ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูบานใหญ่ที่อยู่ไม่ไกล ก่อนที่ร่างของสาวสวยจะเดินหายเข้าไปในห้องนานหลายนาที คนตัวเล็กยังคงนั่งทำงานตามหน้าที่ของตัวเองต่อ ไม่ได้สนใจคนที่พึ่งหายเข้าไปแม้แต่น้อย
กริ้ง~~
“สวัสดีค่ะ หน้าห้องท่านประธานค่ะ”
(เข้ามา)
ยังไม่ทันที่เธอจะตอบปลายสายจากในห้องก็วางไปแล้ว เธอหายใจเข้าออกลึกๆ ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปข้างใน ภาพที่เห็นครั้งแรกคือร่างของพนักงานสาวกำลังนั่งอยู่บนตักของชายตัวโตเสื้อผ้าที่เคยเรียบร้อย ถูกปลดออกจนเห็นเนินอกขาว
“ขะ ขอโทษค่ะอัน ขอตัวออกไปก่อนนะคะ” เสียงพูดติดๆขัดๆก้มหน้าหลบไม่กล้ามอง
“เดี๋ยว จะออกไปทำไม ผมเป็นคนเรียกให้คุณเข้ามา”
“แต่..”
“แต่อะไร รับไม่ได้หรอ?” ดวงตาคมเข้มมองจ้องคนที่ยืนก้มหน้าอยู่หน้าประตู
”ท่านประธาน จะสั่งอะไรหรอคะ อันจะได้รีบออกไปเตรียมมาให้”
“คุยกับผมทำไมต้องก้มหน้า” เสียงดุ
“คือ..อันมองไม่ได้ค่ะ”
“ทำไม? มันเป็นยังไงเหรอ แล้วที่ผมสั่งทำไมคุณถึงยังไม่ทำ หรือว่าคำสั่งของผมมันไม่มีผลอะไรกับคุณ”
“ไม่ใช่นะคะ คือ อันเห็นว่าคุณคุยเรื่องงานกับพี่เอมิลี่อยู่ เลยไม่อยากรบกวน”
“หึๆ ไม่อยากรบกวน คุณนี้มัน..”
อร๊ายยย ..
“บอสคะ เอมิลี่เจ็บนะคะ”
ร่างใหญ่ดันคนที่อยู่บนตักให้ลุกออกก่อนที่เขาจะเหยียดกายยืนขึ้นเดินออกมาหาร่างเล็กที่ยืนก้มหน้าอยู่ไม่ไกล นิ้วเรียวยาวเชยปลายคางมนเล็กขึ้นมองหน้า แต่สาวน้อยกลับมองต่ำหลบตาหนี
“มองหน้าผม” เสียงเข้มเค้นในลำคอ
ดวงตากลมหวานค่อยๆเหลือบมองหน้าของชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า คนตัวเล็กกลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก ร่างกายเกร็งไม่กล้าขยับ คิ้วบางเล็กขมวดเข้าหากัน เธอไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง
“เป็นอะไร ตื่นเต้นหรอ? คุณรู้มั้ยมันมีอะไรที่ตื่นเต้นกว่านี้อีก” ดวงตาคมกริบหรี่มองพร้อมรอยยิ้มมุมปาก ทำให้หัวใจของสาวน้อยเหมือนถูกกระชากออกจากร่าง
“บอสคะ เอมิลี่ขอกลับมาดูแลบอสเหมือนเดิมไม่ได้เหรอคะ นะคร้า” พนักงานสาวเดินเข้ามาเกาะแขนทำหน้าอ้อน
“หมดหน้าที่คุณแล้ว ออกไปซะ”
“บอส ไหนบอสบอกว่าจะให้เอมิลี่กลับมาทำตำแหน่งเดิมไงคะ”
“ผมเปลี่ยนใจแล้ว ส่วนคุณ คุณเลขาคนใหม่ผมจะไม่พูดซ้ำ ถ้าภายในหนึ่งชั่วโมงนี้โต๊ะของคุณยังไม่เข้ามาอยู่ในห้อง ผมจะไล่คุณออก”
