ด้านชีควาคิมเดินออกมาจากห้องของแพรไหมก็มาเจอกับ พิรัณญาที่กำลังจะรีบเข้าไปหาแพรไหมด้วยความรีบร้อน เขาก็รู้ด้วยว่าเธอรีบเรื่องอะไรถ้าไม่ใช่เรื่องที่โทรศัพท์หาย ฮ่าๆ ยิ่งคิดยิ่งอารมณ์ดีจนไม่ทันสังเกตเห็นชีคราชิดเดินเข้ามาหา
“ท่านพี่อารมณ์ดีเรื่องอะไรกัน หรือว่าอารมณ์ดีเรื่องคุณวินนี่จะกลับ” ชีคราชิดอยากจะขำพี่ชายของตนเสียจริง พี่ชายเขาจะรู้ไม่นะว่าตัวเองนั้นช่างแตกต่างจากชีคใหญ่แห่งเรยาร่าที่ทุกคนเกรงกลัวอย่างสิ้นเชิง เหมือนกับชายหนุ่มผู้อ่อนโยนเต็มเปี่ยมไปด้วยรัก พอมาคิดดูแล้วเขาก็ไม่เคยเห็นพี่ชายเขาแบบนี้มานานแล้วเช่นกัน พอได้เห็นก็นึกอะไรสนุกๆ ขึ้นมาได้
“ฮ่าๆ ” จะมีสักเรื่องไหมที่เจ้าน้องชายตัวแสบจะไม่รู้ เขาคงไม่มีความลับอะไรปิดบังเจ้าชีคเล็กน้องชายจอมแสบได้จริงๆ แล้วแหละ
“ฮ่าๆ ท่านพี่คงลืมไปแล้วมั้งว่าเราสองคนนะเจ้าเล่ห์พอๆ กัน ถึงได้รู้ทุกการกระทำของท่านพี่ไง และก็ยังรู้อีกนะว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา” พูดอย่างรู้ๆ กัน
“น้องคงจะรู้มากไปแล้วราชิดน้องพี่ แต่น้องคงต้องขอบคุณพี่นะที่ทำให้เจนนี่ของน้องอยู่ที่นี่ต่อ”
“ฮ่าๆ ท่านพี่นี่รู้ใจน้องจริงๆ เลย แต่ยังไงน้องก็ขอบคุณท่านพี่มากๆ นะ”
พิรัณญาลืมธุระของตัวเองทันทีเมื่อเข้ามาในห้องของเพื่อนสาว จะไม่ให้ลืมได้ไง ในเมื่อตอนนี้ความอยากรู้อยากเห็นได้เข้ามาแทนที่เสียแล้ว ยิ่งเห็นชีควาคิมเดินยิ้มหน้าบานแบบนั้นยิ่งอยากรู้ว่าเขาเข้ามาห้องเพื่อนเธอทำไม
“วินนี่ ชีควาคิมเข้ามาทำอะไรในห้องแก? ” ถามด้วยความห่วงใย
“ไม่มีอะไรหรอกเจนนี่และเราก็ไม่ต้องเก็บของแล้ว ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะอยู่ที่นี่ต่อเพราะฉันมาคิดดูแล้วว่าฉันไม่จำเป็นต้องกลัวเขาด้วยซ้ำ อีกอย่างฉันกับแกมาที่นี่ในฐานะตัวแทนของประเทศเราไม่ควรเอาเรื่องส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวให้เสียงาน”
“ไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ นะวินนี่ตอนที่ชีควาคิมเข้ามาในห้อง” พิรัณญาอยากถามให้แน่ใจอีกครั้ง
“ไม่มีอะไรจริงๆ แก” แพรไหมเอ่ยย้ำด้วยท่าทางและสีหน้าที่จริงจังจนทำให้พิรัณญาเลิกสงสัยและเลิกถามเรื่องนี้กับเธออีก
