เริ่มเห็นแสงสว่างลางๆแล้ว ก้านแก้วการผจญภัยของเธอในฮ่องกงกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้วรู้ไหม ตั้งใจหางานทำแล้วเอาเงินไปใช้หนี้ มาเฟียหน้าเลือดนั้นดีกว่า ดีนะเนี่ยที่ไม่ต้องตกเป็นเมียต้องขอบคุณหน้าตาที่ฉันสวยได้เท่านี้ เลยไม่ต้องตกเป็นของเล่นมาเฟีย แกร๊ก ฉันเปิดประตูเข้ามาสำรวจห้องนอนตอนนี้ฉันไม่มีอะไรติดตัวเลยสักนิดเดียว แม้แต่เสื้อผ้า แถมห้องยังเล็กมาก เป็นห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ พัดลมยังไม่มีเลย
"นี่ นายฉันอยากได้เสื้อผ้าอ่ะ ให้นอนแบบนี้มันเหม็นฉันนอนไม่หลับหรอก นายช่วยออกเงินซื้อให้ฉันก่อนได้ไหม ถ้าฉันหาเงินได้แล้วจะใช้นายคืน" ยังไงสะ วันนี้คงต้องยืมเงินไปก่อน ว่าแต่เขาชื่ออะไรนะ
"มาเซลคือชื่อฉัน เดี๋ยวจะมีคนเอาพัดลมกับเสื้อผ้ามาให้ เอ้านี่เงินเอาไปใช้ หลังจากนี้เธอจะต้องดิ้นรนหาเงินมาใช้เองและอย่าลืมล่ะทุกๆสิ้นเดือนเธอจะต้องไปใช้หนี้คุณเฟยหลง"
"รู้แล้วไม่ต้องย้ำหรอก แต่ก็ขอบใจสำหรับเงินนี่นะ เดี๋ยวจะรีบหาเงินมาคืน" อย่างๆน้อย มาเซล ถึงจะดุ แต่ก็ใจดี
"อืม" มาเซล ถอนหายใจ เฮือก ใหญ่ ก่อนที่เขาจะปล่อยให้ก้านแก้วเด็กสาวที่เพิ่งมาอยู่ฮ่องกงครั้งแรกได้มองสำรวจแสงไฟจากตึกสูงหรืออพาร์ทเม้นต์เก่าๆ
และแน่นอนกว่า ฉันจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ความอยากรู้อยากเห็นโลกภายนอก ทำให้ฉันมายืน งงอยู่ในฝูงผู้คนที่เดินผ่านไปมา เชื่อเถอะว่า อาหารตรงหน้าที่ส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลายตรงหน้า มันทำให้ฉันเกิดมีความอยากอาหาร ที่นี้ไม่ได้ต่างไปจากเมืองไทยเลยสักนิด มีร้านอาหารที่เปิดริมทางตั้งเยอะแยะ ไอ้ฉันก็หิวจนท้องร้องแต่เพราะภาษาที่ยังโคตรไม่ได้เรื่องเลยทำได้แค่ยืนมอง
"เฮือก หิวๆก็หิว มองไปทางไหนก็น่ากินทั้งนั้น แต่จะถามซื้อกับเขายังไงนี้สิปัญหา" ภาษาก็ไม่ได้เลยสักนิดเดียว หิวจนตาลายกินช้างได้ทั้งตัวเลย ฉันเดินตามทางมาจนถึงร้านซาลาเปาร้านหนึ่ง ลองเข้าไปถามซื้อดีไหมนะ
"ซาลาเปาที่สั่งได้แล้วครับ"
"นี่คือ ยังไงดีพูดไม่เป็นด้วยโง่จริงๆเลยฉัน"
"เป็นคนไทยสินะ รับกี่ลูกล่ะ"
"สวรรค์ ในที่สุดฉันก็ไม่อดตาย กี่ลูกก็เอามาเลยตอนนี้ฉันหิวมากเลย" ฉันบอกผู้ชายตรงหน้า เขาผิวขาวสูงผมสั้นเจาะหูสวมเสื้อกันเปื้อนแถมยังทำงานคล่องแคง้ว่อนไว
"มานั่งตรงนี้สิ"
"มีโต๊ะให้นั่งด้วยเหรอ"
"มี นี่ซาลาเปาของเธอ"
