เจ้าสาว ชื่นฤดี หรือ สาว วัย 26 ปี เธอเพิ่งเรียนจบกลับมาจากต่างประเทศ และได้เข้ามาพักในโรงแรมของคู่หมั้นอย่างราชสีห์ รู้แต่ว่าผู้บริหารโรงแรมชื่อดังแห่งนี้เป็นคู่หมั้นตน หน้าตาเป็นยังไงไม่เคยเห็นไม่เคยรู้ เพราะการหมั้นหมายทางผู้ใหญ่จัดการให้
หญิงสาวตั้งใจมานั่งเล่นในบาร์ของโรงแรม แต่ไม่คาดคิดว่าจะมาเจอเรื่องแบบนี้กับตน โรงแรมออกจะใหญ่โต มีชื่อเสียง แต่ทำไมเรื่องความปลอดภัยห่วยแบบนี้ก็ไม่รู้ได้
“ด่าไปเถอะแม่คุณ ด่าไปก็ไม่มีใครมาช่วยเธอได้หรอก” พลางเดินไปเปิดไฟที่มุมห้อง
“แกคอยดูนะ ถ้าฉันออกไปจากที่นี่ได้เมื่อไหร่แกตายแน่ คนอย่างฉันไม่ยอมหรอก” ว่าพลางยกมือขึ้นจะตบอีกฝ่ายอีกครั้ง
“ตบสิ ยกค้างไว้ทำไม”
ราชสีห์เอ่ยดักทางขึ้น พร้อมกับยื่นหน้าไปท้าทายสาวเจ้าคนงาม
“ฉันจะฟ้องคู่หมั้นฉัน นายรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร”
เมื่อเห็นว่าด่าไปก็เหมือนด่าลม เพราะอีกฝ่ายไม่ได้สำนึกกับคำด่าตนเลยแม้แต่น้อย ‘คุณราชสีห์ฉันขอยืมชื่อคุณมาอ้างเพื่อเอาตัวรอดก่อนนะคะ ถึงแม้ว่าการกลับมาครั้งนี้ของฉันจะมาเพื่อถอนหมั้นคุณก็เถอะ’ เอ่ยขออนุญาตคนไม่รู้จักในใจ ก่อนจะเอ่ยต่อ
“คู่หมั้นฉันเป็นเจ้าของที่นี่นะ”
เธอพูดดังฟังชัด ไม่มีอาการสั่นกลัวให้อีกฝ่ายได้เห็นแม้แต่น้อย เธอเป็นคนเก่ง เข้มแข็ง ไม่มีเรื่องออะไรมาทำร้ายเธอได้
“หา! ว่าไงนะ? เธอเนี่ยนะเป็นคู่หมั้นเจ้าของโรงแรมนี้ ไหนบอกมาสิว่าคู่หมั้นชื่ออะไร”
ราชสีห์พอจะรู้ว่าคู่หมั้นของตนกลับมาจากต่างประเทศและมาพักโรงแรมของตน แต่ตนก็ไม่ได้สนใจที่จะไปพบ ไปเจอ เพราะคิดว่าผู้หญิงที่พ่อแม่หมั้นหมายให้นั้นหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ แต่ถ้าเป็นแม่ตัวเล็กตัวน้อยปากจัดที่ว่าเขาอยู่นี้นะ มันเซอร์ไพรส์มาก ไม่อยากเชื่อว่าเจ้าสาวจะสวยขนาดนี้ รู้แบบนี้ยอมดูรูปที่พ่อกับแม่เอามาให้ดีกว่า
‘ไม่อยากจะเชื่อว่าพ่อกับแม่จะตาถึงเลือกลูกสะใภ้ขนาดนี้ เขายอมรับว่าเขาชอบเธอตรงหน้ามาก โดยเฉพาะฝีปากจัดๆ แบบนี้มันน่าจูบให้บวมข้ามวันข้ามคืนเสียจริง’ สายตาเข้มจ้องมองตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าของคู่หมั้นตน แล้วรู้สึกพอใจอยู่ลึกๆ ที่จะได้สาวเจ้าคนสวยมาเคียงข้างกาย
“ใช่ ฉันเป็นคู่หมั้นของคุณราชสีห์” เธอเชิดหน้าตอบอย่างภาคภูมิใจในตัวคู่หมั้น
