ช่วงเวลาแห่งการเอาคืน

1298 คำ
“แล้วไง ทำไมทำหน้าแบบนั้น แล้วนี่มึงแต่งหน้าทำไม” “เอ้า กูก็อยากสวยมั้ย” บทสนทนาระหว่างเพื่อนสมัยมัธยม ชายหนุ่มที่โตมาพร้อมๆ กับเธอ บัดนี้ได้กลายมาเป็นหนุ่มหล่อขวัญใจสาวๆ เขาเรียน ปี4 เหมือนกับเธอ แต่เขาเรียนอยู่มหาลัยที่มีชื่อเสียงและค่าเทอมแพงพอสมควร เขาเป็นประเภทรวยตั้งแต่เกิด และเป็นเพื่อนเพียงไม่กี่คนของจูล บ้านเขาทำธุรกิจรับซื้อพืชไร่และการเกษตร อยู่ต่างจังหวัด และใช่ พวกเขาสองคนมาจากต่างจังหวัดเหมือนกัน พ่อ-แม่ของก้องภพ ฝากฝังเขาไว้กับจูลลี่ พวกท่านรักเธอ และพ่อแม่ของเธอก็รักก้องภพ แต่เนื่องด้วยเรียนกันคนละที่ กับนิสัยหลีสาวไปทั่วของก้องภพ พวกเขาใช้ชีวิตต่างกันเลยไม่ค่อยมีเวลามาเจอกัน แต่เมื่อไหร่ที่จูลโทรหาเขา ไม่ว่าครั้งไหนๆ เขาก็จะรับสายเธอเสมอ ทุกครั้ง และทุกครั้ง แต่ทำไมวันนี้หน้าตาเธอดูหม่นๆ นะ เขาได้แต่ตั้งคำถามในใจ เพราะเขารู้ดีว่าคนแบบจูล ถ้าบทจะไม่เล่าเอาอะไรมาง้างปาก เธอก็ไม่เล่า “อยากกินอะไรล่ะ แม่คนสวยยย” เขาลากเสียงยาวกวนบาทา “ข้าวต้ม จับฉ่าย” ไปร้านป้านึกกัน “เออๆ สั่งกูเป็นก๋วยเตี๋ยวเลยมึง” เขาบ่นแต่ก็พาเธอไป “มึง ช่วงนี้มาหากูบ่อยหน่อยได้มั้ย” ชายหนุ่มหันมองเธอหรี่ตามองสงสัย สิ่งที่จูลลี่ไม่เคยขอเขามาตลอดคือการให้เขามาป้วนเปี้ยนกับชีวิตเธอ แม้ว่าเขาจะพยายามเข้าหาเธอกี่ครั้งแต่จูลลี่ก็ไม่ยอมเปิดใจ “ผีอะไรเข้ามึง” “ก็เปล่า ทำให้กูได้มั้ย” “มีครั้งไหนทำกูทำให้มึงไม่ได้บ้างล่ะ” “เออ ขอบใจ” “ต้องการกูตอนไหนก็โทรมา” “อืม” หลังจากทานข้าวต้มรอบดึกกันเสร็จ เขาก็ไปส่งเธอที่หอพักและแยกย้าย เอาล่ะ เดวิด ถ้าคุณโกรธที่ฉันแต่งตัวสวย หรือแม้กระทั่งโกรธที่ฉันไม่ได้เป็นของคุณแค่คนเดียว ฉันจะทำให้คุณได้รู้ ว่าความเจ็บใจแต่ทำอะไรไม่ได้มันเป็นยังไง แล้วคุณจะรู้สึกที่มาทำกับคนอย่างฉันแบบนี้ . . ทางด้านเดวิดที่เล่าทุกอย่างให้คู่รักฟัง “ไอ้หยา ไอ้เดฟ ไอ้เลว” เสียงน้องชาย กร่นด่าผู้เป็นพี่ชายเมื่อได้รู้เรื่องที่เขาเล่า “เดฟฟ ใจร้ายเกินไปแล้วนะ” ยูมิทำหน้าเอือมระอา “อืม ตอนนั้นมันอดใจไม่ไหว โมโห แล้วก็อยากเอาเธอ โกรธมากที่เธอยืนคุยกับผู้ชาย ดวงตาของเธอ นอกจากฉัน ฉันก็ไม่อยากให้ใครมองมัน” สีหน้าเขาค่อนไปทางตำหนิตัวเอง น้ำเสียงเจือไปด้วยความรู้สึกผิด “ใจโหด” คริสเตียนยังไม่หยุดต่อว่า “ไอ้คริส มึงก็เคยทำกับยูมิเหอะ” เขาเริ่มไม่พอใจน้องชายที่ตำหนิเขาไม่หยุด ผู้เป็นน้องเงียบไม่เถียงต่อ เขาเริ่มเข้าใจอารมณ์ของพี่ชายและรู้ว่าตอนนี้พี่ชายน่าจะรู้สึกยังไงกับเด็กนั่น “แล้วมึงจะทำไงต่อ” คริสเตียนถามเดวิดผู้เป็นพี่ชายด้วยความเป็นห่วง “ไม่รู้สิ เธอเกลียดกูแล้วมั้ง วันนี้ก็มายื่นเรื่องขอย้ายที่ฝึกงาน” เขาทำหน้าละห้อยสีหน้าเจ็บปวด “งั้นมึงก็รีบกลับบ้านไปง้อเธอซะ มานั่นเสียเวลากับพวกกูทำไม” “นั่นสิเดฟ ไม่ใช่ว่าน้องเขาโบกแท็กซี่กลับหอไปแล้วล่ะ ถ้าแบบนั้นจะตามหายาก…” สาวร่างบางพูดยังไม่ทันจบ เดวิดรู้ตัวแล้วว่าเขาพลาดไปที่ทิ้งเธอไว้ที่บ้าน เขาลืมคิดไปว่าเธออาจจะหนีกลับบ้านเมื่อไหร่ก็ได้ แล้วเขายังมาเสียเวลาอยู่แบบนี้อีก พระเจ้าไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะโง่เง่าได้ขนาดนี้ เขาร้อนรนและขับรถกลับบ้าน แต่มันก็สายไปแล้ว ไม่อยากเชื่อ ไม่มีเธออยู่ที่นั่นแล้ว . . เช้าวันต่อมาเขาเข้าไปทำงานด้วยอารมณ์หงุดหงิด อยู่ภายในห้องทำงาน สัก 9 โมงมั้ง เขาเปิดประตูห้องทำงานออกมา เพื่อออกมาสูดอากาศ มองไปยังโต๊ะทำงานของเธอที่คิดว่าไม่จะเจอเธอแล้ว แต่แล้วเขาก็ต้องตกตะลึง มือคนที่นั่งอยู่ จูลลี่ จากสาวน้อยแสนห้าวและเซอร์ เธอเปลี่ยนลุคกลายเป็นสาวสวย แว่นตาก็ไม่ใส่เผยให้เห็นดวงตากลมโตสีน้ำตาล ที่โตเกินใบหน้าไปมาก ผมสีน้ำตาลหยักศกถูกรวบขึ้นไปมัดแบบไม่ตั้งใจทำให้ดูเซ็กซี่มาก ผิวขาวอมชมพู และใช่ เสื้อนักศึกษาฟิตเปรี๊ยะ กับกระโปรงทรงเอ ที่เธอไม่เคยใส่มาก่อน เขายืนตะลึงมองตาค้าง เม้มริมฝีปากจนเป็นเส้นตรง หัวใจเขาเต้นตึกตัก เหนือสิ่งอื่นใดคือเธอสวยมาก หัวใจของเขากระสับกระส่าย แค่คิดว่าคนอื่นจะจ้องมองดวงตาสีน้ำตาลนั่นก็ทำให้เขาอยู่ไม่เป็นสุข แล้วยังไงดี ทักแบบไหนก่อนดี สีหน้าเธอเรียบเฉยและมองเขาด้วยแววตาไม่รู้สึกรู้สา นั่นทำให้เขาเริ่มเจ็บแปลบในหัวใจ เธอเกลียดเขา ใช่ แต่อย่างน้อยขอคุยกันสักนิดก็ยังดี เอาล่ะ “คุณจูล เข้ามาพบผมที่ห้องทำงานด้วยครับ อยากคุยเรื่องหนังสือขอย้ายสถานที่ฝึกงาน” เขาเอ่ยน้ำเสียงเรียบ พยายามไม่ออกคำสั่งกับเธอ เพราะดูเหมือนช่วงนี้เธอจะแอนตี้การออกคำสั่งของเขา “ค่ะ บอส” เธอตอบนิ่งๆ สีหน้าเรียบเฉย ไร้ความรู้สึก หัวใจของคนร่างใหญ่เริ่มปวดแปลบ . . เมื่อเธอเดินเข้ามาในห้องทำงานเขาก็กระโจนเข้าไปกอดเธอทันที หญิงสาวกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ สงครามประสาทและการเอาคืนสินะ เธอยิ้มร้ายแล้วเอ่ยนิ่งๆ “มีอะไรคะบอส” เธอเงยหน้ามองเขาท่าทีเรียบเฉย ไม่ใจอ่อนหรอกเธอคิดในใจ “ผมขอโทษนะจูล เรื่องเมื่อคืนผมห้ามตัวเอง ไม่ได้ที่ทำกับคุณไปแบบนั้น” สีหน้าแววตาและน้ำเสียงรู้สึกผิดจัดมาเต็มเลยนะ แต่ฉันไม่ให้อภัยหรอกเดวิดคุณแบบคุณ “จูลไม่คิดมากหรอกค่ะ ก็แค่เอากัน ของมันเคยๆ บอสไม่ต้องใส่ใจค่ะ” น้ำเสียงเรียบเฉยท่าทีเย็นชาและแข็งกระด้าง “จูลล ได้โปรดอย่าทำแบบนี้เลยนะ อย่าเย็นชาใส่กันแบบนี้เลย” หัวใจของชายหนุ่มรวดร้าวและเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด “บอสเรียกมาคุยเรื่องย้าย จูลไม่ย้ายแล้วนะคะ พึ่งบอกพี่แมวไปเมื่อเช้า” “จริงเหรอครับ จูล” เขาเริ่มมีทีท่าดีใจเหมือนกับเด็กๆ แล้วกอดรัดเธอแน่นขึ้น แต่ถ้าพูดถึงเรื่องใจแข็งละก็ ไม่มีใครหนักเท่าจูลลี่คนนี้แล้วแหละ เพราะอะไรน่ะหรอ เพราะไรท์วางบทมาให้จูลแบบนี้ไงล่ะ 555+ เอาล่ะกลับมาที่จูลกับเดวิด . “บอสปล่อยจูลก่อนนะคะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้ามันจะดูไม่ดี” “ใครสนล่ะ ผมไม่สนใจคนอื่นหรอก” “แต่จูลสนค่ะ จูลลำบากใจแล้วแฟนจูลจะลำบากใจด้วยค่ะ” เธอกระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะช้อนสายตาขึ้นมองร่างใหญ่ เดวิดอึ้งจนพูดไม่ออก “จูลขอตัวก่อนนะคะ” ร่างบางเดินออกไปจากห้องทำงาน ทิ้งคนตัวโตขี้โมโหคนเมื่อคืนให้ทำอะไรไม่ถูกไว้เบื้องหลัง มันคือช่วงเวลาแห่งการเอาคืนค่ะ เดวิด . .
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม