ตอนที่ 5

1172 คำ
“อ๊าย...พี่เดชอย่า...หยุดนะ...อูย” คนางค์เสียวจนตัวสั่น ปลายลิ้นของไอ้เดชตวัดรัวขึ้นมาถึงเม็ดกระสัน ทำเอาน้ำเสียวแตกซ่าน “ฮึก...” ริมฝีปากของคนางค์เม้มแน่น กัดฟันข่มสีหน้าทรมาน อดทนให้ไอ้เดชทั้งดูดทั้งเลียร่อง จนน้ำคาวสวาทแตกออกมาอาบชุ่มลิ้นของมัน “มันน่านัก...โห...รูเอ็งฟิตแน่นดีจัง ตั้งแต่ผัวตายเอ็งยังไม่โดนใครเอาเลยใช่ไหม วันนี้ขอกระแทกหนักๆ สักทีเถอะวะ” ไอ้เดชรู้ว่ารูเนื้อนุ่มแน่นก็เพราะมันสอดนิ้วคว้านจนน้ำเยิ้ม สุดจะทานทนได้อีกต่อไป มันรีบช้อนท่อนเนื้อยาวใหญ่ขึ้นมารูดบีบส่วนหัวแดงก่ำเพื่ออุ่นเครื่องพร้อมจู่โจม ทว่าในขณะที่กำลังส่ายเสียดส่วนหัวของแท่งเอ็น เตรียมจะเสียบลงในรอยแยกของกลีบเนื้อเยิ้มฉ่ำ ยังไม่ทันได้กระหน่ำให้มิดดุ้นดั่งใจหวัง เสียงร้องเรียกที่ดังอยู่หน้าห้องน้ำก็ทำให้กิจกรรมทุกอย่างมีอันต้องชะงัก “แม่จ๊ะ...อยู่ในห้องน้ำหรือเปล่าจ๊ะแม่” พลอยขวัญกลับมาแล้ว เป็นเสียงของหล่อนจริงๆ “อยู่จ้ะอยู่” เสียงขานรับของคนางค์ทำให้ไอ้เดชรู้ว่าหล่อนไม่เล่นด้วยแน่ๆ ไม่งั้น คนางค์จะต้องนิ่งเงียบ...ยอมให้เสียบจนเสร็จ เพราะกลัวว่าเรื่องจะรู้ถึงหูป้าแดงเมียแก่ขี้บ่นของมัน ไอ้เดชจึงรีบคว้าผ้าขาวม้าขึ้นมานุ่ง แล้วแหวกแผ่นสังกะสีด้านหลังห้องน้ำ มุดหายออกไปในความมืด ไอ้เดชรู้ทางหนีทีไล่ในบ้านนี้เป็นอย่างดี เพราะว่าทุกวันนี้มันคอยดูแลงานซ่อมแซมทุกๆ อย่างในบ้านเช่าแห่งนี้ ทำให้รู้ดีว่าตรงไหนมีรอยรั่วรอยโหว่ หลายห้องที่มีถ้ำมอง...ก็เพราะมันแอบเจาะเอาไว้ “เสียงอะไรจ๊ะแม่” พลอยขวัญรู้สึกตกใจ ได้ยินคล้ายเสียงคนงัดแผ่นสังกะสีหลังห้องน้ำ “เปล่าจ้ะ” คนางค์พยายามควบสุ้มเสียงให้ฟังดูเป็นปกติ รีบล้างเนื้อล้างตัว คว้าผ้าถุงมานุ่งกระโจมอกแล้วเปิดประตูออกมา ถ้าพลอยขวัญมาช้าอีกนิดมีหวังหล่อนเสร็จไอ้เดชแน่ๆ เหตุการณ์เมื่อครู่คนางค์ยอมรับว่าตัวเองหวามไหว แม้จะไม่เคยมีใจให้ไอ้เดชมาก่อน แต่การจู่โจมโลมเล้าแบบถึงลูกถึงคนจนไม่ทันได้ตั้งตัว ก็ทำให้หล่อนกระเจิงได้เหมือนกัน คนางค์รู้ว่ามันเป็นผลพวงมาจากอารมณ์เหว่ว้าที่ซุกซ่อนอยู่ภายใน เพราะความต้องการทางเพศเป็นเรื่องธรรมชาติ ทุกคนย่อมมีความต้องการด้วยกันทั้งนั้น และชีวิตแม่ม่ายผัวตาย...ทำให้หล่อนห่างเหินจากเรื่องพรรค์นี้มานาน ครั้นเมื่อโดนปลุกเร้าเร่าร้อนถึงเนื้อถึงตัว ก็ทำเอาอ่อนระทวยจนเกือบเสียท่าอย่างที่เห็น       วันรุ่งขึ้น เมื่อพาลูกสาวย้ายเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่ของเจ้าสัวธนา “โห...บ้านใหญ่อย่างกับวัง...เจ้าของบ้านคงรวยมากนะแม่” พลอยขวัญกล่าวกับมารดา รู้สึกตื่นตาตื่นใจกับความใหญ่โตอลังการของคฤหาสน์หลังนี้ ขนาดเรือนคนใช้ที่ป้าชื่นบอกว่าเป็นที่พักของหล่อนกับมารดา ก็ยังมีสภาพน่าอยู่และกว้างขวางกว่าบ้านเช่าที่เคยอยู่ “ห้องนี้ของคนางค์...” ป้าชื่นผลักประตูเข้ามาในห้องแรก เรือนหลังนี้มีสองห้องติดกัน “ส่วนเอ็งพักห้องนี้นะ” ป้าชื่นหันมาบอกหญิงสาว “ค่ะป้า” พลอยขวัญตอบ “อันที่จริงให้ฉันกับลูกพักด้วยกันก็ได้นะจ๊ะ...