเล่นเพราะไม่มีใครทำงานถูกใจเขาเลยสักคน
ครั้งนี้เขาขอให้เธอเป็นคนช่วยหาแม่บ้านไว้ ซึ่งเธอก็เตรียมให้เรียบร้อยแล้ว มาคราวนี้กลับบอกว่าหาได้แล้วอย่างนั้นเหรอ?
“ขอโทษครับแม่ เดี๋ยวกลับไปซื้อของอร่อยๆ ไปฝากนะครับ” เขาคุยต่ออีกสักพักก็วางสายไป เหลือบตามองแฟ้มประวัติส่วนตัวของพนักงานหน้าตาน่ารักคนนั้นแล้วก็ยกยิ้มเจ้าเล่ห์
ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงอยากได้เด็กคนนั้นมาอยู่ใกล้ๆ
ก็แค่รู้สึกถูกใจใบหน้าจิ้มลิ้ม ท่าทางสงบเสงี่ยมแลดูเรียบร้อย แล้วก็กลิ่นแป้งอ่อนๆ จากตัวเธอแค่นั้นเอง...
หึ...ในเมื่อเขาต้องการเธอแล้ว ไม่ว่ายังไงก็จะหาวิธีล่อยัยเด็กหน้าตุ๊กตามาอยู่ในกำมือให้ได้!