“ยังไงฉันก็ดีใจนะวินนี่ที่แกแยกแยะออกว่าอันไหนคือหน้าที่อันไหนคือเรื่องส่วนตัว เก่งจริงเลยเพื่อนฉัน ขอจุ๊บทีสิแก จุ๊บ! ” ไม่รอให้เพื่อนตอบพิรัณญารีบจุ๊บแก้มนิ่มของเพื่อนทันที
“บ้าไปแล้วเจนนี่แกมาจุ๊บฉันแบบนี้ แกไม่กลัวคนจะเปิดประตูเข้ามาเห็นเหรอ” แพรไหมเอ่ยว่าพิรัณญาด้วยความเขินอายเมื่อโดนจุ๊บเอา
“ฮ่าๆ แกจะอายทำไมวินนี่ทำยังกะฉันไม่เคยจุ๊บแกอย่างนั้นแหละ เอ่อ...วินนี่ฉันลืมไปเลยว่าแกว่าโทรศัพท์ฉันหายไม่รู้มันหายไปได้ยังไง ฉันเลยกะว่าจะมายืมแกโทรหาคุณพ่อสักหน่อย”
“ฉันไม่มีโทรศัพท์ให้แกโทรแล้วล่ะ เพราะไอ้ผู้ชายสารเลวคนนั้นปาของฉันทิ้ง ตอนที่ฉันจะโทรหาคุณพ่อกับคุณแม่ แต่ก็ช่างเถอะ ฉันว่าจะขอยืมคุณซาลัสเขาถ้าเจอนะ” ความรักที่ยังมีต่อชายหนุ่มอยู่ จึงไม่อยากให้เพื่อนโกรธเกลียดว่าเขาไปมากกว่านี้
“มันจะมากไปแล้วนะ” พิรัณญาทั้งโมโหทั้งโกรธเมื่อเพื่อนเล่าให้ฟัง ถ้าไม่ได้คุยให้เคลียร์วันนี้เธอนอนไม่หลับแน่ คิดได้ดังนั้นก็ทำท่าจะลุกไปเอาเรื่องชีควาคิม
“ช่างเถอะน่าเจนนี่อย่าไปยุ่งกับเขาเลย” แพรไหมรีบคว้าข้อมือของพิรัณญาไว้อย่างรวดเร็ว ด้วยรู้นิสัยของกันดี อีกอย่างนี้มันก็ถิ่นเขาเธอจึงไม่อยากให้เพื่อนรักต้องมีเรื่อง
“ไม่ยุ่งไม่ได้แล้ววินนี่ก็เขาทำกับแกขนาดนี้ ยังจะให้ฉันทนดูต่อไปได้ไง” พิรัณญาเอ่ยกับเพื่อนด้วยความเดือดดาลยิ่งแพรไหมเจ็บเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งเจ็บมากกว่าเจ้าตัวมากขึ้นเท่านั้น
“แกก็น่าจะรู้นิสัยของฉันดีกว่าใครนะ” แพรไหมพูดด้วยความเจ้าเล่ห์ พร้อมกับส่งยิ้มหวานพิฆาตให้เพื่อนรู้ว่าเธอนั้นมีแผนการ
“คิกๆๆ แกอย่าบอกนะวินนี่ว่าแกมีแผนที่จะแก้แค้นคืน คิกๆๆ ฉันลืมไปได้ไงเนี่ย...ว่าคติประจำใจเพื่อนฉันคือ ‘ร้ายมาร้ายตอบ ไม่คิดจะยอมใครง่ายๆ ’ ต้องแบบนี้สิเพื่อนเลิฟ....”
“แต่ฉันยังคิดไม่ออกว่าจะทำยังไง ฉันว่าเราไปหาอะไรกินกันดีกว่าท้องอิ่มคงคิดออกว่าจะทำยังไง แถมยังนัดให้คุณอามีนพาเที่ยวคฤหาสน์อีกไม่ใช่เหรอ”
“จริงด้วยวินนี่ฉันลืมไปเลย งั้นเราก็ไปทานข้าวแล้วไปหาคุณอามีนไกด์สุดหล่อพาเที่ยวให้ทั่วกัน ไหนๆ ก็มาแล้ว คิกๆ ”
“งั้นก็ไปกันเลย” แล้วแพรไหมก็เดินควงแขนพิรัณญาออกจากห้องไปยังห้องรับประทานอาหารของคฤหาสน์