"เรากำลังจะไปไหนคะ" แม้จะแปลกใจที่คนเป็นนายย้ายจากด้านหลังมานั่งเคียงข้างแต่ก็ไม่กล้าปริปาก ถามในสิ่งที่อยากรู้แทน จำได้ว่าตารางงานของผู้หญิงข้างๆ ในวันนี้คือว่าง
"อืม" หล่อนทำเป็นนั่งคิดอยู่สักพัก
"เธออยากไปไหนล่ะ"
"ไม่อยากไปไหนค่ะ" มายาตอบตามตรง แต่ถึงอยากจะไปไหนจริงๆ คงไม่กล้าบอก
"ไม่เชื่อหรอก มันต้องมีสักทีที่เธออยากไป" แม้จะรู้สึกขัดใจกับคำตอบ แต่ก็ยังคงไม่ละความพยายามที่จะเซ้าซี้ต่อ
"แล้วนายหญิงอยากไปไหนคะ" มายาถามกลับบ้าง
"ฉันอยากไปนวด ทำเล็บแล้วก็ช็อปปิ้ง ถามทำไม"
"งั้นฉันก็อยากไปนวด ทำเล็บและก็ช็อปปิ้งค่ะ" ไม่ค่อยชอบนักที่ได้ยินคำตอบของคนขี้ลอกแต่ก็รู้สึกพอใจขึ้นมาเสียอย่างนั้น
"เห้อ งั้นก็ตามนั้น"
มายาพาเจ้านายของเธอทำทุกอย่างตามที่พูด ระหว่างรอเธอจึงเดินข้ามฝั่งมาหาอะไรทานที่ร้านอาหารตามสั่งธรรมดา สั่งอาหารไม่หลายอย่างเพราะคิดว่าเจ้านายจะใช้เวลานานกับการทำเล็บเหมือนอย่างเคย กำลังจะก้มลงตักข้าวเข้าปาก สายตาพลันไปเห็นผู้หญิงที่ใส่เสื้อสีเดียวกับเธอกำลังจะข้ามฝั่งมาทางนี้ มายารีบลุกขึ้นยืนเดินตรงไปหาทันที
"คุณมาทำไมคะ เสร็จแล้วเหรอ" ถามออกไปด้วยความสงสัยทันทีที่หล่อนข้ามมาถึงฝั่งนี้
"ฉันไม่อยากทำแล้ว"
"ก็น่าจะโทรมาค่ะ แล้วรออยู่ในร้าน ไม่ต้องตามมาก็ได้" เห็นท่าทางเก้ๆ กังๆ ตอนหล่อนข้ามถนนก็รู้สึกเป็นห่วง
"ก็มาแล้วนี่ไง! " ไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่นักกับน้ำเสียงที่มายาดุเธอ
"งั้นเดี๋ยวฉันไปจ่ายเงินก่อนค่ะ คุณเข้ามารอในร้านก่อนก็ได้ตรงนี้ร้อน" ดึงแขนคนเป็นนายให้เดินตาม
"เธอยังไม่ได้กินเลยนี่ ไม่ต้องรีบก็ได้ ฉันรอ"
"ค่ะ" ใจหนึ่งก็หิวใจหนึ่งก็เสียดาย จึงนั่งลงเตรียมจะตักข้าวเข้าปากแต่ก็รู้สึกขัดใจที่คนข้างๆ เอาแต่ยืนท่าทางดูไม่ค่อยชอบบรรยากาศในร้านนี้นัก เพราะช่างวุ่นวายทั้งเสียงดังและผู้คนก็เริ่มแน่น อากาศข้างนอกที่ว่าร้อนในทีแรกยังไม่เท่าข้างในเลยตอนนี้
"นั่งค่ะ ยิ่งยืนยิ่งร้อน" แค่มองดูก็รู้ว่าคนเป็นนายกำลังคิดอะไรอยู่ จึงดึงแขนให้นั่งลงข้างกาย โดยมืออีกข้าวยังไม่ละจากช้อนที่จักข้าวเข้าปาก การรีบทายข้าวให้ไวคง้ป็นการดีกว่าให้คนข้างๆ ต้องรอนาน
