bc

สลับร่างพลิกชะตาเปลื่ยนรัก

book_age18+
27
ติดตาม
1K
อ่าน
โอกาสครั้งที่สอง
มั่นใจ
ผู้สืบทอด
ดราม่า
ชายจีบชาย
สยองขวัญ
ฉลาด
ขี้แพ้
วิทยาลัย
ออฟฟิศ/ที่ทำงาน
friends with benefits
polygamy
like
intro-logo
คำนิยม

อุบัติเหตุได้พลิกขะตาเขาทั้งสี่ ให้เกิดความรักที่ไม่ลงตัว ชัวิตดำดิ่งในห้วงรัก ที่ไม่สามรถจะเปลื่ยนแปลงอะไรได้ เมื่อทุกอย่างเข้าสู่จุดเดิม แต่ความรู้สึก ความรักได้เปลื่ยนแปลงไปอีกครั้ง กว่าจะทำให้รักลงตัวได้ จนเกือบสูญเสียคนที่รักตลอดกาล

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
พลิกชะตาชีวิต
มันนี่หนุ่มการตลาดพึ่งเลิกงาน หลังจากไปพบลูกค้าอยู่หลายชั่วโมง เขาจึงรีบขับรถอย่างเร็วท่ามกลางสายฝนฟ้าคะนอง เพื่อไปหามาร์คแฟนหนุ่มที่กำลังนั่งรอเขาอยู่ในร้านอาหาร หลายวันผ่านมามาร์คทำงานหามรุ่งหามค่ำ จนไม่มีเวลาพักผ่อนเท่าที่ควร สมองของเขาเริ่มรู้สึกเบลอๆอยากจะหลับ แต่เขาพยายามฝืนร่างกาย และข่มตาให้เบิกกว้าง มันนี่พยายามที่จะตั้งสติแต่เขาไม่สามารถทำได้ เพียงแค่มันนี่หลับตาชั่ววินาที รถของเขาก็พุ่งชนคันหน้าอย่างแรง จนรถทั้งสองคันชนซ้อนกันอยู่ไหล่ทาง ในช่วงเวลานั้นเกิดพายุฟ้าร้อง สายฟ้าฟาดเฉียดรถทั้งสอง “เบน เบน เบน”เสียงหญิงสาวมีอายุเรียกชื่อข้างหูของมันนี่ มันนี่ค่อยๆลืมตาขึ้นทีละน้อย เขาได้เห็นภาพอยู่ตรงหน้า เป็นหญิงสาววัยเกือบหกสิบยืนยิ้มทั้งน้ำตา “เบนลูกแม่ฟื้นแล้ว แม่ดีใจมากเลยลูก”สินีจับมือของมันนี่ไว้กำจนแน่น “คุณเป็นใคร ผมไม่ได้ชื่อเบน ผมชื่อมันนี่ ที่นี่ที่ไหนกัน”มันนี่พยายามพยุงร่างลุกขึ้น “อย่าพึ่งลุกขึ้นเลยลูก เบนยังบาดเจ็บอยู่ ศีรษะของเบนกระแทกพวงมาลัย โชดดีมากที่เป็นอะไร” มันนี่หลับตานึกย้อนเหตุการณ์เมื่อคืน เขาจำได้แค่กำลังขับรถ ไปหามาร์คแฟนหนุ่ม ส่วนเหตุการณ์ต่อจากนั้นมันนี่จำอะไรไม่ได้อีกเลย “ผมมาอยู่ที่โรงพยาบาลได้ไง” มันนี่มองรอบห้องเขาก็รู้ได้ทันทีว่าที่นี่คือโรงพยาบาลหลังจากนั้นเขามองหญิงสาวผู้แทนตัวเองว่าแม่ “เกิดอุบัติเหตุเมื่อคืนเบนลูกแม่ขับรถชนท้ายรถคันหน้า แต่โชคดีไม่ได้รับอันตรายทั้งลูกและคู่กรณี” “จำได้แล้วครับ ผมคงหลับใน แต่ผมไม่ได้ชื่อเบน และไม่ใช่ลูกของคุณ” มันนี่คาดเดาเหตุการณ์ต่อจากที่เขาหลับตาเพียงเสี้ยววินาทีได้ ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่เข้าใจว่าผู้หญิงคนที่แทนตัวเองว่าแม่ ทำไมน้ำตาของเธอกำลังไหลรินออกมา “ลูกจำอะไรไม่ได้จริงๆเหรอ ลูกชื่อเบน แม่ชื่อสินี ส่วนพ่อของลูกไปทำงาน ตอนเย็นน่าจะมาเยื่อมลูก”สินีควักผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตาให้เหือดแห้ง “ผมว่าพวกคุณคงเข้าใจอะไรผิดกันไปแล้วครับ ผมชื่อมันนี่ แม่ผมชื่อบังอร ส่วนพ่อผมไม่ได้ทำงานเพราะปลดเกษียณได้ปีกว่าๆแล้วครับ” “แม่ว่าสมองเบนคงได้รับการกระทบกระเทือน