จะได้ไม่ต้องเปลืองห้อง” คนางค์รู้สึกเกรงใจ “ไม่ได้...” ป้าชื่นส่ายหน้า หล่อนรู้ว่าเพราะอะไรถึงต้องแยกสองแม่ลูกให้นอนกันคนละห้อง “ฉันเกรงใจจ้ะป้า” คนางค์กล่าว “บ้านหลังนี้ใหญ่ยังกับวัง...มีห้องเยอะแยะไปหมด เอ็งไม่ต้องเกรงใจอะไรทั้งนั้น ระหว่างอยู่ที่นี่ก็ทำงานของตัวเองให้ดีที่สุด” “จ้ะป้า...ฉันสัญญาว่าจะขยันทำงานทุกอย่าง” คนางค์ดีใจที่ได้พาลูกสาวหลุดพ้นมาจากบ้านเช่าซึ่งมีสภาพไม่ต่างจากสลัม “งานของเอ็งคือดูแลรับใช้คุณท่านที่เรือนใหญ่” ป้าชื่นกล่าว “ค่ะป้า...แล้วฉันต้องทำอะไรบ้างจ๊ะ” คนางค์สงสัย “ก็ทุกอย่างที่คุณท่านใช้...ตามใจคุณท่านแล้วจะดีเอง...จำไว้” ป้าชื่นกล่าวเป็นนัยๆ เมื่อเห็นว่าพลอยขวัญเดินออกมาหิ้วกระเป๋าสัมภาระนำมาจัดเข้าห้อง “สวยๆ อย่างเอ็งงานไม่หนักหรอก...” อันที่จริงป้าชื่นอยากจะบอกว่าถ้าเอ็งฉลาดก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเลื่อนฐานะขึ้นมาจากคนใช้ เพราะดูท่าทางก็รู้ว่าเจ้าสัวธนาชอบคนางค์ ไม่งั้นคงไม่กล้าหักหน้าเมียใหญ่ที่ไม่ยอมรับคนางค์เข้าทำงานตั้งแต่แรก “เย็นๆ วันนี้คุณเสือคงกลับมาถึง...ลุงดำกำลังไปรับ ตอนแรกคุณท่านว่าจะไปรับเองแต่ติดงานกะทันหัน” “คุณเสือเป็นใครคะป้า” พลอยขวัญสงสัยว่าใครคือ ‘คุณเสือ’ ที่ป้าชื่นเอ่ยถึง “อ๋อ…คุณเสือเป็นลูกชายคุณท่านกับเมียแรก...คุณเสือมีชื่อจริงว่า ‘พยัคฆ์’ ไปใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศอังกฤษหลายปี ตอนนี้เรียนจบแล้วเลยกลับมาช่วยงานเจ้าสัว” “ชื่อเสือ...น่าจะดุเหมือนเสือนะคะ” พลอยขวัญกล่าว “เดี๋ยวได้เห็นก็รู้เองแหละ” ป้าชื่นกล่าวทิ้งเอาไว้ให้พลอยขวัญสงสัย “ถ้าจัดข้าวของเข้าห้องเรียบร้อยแล้วเอ็งลงไปช่วยงานป้าในครัวนะ” ป้าชื่นบอกกับคนางค์ “ขวัญอยากช่วยค่ะ...มีอะไรให้ขวัญทำบ้างคะ” หญิงสาวอยากทำตัวให้เป็นประโยชน์ “คืนนี้มีงานเลี้ยงต้อนรับการกลับมาของคุณเสือ...เอ็งได้ช่วยแน่ๆ นังหนู...แขกราวๆ สิบกว่าคน เพื่อนๆ ของคุณเสือทั้งนั้นแหละ” ป้าชื่นกำลังต้องการคนคนเสิร์ฟอาหารพอดี เพราะวันนี้เพื่อนๆ ของพยัคฆ์มากันหลายคน   ในตอนใกล้ค่ำของวันเดียวกันนั้น เมื่อรถตู้สีขาวคันใหญ่ที่มีลุงดำเป็นคนขับมาจากสนามบินแล่นเข้ามาจอดภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ พยัคฆ์ที่นั่งอยู่ข้างในก็รู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นแสงไฟเรืองไสวประดับตกแต่งเอาไว้ในบ้าน จะว่าคริสต์มาสก็ยังไม่ถึงเทศกาล “เฮ้...ยินดีต้อนรับไอ้ลูกชาย” เจ้าสัวธนาตะโกนทักทายเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่เกินกว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตรของพยัคฆ์ก้าวลงมาจากรถตู้ “หวัดดีครับป๋า...จัดงานอะไรกันครับ” พยัคฆ์ยิ่งแปลกใจขึ้นไปอีก ก่อนจะเหลือบไปเห็นงานเลี้ยงซึ่งจัดเตรียมเอาไว้ที่กลางสนามหญ้า ด้วยไม่รู้ว่าบิดาจะเซอร์ไพรส์ “ก็งานเลี้ยงต้อนรับแกน่ะสิ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม