10
“คุณ...” เดือนดาราตกใจ รีบสะบัดมือออกจากมือใหญ่ กระเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง ขยับตัวหนีเขา
“ฉันไม่ทำอะไรเธอแล้ว เธออย่าขยับตัวสิ เดี๋ยวเจ็บแผลนะ” เขาเอ่ยเสียงนุ่มอย่างห่วงใย
เดือนดารานึกถึงวินาทีสุดท้ายที่ตนจำได้ก่อนหมดสติ เธอจำได้ว่า ฝ่าเท้าถูกเศษแจกันทิ่มจนเลือดไหลนอง ต่อจากนั้นเธอจำอะไรไม่ได้เลย
“ไม่เห็นฉันจะเจ็บแผลเลย อีกอย่างฉันไม่อยากอยู่ใกล้คนฉวยโอกาสที่พยายามจะข่มขืนฉันด้วย”
เธอพูดเสียงสั่น ความกลัวกับความโกรธในจิตใจเท่าเทียมกัน
“ฉันบอกเธอแล้วไงว่า ฉันจะไม่ทำอะไรเธอ แล้วที่เธอไม่เจ็บแผลเพราะหมอฉีดยาชาให้ตอนที่เย็บแผล เธอถึงไม่เจ็บไงล่ะ แต่ถ้าหมดฤทธิ์ยาล่ะก็ เธอเจ็บแผลแน่ๆ เพราะฉะนั้นอย่าขยับตัวหรือคิดจะหนีเพราะเธอไม่มีวันออกไปจากบ้านหลังนี้ ถ้าฉันไม่เปิดประตูบ้านให้เดินออกไปง่ายๆ” ลีออนพูดอย่างใจเย็น “กินอะไรรองท้องสักหน่อย จะได้กินยาแก้ปวด แต่ถ้าเธอไม่ทำตามที่ฉันบอกล่ะก็ ฉันจะจับปล้ำทั้งที่เจ็บแผลนี่แหละ แล้วเธอก็คงรู้ว่า หยุดฉันไม่ได้”
เดือนดาราอยากจะพูด อยากจะค้านแต่ก็คิดว่า เธอไม่สามารถไปพ้นบ้านหลังนี้ด้วยการเดินออกไปอย่างสบายใจแน่นอน ไหนจะเท้าเจ็บ ไหนจะคนของเขาที่อยู่รอบบ้าน ที่สำคัญเขานั่งอยู่ตรงนี้ ช่องทางหลบหนีแทบมองไม่เห็น ทางเดียวคือ ทำใจดีสู้เสือ
“ฉันจะมั่นใจได้ยังไงว่าคุณจะไม่หน้ามืดปล้ำฉัน”
เธอเอ่ยเสียงสั่น ในใจหวาดหวั่น เพราะหากเขาคิดข่มเหงเธออีกครั้ง เดือนดารคิดว่าคงหยุดเขาไม่ได้แน่
“ถึงฉันจะต้องการเธอมากแค่ไหน แต่เห็นสภาพเธออย่างนี้ ฉันก็ทำเธอไม่ลงหรอก รอให้หายเจ็บเท้าก่อนก็ไม่แน่” ลีออนพูดเชิงขู่ “ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรเธอ ก็คือไม่ทำ ไว้ใจฉันได้”
เดือนดาราทำหน้าเหมือนไม่ไว้ใจเขา ทว่าน้ำเสียงและสีหน้าจริงจังของลีออน ทำให้ความไม่ไว้ใจลดน้อยลง แต่ก็ยังวางใจไม่ได้
“เพื่อความบริสุทธิ์ใจของคุณ คุณต้องออกไปจากห้องนี้ หรือไม่ก็พาฉันกลับที่พักของฉัน ฉันดูแลตัวเองได้” เธอต่อรอง
“อย่าเรื่องมาก ถ้าเธอเรื่องมากหรือต่อรองกับฉัน ฉันจะปล้ำเธอ แล้วล่ามโซ่ไว้ในห้อง ไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวัน” เขาขู่เสียงจริงจัง “เลือกเอาระหว่างทำตัวเป็นเด็กดี เชื่อฟังคำสั่งฉันแล้วตัวเองปลอดภัยกับดื้อด้านพูดไม่รู้เรื่องแล้วตัวเองถูกปล้ำ เธอจะเลือกแบบไหนล่ะเดน่า ฉันจะได้จัดให้เธอถูก”
คราวนี้เดือนดาราหน้างอ คำพูดของเขาเท่ากับว่าไม่มีทางเลือกให้ตนเลย มีทางเดียวคือจำยอมอย่างเสียมิได้
“คุณพูดแบบนี้ ฉันก็คงขัดคุณไม่ได้” เดือนดาราตอบกลับคล้ายตัดพ้อ แต่อีกคนหนึ่งยิ้มอย่างผู้มีชัย
“รอเดี๋ยวนะ ฉันจะไปเอาซุปมาให้กิน” เจ้าของห้องพูดจบก็รีบเดินออกไปจากห้อง อีกครู่หนึ่งเขาได้เดินกลับมาพร้อมกับซุปมักกะโรนี