เดี๋ยวแม่จะตามหมอมาดูให้อีกครั้งนะ” “ไม่ใช่หรอกครับ ผมชื่อ มันนี่ ไม่ใช่เบน คุณคงเข้ามาห้องคนป่วยผิดแล้วครับ” “ไม่ผิดหรอก ก็หน้าตาของเบน ก็ลูกแม่ชัดๆ จะเป็นคนอื่นไปได้อย่างไร” “เป็นไปไม่ได้ ถ้างั้นคุณน้าเอากระจกมาให้ผมส่องดูซิ” “ได้”สินีหยิบกระจกแป้งพับในกระเป๋าและเปิดออก ยื่นให้มันนี่ดูเพื่อให้คลายความสงสัย มันนี่รับกระจกแป้งพับและส่องหน้าตาตัวเองดู เขาถึงกับตกใจเพราะใบหน้าที่เขาเห็นนั้น มันไม่ใช่ใบหน้าของเขาอย่างแน่นอน ด้วยใบหน้าคมเข้มแต่ขาว ซึ่งผิดกับใบหน้าของมันนี่ที่ขาวใสออกแนวตี๋ “เห็นหน้าตัวเองแล้วเป็นไงบ้าง ลูกแม่ยังหล่อเหมือนเดิมมีแค่รอยฟกซ้ำนิดหน่อย เดี๋ยวก็หายอีกไม่กี่วัน” “หน้านี่ไม่ใช่หน้าผม”มันนี่ขยี้ตาตัวเองอีกครั้ง ก็ยังเป็นใบหน้าอันเดิม มันนี่วางกระจกลงไว้ข้างตัว เขาหลับตาครุ่นคิดและหันหน้าหนีสินี ผู้เรียกตัวเองว่าแม่ มันนี่ใช้หัวแม่มือและนิ้วชี้เสียดสีไปมา ซึ๋งเป็นวิธีที่เขาทำในขณะที่กำลังใช้ความคิด “ไอ้เบน เป็นไงบ้างวะมึง” มันนี่ลืมตาขึ้นทันทีเมื่อได้ยินเสียงแหบๆของผู้ชายที่เรียกชื่อของเขา มันนี่เลื่อนสายตามองชายหนุ่มที่ยืนอีกฝากฝั่งเตียง ตรงข้ามกับหญิงสาวที่เรียกตัวเองว่าแม่ สายตาของมันนี่จ้องมองชายหนุ่ม ที่ใบหน้าคมเข้มผิวสีน้ำตาลคิ้วหนา “โชคดีที่มึงไม่เป็นอะไรไปมากกว่านี้ ถ้าอย่างั้นกูขาดเพื่อนเที่ยวยามค่ำคืนแน่เลย”เคนเพื่อนรักของเบนยิ้มจนเห็นฟันขาวที่ตัดกับสีผิวของเขา “น้าว่าเคนคงจะขาดเพื่อนเที่ยวอย่างแน่นอน เพราะตอนนี้เบนจำอะไรไม่ได้เลย แม้แต่ชื่อของตัวเอง”สินีน้ำตาเริ่มไหลรินอีกครั้ง “น้าว่าไงนะ”เคนเงยหน้ามองสินีที่น้ำตากำลังไหลริน “ก็ถามเอาเองซิ” “ไอ้เบนมึงจำกูได้ไหม” “เราไม่ได้ความจำเสื่อม และไม่รู้จักนาย เราชื่อมันนี่ เราไม่รู้จะบอกน้าผู้หญิงกับนายอย่างไงให้เชื่อเรา แต่เราไม่ใช่เบนจริงๆ” “ไอ้เบนมึงเป็นอะไรของมึง หรือว่าสมองกระทบกระเทือนทำให้มึงความจำหายไป”เคนมีสีหน้าที่วิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด “น้าก็คิดว่าอย่างงั้น เดี๋ยวหมอก็จะเข้ามาแล้ว เดี๋ยวน้าจะถามหมอดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับเบน” “มึงรอดชีวิตมาแต่กับจำอะไรไม่ได้ มันอะไรว่ะเนี่ย”เคนสีหน้าของเขาซีดเซียวลง ด้วยความเป็นห่วงเพื่อนรัก ทว่าคนที่กลุ้มใจหนักกว่าเคนและสินีก็คือมันนี่ เพราะมันนี่ยังคิดไม่ออกว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับเขา มีแต่ความรู้สึกมึนงง สับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สินีและเคนมองหน้าเบน คนที่พวกเขาคิดว่าเป็นลูกและเพื่อนรัก ความรู้สึกของสินีนั้นช่างปวดร้าวใจยิ่งนัก ที่ลูกชายเพียงคนเดียวจำอะไรไม่ได้สักอย่าง แม้แต่ชื่อของเขาเองก็ตามที ส่วนเคนเพื่อนรักตั้งแต่สมัยมัธยม