"อื้อ ฉันนั่งเองได้น่ะ" แม้จะไม่ค่อยชอบใจกับบรรยากาศในร้านสักเท่าไหร่แต่ก็ยอมนั่งลงแต่โดยดี เธอนั่งทำเล็บอยู่ที่ในร้านประจำ พอมองออกมาก็เห็นคนสนิทข้ามไปฝั่งตรงข้ามกำลังจะสั่งข้าว เธอจึงอยากจะตามออกมาโดยยังเสริมสวยไม่เสร็จด้วยซ้ำ
"หิวเหรอ รีบกินขนาดนั้น" สังเกตุเห็นมายาเอาแต่ตักทุกอย่างตรงหน้าเข้าปากไม่เงยหน้าเลย
"กลัวคุณรอนานค่ะ" พูดพลางเอามือป้องปากไปด้วยกลัวเศษอาหารในปากจะกระเด็นออกมา
"ค่อยๆ กินเถอะฉันรอได้" กลัวลูกน้องจะติดคอตายเสียก่อน
"ค่ะ" ความไวลดลงทันที
"คุณอยากกินข้าวมั้ยคะ" พวกเธอออกจากบ้านมานานหลายชั่วโมงขนาดมายาที่ทานข้าวเช้าแล้วยังหิว นับประสาอะไรกับเจ้านายเธอที่เวลาตอนนี้ก็เที่ยงแล้วหล่อนคงต้องหิวแหละเพราะข้าวเช้าก็ไม่ได้ทาน
"ไม่ล่ะ เดี๋ยวค่อยไปกินที่อื่น" เธอไม่ค่อยชอบอาหารข้างทางหรือเรียกว่ารังเกียจเลยด้วยซ้ำ แม้จะแอบกลืนน้ำลายก็ตามเพราะเธอเอาแต่มองมายาตักข้าวเข้าปากไม่วางตาจนอยากจะลองชิมแต่ก็ฝืนตัวเองไว้ มายาหยิบช้อนส้อมในกล่องข้างตัวออกมาเช็ดทำความสะอาด ตักอาหารในปริมาณไม่เยอะเท่าที่เธอยัดเข้าปากก่อนจะยื่นให้คนข้างๆ
"ลองทานสิคะ ฉันป้อน"
"ฉันไม่..." อยู่ๆ ก็พูดไม่ออกขึ้นมาเสียอย่างนั้น
"อร่อยนะเออ" คำพูดหยอกล้อของมายาทำให้คนเป็นนายใจอ่อน ยอมอ้าปากให้มายาป้อนและเคี้ยวตุ้ยๆ
"ฉันชอบมากินตอนที่คุณทำสวยอยู่"
"ขอข้าวสวยเพิ่มหนึ่งค่ะ" มายาตะโกนสั่ง
"ใครบอกว่าฉันจะกิน" ต่อว่าออกมาทันทีกับคนแสนรู้ข้างๆ
"อ้าว งั้น..." กำลังจะยกมือเรียกและตะโกนยกเลิกที่สั่งไป แต่ถูกคนข้างๆ ดึงไว้
"ไหนๆ ก็สั่งแล้ว ฉันกินก็ได้" คุณหญิงเอ่ยกระปอดกระแปดออกมาไม่มองหน้าคนข้างๆ ที่แอบอมยิ้มกับคนปากไม่ตรงกับใจ เห็นคนข้างๆ มองเธอตักข้าวเข้าปากก็เข้าใจว่าหล่อนคงหิวแต่ไม่กล้ากินจึงแสร้งมัดมือชก
"นั่นเรียกว่าอะไรที่ฉันกินเข้าไป" เมื่อเข้ามาภายในรถก็เอ่ยถามมายาอย่างอยากรู้
"ปูผัดผงกระหรี่ค่ะ" คำตอบของสารถีทำให้เธอหน้านิ่ว
"ไปเห็นมีเนื้อปูเลย" ที่มายาตักให้เธอมีแต่ผักกับน้ำแกงเท่านั้น ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยกินแต่แค่รู้สึกไม่คุ้นก็เท่านั้นเอง
"ได้ปูแค่ตัวเดียวและฉันก็กินไปแล้ว"
"เอาเปรียบผู้บริโภคงั้นเหรอ"
"ราคาแค่ห้าสิบค่ะ ถ้าใส่ปูเยอะต้องขายแพง และคงไม่มีใครกิน" แม้จะแปลกใจกับอาหารที่ทำให้เธออิ่มเมื่อคิดเงินมาแล้วราคาแค่สองร้อยห้าสิบ สำหรับคนระดับเธอไม่เคยทานอาหารมื้อไหนราคาต่ำกว่าห้าพัน
"เหรอ พรุ่งนี้มากินอีกสิ ฉันชอบ อร่อยดี" อาหารพื้นๆ บ้านๆ แบบนั้นก็แปลกใหม่ดีสำหรับเธอ
"กินมื้อไหนคะ ร้านนี้เปิดตั้งแต่เช้าบ่ายก็ปิดแล้ว" กลัวว่าเจ้านายคนงามจะตื่นมาไม่ทันร้านคงปิดพอดี
"งั้นเธอก็มาซื้อสิ ตื่นเมื่อไหร่ก็กินเมื่อนั้นแหละ" หมั่นไส้กับคนตรงหน้านักที่รู้ทันไปเสียหมด
"แล้วไปไหนต่อคะ"
"กลับเลยดีกว่า ง่วงแล้ว" มองดูเวลาเพิ่งจะบ่ายสอง ไม่เเปลกเพราะวันนี้เจ้านายเธอตื่นผิดเวลา นาฬิกาการนอนก็ผิดไปด้วย
เมื่อเปิดประตูเข้ามาภายในห้องคุณผู้หญิงของบ้านก็ไม่ได้นอนเลยเหมือนดั่งที่บอก
"อย่าค่ะ" มายาไม่ได้คิดบ่ายเบี่ยงหนือหนีการกระทำของเจ้านาย ทันทีที่ประตูปิดลงมือบางแสนซุกซนก็ปลดกระดุมเสื้อเธอออกทันทีพร้อมกับพรมจูบทั่วลำคอของลูกน้อง ปัดป่ายคว้ามือของมายาให้สัมผัสลูบไล้บั้นท้ายของตัวเธอ
"ทำไม! " เมื่อมายาไม่ให้ความร่วมมือจึงยอมหยุดการกระทำและถามอย่างหาเรื่อง
"ฉันอยากให้เธอทำกับฉันเหมือนเมื่อคืนอีก" เมื่อมายาไม่ยอมตอบจึงบอกออกไปในสิ่งที่ต้องการแต่น้ำเสียงอ่อนลง
"ไม่ค่ะ ฉันไม่อยากทำ"
"เธอไม่ชอบฉันเหรอ ไม่อยากได้ฉันหรือไง" ถามออกไปอย่างหาเรื่องและเข้าข้างตัวเอง ก็เพราะมายาเอาแต่แอบมองเรือนร่างเธอตลอด ยิ่งทำให้คนเป็นนายคิดไปไกล
"หรือว่าเธอมีใครแล้ว มีแฟนแล้วเหรอ" เริ่มโวยวายเสียงดัง
"ค่ะ ฉันมีแล้ว" ยอมโกหกออกมาเพื่อจะให้เจ้านายเลิกคิดลึกซึ้งกับเธอแม้จะแค่ความสัมพันธ์ทางกายก็เถอะ เธอไม่ต้องการจะถูกมัดกับคนตรงหน้า แค่ในฐานะเจ้านายกับลูกน้องก็พอ ไม่อยากถลำลึก
"คงรักแฟนมากสินะ" เธอยอมปล่อยมือจากมายา เดินกลับมาที่เตียงก่อนจะหยุดและสั่ง
"ต่อไปนี้เธอไม่ต้องมาดูแลฉัน"
"ไปดูแลยัยพิณแทน" พิณ หรือพิณตรา ลูกสาวของคุณหญิงศศิที่ตอนนี้ก็มีเรื่องมากมายให้เธอต้องคอยจับตาดูอย่างไม่ให้คลาดสายตา
"ค่ะ"
"วันนี้เธอกลับบ้านไปได้แล้ว พักผ่อนเถอะ" สั่งโดยไม่หันกลับไปมองลูกน้องก้าวขึ้นเตียงล้มตัวลงนอนเป็นการจบบทสนทนา