“ฉันกินเองได้” เธอรีบพูดเมื่อเห็นว่าเขาจะป้อนอาหารให้ตน “ฉันเจ็บเท้านะ มือไม่ได้เจ็บ”
“อย่าเรื่องมากนะ ถ้าเรื่องมากปล้ำนะ” ลีออนไม่วายขู่ จ่อช้อนซุปตรงปากเธอ เดือนดาราจำต้องอ้าปากรับอาหารที่เขาป้อน เพราะเกรงว่า หนุ่มหน้าตาหล่อจะหน้ามืดปล้ำตน “ฉันอิ่มแล้ว”
“อะไรกัน กินไปครึ่งเดียวเอง กินอีกสักหน่อยนะ”
“ฉันอิ่มจริงๆ กินได้แค่นี้แหละ”
“ถ้าอย่างนั้นกินยาเลยนะ ยาชาหมดฤทธิ์จะได้ไม่ปวดแผล”
เขาวางชามซุปลงบนโต๊ะหัวเตียง ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบขวดยาแก้ปวดที่เจมส์ให้ไว้ เปิดขวดยาแล้วเทยาลงบนฝ่ามือเธอสองเม็ด จากนั้นเขาได้เอี้ยวตัวไปหยิบแก้วน้ำดื่มส่งให้เดือนดารา
“กินยาเสร็จแล้วก็นอนซะ นี่ก็ดึกมากแล้วเธอจะได้พักผ่อน” ลีออนบอกคนเจ็บขา ที่นั่งมองหน้าเขานิ่ง ไม่ยอมขยับตัวลงนอน
“คุณก็ออกไปสิ ฉันจะได้นอน”
“ห้องนี้ห้องฉัน ฉันก็ต้องนอนห้องนี้สิ”
“ถ้าคุณนอนห้องนี้ ฉันจะนอนห้องอื่นหรือไม่ก็กลับไปนอนที่อพาร์ตเม้นต์ของฉัน”
“ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าเรื่องมาก ฉันบอกให้นอนก็นอนสิ ถ้าไม่นอนฉันจับทำเมียนะ” ลีออนมาไม้เดิม “ฉันจะนับหนึ่งถึงสาม ถ้าไม่นอนฉันจะจับเธอทำเมีย หนึ่ง...สอง”
เขายังไม่ทันนับถึงสาม ร่างระหงก็ขยับตัวนอนบนเตียงอย่างรวดเร็ว เวลานี้เขาสั่งให้เดือนดาราทำอะไรก็ต้องทำ ไม่เช่นนั้นคำขู่จะเป็นผล
“ก็แค่นี้ ไม่เห็นต้องดื้อ” เขาพูดขณะที่เลื่อนผ้าห่มคลุมกายสาวร่างสวย ก่อนจะเอนกายลงนอนข้างเธอ ใช้ผ้าห่มผืนเดียวกับเธอคลุมร่างกาย
“คุณจะนอนที่นี่เหรอ ไปนอนที่อื่นได้ไหม ฉันไม่ชินกับการนอนกับคนแปลกหน้า” เดือนดาราพูดเสียงสั่น กระเถิบตัวหนีร่างสูงใหญ่อย่างไม่ไว้ใจ
“อย่าเรื่องมากน่า นอนได้แล้วฉันง่วง”
พ่อเจ้าประคุณก็ขยับตัวจนชิดเนื้อนุ่มนิ่ม รั้งเธอมากอดดื้อๆ จนหน้าแทบจะชิดกัน เดือนดาราหัวใจเต้นแรง ในความรู้สึกอาบไปด้วยความตื่นเต้น หวาดหวั่น และตื่นตระหนก
“คุณก็ปล่อยฉันสิ ไปนอนไกลๆ ฉันเลย” เดือนดาราพูดไปด้วย ผลักเขาให้ออกห่างร่างตนไปด้วย ทว่าแขนลีออนเปรียบเสมือนหนวดปลาหมึก แน่นหนึบไม่ยอมปล่อย “อย่ามากอดฉันนะ ไหนคุณบอกว่าจะไม่ทำอะไรฉันไงล่ะ ผิดสัญญานี่นา”
“ฉันก็ไม่ได้ทำอะไรเธอเลยนะ ก็แค่กอดเท่านั้นเอง แต่ถ้าเธอยังดิ้นแล้วพูดมากไม่หยุดล่ะก็ ไม่แน่ว่าฉันจะอดใจไม่ไหวจับเธอปล้ำทำเมียก็ได้นะ”
ภายในหนึ่งชั่วโมงเขาขู่เธอเช่นนี้นับครั้งไม่ถ้วน และเป็นคำขู่ที่ได้ผลดีเยี่ยม เดือนดาราหยุดดิ้น หยุดพูด อยู่ๆ น้ำตาก็ไหลรินไม่รู้ตัว อาจเป็นเพราะชั่วขณะนี้ ความรู้สึกหลากหลายประดังเข้ามา และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หญิงสาวไม่เคยประสบมาก่อน ความกลัว วิตกกังวลในจิตใจจึงอาบทั่ว