2
นัดบอดของคุณป้า
London Heathrow Airport
[ท่าอากาศยานลอนดอนฮีทโธรว์]
สาวเอเชียร่างบางในเสื้อคอเต่าแขนยาว กางเกงสีขาวเข้ารูป หยิบเจลล์แอลกอฮอล์สำหรับล้างมือจากกระเป๋ากำมะหยี่สีดำชาแนลใบเก่งของเธอ ล้างมือรักษาความสะอาดเรียบร้อยก่อนย่ำกรายเข้าสนามบิน ส่งข้อความบอกคนทางบ้านว่ามาถึงแล้ว
ใบหน้าหวานงามหมดจดใต้แมสก์สีดำรองพื้นด้วยเครื่องสำอางอ่อนกวาดสายตามองไปรอบ ๆ อาคารผู้โดยสาร 3 ที่มีผู้คนไม่มากนัก ตัวเธอคงไม่ต้องรีบร้อนอะไรกับการเตรียมตัวขึ้นเครื่อง ออกเดินทาง
ผ่านกระจกบานสูงใหญ่จรดเพดานด้านนอกนั้นมีเครื่องบินนับร้อยลำ ด้วยความที่เป็นอาคารเก่าแก่ที่สุดของสนามบิน ปัจจุบันใช้รองรับเที่ยวบินจากพันธมิตรกลุ่ม Oneworld เที่ยวบินจากสหรัฐอเมริกา ประเทศต่างๆ ในทวีปเอเชียและตะวันออกไกล
ภายในสนามบินมีบริการธนาคารและเคาน์เตอร์แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในจุดต่าง ๆ รองรับสกุลเงินหลากหลายรวมทั้งบาทไทย
ในรถเข็นที่มีกระเป๋าเสื้อผ้าถึงห้าใบ มือเรียวผลักไปข้างหน้าอย่างระวัง เธอคิดว่าควรตรงไปแลกเงินสำหรับใช้จ่ายระหว่างกักตัวก่อน เพราะไปถึงที่นู่นแล้วคงวุ่นวายพอสมควรกับเรื่องงานยื่นเอกสาร
แน่นอนว่าทั้งตั๋วเครื่องบิน และโรงแรมกักตัวระดับห้าดาว ทางบ้านขวัญฤดีเป็นคนจัดการให้ ผ่านทางคุณพ่อที่บอกว่าไม่ควรขัดใจผู้ใหญ่ให้มากเรื่องมากความ เธอจึงต้องส่งหน้าพาสปอร์ต ข้อมูลส่วนตัวให้คุณป้า
มีแค่ป้าขวัญนั่นแหละที่รู้ว่านายชัชชัย เจ้าของห้างร้านอัญมณีถังแตก! ทว่าหล่อนไม่ได้ทำให้พ่อลำบากใจหรือคิดว่าขายลูกสาวตัวเองกิน แต่เชื้อเชิญอย่างมีมารยาทคนสนิทกัน
คนมารยาทดีอย่างพิมพ์ลภัสถึงขั้นเกรงอกเกรงใจมาก หลังพ่อไปกู้เงินป้าที่ปล่อยดอกเบี้ยแสนถูก ยังยื่นข้อเสนอยกลูกชายให้เลือกได้ทั้งสามคน! พร้อมรับเป็นสะใภ้บ้าน ‘สิงหวัฒน์’ โดยไร้เงื่อนไข
คนแรกที่เธอจะต้องพบเจอเป็นลูกชายคนเล็ก ดีกรีมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดคณะวิศวกรรมโยธา
ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย เริ่มต้นสภาวะเป็นหนี้พร้อมทิ้งดิ่งอารมณ์ลุ้นระลึกไปกับหนุ่มเกียร์...
เขาจะเหม็นขี้หน้าเธอไหม? นิสัยดีหรือเปล่า? เป็นพวกบ้ากามเหมือนที่เคยมาแจกขนมจีบ หรือเป็นสายหล่อเชิดอีโก้สูงปรี๊ดปรอทแตก?
หรือพี่แกจะทวงถามความเป็นลูกหนี้ลากพาเธอไปขัดดอก ปรนนิบัติกามารมณ์บนเตียงเหมือนนิยายโรมานซ์ 18+ ที่นักอ่านตัวยงอย่างเธอเปย์แหลกลาญ
โอ๊ย! ยัยพิมพ์เอ๊ย...! คิดแค่ตอบแทนบุญคุณป้าขวัญก็พอ แกคิดอะไรของแกเนี่ย
ความสับสนเกิดขึ้นกับตัวเธอที่แลกเงินด้วยท่าทางป้ำ ๆ เป๋อ ๆ ก่อนล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูรูปถ่ายของพี่ชายแปลกหน้าอีกครั้ง
รูปนี่... ผ่านแอปมากี่แอป ตัวจริงเป็นไง? เหมือนในรูปไหมล่ะเนี่ย...?
ในเสื้อผ้าเรียบหรูดูดี เธออุตส่าห์แหกขี้ตาตื่นแต่เช้ามาปัดขนตางอนเป็นแพสวยเข้ากับดวงตาใสซื่อ โปะหน้าด้วยรองพื้นบาง ๆ ทั้งที่เธอไม่ใช่คนชอบแต่งหน้าทำผมนักหากไม่ใช่ไปงานกาล่าดินเนอร์
หัวใจสาวลอบตื่นตูมเป็นพัก ๆ เพราะนัดบอดจากคุณป้าที่บอกว่าให้เธอมารอหน้าอาคารสาม ระบุที่เช็คอินสำหรับสายการบิน Business Class นี้ รอลูกชายของคุณป้ามารับกลับเมืองไทยไปกักตัวพร้อมกัน
“แม่! อะไรของแม่เนี่ย...? คราวที่แล้วก็น้องอริส รอบนี้ลากสาวที่ไหนมาอีก เลิกยุ่งกับชีวิตโสดของผมสักทีได้ไหม?” เสียงโวยวายดังขณะมือหยิบยกกระเป๋าลงจากรถยนต์สาธารณะ
เตชินเป็นลูกชายที่ตามใจแม่เสมอ ไม่ใช่คราวนี้ หลังทิ้งระเบิดลูกใหญ่ผ่านสายมาให้เขาปวดหัวแล้วแม่จึงไม่โทรมาอีก เพราะรู้ว่าเขาต้องไม่พอใจแน่ ๆ
ร่างสูงในเชิ้ตคอเต่าสีดำเข้ากับกางเกงสแล็คจัดการสัมภาระของเขาเองใส่รถเข็นคันใหญ่เรียบร้อยดี ไม่ลืมล้างมือด้วยเจลล์แอลกอฮอล์ที่ทางสนามบินจัดเตรียมเอาไว้ให้
[ลูกเคยบอกแม่ว่าอยากได้ผู้หญิงสวย ๆ หวาน ๆ ถนัดงานบ้านงานเรือนไม่ใช่หรือลูก เต... ตกลงว่าลูกจะผิดคำพูดกับแม่?]
เสียงหวานแกมดุของคุณแม่ดังผ่านลำโพงติดหูบลูทูธนั้นเขาได้ยินชัดเจน ชายหนุ่มสะบัดศีรษะอย่างหัวเสีย สองขาก้าวฉับ ๆ เดินไปข้างหน้าพร้อมรถเข็น
“ใช่ครับ สาวที่ไหนผมก็ไม่เอา ยกให้พี่ตฤณไปละกัน ผมขออยู่โสด ๆ เดี่ยว ๆ นะแม่ แค่นี้นะ...”
กดวางสายไปอย่างหงุดหงิด ปลายสายคงไม่ได้สนใจคำตอบของเขา แม่ก็คือแม่ผู้ไม่เคยย่อท้อ...
อย่าลืมรับน้องพิมพ์ไปกักตัวด้วยนะ ทางเดียวกันน่ะ ฝากดูเอกสารให้น้องด้วย
ข้อความผ่านโปรแกรมแช็ตพาวงหน้าหล่อเหลาขมวดมุ่นยุ่งเหยิงตามอารมณ์หงุดหงิดที่สุดในรอบปี!
เขาเข้าใจในความหวังดีของแม่เรื่องหาลูกสะใภ้ แต่จะต้องให้มาเป็นธุระเรื่องเอกสารมันคงไม่ใช่
ส่วนตัวเขาคงจัดการกับมันได้ไม่ยาก ประสาลูกคนรวยที่เคยเดินทางไปหลายประเทศบนโลกนี้ ยังเป็นนักเรียนทุนเรียนดีทั้งปริญญาตรี และโททางด้านวิศวกรรมของมหาวิทยาลัยชื่อดังในอังกฤษ อยู่อังกฤษมานับสิบปี
ชายหนุ่มกระชับกระเป๋าหนังสะพายสีน้ำตาลเข้มพาดบ่า เก็บโทรศัพท์มือถือไว้ในช่องด้านหน้าเพื่อสะดวกกับการหยิบใช้
พอได้รับข้อความมาตามสายอีกรอบ จึงหยิบมันขึ้นมารอรับรูปที่ส่งตามมาติด ๆ
ผมดำขลับความยาวประเอวรับริมฝีปากกระจับแดง รอยยิ้มหวานสังเกตได้ชัดว่ามีลักยิ้มตรงมุมปากเหมือนยัยน้องอริส! อดีตลูกสะใภ้คุณแม่ที่เคยหักอกกัน
ความแตกต่างกันคือเธอดูหวานกว่า ตากลมโตสว่างใสดูไร้พิษภัย
นี่มัน! นางพจมานบ้านทรายทองชัด ๆ ถักเปียด้วยก็ใช่เลย...
ยอมรับว่าความสวยของแม่พิมพ์ลภัสอะไรนี่ก็เข้าตาอยู่ คุณแม่ช่างคัดสรรเลือกได้ตรงใจสเปคหนุ่มน้อยใหญ่
เฮอะ! ไม่มีทางซะหรอก คอยดู... พ่อจะตะเพิดให้เรียบ!
คิดพลางแค่นหัวเราะอย่างนึกขันกับความพยายามหาลูกสะใภ้ของคุณนายขวัญฤดี
เขาไม่ได้ตอบไลน์แม่ ไล่ปัดดูรูปถ่ายในหลายอิริยาบถของเธอไปเรื่อย ค่อยชะเง้อคอมองหาเป้าหมาย
สนามบินตั้งใหญ่ จะหากันเจอยังไงล่ะ แล้วยัยเด็กนี่เตรียมเอกสารอะไรมาครบหรือเปล่า?
ความคิดหลายอย่างปรี่ประดังเข้ามาในหัว ขณะกวาดสายตามองไปรอบ ๆ โดยไม่ได้สนใจบรรดาเหล่าสาวน้อยใหญ่ที่ส่งสายตาลอบมองมาเป็นระยะ
ธรรมดาของคนหน้าตาดี วิศวกรหนุ่มดีกรีนอกปริญญาโทอ็อกซ์ฟอร์ด กระดิกนิ้วเรียกสาวคนไหนให้มา ขี้คร้านจะคลานถึงเตียงเขาภายในสิบนาที
ผิวที่เคยเป็นสีเข้มแทนกลายเป็นผิวขาวผุดผ่องหลังผ่านอากาศหนาวเย็นของเมืองผู้ดีอังกฤษ เหมือนว่าชายหนุ่มดันเป็นผู้ดีตามไปซะเอง ใบหน้าหล่อเหลายังเปลี่ยนไปเล็กน้อยเพราะลูกยุของเพื่อนให้ไปผ่านมีดหมอซะบ้างเป็นประสบการณ์ชีวิต
เตชินก็บ้าจี้ถ่อไปถึงเกาหลี! จบท้ายที่เจ็บตัวและไม่ได้อะไรมามากนอกจากจมูกอันเดียว ไม่รู้จะไปเหลามันมาทำไมในเมื่อของเดิมก็ไม่ได้ขี้เหร่...
ในที่สุดเขาจึงหันไปออกกำลังกายให้หนักขึ้นแทน จนตอนนี้ด้วยรูปร่างกำยำเป็นล่ำสัน พกพาความสูงมาถึงหนึ่งร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตร
น้องพิมพ์อะไรนี่จะหาเขาเจอได้ยังไง?
คิดพลางชะโงกคอมองไปทั่วทิศทางที่มีผู้คนเดินอยู่ประปราย โดยไม่ทันได้สังเกต
“คุณเตชินหรือเปล่าคะ?” เจ้าของเสียงหวานข้างในทางฝั่งขวาเรียกให้เขาต้องมองขวับตามสาวตัวเล็กน่าทะนุถนอม ความสูงไม่ถึงระดับบ่าอย่างพิจารณา
ผ้าพันคอสีชมพูหวานเป็นแฟชั่นคนละเรื่องกับผมสีทองอาจเพราะเธอรีบ ขณะที่เจ้าตัวก็จัดการได้ดีด้วยการเลือกเสื้อแขนยาวสีเทา กางเกงสีขาว
แม่สาวตัวอ้อนแอ้นเอวบางยิ่งดูตัวเล็กนมโต น้ำหนักคงสักประมาณสี่สิบกว่ากิโลกรัมได้
“ครับ... พี่เอง ลูกชายแม่ขวัญ”
“ฉันพิมพ์ลภัสนะคะ เรียกพิมพ์ก็ได้ค่ะ” แนะนำตัวอย่างประหม่าเล็กน้อยกับสายตาของคนแปลกหน้าจนเธอต้องยกมือจับเส้นผมไว้ด้านหลังใบหูอย่างอาย ๆ
“เราไป... กันเลยไหมคะ?”