การแสดงออกของเจ้าสาวทำให้คนที่เป็นคู่หมั้นอย่างราชสีห์อดยิ้มมุมปากไม่ได้ ‘หึหึ นี่เธอไม่รู้รึไงว่าฉันเป็นคู่หมั้นเธอ แม่เด็กน้อยในกรงทองของฉัน’ ชายหนุ่มอดยิ้มขำให้กับความไร้เดียงสาของเจ้าสาวไม่ได้
“ขอถามหน่อยเถอะแม่คุณ เคยเจอกับคู่หมั้นสักครั้งรึยัง เขาหน้าตาเป็นยังไงเคยเห็นบ้างไหม”
“กะ...ก็....ยังไม่เคยเห็น รู้จักแต่ชื่อและรู้ว่าเขาเป็นเจ้าของที่นี่เท่านั้นแหละ”
ตอนนี้เจ้าสาวเริ่มกลัวชายตรงหน้าเสียแล้วสิ เพราะแววตาของเขามันดูเปล่งประกายแปลกประหลาด
“พวกแอบอ้าง ผมเห็นแบบนี้มาเยอะ คนก่อนหน้านี้ที่ผมพามาเอา!...ที่นี่ก็อ้างเหมือนคุณนี้แหละ แต่เป็นไงล่ะ สุดทายก็แอบอ้างทั้งนั้น”
ราชสีห์เอ่ยอย่างนึกแกล้ง ยิ่งตอนนี้สาวเจ้าสั่นกลัวตนก้าวถอยหลังไปอย่างช้าๆ ยิ่งทำให้เขาอดแกล้งไม่ได้
“ฉันเป็นคู่หมั้นเขาจริงๆ ไม่เชื่อลองโทรถามดูสิ” ว่าแล้วก็มองมือตัวเอง ‘ตายแล้ว เราไม่ได้เอาอะไรมา ทำไมซวยแบบนี้สาว’ สาวเจ้าโอดครวญในใจ
“ไหนล่ะเบอร์โทร?”
ชายหนุ่มรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังจะจนมุมจึงต้องต้อนด้วยคำพูด อยากรู้นักจะเอาตัวรอดยังไง ให้มันรู้ไปว่าอยากได้แล้วจะไม่ได้
เจ้าสาวก้าวถอยไปข้างหลังด้วยความกลัว ยิ่งชายหนุ่มถามกลับอย่างจริงจัง
“คะ...คือ....”
“คือไม่มีใช่ไหมล่ะ อย่าเสียเวลาเลย ห้องนี้ก็มืดปลอดคนดี ผมว่าเราจัดกันเถอะ”
ก้าวเพียงไม่กี่ก้าวบุรุษหนุ่มแข็งแรงก็ถึงตัวคนตัวเล็ก พร้อมกับกระชากร่างเล็กเข้ามาปะทะอกตน
“อุ้ย! ปล่อยฉันนะ ไอ้โจรถ่อย!” พยายามดิ้นรนให้หลุดพ้นจากการกอดรัดของบุรุษเพศ
“หึหึ คนถ่อยคนนี้จะเป็นผัวเธออยู่แล้วจ้าทูนหัว ด่าว่าไปเถอะไม่โกรธไม่เกลียดหรอก เพราะยังไงก็จะยัดเยียดความเป็นผัวให้อยู่ดี”
แล้วก็ก้มลงต่ำบดขยี้เรียวปากเล็กก่อนที่จะถูกปากจัดๆ ที่สาดซัดคำหยาบใส่ตนอีกครั้ง
“อะ! อี้! อื้อ! ”
เสียงครางอู้อี้ในลำคอ พยายามดิ้นตัวหนีแต่ก็ไม่เป็นผล เหมือนกับว่าเธอพยายามดิ้นรนมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งยั่วยวนให้เขากอดรัดเธอแน่นมากขึ้นเท่านั้น
“อ่า! เธอช่างสดใหม่หวานดีจริงๆ ตัวน้อย”
ผละออกมาชม ก่อนจะประกบปากลงไปบดขยี้อีกครั้ง จากดุเดือดเป็นอ่อนหวานละมุน เขารู้ว่าอีกฝ่ายเพิ่งจะเคยมีจูบแรก จากท่าทางแล้วขาอ่อนหมดแรงแบบนี้ คงจะตกใจและปรับตัวไม่ทันเป็นแน่
“อะ! อื้อ!”
เมื่อเล็กยกขึ้นดันอกใหญ่ออก แต่ก็ไม่เป็นผล ตอนนี้ทรวงอวบอิ่มนั้นเบียดแนบไปกับอกชายหนุ่มจนแทบจะกลืนเป็นร่างเดียวกันอยู่แล้ว
“อ๊า! อย่าเลยทูนหัว มันไม่ดีหรอก อย่าปฏิเสธในสิ่งที่ร่างกายต้องการเลย โอว์! อย่าดิ้นแรงสิ ลำปืนผมตื่นตัวจนคับแน่นกางเกงไปหมดแล้ว” เอ่ยเสียงแหบพร่า พร้อมกับจับหน้าสวยให้จ้องมองตน
เจ้าสาวจ้องมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยดวงตาพร่าปรือ สติพร่าเลือนไปหมด ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรอยู่ตอนนี้ จากที่ควบคุมตัวเองได้ ก็กลายเป็นอ่อนแรง สองขาแทบจะยืนไม่อยู่เสียแล้ว
“ยะ! อย่า! ”
เสียงดังแผ่วเบากลืนหายเข้าไปในลำคอ เมื่อถูกปากหนาทาบทับลงมาอีกครั้ง ครั้งนี้ราชสีห์อ่อนโยน จูบช้าๆ อยากสอนให้เธอได้รู้จักรสชาติของความหวานที่มนุษย์มีในร่างกาย
ลิ้นร้อนควานหาความหวานในโพรงปากเล็ก ดูดกลืนหยอกเล่นกับเรียวลิ้นสาวเจ้า ถึงแม้ตอนแรกเธอจะดันปลายลิ้นเขาออก แต่สุดทายเธอก็อ่อนตามทุกความเคลื่อนไหวที่เขาป้อนให้
“อ่า! หัวไวมากทูนหัว ไม่อยากเชื่อวันนี้จะได้กินของดี อย่าห้ามเลย ชูว์! อย่าดิ้นเลย อะ!อืม!”
ก้มลงขบเม้มซอกคอระหง ดูดกลืนจนเป็นรอยแดงช้ำ ขบกัดเบาๆ ให้เสียวซ่าน ก่อนจะดันร่างเล็กไปพิงผนังห้อง
“อะ! อืม!”
เสียงครวญครางเล็กดังแผ่วออกมาเป็นระลอก ขาเรียวสวยอ่อนแรง แต่โชคดียังมีร่างใหญ่ประคองไว้ แถมมีผนังห้องให้พักพิง
“อ่า! อย่าเพิ่งสิทูนหัว เพิ่งเริ่มต้นจูบเองนะ ชูว์!”
เสียงพร่าเอ่ยกระซิบข้างหู พร้อมกับยกขาเล็กขึ้นรัดเอวสอบของตนไว้ มือใหญ่กระชากชุดสวยออกด้วยแรงเพียงน้อยนิดของตน
กรี๊ดดดดดดด
สติที่หลุดลอยไปก่อนหน้ากลับมาทันที เมื่อตัวเองเหลือแต่ร่างเกือบเปลือย ก็ตอนนี้มีเพียงชั้นในตัวน้อยที่ปกปิดส่วนสงวนไว้เท่านั้น
“โอว์! ทูนหัวใหญ่เหมือนกันนะเนี่ยอ๊า! ซี้ดดดดด”
เอ่ยชมพลางก้มลงเลียเนินอกอวบอิ่ม ‘โชคดีจริงๆ แกวันนี้ ได้คู่หมั้นสวยอึ๋ม แถมยังใส่ชุดเดรสเกาะอกมาอีก อำนวยต่อการขืนใจจริงๆ ชูว์!’ คิดในใจด้วยความปลื้มใจ
“อย่ามาแตะต้องตัวฉันนะ ยะ! อ่อย! อร้ายยยย”
เสียงห้ามเปลี่ยนเป็นเสียงคราง มือเล็กขยุมท้ายทอยของชายหนุ่มด้วยความเผลอไผล
“โอว์! ร้อนแรงมากตัวน้อยของพี่ อ่า! เสียวมากยกขาอีกข้างรัดเอวพี่เลย ชูว์!”
ราชสีห์ผละจากทรวงงามมาชื่นชมหญิงสาว ก็เธอเล่นตอบสนองเขาร้อนแรงเหลือเกิน
ฝ่ายเจ้าสาวไม่รู้หรอกว่าตัวเองกำลังทำอะไรตอนนี้ รู้แต่ว่าเธอทรมานเหลือเกิน ทรมานจนอยากจะฆ่าคนตรงหน้าให้ตาย
“อะ! โอ๊ะ! ทำไมมันร้อนแบบนี้ อ๊า!”
เสียงดังผะแผ่วด้วยความเสียวซ่าน
“เสียงหวานดีจังทูนหัว ร้องดังๆ เลย สัญญาวันอื่นจะอยู่บนเตียง แต่ตอนนี้ขอยืนก่อนนะ โยว์! แค่นี้ก็ขึ้นจนสุดลำแล้วคนดี อะ! อ่า!”
กระชากเสื้อในไร้สายของเธอออกก่อนจะดุนดันยอดทรวงอวบอิ่มเข้าไปในโพรงปากตน ดูดกลืนกินอย่างกับเด็กหิวนมแม่ไม่มีผิด
“อะ! อือ! ระ...ร้อนเหลือเกิน อือ!”
สาวเจ้าร้องครางแอ่นอกเด้งรับตามจังหวะดูดกลืนของชายหนุ่มอย่างหลงระเริง
“แบบนั้นแหละเจ้าสาวของฉัน อ่า!”
ครวญครางพึมพำ ดูดกลืนยอดทรวงสลับกันไปมาอย่างเมามัน ก่อนจะแกะเรียวขาที่รัดเอวตนออกให้มายืนอยู่กับพื้น แล้วก็เคลื่อนกายแกร่งคุกเข่าตรงหน้าสาวเจ้า ที่ตอนนี้มีกางเกงในปกปิดกุหลาบงามที่กำลังฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำหวานจนเห็นเป็นคราบเปื้อนกางเกงในตัวน้อย
“อย่าทำอะไรสาวเลยนะ อื้อ! ”
ในห้วงความหวามนั้นเธอยังสำนึกได้ว่าตัวเองกำลังถูกจะถูกข่มขืนจากชายแปลกหน้าอยู่ แต่ก็อ่อนแรงจะสู้ แม้แต่แรงจะยืนตอนนี้ก็ยังไม่มีเลย ขาอ่อนไปหมด
“สาวเป็นเมียสิงห์นะต่อจากนี้ ไม่เป็นตอนนี้ยังไงก็ต้องเป็นอยู่ดี”
เสียงพร่าเอ่ยยิ้มๆ ก่อนจะจับขาของสาวเจ้าพาดไหล่กว้างของตนทั้งสองข้าง แล้วซุกหน้าหากุหลาบงามฉ่ำแฉะของเธออย่างกระหายน้ำ
มือเล็กขยุ้มท้ายทอยชายหนุ่มให้ซุกไซ้หว่างขาตนอย่างหลงใหล เสียงร้องครวญครางดังออกมาเป็นระยะด้วยความเสียวซ่าน
“อ๊า! ทรมานเหลือเกิน ช่วยสาวด้วย อูว์!”
“กำลังจะช่วยครับคนดี อ่า! หวานดีเหลือเกิน โอว์! อืม!”
เสียงแหบพร่าเอ่ยออกมาอย่างยากลำบาก ปลายลิ้นร้อนตวัดเลียริมฝีปากตน ก่อนจะดึงรั้งกางเกงในของหญิงสาวออกไปด้านข้าง
ลิ้นร้ายซอกซอนไปตามกลีบดอกฉ่ำเยิ้มลาวาหวานของสาวเจ้าด้วยความชื่นชอบ
“อื้อ! ทำมันมัน...อะ! โอ้ย! อร้ายยยย อืม!”
เจ้าสาวร้องครางดังไปทั่วห้อง ตอนนี้เธอแทบจะอ่อนแรงหมดสติไปกับสัมผัสร้อนที่ชายหนุ่มป้อนให้
“คนดีช่างหวานฉ่ำดีเหลือเกิน อ๊า! ซี้ดดดด”
เสียงพร่าเอ่ย กวาดกินน้ำหวานฉ่ำแฉะเข้าโพรงปากของตนด้วยความหวานล้ำ