จิวซิน เปลื้องผ้าลงไปนอนแช่น้ำอุ่นผมยาวสลวย สยายลงกลางหลังใบหน้าผุดผาดประทุมถันเต่งตึงหน้าท้องเรียบเนียนสวยไร้ที่ติ ผิวขาวอมชมพูจนหมิงหลินเป็นผู้หญิงยังถึงกับกลืนน้ำลายเมื่อเผลอมองแบบตรงๆ นายหญิงของนางไม่เพียงแต่งดงามเท่านั้นหากแต่ใต้หล้านี้คงจะหาใครเทียบเคียงนางไม่
พอแล้วหมิงหลินเจ้าออกไปเถอะข้าเพียงต้องการ แช่น้ำอุ่นเพื่อให้รู้สึกสบายขึ้นหมิงหลินขยับตัวคารวะก่อนจะถอยห่างออกไปด้านนอก
จิวซินครุ่นคิดถึงแผนการที่นาง วางขึ้นอย่างแสนจะเร่งรีบนั้น แม้จะไม่รัดกุมหากแต่ก็ยากที่ใครจะพบจุดบกพร่อง ตอนนี้จินเกอองค์ชายใหญ่หายตัวไปลึกลับ ตัวจิวซินเองก็มีหลายคนที่รู้แต่เพียงว่านางป่วยด้วยโรคประหลาดใบหน้าเสียโฉมจนต้องปิดบังใบหน้าไว้บัดนี้นางยังเก็บตัวเงียบอยู่ที่เหอตงหยวนไม่พบปะผู้ใด
หลับตาลงช้าๆ เอนหลังพิงขอบถังไม้ใบใหญ่ต่อแต่นี้ต้องเริ่ม แผนการขั้นต่อไป ความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ของสองแคว้นแล้วยิ่งหากองค์ชายใหญ่ปฏิเสธองค์หญิง14อีกยิ่งกลับทำให้ทุกอย่างเลวร้ายลงไปกว่าเดิม
หลับตานิ่งหายทางหนีทีไล่คิดว่าอีกไม่กี่มากน้อยไห่ตงหยวนต้องจับได้ถึงสิ่งที่จิวซินทำอยู่ตอนนี้เมื่อนั้นทุกอย่างยิ่งต้องเลวร้ายกว่าเดิมเป็นแน่
องค์ชายห้าฮุยโม๋เดินเอามือไพล่หลังเยื้องย่างเบากริบมาจากด้านหลังตำหนักบรูพาเขาเดินเรื่อยเปื่อยแต่เหตุใด นำพาตัวเองมายังตำหนักบูรพาได้กลิ่นเครื่องหอมลอยลมมาปะทะเข้ากับจมูก เป็นกลิ่นดอกไม้นานาพรรณคล้ายที่หญิงสาวและไม่สาวในไห่ตงหยวนใช้โรยลงบน อ่างอาบน้ำไม่น่าเชื่อว่าที่นี่จะมีใครทำอย่างนั้นเพราะที่นี่เป็นตำหนักขององค์ชายใหญ่จินเกอพลันความคิดหนึ่งก็แล่นเข้าสู่สมอง หรือว่าสิ่งที่เขาคิดไว้จะเป็นจริงฮุยโม๋เดินเข้าไปด้านหลังใช้เอาหูแนบเข้ากับฝาห้องอาบน้ำ ความเงียบงันน่าสงสัย ความอยากรู้อยากเห็นตามวิสัยของฮุยโม๋ไม่มีอะไรมาหยุดยั้งได้ขยับตัวเข้าไปใกล้กว่าใกล้ใช้มีดสั้นที่พกติดตัวเจาะข้างฝาด้วยความระมัดระวังจนเป็นช่องพอที่จะมองผ่านเข้าไปได้เห็นเพียงเรือนผมยาวสลวยห้อยลงมาจากอ่างอาบน้ำใบใหญ่มองไม่ชัดว่าเป็นผู้ใด
“ข้าต้องการพบเขาไยต้องให้ข้ารอ” เสียงโวยวายด้านนอกดังมาให้พอได้ยิน
“ขออภัยองค์รัชทายาทนายข้ากำลัง แช่น้ำยาสมุนไพรเพื่อรักษาอาการเมามายจากเมื่อคืนองค์ชายใหญ่สั่งไว้ห้ามใครรบกวน” เสียงจิ่นฉินแก้ต่าง
ชงไฉ่ รู้สึกไม่พอใจอย่างมาก
ยังไม่ทันไรยังไม่ทันได้แต่งเข้าเป็นราชบุตรเขยยังเหิมเกริมอย่างนี้หากมีองคืหญิง14กับเสด็จพ่อคอยให้ท้าย จะขนาดไหนข้าเป็นถึงองค์รัชทายาทและยังมีศักดิ์เป็นถึงพี่ชายสิบสองเขาเป็นเพียงเขยสิบสี่ทำไมไม่ให้ความสำคัญแก่ข้าที่เป็นถึงองค์รัชทายาท” น้ำเสียงโมโหสุดขีด
“องค์ชายใหญ่ องค์รัชทายาทมารอพบท่าน ที่ด้านนอก” เสียงใสหวานของ หมิงหลินดังมาจากม่านกั้นชั้นที่สาม จิวซินส่งเสียงขานรับในลำคอเบาๆ ก่อนจุกลุกจากอ่างน้ำ
ฮุยโม๋ตกตะลึงจนเผลอร้องออกมาเสียงหลงดังลั่น
“มีคนร้าย” หมิงหลินตะโกนก้องลืมไปสนิทว่าจิวซินยังอยู่ในสภาพไหนชงไฉ่และ จิ่นฉินไวดังสายฟ้าถลาเข้ามาทันที จิวซินสะบัดผ้าสีขาวคลุมร่างล่อนจ้อนของตัวเอง จิ่นฉินหันไปสบตาก่อนจะถลาไปที่ข้างฝาห้อง ด้วยความรวดเร็ว ชงไฉ่มาถึงทีหลังถลาตามไป พอดีกับที่จิวซินก้าวขาออกมาจากอ่างน้ำพอดี จึงชนเข้ากับร่างของ ชงไฉ่เต็มแรงล้มลงบนร่างใหญ่ของชงไฉ่ ชงแตกตะลึงเผลอกอดรัด จิวซินเต็มที่เพียงผ้าขาวบางเบาที่กางกั้นร่างเนียนไว้อกอวบเบียดชิดกับอกกว้างแนบสนิทด้วยน้ำหนักตัวและแรงกระแทกตาสบตาชงไม่อาจหลีกหนีดวงตากลมของจิวซินได้ จิวซินอยากจะกรีดร้องหากแต่ยังมีความยับยั้งชั่งใจ ต่างฝ่ายต่างนิ่งด้วยกันทั้งคู่ หมิงหลินยกมือขึ้นปิดปากแน่น จิ่นฉินหันกลับมากระชากแขนจิวซินเข้าสู่อ้อมแขน
“องค์ชายใหญ่ ท่านไม่เป็นไรใช่ไหม...องค์ชายสิบสองเชิญท่านลุกขึ้นเถิด” น้ำเสียงแสดงความห่วงใยอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับยื่นมือส่งให้องค์รัชทายาทเป็นการแสดงน้ำใจ ฃงไฉ่ลุกขึ้นอย่างว่าง่าย สบตาจิวซินที่พยายามหลบตาเขาไม่ปริปากเอ่ยคำใดด้วยใจที่เต้นระรัว
ฮุยโม๋ทะยานขึ้นไปเบื้องบนให้พ้นสายตาคนทั้งหมด
“แน่ใจนะองค์ชายว่ามีคนร้าย ข้าไม่เห็นใคร” จิวซินยังตกใจกับ เหตุการณ์เมื่อครู่ที่ตัวเองล้มทับชงไฉ่ทั้งๆ ที่มีผ้าบางเบาคลุมร่างเพียงผืนเดียว และขณะนี้ยังอยู่ในอ้อมแขนของจิ่นฉินอย่างปฏิเสธไม่ได้
“เจ้าล่ะหมิงหลิน แน่ใจไหม” ยังไม่ยอมปล่อยมือจากจิวซิน ยังห่วงด้วยจิวซินยังอยู่ในสภาพไม่น่าไว้ใจ
“ข้าได้ยินเพียงเสียงร้องจากด้านนอก”
“ไม่แน่มันอาจไหวตัวทันเดี๋ยวข้าตรวจตราดูรอบๆ หมิงหลินดูแล.....องค์ชายด้วย” หมิงหลินหาเสื้อคลุมอีกตัวมาคลุมทับผ้าขาวที่ห่มคลุมร่างขิงจิวซิน คราวนี้เองที่เพิ่งนึกได้ว่าชงไฉ่จับจ้องมอง จิวซินที่ปล่อยผมยาวสลวย ใบหน้างดงามราวภาพวาดของหญิงงามจากฝีมือของจิตรกรเอก แม้เสื้อคลุมตัวใหม่จะทำให้รู้สึกถึงความเป็นบุรุษ หมิงหลินจึงรั้งแขนจิวซินออกมาจากด้านใน ชงไฉ่มองตามจนลับตา พลางครุ่นคิดตามแบบคนช่างคิด ว่าบุรุษหนุ่มจากเหอตงหยวนยามเขินอายไม่ต่างจากหญิงสาวแก้มแดงสุกปลั่งน่ามอง นึกอิจฉารูปโฉมของจิวซินเหมือนเดิมแต่คิดไปก็ไม่น่าอิจฉาเท่าไหร่สู้เขาก็ไม่ได้ที่มีมัดกล้ามแน่นหนาผิวไม่ขาวซีดเหมือนองค์ชายใหญ่คนนั้น ทั้งยังใบหน้าคมคายกว่าอย่างเห็นได้ชัด
จิ่นฉินพบรอยมีดเจาะที่ข้างฝาแต่เขาก็ไม่ได้ปริปากว่าอย่างไร
“นายเจ้าเพิ่งเข้ามาอยุ่ในวังหลวงเหตุ” ไฉนถึงมีคนคิดปองร้าย” ชงไฉ่เอ่ยปากถามจิ่นฉิน
“อาจไม่ใช่คนร้ายอย่างที่องค์ชายคาดเดาแต่อาจเป็นใครสักคนในวังหลวงแห่งนี้เพียงแค่ผ่านมาเท่านั้นเอง”
“ข้าจะยินดีด้วยหากเป็นเพียงแค่ใครสักคนที่ผ่านมาอย่างเจ้าว่า”
องค์ชายห้าฮุยโม๋ไม่รอฟังอีกต่อไปวิ่งลัดเลาะไปบนกำแพงสูงก่อนจะกระโลงหน้าตำหนักบูรพาจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทาง เห็นทีต้องไปดูหน้าองค์ชายใหญ่เสียหน่อยว่าเป็นอย่างไรบ้าง