เสียงเอะอะ ทำให้ชยพลเดินมาตามหาเพื่อน เมื่อเห็นสถานการณ์ตรงหน้าจึงรู้ว่าเพื่อนคงได้เจอกับตัวเองแล้ว อย่างที่เขาเคยเห็น ผู้หญิงอย่างปารุดา ไว้ใจได้เสียที่ไหน ตอนแรกเขาคิดว่าเธอคงหยุด ตอนได้คบหากับกวีมัน แต่ที่ไหนได้ กลับไม่เคยทิ้งลาย
“เกิดอะไรขึ้นกวี” ชยพลเอ่ยถาม ขณะมายืนเคียงข้าง
“ที่แกพูดไว้ไม่ผิดเลย ปานอกใจฉัน” เขาบอกเพื่อนเสียงเครียด พยายามสะกดอารมณ์ตนเองไม่ให้เผลอทำอะไรลงไป
ชยพลตบไหล่เพื่อน เพื่อปลอบใจ
“ปาไม่ได้นอกใจคุณนะคะกวี คุณเข้าใจผิด” เธอร้องบอก แล้วเดินตรงมาหา ทว่าชายหนุ่มกลับก้าวถอยหลัง
“อย่ามาใกล้ผมปา!”
“กวี... คุณอย่าทำแบบนี้กับปาเลยนะคะ ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่...”
“หยุดพูด! ผมเห็นคุณกับมันจูบกัน คณจะให้ผมเชื่อหรือไง ว่าไม่มีอะไร ถ้าคุณเห็นผมจูบกับผู้หญิงคนอื่น คุณจะคิดหรือเปล่าว่าไม่มีอะไร!”
ทว่าหญิงสาวกลับไม่ฟังเสียง ตรงเข้ามาหาแล้วกอดรัดแฟนหนุ่มไว้แน่น
“อย่าพูดเหมือนจะเลิกกับปานะคะกวี ปาไม่ยอม!” ปารุดาคร่ำครวญในทันที
ชยพลไม่อยากเห็นเพื่อนถูกหลอก จ้องมองหนุ่มคู่ขาของแฟนเพื่อนทันที แล้วเดินเข้าหา ทว่าเหมือนอีกฝ่ายรู้ทัน รีบชิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
กวีวัธน์แกะมือคนรักออก แล้วผลักจนล้มลงกองกับพื้น ปารุดาปล่อยโฮออกมา ท่ามกลางสายตานับร้อยคู่ เธอเป็นดาราดาวรุ่ง กำลังเป็นที่จับตามอง แต่ตอนนี้กลับร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายใคร
“ไปกันเถอะไอ้พล ไปดื่มกันต่อ” เขาบอกเพื่อน แล้วเดินนำออกมานอกร้าน
ชยพลเคลื่อนรถออก แล้วพาไปต่อยังร้านนั่งดื่ม ที่มีดนตรีสดขับกล่อม ไม่มีแสงสีตระการตา ไม่มีหนุ่มสาวมาส่ายสะโพกกันอย่างสนุกสนาน ชยพลมองเพื่อนกำลังยกแก้วเหล้ากระดกดื่ม สีหน้าแววตาบ่งบอกถึงความผิดหวัง ปวดร้าว และทรมานใจ
“ฉันไม่เคยคิดเลยไอ้พล ว่าปาจะนอกใจฉันอย่างที่แกบอกจริงๆ”
ชยพลถอนหายใจเฮือกใหญ่
“เมื่อก่อนปาเองก็เป็นสาวเที่ยว แกก็เจอกับปาที่ผับไม่ใช่หรือไง ตอนนั้นปาก็อ่อยแกน่าดูเลย แกก็ยังคบกับปามาได้จนป่านนี้”
เขาตวัดสายตามองเพื่อน
“แต่ปาควรมีฉันแค่คนเดียว!”
“มันก็ใช่ ปาอาจจะรักแกนะกวี แต่ปาก็คงอยากเที่ยว อยากสนุกล่ะมั้ง”
มือกำแก้วเหล้าแน่น ดวงตาแข็งกร้าว
“ถ้าเป็นแบบนี้ ก็ไม่ต้องมาคบกัน!”