"ขอบคุณนะ ฉันนะหิวมากเลยท้องร้องสิบรอบแล้ว" ฉันไม่สนใจผู้ชายตรงหน้า นอกจากซาลาเปาในมือ อร่อยนะเนี่ย ร้อนกำลังพอดีแป้งนุ่ม แถมใส่ไส้เยอะด้วย มีกลิ่นหอมอ่อนๆ
"เธอเพิ่งจะมาครั้งแรกเหรอ"
"อืม....ฉันเพิ่งจะมาครั้งแรกในชีวิตเลยล่ะจะว่าไปซาลาเปานี้อร่อยมากเลย ขอเพิ่มอีกได้ไหม" ชายหนุ่มตรงหน้าพยักหน้าให้เธอ ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นไปเอามาเพิ่ม ก้านแก้วกลืนซาลาเปาลงคอ ชายหนุ่มตรงหน้ายื่นแก้วน้ำไปให้เธอ
"ขอบคุณนะ" พอได้กินก็รู้สึกว่าจะมีเรี่ยวแรงขึ้นมานิดหน่อย
"แล้วนี่เธอมาคนเดียวเหรอ"
"ถูกต้องมาคนเดียว เสี่ยงตายคนเดียวด้วย ว่าแต่เรายังไม่รู้จักกันเลย ฉันวนิดา หรือก้านแก้วเรียนสั้นๆว่าแก้วก็ได้" ก้านแก้วยื่นมือออกไปด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มเป็นรอยยิ้มที่สดใส
"ฉันห่าวซิน ยินดีที่ได้รู้จักนะก้านแก้ว" ห่าวซินยื่นมือออกไปจับมือของเธอแน่น
"ห่าวซิน นายหล่อนะเนี่ยหน้าใสมากเลย"
"เหรอ" ก้านแก้วชักมือกลับแล้วหันมาสนใจซาลาเปาต่อ
"ว่าแต่ทำไมนายถึงพูดไทยชัดจังเลยล่ะ"
"เรียนไง หรือเธอไม่ได้เรียนหนังสือ?" ห่านซินถาม
"แต่ก่อนนะเรียนแต่ตอนนี้นะ คงไม่ได้เรียน"
"ทำไมล่ะ?" ห่านซิน เอียงคอสงสัยเขาลุกขึ้นไปรับลูกค้า ส่วนฉันก็รีบกินซาลาเปาสุดแสนอร่อย อยากบอกว่าร้านนี้ขายดีมากแถมยังมีพนักงานเยอะด้วย
"เธอยังไม่ตอบฉันเลยนะว่าทำไมไม่เรียน" ห่านซินกลับมานั่งเก้าอี้แล้วถามฉันอีกครั้ง
"เพราะว่าฉันดันไปติดหนี้นะสิ จะบอกว่าฉันติดหนี้ก็ไม่ใช่ พ่อแม่ฉันเป็นคนสร้างหนี้ไว้ให้ส่วนฉันก็โดนจับมาใช้หนี้แทน"
"โดนจับมา หมายความว่าเธอโดนจับตัวจากประเทศไทยมาถึงฮ่องกงเลยเหรอ ไม่เชื่ออ่ะ"
"กะแล้วว่านายต้องไม่เชื่อ" ห่านซินคว้าแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม
"แล้วหนี้เธอเท่าไร ใครคือเจ้าหนี้"
"เฟยหลง ฉันติดหนี้เฟยหลงห้าสิบล้าน"
"ห่ะ เฟยหลงอย่างนั้นเหรอ เธอยังมีชีวิตอยู่ได้ยังไงเนี่ยตั้งห้าสิบล้าน โห ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงโดนจับตัวข้ามประเทศมา"
"ที่นี้เข้าใจฉันหรือยัง ฉันจะต้องหาเงินมาใช้หนี้เขา แล้วดูฉันสิ ภาษาก็ไม่ได้เรื่อง แค่จะถามซื้ออาหารฉันยังไม่กล้าเลย"
"เอางี้ไหม ฉันจะสอนภาษาและพาเธอทำความรู้จักที่นี้เองและที่สำคัญมาทำงานกับฉันสนใจไหมล่ะ"
"ไม่สนใจก็โง่แล้ว ฝากตัวนะห่าวซิน"
"ไว้ใจฉันได้เลย"
ในที่สุดชีวิตฉันก็เริ่มก้าวไปอีกก้าว ถึงจะเป็นวันแรกที่ไม่ค่อยจะรู้เรื่องแต่ก็ได้เพื่อนใหม่ต่างแดนมาหนึ่งคน คราวนี้ล่ะถึงเวลาแล้วที่ฉันจะต้องสู้ หาเงินมาใช้หนี้ เขา เฟยหลงมาเฟียหน้าเลือด
