“จะคลอดเมื่อไหร่คะพี่แก้ว” เดือนดาราถาม ขณะที่ตักขนมเค้กทาน
“อีกหนึ่งอาทิตย์จ้ะ แต่พี่คิดว่าน่าจะเร็วกว่านั้นเพราะพี่เจ็บท้องเตือนหลายครั้งแล้ว”
“น่าตื่นเต้นจังค่ะ เดือนอยากเห็นหน้าหลานเร็วๆ จัง อยากรู้ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย”
“เพราะอยากตื่นเต้นนี่ไงล่ะ พี่ถึงไม่ให้หมออัลตร้าซาวน์ดูเพศของลูกในท้อง สำหรับพี่กับพี่พีท หญิงหรือชายพี่ไม่เกี่ยง” ว่าที่คุณแม่ลูบท้องใหญ่คล้ายผลแตงโมแล้วยิ้ม เสียงไขกุญแจห้องทำให้สองสาวเงยหน้ามองบานประตูที่เปิดออก ก่อนที่สองสาวจะส่งยิ้มให้อีกหนึ่งสตรีที่หอบของเดินเข้ามาในห้อง
“สวัสดีค่ะพี่แก้ว” มยุรีเพื่อนสนิทของเดือนดาราประนมมือไหว้สุภัทรา จากนั้นก็ก้มลงหยิบถุงกระดาษใบหนึ่งแล้วส่งให้ว่าที่คุณแม่ “แมวเห็นเสื้อผ้าน่ารักดีก็เลยซื้อมาฝากเจ้าตัวน้อยค่ะ เลือกสีที่ใส่ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง”
“ขอบใจมากจ้ะแมว” สุภัทรารับน้ำใจจากมยุรี พร้อมกับเปิดปากถุงดูชุดเด็กอ่อน “พี่ขอตัวไปทำซุปมักกะโรนีก่อนนะ ตั้งใจจะทำให้เราสองคนก่อนพี่กลับน่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นเดือนอาสาเป็นลูกมือนะคะ ไม่ได้เข้าครัวนานแล้ว” เดือนดาราเอ่ยบอก
“แมวไปด้วยค่ะ” มยุรีขันอาสาช่วยอีกคน
“งั้นไปกันเลย” สองสาวเพื่อนสนิทช่วยกันประคองร่างอุ้ยอ้ายไปยังห้องครัว ก่อนจะช่วยกันลงมือทำอาหารตามความตั้งใจ
หนึ่งเดือนต่อมา
เดือนดารากับมยุรีเดินออกจากมหาวิทยาลัยหลังจากสอบวิชาสุดท้ายเสร็จสิ้น ทั้งสองโล่งอกและสบายใจมากที่การสอบผ่านพ้นไปด้วยดี เสมือนปล่อยความหนักอึ้งออกจากอก หลังจากคร่ำเคร่งกับการอ่านตำราเรียนมาตลอดหลายเดือน วันนี้สองสาวเพื่อนซี้ตั้งใจว่าค่ำนี้จะไปเที่ยวผ่อนคลายสมอง
แต่กว่าจะถึงเวลานัดหมายกับกลุ่มเพื่อน ทั้งสองไปแวะไปเยี่ยมเด็กหญิงเบลล่าหรือปนัดดา บุตรสาวของปกรณ์กับสุภัทรา ที่ยังคงอยู่ในตู้อบ เนื่องจากสุขภาพยังไม่แข็งแรง มีอาการตัวเหลือง เด็กน้อยจึงอยู่ในความดูแลของแพทย์ จนกว่าอาการจะสู่ภาวะปกติ
“เบลล่าอาการเป็นยังไงบ้างคะพี่พีท” เดือนดาราถามปกรณ์
“หมอบอกว่าอีกอาทิตย์นึงก็กลับบ้านได้แล้ว” ถือว่าเป็นข่าวดีของคุณพ่อคุณแม่คนใหม่ เพราะทั้งคู่รอเวลาที่จะพาลูกน้อยกลับบ้าน “ช่วงนี้เดือนเป็นไงบ้าง พี่ไม่มีเวลาไปดูแลเดือนเลย”
“เดือนสอบเสร็จวันนี้ค่ะพี่พีท ส่วนเรื่องที่พี่ไม่มีเวลาดูแลเดือน เดือนเข้าใจค่ะ อีกอย่างเดือนโตแล้ว ดูแลตัวเองได้ค่ะ ที่ผ่านมาก็รวบกวนพี่พีทจะแย่ ต่อไปนี้พี่พีทดูแลพี่แก้วกับเบลล่าเถอะคะ เดือนกะว่าจะเที่ยวต่ออีกสักเดือนสองเดือนแล้วค่อยกลับเมืองไทย”
เดือนดาราเข้าใจสถานการณ์ของปกรณ์ หากเธอเป็นปกรณ์ก็ต้องดูแลครอบครัวของตนก่อน
“แล้วคิดหรือยังว่าจะไปเที่ยวที่ไหน” ปกรณ์ถามถึงโปรแกรมการท่องเที่ยว
“เพียบเลยค่ะพี่พีท เดือนบอกว่าตั้งแต่มาอังกฤษเที่ยวไม่ถึงสามที่ สอบเสร็จแล้วต้องเที่ยวให้ชุ่มปอด ไปเหนือล่องใต้เอาให้คุ้มค่ะ” มยุรีชิงตอบ
“แหม...เรื่องเที่ยว เที่ยวเมื่อไหร่ก็ได้นี่นา ฉันก็ต้องเอาเรื่องเรียนไว้ก่อน คนที่ส่งเสียฉันเรียนจะได้ไม่ผิดหวัง” เดือนดาราพูดตามความคิดของตน