จะเป็นความแปลกใจซะส่วนใหญ่ เพราะคำพูดท่าทางกิริยาของเบนได้เปลื่ยนไปโดนสิ้นเชิง ดูสุภาพเรียบร้อยจนน่าสงสัย สินีและเคนต่างมองหน้ากันชั่วครู่ ทั้งสองก็ได้ยินเสียงเคาะประตูห้อง เสียงนี้เป็นเสียงที่เคนและสินีเฝ้ารอ เพราะเป็นช่วงเวลาของหมอออกมาเยื่อมคนไข้ “สวัสดีครับ”หมอศัลยกรรมอายุราวสี่สิบเดินเข้ามาหาสินี “คุณหมอคะ ลูกชายดิฉันจำอะไรไม่ได้เลยค่ะ”สินีเริ่มตาแดงกล่ำด้วยความเศร้าใจ “ผลของการเอกซ์เรย์สมองก็ปกติทุกอย่างนะครับ หมอคิดว่าน่าจะเป็นผลของการกระทบกระเทือนที่สมอง จึงอาจส่งผลทำให้ระบบความจำบางส่วนหายไปได้ครับ” “ไม่ใช่บางส่วนเลยครับหมอ แต่ทั้งหมดเลย เพื่อนผมจำอะไรไม่ได้เลย แม้แต่ชื่อตัวเอง” “ถ้างั้น เดี๋ยวหมอจะติดต่อแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมอง มาตรวจสอบให้อีกทีนะครับ อย่างแรกเลยต้องรื้อฟื้นความจำคนไข้ทีละเล็กทีละน้อย โดยเล่าเรื่องต่างๆของคนไข้ในอดีตให้คนไข้ฟัง” “ค่ะหมอ”สินีพยักหน้าแบบมีความหวัง “หมอ ผมไม่ใช่เบนจริงๆ ผมชื่อมันนี่มาอยู่ในร่างของเบนได้อย่างไงก็ไม่รู้”มันนี่ส่งสายตามาที่หมอ “หมอเข้าใจคนไข้นะครับ กระบวนการความคิดของคนไข้อาจยังไม่เข้าที่ ต้องรอสักระยะคนไข้อาจจะค่อยๆจำอะไรบางอย่างได้” “จำไม่ได้หรอกครับ เพราะผมไม่ใช่เบนผมคือมันนี่” “คนไข้ใจเย็นๆนะครับ มันนี่ก็มันนี่” หมอส่งสายตาให้เคนและสินีออกไปนอกห้อง เพื่อที่จะอธิบายอะไรบางอย่าง โดยไม่อยากให้คนไข้ได้รับรู้ เมื่อทั้งสินีและเคนเดินตามหมอออกไปนอนกห้อง คุณหมอจึงมองหน้าเคนและสินีก่อนที่จะพูดอะไรออกมา “ดูจากภายนอกการบาดเจ็บไม่ค่อยมีอะไรน่าเป็นห่วงนะ ส่วนผลเอ๊กซเรย์สมองก็ปกติทุกอย่าง ซึ่งอาจเป็นได้ว่าคนที่ไข้ความจำบางส่วนหายไป อาจเป็นโรคหลงลืมชั่วคราว ส่วนสาเหตุยังไม่แน่ชัด ต้องรอหมอระบบประสาทมารักษาต่ออีกที ช่วงนี้ก็พยายามรื้อฟื้นความจำของคนไข้นะครับ” “ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ”สินีเอ่ยขึ้น “มันเป็นหน้าที่ของหมอ แต่ถ้าคนไข้มีอาการผิดปกติอะไร กดเรียกพยาบาลได้ทุกเมื่อนะครับ” “ค่ะหมอ” “ถ้างั้นหมอขอตัวก่อนยังมีคนไข้อีกเยอะ” เมื่อหมอเดินจากไป สินีถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ เพราะเธอยังกังวลอาการหลงลืมของเบน เธอจึงอยากความฝากความหวังไว้ที่เคนอีกคน คอยช่วยกระตุ้นให้เบนได้จำเรื่องราวในอดีตได้ “เคน ต้องช่วยเบนรื้อฟื้นความจำด้วยนะ เพราะเคนกับเบนรู้จักกันมาตั้งแต่มัธยม เคยเล่นเคยเที่ยวด้วยกัน ถ้าเคนมาบ่อยๆเบนอาจจะจำอะไรได้บ้าง” “ไม่ต้องห่วงครับน้า เดี๋ยวผมจะมาหาเบนทุกวันเลยครับ” “ขอบใจเคนมากนะ ถ้างั้นเราเข้าไปหาเบนกันเถอะ” “ครับน้า” สินีและเคนเปิดประตูห้องเข้าไปด้วยใจที่อยู่ไม่เป็นสุข เพราะทั้งสองสงสารและอยากให้เบนความจำฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook