"นายหญิงอันอันของเจ้า วันนี้ข้าไม่เห็นนาง"เสี่ยวจื้อก้มหน้า
"นำบัญชาข้าบอกกับนางให้พาองค์หญิงใหญ่มาที่นี่เดี๋ยวนี้"เสี่ยวจื้อถอนหายใจ
"นายหญิง"อันอันเงยหน้าขึ้นจากกองตำรา
"ฝ่าบาทเรียกหานายหญิง"ข้ากำลังจะไป"
"ฝ่าบาทให้นายหญิงเชิญ...องค์หญิงใหญ่ที่ตำหนัก"อันอันยิ้มบางๆ
"ข้าเข้าใจแล้ว ทูลฝ่าบาทว่ารอไม่นานข้าจะนำองค์หญิงใหญ่ไปพบฝ่าบาท"เสี่ยวจื้อยิ้มน้อยๆ
"นายหญิง ดีเสียอีกวันนี้ไม่ต้องเหนื่อยไปเลือกนางในด้วยตัวเองฝ่าบาทเลือกที่จะอยู่กับองค์หญิง"
"ใจจริงเจ้าข้าน่าจะดีใจใช่ไหมจะได้มีเวลายามเย็นมาแช่น้ำอุ่นสบายใจ"
"อย่างนั้นเสี่ยวจื้อสั่งนางกำนัลให้เตรียมน้ำอุ่นให้ท่าน"อันอันพยักหน้า ยิ้มอ่อนโยน
"ท่านหญิง ท่านหาโอกาสให้ข้าแล้วใช่ไหม"ท่าทีดีใจของชิงซีทำเอาอันอันเผลอยิ้ม
"มิใช่ข้าหากแต่ฝ่าบาทอยากพบองค์หญิง ข้าน้อยนำนางกำนัลมาถึงนี่อาบน้ำขัดผิวให้องค์หญิงอีกทั้งยังต้องชโลมน้ำปรุงให้ผิวเนื้อหอมหวน"ชิงซียิ้มอายๆ
"ทำเช่นข้ากำลังจะต้องถวายตัว"อันอันยิ้มอ่อนโยน
"ฝ่าบาทชอบผิวกายหอมหวนอีกทั้งนิยม... มองหญิงที่เพิ่งอาบน้ำขึ้นมาใหม่ๆ ผมยังเปียกชื้นผิวเนื้อนุ่มเนียนด้วยน้ำปรุงยังติดอยู่ เรื่องถวายตัวแล้วแต่องค์หญิง ฝ่าบาทคงไม่กล้าหักหาญน้ำใจ แต่หากองค์หญิงคิดว่าสมควรแก่เวลาแล้วการทำให้ฝ่าบาทประทับใจยามพบกันครั้งนี้ก็ดีมิใช่หรือ"
ชิงซียิ้มอายๆ อินจิ๋นใบหน้าหล่อเหลาอีกทั้งยังรู้สึกถึงความดึงดูดอย่างที่หญิงทุกคนไม่อาจปฏิเสธ แล้วชิงซีจะกล้าปฏิเสธหรือในเมื่อแรกพบก็ตกหลุมรักอินจิ๋นเสียเต็มเปา
"ท่านหญิงท่านดีกับข้ายิ่งนัก เช่นนั้นให้นางกำนัลจัดการตามที่ท่านหญิงเห็นสมควร"
อันอันยิ้มอ่อนโยน
อินจิ๋นนั่งบรรเลงเพลงพิณ
อันอันเดินนำชิงซีเข้ามา ชิงซีย่อกายอ่อนหวานงดงามยิ่งนัก
"ชิงซี ถวายพระพรฝ่าบาท"อันอันประสานมือ
"มานั่งตรงนี้เถิด"ตบที่ข้างๆ ที่นั่ง
อันอันก้าวขาเตรียมจะออกไปข้างนอกอย่างที่ทำเป็นประจำในทุกครั้ง
"เดี๋ยว"
"หมดธุระแล้วอันอันขอตัว” โบกมือให้อันอันก้มลง อันอันโน้มตัวลงเอาหูแนบใบหน้าเหมือนที่เคย
"ข้าต้องการสุรา เจ้านำมันมาที่นี่ให้ข้าด้วย"
"ปกติเรื่องนี้เป็นงานของนางกำนัล"
"ข้าดื่มสุราชนิดไหนเจ้ารู้ดีมิใช่หรือ อีกอย่างองค์หญิงดื่มสุรากับข้าเพียงลำพังเจ้าดื่มด้วยจึงกันข้อครหา"
อันอันได้เพียงแค่ประสานมือ เสี่ยวจื้อกุลีกุจอช่วยยกไหสุรายังตำหนักฮ่องเต้
ชิงซีนั่งก้มหน้าด้วยท่าทีอ่อนหวานอินจิ๋นเอื้อมมือกุมมือบาง
"ดื่มสุรากับข้าสักครา"แววตาหวานฉ่ำ อันอันเบือนหน้าหนีอินจิ๋นยกมือชิงซีขึ้นจุมพิตที่หลังมือเบาๆ แต่ตากลับมองอันอันว่ามีท่าทีเช่นไร
"เพคะ"ชิงซีรับคำอย่างว่าง่ายไม่ยอมเงยหน้า
อันอันรินสุราแจกจ่าย
"ดื่ม"อินจิ๋นยกจอกสุราชูขึ้นตรงหน้าแต่สายตาจับจ้องที่ใบหน้าหวานของชิงซี ก่อนจะยกจอกสุราเทลงคอจนหมดจอก
"อันอันมีคนบอกข้าว่าเจ้าคอแข็งยิ่งนัก"ยิ้มบางๆ
"ไม่จริง อันอันไม่นิยมดื่มหากใครคนนั้นที่พูดว่าอันอันคอแข็ง คงโป้ปด"
"อืมนะ ข้าไม่เคยเห็นเจ้าดื่มเช่นนั้นค่ำคืนนี้ ร่วมดื่มเป็นเกียรติให้ข้ากับองค์หญิง"
ชิงซียกจอกสุราเทลงคออย่างที่หญิงงามกระทำใช้ชายเสื้อบังริมฝีปากบางไว้เสีย ผิดกับอันอันที่จับจอกสุราด้วยสองมือกระดกลงคอให้หายวับไปกับตาแลบลิ้นเลียริมฝีปาก อินจิ๋นคีบกับแกล้มป้อนให้ชิงซีตรงหน้าอันอัน
"ขอบพระทัยฝ่าบาท"ยิ้มเอียงอาย
"อืมแคว้นฉีมีหญิงงามที่อ่อนหวานเช่นเจ้าทุกคนหรือไม่"อันอันเห็นจนชินตาในการโอ้โลมนางในของอินจิ๋น แค่รื่นรมย์กับสิ่งรอบกายเอาหูทวนลมเสีย
"อิอิ อิฝ่าบาทพูดเกินจริง ชิงซีก็แค่เพียงหญิงที่ธรรมดาคนหนึ่งหาได้งดงามไม่"หัวเราะเบาในลำคอ
อินจิ๋นเหลือบตามองอกใหญ่ที่กระเพื่อมไปมายามที่ชิงซีหัวเราะ
อันอันรินสุรากระดกลงคอถี่ถี่ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องสนใจคำพูดของทั้งสองคน ก็ในเมื่ออยู่เพื่อกันข้อครหา จึงไม่ควรสนทนากับคนทั้งคู่ปล่อยให้ฝ่าบาทโอ้โลมองค์หญิงใหญ่ได้ตามสบายเหมือนที่เคยทำกับหญิงอื่นเป็นประจำ อันอันคิดเสียว่าตัวเองไม่ได้อยู่ตรงนั้น
สุราถูกยกขึ้นกระดกลงคอของอินจิ๋นพร้อมกับแววตาหยาดเยิ้มและเขินอายของชิงซี ที่เริ่มจะมีอาการเมามาย ส่วนอันอันเสี่ยวจื้อฝานเนื้อขิงให้ไว้ในช่องปาก โดยเสี่ยวจื้อบอกว่า ขิงจะทำให้ลดอาการเมามายได้