“บอส หมายความว่าไงคะให้มันเข้ามาอยู่ข้างใน”
“เอมิลี่ คุณไม่มีสิทธิ์โวยวาย หมดหน้าที่ของคุณแล้ว ไสหัวออกไปซะ” เขามองหน้าหญิงสาว ก่อนที่เธอจะเดินกระทืบเท้าออกไปด้วยควมไม่พอใจ
คนตัวเล็กวิ่งออกไปหอบเอาเอกสารที่อยู่บนโต๊ะเข้ามากองไว้ที่โซฟาอย่างรีบร้อน เธอลากเก้าอี้เข้ามาในห้องด้วยความทะลักทุเล แต่ที่หนักกว่าคือโต๊ะ เธอยืนมองอยู่นานคิดว่าจะเอามันเข้าไปได้ยังไงเพราะขนาดมันใหญ่เกินกว่าที่เธอจะยกไหว
“ท่านประธานคะ คืออันขอลงไปตามพี่ รปภ.มายกโต๊ะช่วยนะคะ”
“ทำไม”
“คือ..มันใหญ่ อันยกไม่ไหวหรอกค่ะ” เสียงแผ่วเบาของคนตัวเล็กทำให้ชายหนุ่มมองเธอไม่ละสายตา
“งั้นคุณก็มานั่งกับผมตรงนี้”
“ไม่ได้ เดี๋ยวอันยกเองก็ได้ค่ะ” คนตัวเล็กรีบร้อนวิ่งออกไปลากโต๊ะทำงานตัวโหญ่ แต่ทำยังไงมันก็ไม่ยอมขยับเหงื่อเม็ดเล็กซึมออกตามไรผม ใบหน้าเล็กบิดเบี้ยวเพราะความหนัก เธอค่อยๆนั่งลงกับพื้นถอนหายใจแรงเพราะความเหนื่อย
“ไม่ไหวหรอก หนักขนาดนี้จะเอาเข้าไปยังไง” เสียงพูดกับตัวเอง แววตาเศร้ามองโต๊ะอย่างหมดหวัง
“ผมถึงบอกไง ว่าให้ไปนั่งข้างๆกับผม” เสียงกระซิบข้างๆทำให้เธอรู้สึกเย็นไปทั้งตัว
“อุ้ย! ท่านประธาน 0.0”
มือใหญ่จับแขนเล็กลากเข้ามาในห้อง มืออีกข้างยกเก้าอี้ตัวใหญ่ที่เธอลากเข้ามาด้วยความลำบาก แต่เขากลับยกมันขึ้นราวกับมันเป็นแค่เก้าอี้พลาสติก
เก้าอี้ถูกวางลงข้างๆเก้าอี้ตัวใหญ่ ด้วยที่โต๊ะเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า จึงมีพื้นที่กว้างสามารถใช้งานได้เยอะ
ตึก!
“นั่งลง”
“มันใกล้ไปมั้ยคะ คือขยับออกมาอีกนิดก็ได้” มือเล็กกำลังจะเอื้อมไปจับเก้าอี้ให้ขยับออกมา แต่สายตาที่เขา ทำให้เธอต้องชะงักแล้วยอมนั่งลงอย่างว่าง่าย
ชายหนุ่มกลับมานั่งที่ของตัวเอง เขาเปิดดูเอกสารบนโต๊ะเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่คนที่นั่งข้างๆกลับนั่งนิ่งเกร็งไปทั้งตัว
“เป็นอะไร”
“เรื่อง เมื่อคืน คุณ..จำอะไรได้มั้ยคะ” เสียงหวานพูดเบาๆใบหน้าแดงเพราะความเขิน
“อืม..ไม่รู้สิ ผมเมา ทำไมเหรอ คุณมีปัญหาอะไรหรือเปล่า แล้วกลับตอนไหนทำไมไม่พาผมกลับมาด้วย” ถึงคำพูดจะดูปกติแต่สายตาของเขากลับมีอะไรบางอย่าง ที่ทำให้เธอรู้สึกผิดปกติ
“…”
“ผมอยากได้กาแฟร้อนๆสักแก้ว เหมือนไม่ได้นอนมาทั้งคืนเลย” รอยยิ้มแปลกๆกับคำพูดแปลกๆทำให้สาวน้อยร้อนวูบวาบ เธอเดินออกมาชงกาแฟในห้องครัวเล็กๆของบริษัท ในหัวก็คิดวนแต่เรื่องเมื่อคืนมันยังค้างคาในใจไม่หาย
“เขาอาจจะจำไม่ได้จริงๆ แต่.. ไม่หรอกมั้ง ก็เขาบอกเองว่าเมา แล้วใครพาเราสองคนขึ้นห้องล่ะ” เสียงเล็กบ่นพรึมพรำคนเดียวอยู่พักใหญ่ก่อนที่เธอจะเดินยกแก้วกาแฟพร้อมขนมออกมาวางบนโต๊ะ
“ขอบใจ คุณเตรียมเอกสารการประชุมตอนบ่ายไว้ด้วยล่ะ ประชุมเสร็จผมจะบินไปทำธุระที่ไทย”
“ค่ะ”
ทั้งสองทำงานสักพักก่อนที่เสียงแป้นพิมพ์งานของคนตัวเล็กจะหยุดชะงัก
“เป็นอะไร”
“ข้อมูลตรงนี้ มันแปลกๆ แล้วสถิติของลูกค้าอันจะหาจากไหนเหรอคะ” คิ้วเล็กขมวดเข้าหากันเป็นปม ปากเล็กยู่จนติดจมูก
“ไหนให้ผมดูซิ”
มือหนาลากโน้ตบุคเข้าไปหาตัว เขาพิมพ์โน้นกดนี่อยู่ไม่นานก็หันมองหน้าคนตัวเล็กที่นั่งทำหน้ามึนอยู่ข้างๆ
“ขยับมานี่สิ เดี๋ยวผมสอน”
“ค่ะ” สาวน้อยขยับเก้าอี้ที่นั่งอยู่เข้าไปใกล้ชายตัวโต แต่เขากลับทำหน้าไม่พอใจ
แต่ยังไม่ทันที่เธอจะเอ่ยถาม มือใหญ่ก็คว้าเอวบางจับยกมานั่งบนตัก แขนใหญ่โอบรัดเอวเล็กของเธอไว้แน่นจนขยับลุกหนีไม่ได้
“คุณทำอะไรคะ ปล่อยนะคะ”
“อย่าดิ้น นั่งตรงนั้นจะเห็นได้ยังไง อยู่เฉยๆตั้งใจดูผมจะสอนแค่รอบเดียว” ใบหน้าคมเข้มดูจริงจัง จนเธอยอมนั่งอยู่นิ่งๆ
“คุณต้องเข้ามาตรงนี้ ไปที่ข้อมูลในแฟ้มนี้แล้วดึงมันลงมาทั้งหมด รหัสใส่เข้าระบบ ใส่เป็นเลขประจำตัวผู้บริหาร” เสียงเข้มพูดพรางทำให้เธอดูช้าๆ ก่อนจะหันกลับมาหาคนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนตัก
“เข้าใจมั้ย?”
“ขะ..เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ งั้นอันกลับไปนั่งที่เดิมได้แล้วใช่มั้ยคะ”
“เลิกเรียกผมว่าท่านประธานหรือคุณ ได้แล้ว”
“แล้วจะให้อันเรียกยังไงคะ”
“เรียก..”
สายตาที่เข้ามองเธอกับคำพูดที่รากยาว ทำให้เธอลุ้นรอฟังคำตอบ
“..บอส หรือไม่ก็พี่ หรือไม่ก็..”
“บอสคะ เรียกบอสน่าจะเหมาะสมที่สุด งั้นอันขอไปนั่งที่เดิมนะคะ”
ใบหน้าคมคายยกยิ้มอย่างพอใจในท่าทางเขินอายของสาวน้อย เขาไม่เคยเจอผู้หญิงแบบนี้มาก่อน จากตอนแรกที่ขัดใจไปซะทุกอย่างแต่ดูเหมือนตอนนี้เธอดูมีอะไรพิเศษน่าค้นหากว่าทุกคนที่เคยเจอ
สาวน้อยกลับมานั่งที่เก้าอี้ของตัวเอง แต่สายตาของใครบางคนยังจ้องมองเธออยู่ไม่ยอมละไปทางอื่น
……………..