ชายหนุ่มยังคงยืนนิ่งอึ้ง มองขนตางามงอนเป็นแพหนาเหนือดวงตาสว่างใสกะพรือเบา ๆ ทำหัวใจเขาแทบปลิว! ขนาดว่ายังไม่เห็นจมูกและปากของแม่คุณด้วยซ้ำ...
โอ้ว... น้องพิมพ์ของคุณแม่ สวยทะลุแมสก์!
“คุณเตชินคะ... ไปกันเลยไหมคะ? ได้ยินหรือเปล่า...?”
“ออ... ไม่ค่อยจะได้ยิน ใส่แมสก์ฟังไม่ชัดครับโทษที เรียกพี่ก็ได้น้อง คนกันเอง”
มันคือคำโกหก! ที่ไม่ได้ยินคงเพราะมัวแต่มอง ยังเผลอกลืนน้ำลายตัวเองที่ว่าจะตะเพิดเรียบ...
“ไปกันเลยไหมคะ? คุณ...”
“พี่เตครับ น้องพิมพ์... เอกสารครบนะครับ ใบรับรองแพทย์ ลงทะเบียนขอใบ COE[1] ผ่านเว็บไซต์เรียบร้อยแล้วเนอะ?”
“ค่ะ เรียบร้อยแล้วค่ะ... ครบหมดทุกอย่างแน่นอน” เธอตอบด้วยรอยยิ้มหวานเสียจนเห็นตาหรี่เล็กลง ยังยกมือประนมแนบอกอย่างนอบน้อม
“ขอบคุณนะคะ คุณเตชิน ขอบคุณแทนป้าขวัญด้วยค่ะ”
“ไหว้ทำไมเล่า... พี่แก่หมด แล้วเรียกพี่ก็ได้ ไม่ต้องมาคงมาคุณหรอก มาเกรงใจอะไร พี่จะกลับไทยอยู่แล้วทางผ่านทางเดียวกัน”
หญิงสาวกลอกตาไปมาอย่างลังเลก่อนคิดได้ว่ามันคงไม่แปลกอะไรกับคำเรียก ‘พี่’ ตามธรรมดาของคนไทย ป้าขวัญยังบอกว่าลูกชายเพิ่งสามสิบห้าปีหมาด ๆ
“ค่ะ... พี่เตชิน ขอบคุณค่ะ” พูดพลันยกมือไหว้อีกรอบให้โดนว่า
“โอ๊ย...! แม่คนมารยาทงาม พี่บอกไม่ต้องไหว้ เดี๋ยวเถอะ ไหว้อีกทีจะจับผูกมือพันรอบด้วยสายสิญจ์”
ท่าทางฟาดมือของเตชินทำสาวแท้เบิกตากว้างดูยังไงก็เหมือนสาวประเภทสอง แต่อีกนัยหนึ่งอาจหมายถึงว่าเขาเป็นคนขี้เล่นมากกว่า ถึงได้อัธยาศัยดีขี้แซวเหลือเกิน
พิมพ์ลภัสไม่ไหว้เขาแล้วแต่อธิบายเรื่องที่ตั้งใจมาพูด
“พิมพ์ไม่อยากให้คนมองว่าบ้านพิมพ์มีเจตนาไม่ดีน่ะค่ะ ป้าขวัญออกค่าโรงแรมให้พิมพ์เกรงใจมาก”
“ไม่ต้องคิดอะไรหรอกน่ะ รับ ๆ ไปเถอะ แต่ถ้าไม่สบายใจ ไว้เจอแม่พี่แล้วค่อยคุยกันเรื่องนี้ดีไหม?”
“ดีเหมือนกันค่ะ พี่เต พิมพ์ขอบคุณนะคะ” ในท่าทางจริงใจของเธอกระทั่งแววตาใสซื่อ
เตชินเห็นว่าแม่สาวคนงามช่างทำตัวดี น่ารักสมคำโม้ของแม่ เขาคงไม่อยากเสียเวลา จึงพากันเดินไป
[1] Certificate of Entry (COE) หนังสือรับรองการเดินทางเข้าประเทศไทยทางอากาศ