“หากข้าจะบังอาจขอบางอย่างกับองค์หญิง”สายตาคมจ้องมองเนินอกที่ล้นทะลักออกมาด้านนอก ชิงซียิ้มเอียงอายทั้งๆ ที่ยังไม่รู้อินจิ๋นจะกล่าวคำใดเป็นอันอันที่ไม่ทนฟังคำพูดโอ้โลมเหล่านั้นอีกต่อไป เพราะต่อจากนี้คงเป็นเรื่องของคนสองคน
“ฝ่าบาทอันอันเมามายเกินกว่าที่จะทรงกายแล้ว เช่นนั้นอันอันขอตัวกลับที่พำนักก่อนเรื่องราวต่อจากนี้ ฝ่าบาทคงไม่ต้องให้อันอันช่วยเหลือ” ชิงซีหันมองอันอันด้วยสายตา ขอบคุณ
“องค์หญิงยินดีด้วย”ประสานมือ ลุกขึ้นยืนเดินโซซัดโซเซ
ไหนเสี่ยวจื้อบอกว่าไม่เมาไหนบอกอมขิงแล้วไม่เมา อินจิ๋นไม่ได้ห้ามไว้อย่างที่อันอันคาดการไว้ กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม ชิงซีเองเมามายจนหน้าแดง ดวงตาหวานเยิ้มเพียงนั้น เกาะกำแพงเดินลัดเลาะไปยังห้องพักที่ห่างออกไปไม่มากนัก
“นายหญิงนี่ชาน้ำขิง ท่านดื่มชาน้ำขิง แล้วแช่น้ำอุ่นเสียคาดว่าไม่เกินหนึ่งชั่วยามจักต้องหายเมา”กระดกชาน้ำขิงลงคอ
“เสี่ยวจื้อไหนบอกว่าเนื้อขิงแล้วจะไม่เมา”
“นายหญิงก็ท่าน กระดกสุราลงคอรวดเร็วเพียงนั้นไม่เมาก็คงไม่ไหว”อันอันยิ้มส่ายหน้าไปมา
เปิดประตุเดินเข้าไปในห้องพัก ปลดแกะอาภรณ์ ลงไปกองกับพื้นเหมือนเช่นทุกครั้ง ก้าวเท้าเปลือยเปล่าหย่อนกายลงไปในอ่างน้ำอุ่นที่มีควันลอย อ้อยอิ่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ชื่นใจยิ่งนัก เสี่ยวจื้อคงสั่งให้นางกำนัลใส่ดอกไม้และเครื่องหอมลงไปในน้ำ อันอันก้มมองร่างขาวสล้างของตัวเองหน้าอกที่อิ่มอูม เต่งตึงเมื่อสวมอาภรณ์ในชุดขันทีแล้วแทบมองไม่เห็นความเต่งตึงของมัน ยอดถันสีชมพูระเรื่อ ผิวเนื้อขาวเนียน มายามนี้อันอันรู้ดีว่าร่างกายของอันอันงดงามไม่เป็นรองหญิงใด อาจจะดีกว่าด้วยซ้ำไปเพราะไม่เคยเผยเนื้อตัวให้ใครได้ยล ยกเว้นอินจิ๋นที่เห็นเนื้อในเสียบางส่วนในวันนั้น
เพียงครู่เดียวรู้สึกปวดศีรษะอย่างมากหรือจะเป็นเพราะกลิ่นดอกไม้หอม และอาการมึนเมาเมื่อผสมกันเข้าจึง ยิ่งทำให้ปวดศรีษะได้เพียงนี้เอนศีรษะลงบนขอบอ่างไม้หลับตานิ่งเผลอหลับไป
อันอันสะดุ้งตื่นลืมตาอาการปวดศีรษะยังคงอยู่ลุกขึ้นยืนตั้งใจจะเดินไปสวมอาภรณ์แล้วนอนเสีย ด้านหลังผ้าม่านร่างสูงของอินจิ๋นโผล่เข้ามาพอดีรวบร่างเปลือยไว้ในอ้อมแขน