"งานที่ให้ไปทำว่ายังไงบ้าง"
"เรียบร้อยดีครับ แต่เรายังไว้ใจใครไม่ได้พวกมันต้องส่งคนมาเพื่อฆ่าคุณเฟยหลงอีกแน่" มาเซลเอ่ย เขายังจำมันได้ดี วันที่พ่อของเขาตาย วันที่พ่อของเขาเสียสละชีวิตปกป้อง เฟยหลงจนตัวตาย เฟยหลงเขาคือมาเฟียที่มีศัตรูรอบด้าน แต่ในความโหดเหี้ยมนั้น เขาคือผู้มีพระคุณถ้าเฟยหลงไม่ยื่นมือเข้ามาช่วย พ่อกับเขาคงไม่มีชีวิตมาจนถึงวันนี้ และถึงแม้ว่าพ่อของเขาที่เคยเป็นมือขวาจะตาย เขาจะขอทำหน้าที่ของพ่อให้สำเร็จนั้นคืออยู่เคียงข้างเฟยหลง รอดูความสำเร็จยิ่งใหญ่ของเขา
"ใช่ เราจะวางใจใครไม่ได้เด็ดขาด แล้วหยางอินมันเป็นยังไงตอนนี้มันทำอะไรอยู่" มาเฟยหนุ่มเอ่ยเสียงเข้ม เขายืนมองผู้คนที่เดินผ่านไปมาจากผ่านกระจก สายตาของเขาทอดยาวมองผู้คนเหล่านั้นแล้วแสยะยิ้มเหี้ยม ก่อนจะเดินมานั่งลงที่โซฟาแล้วยื่นมือออกไปจับถ้วยกาแฟขึ้นมาจิบ
"ตอนนี้ได้ข่าวว่ากำลังเที่ยวอยู่อังกฤษครับ"
"เที่ยวอย่างนั้นเหรอ ทำตัวชิวไม่เข้าเรื่องในหัวของมันคงคิดวางแผนอะไรบางอย่างอยู่ล่ะสิ"
"อาจจะใช่นะครับ"
"แล้วยัยเด็กนั้น เป็นยังไงบ้าง ยังไม่ตายใช่ไหม" เฟยหลงเอ่ยถาม เขาวางถ้วยกาแฟลงแล้วประสานมือเข้ามาหาก่อนจะแอ่นหลังพิงโซฟา หลับตาลงเพื่อผ่อนคล้าย
"ยังครับ เห็นเธอบอกว่าได้งานทำแล้วเด็กคนนี้แปลกประหลาดนะครับ ทั้งที่พ่อแม่ติดหนี้รู้ทั้งรู้ว่าไม่มีทางใช้หมดแต่กับยังยิ้มได้พิลึกคน" เฟยหลงลืมตาขึ้น
"ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้คุ้มค่ายังไงล่ะ เด็กนั้นรู้อยู่เต็มอกว่าไม่มีทางใช้หนี้ได้สำเร็จ ก่อนตายก็ขอให้ได้มีความสุขกับชีวิตที่เหลืออยู่เท่านั้นเอง"
"คงจะใช่มั่งครับ อ่อ เห็นว่าได้เพื่อนมาหนึ่งคนนะครับ" กึก มาเฟยหนุ่มคิ้วขมวดเข้าหันเป็นปม
"เพื่อน ยัยเด็กนั้นได้เพื่อนแล้วอย่างนั้นเหรอ" ไปท่าไหน ถึงได้เพื่อนเร็วขนาดนี้ ทั้งๆที่ดูแล้วยังไงก็ไปไม่น่ารอด แต่กลับได้เพื่อนสะงั้น
"ใช่ครับ ดูท่าเด็กคนนี้จะไม่ธรรมดา"
"หึ จะดิ้นรนไปได้นานแค่ไหนกัน ก็แค่ลูกหนี้ที่อยู่ในกำมือของฉันจะคายก็รอด จะกำก็ตาย อากาศหายใจก็เหลือเพียงน้อยนิด"
"อ่อ ยังมีอีกเรื่องนะครับ" มาเฟียหนุ่มชะงักเมื่อมาเซลเอ่ย แต่ยังไม่ทันจะได้ถามเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นพร้อมดาราสาวในชุดกี่เพ้าสีน้ำเงินยาว เธอมีรอยยิ้มที่ดึงดูดชายหนุ่มริมฝีปากแดงอวบอิ่มใบหน้าเรียวได้รูปสมแล้วที่เป็นดารา
"ในที่สุดคุณก็ว่างสักทีนะเฟยหลง รู้ไหมว่าฉันคิดถึงคุณทุกวันเลย"
"มาทำไม"