“แกถามปาหรือยัง ดูท่าคงไม่ยอมง่ายๆ หรอกนะ”
“ฉันไม่สนหรอกเว้ย จะยอมหรือไม่ยอม ฉันไม่มีวันเป็นไอ้โง่โดนสวมเขาต่อไปหรอก!” เขาบอกเพื่อน น้ำเสียงอ้อแอ้
แก้วน้ำสีอำพันยังคงถูกกระดกดื่มต่อเนื่อง ผ่านไปเกือบสองชั่วโมง คนอกหักฟุบหน้ากับโต๊ะ ชยพลส่ายหน้าด้วยความรู้สึกหนักใจ ก่อนจ้างพนักงานให้ช่วยกันพาร่างคนเมามายังรถ เพื่อขับเคลื่อนไปส่งยังบ้าน เสียงรถยนต์จอดเทียบชยพลก้าวลงมา
“คุณพลสวัสดีครับ” นุดิษทักทาย ท่าทางน้อบน้อม
ชยพลควักเงินในกระเป๋าส่งให้ นุดิษรับมา
“พาเจ้านายไปนอนหน่อย ตรงโซฟาในห้องก็ได้ ขึ้นข้างบนเดี๋ยวจะพากันตกลงมาเอา”
“ได้ครับคุณพล”
สองคนเลยช่วยกันแบกมาที่โซฟา ชยพลขับรถกลับบ้านไป ส่วนนุดิษนำผ้ามาห่มให้เจ้านาย แล้วกลับไปยังเรือนด้านหลังเพื่อพักผ่อนเช่นเดียวกัน เสียงรถยนต์เคลื่อนออกจากรั้วบ้าน นรีการนต์เปิดม่านมองดูแล้วขมวดคิ้ว รถคันนั้นเป็นของใคร ดูไม่คุ้นตาสักเท่าไหร่นัก คืนนี้คุณป้าไม่อยู่เสียด้วย ไปงานการกุศล ยังไม่คุ้นชินกับบ้านหลังนี้สักเท่าไหร่นัก นอนพักผ่อนเลยก็แล้วกัน
คนเมายกมือกุมขมับแน่น แล้วลุกนั่งหลับตาลง ความมืดทำให้มองไม่เห็นรอบด้านชัดเท่าไหร่ ลุกยืนโซเซสาวเท้าขึ้นบันไดไปยังห้องนอนตนเอง เสียงด้านนอกทำเอาคนอีกห้องชะงัก ขมวดคิ้วสงสัย แง้มประตูมองดู
ตุบ!
เห็นร่างสูงใหญ่ล้มลงตรงหน้าประตู นรีกานต์คิดหนัก ควรออกไปช่วยดีหรือเปล่า จ้องมองใบหน้าของคนด้านนอก ถ้าจำไม่ผิดเขาคือบุตรชายของบ้านหลังนี้ ชายที่เธอไม่อยากพานพบมากที่สุด แต่ดูเหมือนเวลานี้ เขากำลังเมาไม่รู้เรื่องอะไรเลย ถ้าหากมองผ่าน คงไม่ดี อย่างน้อยเขาคือบุตรชายของป้าโสภา เธอไม่ควรไร้ซึ่งความสนใจเช่นนี้
นรีกานต์ตัดสินใจเปิดประตูออกมา สาวเท้าหยุดยืนแล้วย่อกายลงพยุงคนเมาให้ลุกยืน ชายหนุ่มช้อนสายตามอง เห็นใบหน้างดงามของคนคุ้นเคย พอจำได้ลางๆ ว่าเธอคือลูกสาวเพื่อนของแม่ ซึ่งทุกคนคาดหวังให้เขากับเธอ แต่งงานกัน เขาหัวเราะในลำคอ หน้าตาสะสวยขนาดนี้ นิสัยคงเหมือนแฟนสาวของเขา ผู้หญิงสวย ๆ ชอบหว่านเสน่ห์ไปทั่ว ไร้ยางอายสิ้นดี!
ทันทีที่ได้สติ จับไหล่บางไว้แน่น จ้องมองใบหน้าแสนสวยแววตาแข็งกร้าว นรีกานต์ขมวดคิ้วสีหน้าไม่พอใจ
“เธอมาทำอะไรที่นี่!” เขาถามเสียงแข็ง
“ฉันเจ็บ! จะให้ตอบก็ปล่อยก่อน คุณป้าไม่ได้บอกคุณหรือไงว่าฉันมาอยู่ที่นี่ทำไม!” หญิงสาวย้อน
“แม่ไม่ได้บอกอะไรฉัน!”
คนสวยกัดฟันส่งสายตา นี่เขากำลังทำเธอเจ็บ เมาพอว่า ไม่น่าทำนิสัยแย่ไปตามน้ำพวกนั้นเลย
“เจ็บ ปล่อยได้แล้วคุณกวี!”
“ที่มาเพราะคิดอะไรหรือเปล่า หรือเพราะรู้ว่าที่นี่จงใจให้เราสองคนแต่งงาน เลยตั้งใจมาอ่อย!”
คนถูกพันนาการพยายามดิ้นรน เบี่ยงกายหนี แต่มือเขาดังคีบเหล็ก เรี่ยวแรงมหาศาล นี่ขนาดเมา ถ้าปกติไหล่คงหลุดไปแล้ว
“พูดจาบ้าบออะไรออกมา ฉันไม่เคยคิดแบบที่คุณพูดเลยสักนิด!”
ชายหนุ่มกัดฟันกรอด มันหงุดหงิด เดือดดาล แล้วยังต้องมาเจอผู้หญิงที่แม่ต้องการให้มาเป็นเจ้าสาวเสียอีก ทำไมต้องมาเจอกันในตอนที่เขากับแฟน เลิกรากันด้วย
“ช่างมาถูกจังหวะจังเลยนะ” เขากระตุกยิ้มมุมปาก “ตอนนี้ฉันว่างพอดี ยินดีเป็นเครื่องสนองอารมณ์ให้ แบบไม่เสียค่าใช้จ่ายด้วย เป็นไงดีไหม!”
“เลอะเทอะไปกันใหญ่แล้วคุณกวี ปล่อยฉัน แล้วแยกย้ายกันไปนอน ฉันแค่เห็นคุณเมาเลยออกมาช่วย อย่าได้เอาความคิดต่ำตมมาใส่หัวคนอื่น ฉันไม่ได้หมดหนทางหาสามีขนาดนั้น!” เธอย้อนเสียงแข็ง