“ฝะฝ่าบาท”อินจิ๋นกระตุกผ้าม่านห่อร่างเปลือยของอันอันอุ้ม พาเดินกลับไปที่แท่นนอน
“อย่าส่งเสียง”วางร่างอวบอิ่มลงบนแท่นนอน
“ฝ่าบาทตั้งใจทำอะไร”อันอันละล่ำละลัก
“ข้า แค่เพียงอยากจะมาอาศัยแท่นนอนของเจ้าก็เท่านั้น”
“ฝ่าบาท แล้วองค์หญิงใหญ่เล่าฝ่าบาททำแบบนี้อันอันจะถูกผู้คนครหาว่าเป็นนางหน้าแท่นนอน”ริมฝีปากถูกกดปิดอย่างจัง อันอันเลิกคิ้วสูง เผยอริมฝีปากอย่างลืมตัวกลายเป็นรับรสจูบหอมหวาน
“ขะขะข้า ยกแท่นบรรทมให้กับชิงซีไปแล้วนางเมามายจนไร้สติ ซึ่งข้าไม่นิยม ร่วมรักกับหญิงที่เมา”
“อันอันก็เมา”รีบพูดเพราะกลัวว่าอินจิ๋นจะอาศัย โอกาสนี้
“องค์หญิงใหญ่เมาอาเจียนรดแท่นบรรทมของข้า ข้าเรียกหาเจ้าหรือแม้แต่นางกำนัลหรือเสี่ยวจื้อทุกคนล้วนหนีหายไปหมด ข้าจึงจำต้องมาตามเจ้าแต่… แล้วข้าจะนอนที่ไหน”เปลี่ยนเรื่องในตอนท้าย
จะบอกว่าเขาเห็นร่างอวบขาวสล้างในน้ำ จนความเป็นชายของเขาชูชันก่อนที่กางเกงนอนของเขาก็เปียกชื้นในทันที จะบอกอันอันให้ขายหน้าหรือไรว่าเขาไม่อาจอดกลั้นความต้องการของตัวเองได้ คงน่าอายไม่น้อยที่เพียงแค่เห็นเรือนร่างของอันอันหรืออันอันเลียกล้วยหอม เขากลับต้องปล่อยให้กางเกงที่สวมใส่เปียกปอนอย่างห้ามไม่ได้ เหมือนคนที่ไม่ผ่านการฝึกปรือ
“นอนได้แล้ว ข้าทั้งเมาทั้งง่วง”หันหลังให้อันอันเสีย อันอันอมยิ้มนอนขดตัวในห่อผ้าม่าน
“ฝ่าบาท... แน่ใจนะว่าไม่ทำอะไรอันอัน”ถามเพื่อความแน่ใจแต่ก็นั่นเหอะหากเขาจะทำอะไรอันอันจะทำอะไรเขาได้
“ไม่ ข้าเมามายเพียงนี้จะทำอะไรได้” อินจิ๋นหันกลับมากอดร่างอวบอิ่ม ก้มลงจุมพิตที่ไหล่เปลือยเปล่า มืออุ่นกดศีรษะลงบนอกกว้างด้วยความเอ็นดู
จะทำอะไรนางได้แค่เพียงเห็นร่างเปลือยเปล่ากับเนินอกอิ่มที่ยอดถันสีชมพูระเรื่อ ....ก็พุ่งกระฉูดให้น่าอาย
อันอันกับซ่อนยิ้มในหน้า ซุกหน้าเกลือกกลิ้งลงบนอกกว้าง
“นอนได้แล้ว หากไม่นอนข้าจะต้อง…อดใจไม่ไหวกับเจ้า”อินจิ๋นส่งเสียงปรามแต่น้ำเสียงอ่อนโยนยิ่งนัก อันอันหลับตานิ่งยิ้มเป็นสุขในอ้อมแขนของอินจิ๋น วันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไรก็ช่างวันนี้ขอเพียงได้มีอินจิ๋นนอนกอดก่ายอย่างนี้ก็พอ