“พี่เห็นด้วยกับความคิดเดือนนะ เอาเรื่องเรียนไว้ก่อน เรื่องเที่ยวพอเรียนจบค่อยเที่ยวก็ได้ แล้วเดือนบอกพี่ทัชกับทอร์ชหรือยังว่าจะอยู่เที่ยวต่อ” ปกรณ์ถาม
“บอกแล้วค่ะ บอกเมื่อเช้านี้ พี่ทัชไม่ว่าอะไร แต่พี่ทอร์ชมีบ่นนิดหน่อย สุดท้ายก็ยอมให้ไปค่ะ”
“พี่ทัชไม่เท่าไหร่พูดง่ายหน่อย แต่ทอร์ชนี่สิ ห่วงและหวงเดือนมากเลยรู้ไหม”
“รู้ค่ะ เดือนดีใจนะคะที่พี่ทัชกับพี่ทอร์ชรักและเมตตาเดือน เดือนถึงเอาเรื่องเรียนเป็นหลัก ส่วนเรื่องอื่นเอาไว้ทีหลัง”
“เดือนทำได้แล้วนี่ พี่ทัชกับทอร์ชต้องภูมิใจในตัวเดือนแน่นอน” เดือนดารายิ้มกับความภาคภูมิใจของตนเองที่สามารถทำตามความฝันได้สำเร็จ แม้ว่าผลการจบการศึกษาจะยังไม่ออกมา แต่เธอก็มั่นใจว่า ทุกอย่างต้องผ่านฉลุย เนื่องจากเธอทำคะแนนเก็บได้ดี และการสอบเธอทำได้มากกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์
สองสาวอยู่พูดคุยกับปกรณ์และสุภัทราที่เดินทางมาสมทบภายหลังสักพักหนึ่ง พอเห็นว่าถึงเวลาสมควรกลับ สองสาวจึงอำลาสองสามีภรรยา
ระหว่างที่สองเพื่อนรักเดินออกจากประตูโรงพยาบาล รถยนต์หรูคันหนึ่งแล่นมาจอดหน้าประตูบานนั้นพอดี คนในรถมองสองสาวที่เดินผ่านรถยนต์ของตนตาเป็นมัน เพราะเขาจำหญิงสาวทั้งสองคนได้ดีว่าคือใคร
“ผู้หญิงที่สวมเสื้อสีดำใช่เด็กของแมรี่รึเปล่า”
ลีออนถามโรเบิร์ตที่นั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับ
แมรี่คือ เจ้าของผับแมรี่โรส ที่ภายนอกดูเหมือนผับหรูมีระดับ คนที่มาใช้บริการส่วนมากจะเป็นคนมีชื่อเสียงในด้านต่างๆ และคนร่ำรวย เนื่องจากค่าใช้บริการแต่ละครั้งจะพูดได้ว่า เกือบครึ่งหนึ่งของเงินเดือนทั้งเดือนของค่าแรงขั้นต่ำ แต่เบื้องลึกคือสถานบริการทางเพศในสังคมชั้นสูง หญิงสาวในสังกัดค่าตัวสูง สะอาด สุขภาพใจและกายดี ไม่มีโรคใดให้รำคาญใจ อาจจะพูดได้ว่า แมรี่คัดกรองสตรีที่เข้ามาทำงานอย่างเข้มงวด หากหยิงสาวคนใดไม่ผ่านเกณฑ์ ก็จะถูกคัดออก
“ใช่ครับ”
“แล้วนายรู้จักผู้หญิงอีกคนนึงหรือเปล่า” ลีออนถามต่อ “ใช่เด็กของแมรี่ไหม”
โรเบิร์ตหันไปเพ่งมองหญิงสาวอีกคนที่มีความสวยและสดใสกว่ามยุรีมากนัก ก่อนจะหันมาตอบเจ้านาย
“ไม่รู้จักนะครับ แล้วคิดว่าไม่น่าจะใช่เด็กของแมรี่ด้วย เพราะผมไม่เคยเห็นในแคทตาล็อก”
เขาจำผู้หญิงในสังกัดแมรี่ได้ดี แทบจะทุกคนก็ว่าได้ หากมีเด็กใหม่เข้ามา แมรี่จะต้องบอกเขาเป็นคนแรก เพื่อที่เขาจะได้มาบอกลีออนอีกทีว่า ต้องการหรือไม่
“ไปสืบมาว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ฉันอยากได้ผู้หญิงคนนั้น” ลีออนสั่ง “เร็วที่สุดด้วย”
“ครับคุณลีออน” ลีออนไม่เคยลืมหญิงสาวแสนสวย รสจูบหอมหวานสะท้านหัวใจ แม้ว่าเวลาจะผ่านมาหนึ่งปีเต็ม ทว่าทุกขณะจิตเขาไม่เคยลืมเธอได้เลย หลับก็ฝันถึง ตื่นก็คะนึงนิจ แล้วไม่ใช่ว่าลีออนจะนิ่งเฉย ไม่ตามหาสตรีที่ทำให้รู้สึกคลั่งเพียงแค่จุมพิต
เขาทำ…ทว่าข้อมูลของเธอมีเพียงน้อยนิด ทำให้เขาไม่อาจตามหาตัวเธอได้ตามใจคิด ลีออนทำได้เพียงวาดภาพสาวสวยที่ตราตรึงใจติดอยู่ในห้วงความรู้สึกใส่กรอบรูป แล้วติดไว้บนผนังหัวเตียง มองดูให้หายคิดถึงและคลายความฟุ้งซ่าน โดยมีความหวังว่า สักวันหนึ่งตนจะได้เจอเธอ…วันนี้ความหวังของเขาเป็นจริงแล้ว และไม่มีวันปล่อยเธอหลุดมือไป