บทที่ 01 พะพาย

1838 คำ
พะพาย ธัญญารัตน์ เกศวิริยสกุล คือชื่อฉันเอง ลูกสาวอดีตผู้บริหารนักธุรกิจอันดับต้นๆ ของเมืองไทย ที่ตอนนี้วางมือให้ลูกชายคนโตบริหารต่อ และรอให้ฉันเข้ารับตำแหน่งรองประธานบริษัทหลังจากที่ฉันเรียนจบ และใช่…ตอนนี้ฉันเรียนจบแล้ว จบมาได้เกือบครึ่งปีแล้วด้วย "เฮีย…" ฉันลากเสียงหวานเรียกเฮียพร้อมหรือพี่ชายของฉันเองที่อายุห่างกันเกือบห้าปี ในขณะที่มือบางถอดแว่นตาออกแล้วรีบสาวเท้าเดินเข้าไปหาพี่ชาย "หมวย กลับมาไม่บอกเฮียเลย" ฉันพุ่งเข้าไปกอดเฮียที่ไม่ได้เจอกันนานมากตั้งแต่วันที่ฉันไปเรียน ก็ไม่ได้เจอกันเลย มีแค่คุยผ่านโทรศัพท์เท่านั้น "หมวยกลับมากับป๊าม๊า" วันนี้เป็นวันแรกของการกลับประเทศตัวเอง และเหตุผลที่ฉันต้องกลับก็เพราะป๊ากับหม่าม้าฉันน่ะบินไปตามฉันถึงที่นู้นถึงที่ถึงถิ่นจนฉันหนีไม่ได้ เพราะฉันใช้เวลาเที่ยวเตร็ดเตร่ต่างประเทศไม่ยอมกลับ อยู่นานไปหน่อย ก็เลยต้องถูกบินตามกลับบ้านตามระเบียบ "หื้ม…ไม่เห็นป๊ากับม๊าบอกเฮียเลย" เฮียพร้อมเลิกคิ้วหันไปหาหม่าม้าที่พึ่งเดินเข้ามายังตัวบ้าน "แกกลับมาให้ฉันเห็นหน้าด้วยหรือไง" หม่าม้าตอบกลับเฮีย จนเจ้าตัวยิ้มแห้งๆ ออกมา ท่าทียอมรับแบบนี้แสดงว่าหม่าม้าพูดจริงสินะ "เฮียไม่คิดถึงหมวยเลยหรือไง ไม่เคยมาหาหมวยสักครั้งเลย" ฉันกอดอกแล้วเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ก่อนหน้านี้เห็นห่วงฉันนักห่วงฉันหนา แต่ไม่เคยไปหาฉันเลยสักครั้งเดียว "คิดถึงสิ แต่เฮียงานยุ่งมากเลย หมวยก็เห็น หม่าม้าเลยต้องไปตามหมวยมาช่วยเฮียไง" "แล้วงานสำคัญกว่าหมวยหรือไง" ฉันไม่ยอมหรอก เห็นงานสำคัญกว่าฉันได้ยังไงกัน แบบนี้ต้องงอนนานๆ "เอ้…งั้นคนงอนแถวนี้คงไม่อยากได้รถที่เฮียซื้อให้แล้วสิ" เฮียพร้อมพูดพร้อมกับควงกุญแจรถยนต์เล่น ทำเอาฉันรีบหันขวับกลับมา แล้ว… พรึ่บ…รีบคว้ากุญแจที่เฮียควงไว้ทันที "หายงอนแล้วค่า" ฉันพูดพร้อมกับยิ้มหวานให้เฮีย โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีมาบ่อยๆ ค่อยงอนทีหลังก็ได้ คนอย่างพะพายเงินซื้อไม่ได้ ถ้าไม่มากพอ… "ทีแบบนี้ล่ะเร็วขึ้นมาเชียวนะครับ" เฮียพร้อมพูดแล้วขยี้หัวฉัน "เฮีย…หัวยุ่งหมดแล้ว" มือบางรีบปัดออก จัดผมให้เข้าที่แล้วทำหน้ายู่ใส่พี่ชาย "เฮียไปซื้อมาตอนไหนอะ" ฉันเอ่ยถาม เมื่อกี้ยังบอกเลยว่าไม่รู้ว่าฉันจะกลับ "หม่าม้าบอกเฮียก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมงเอง เฮียเลยรีบซื้อเพราะรู้ว่ามีคนจะงอน" ช่างรู้ใจฉันจริงๆ เลย "แล้วรถอยู่ไหนอะ" ฉันหันไปถามเฮีย ตื่นเต้นสุดๆ จะได้นั่งรถคันใหม่คันแรกในการกลับไทยของฉันแล้ว "อยู่หน้าบ้านคันสีขาวอะ" ไม่รอช้าที่เรียวขาจะรีบวิ่งออกไปหน้าบ้านทันทีที่เฮียพูดจบ เมื่อกี้ฉันไม่เห็นได้ยังไงนะ สงสัยรีบเดินเข้ามาหน่อยเลยไม่ทันสังเกตว่ามีรถหรูสีขาวคันใหม่เอี่ยมถูกผูกโบว์สีแดงรอเจ้าของอยู่แล้ว "ว้าว…เฟอร์รารีรุ่นใหม่ล่าสุด" สายตาฉันเป็นประกายจดจ้องรถที่อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะรีบเข้าไปเชยชมใกล้ๆ ลูบไปมาด้วยความเห่อของใหม่จนพอใจ "ไงเรา ยิ้มหน้าบานมาเชียว" ไม่วายที่ทันที่เข้ามาในบ้านก็ถูกผู้เป็นบิดาพูดแซว ตวัดสายตาออกจากหนังสือพิมพ์มามองฉันยิ้มๆ "แน่อยู่แล้วป๊า รถใหม่ถูกใจพายสุดๆ ขอบคุณนะค่าเฮียพร้อม" ฉันยักคิ้วกวนใส่ป๊า แล้วเดินไปนั่งใกล้เฮียพร้อม พร้อมกับหอมแก้มสำหรับของขวัญหนึ่งที ถูกใจพะพายสุดๆ เลย ฉันจะแทนตัวเองว่าหมวยแค่กับเฮีย เพราะเฮียเป็นคนเดียวที่เรียกฉันว่าหมวย ส่วนกับป๊าหม่าม้าก็พายบ้างหนูบ้างแล้วแต่โอกาส "โห่ ถ้ารู้ว่าซื้อแล้วโดนหอมแก้มแบบนั้นนะ ป๊าซื้อให้ดีกว่า" พ่อเอ่ย "ป๊า…อย่าอิจฉาดิ" เฮียพร้อมบอกป๊าพร้อมกับยิ้มอย่างผู้ชนะ "ไม่ซื้อก็หอมแก้มให้ค่า" ฉันพูดพร้อมกับเดินไปหอมแก้มป๊าทั้งสองข้าง "ให้สองข้างไปเลย แต่ขอเป็นคอนโดหนึ่งห้องนะคะ" ก่อนที่จะพูดต่อจนป๊าหันมามองหน้าฉัน แน่นนอนว่าคนอย่างพะพายทำอะไรหวังผลอยู่แล้ว การหอมแก้มแลกกับที่พักฟรีรถฟรี ถือว่าคุ้ม "ทำดีหวังผลเหรอ?" "ไม่คิดจะอยู่ติดบ้านทั้งลูกชายแล้วก็ลูกสาวเลยหรือไง" แต่ไม่ทันจะตอบเสียงหวานของผู้หญิงอีกคนในบ้านก็พูดแทรก จะเป็นใครไม่ได้นอกจากพระมารดาที่หน้าหงิกหน้างอไม่ยอมให้ฉันหนีไปมีคอนโดอยู่แยก "หม่าม้าขา…ยังไงหนูก็กลับบ้านบ่อยๆ อยู่แล้วค่า" ฉันรีบเดินไปอ้อนหญิงวัยกลางคน นาทีนี้การตัดสินใจขึ้นอยู่กับหม่าม้าเท่านั้นแหละ ฉันจะออกหรือไม่ได้ออกไปอยู่นอกบ้าน คำอนุญาตต้องมาจากคนนี้เท่านั้น ป๊าใหญ่สู้หม่าม้าไม่ได้หรอก "แล้วแต่หนูละกัน แต่ต้องกลับมาหาม๊าบ่อยๆ นะ" เป็นไปตามคาด บ้านนี้อ้อนนิดหน่อยก็ยอมแล้ว "รับทราบค่ะ" "พร้อมจัดการให้ป๊าด้วย" ฉันยิ้มแฉ่งเมื่อได้สิ่งที่ต้องการ "ครับป๊า" "พรุ่งนี้เฮียฝากคีย์การ์ดไว้กับม๊าก็ได้ เดี๋ยวหมวยไปเอง" ฉันบอกเฮียพร้อม เพราะพรุ่งนี้เฮียน่าจะต้องไปทำงาน ส่วนฉันขอพักที่บ้านให้หายเจ็คแลคก่อนแล้วค่อยเริ่มทำงานเริ่มย้ายที่อยู่แล้วกัน "ได้ครับ งั้นเฮียไปก่อนนะ ป๊าม้าสวัสดีครับ" ว่าจบร่างสูงก็เดินออกจากบ้าน ในขณะที่ฉันก็ขอตัวจากพ่อแม่ขึ้นไปพักชั้นบนบ้านที่เป็นห้องของตัวเอง ยังเหมือนเดิมทุกอย่างเลย…ภายในห้องของฉันยังมีข้าวของของฉันตั้งไว้เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนที่ สะอาดตลอดเพราะหม่าม้าคอยให้แม่บ้านดูแลอยู่ตลอดเวลา สังเกตห้องของตัวเองเสร็จก็รีบล้มตัวนอนบนเตียงกว้าง ก่อนที่จะเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์มือถือแล้วเปิดเข้าไปในแอปพลิเคชั่นสีเขียวเพื่อทักทายคนที่ฉันคิดถึงไม่ต่างกัน LINE สี่สาวสุดสวย(4) ฉัน : ฮายค่าเพื่อนๆ พะพายกลับบ้านแล้วน่า น้ำฟ้า : จริงเหรอพาย จะกลับไม่บอกกันเลย ฉัน : ม๊าบินไปตามพายถึงนู้นเลย พายเลยต้องกลับ เกรซ : แหม่ ก็เล่นเที่ยวไม่กลับบ้านกลับช่องเลยอีพาย เพียงขวัญ : จริง ว่าแต่มีของฝากพวกกูปะ ฉัน : เรียนจบก็ต้องลั้ลลาหน่อยสิคะ ของฝากอะมีอยู่แล้วค่าา เพียงขวัญ : ดีมากค่าคุณเพื่อน พรุ่งนี้เจอกันหน่อยมั้ยล่าา คิดถึงมึงว่ะอีพาย เกรซ : เห็นด้วยค่า ฉัน : โอเคหลังพวกมึงเลิกงานนะ น้ำฟ้าว่างหรือเปล่า น้ำฟ้า : ว่างๆ ฉัน : โอเค งั้นเย็นๆ เจอกันที่ห้าง kk นะคะเพื่อนๆ ฉันนัดแนะอะไรกับเพื่อนๆ เสร็จก็ไปอาบน้ำนอน ตอนนี้เริ่มรู้สึกปวดหัวแล้วน่าจะเกิดจากอาการเจ็ทแลค ฉันเลยตั้งใจจะรีบเข้านอน แต่พยายามข่มตานอนมากแค่ไหนสุดท้ายดวงตากลมก็ไม่ยอมหลับให้ฉัน เพราะสมองมันคอยสั่งการให้ฉันคิดเรื่องบางอย่างอยู่ตลอดเวลา เหตุการณ์ที่แทรกเข้ามาในหัวเกี่ยวกับอดีตที่เจ็บปวดจนฉันไม่สามารถนอนหลับได้ลง ถ้าเราเจอกันอีก ฉันจะทำยังไง? คำถามวนๆ ซ้ำๆ ในหัวยิ่งทำให้ใจฉันเต้นระรัวอย่างบ้าคลั่ง จนไม่นานความรู้สึกเหนื่อยล้าของการเดินทางในวันนี้ก็ทำให้ฉันหลับลงได้ในที่สุด ตอนเช้า "ตื่นสะสายเลยนะพาย" เสียงหวานพูดขึ้นจนฉันก้มดูนาฬิกาข้อมือ ตอนนี้อย่างเรียกว่าเช้าเลย เรียกว่าเที่ยงแล้วจะดีกว่า เพราะกว่าฉันจะตื่นได้ก็ปาไปสิบเอ็ดโมงเสียแล้ว "เจ็ทแลคค่ะม้า นอนไม่ค่อยหลับ" "แล้วเป็นยังไงบ้าง ยังปวดหัวหรือเปล่า" "ไม่ปวดแล้วค่ะ" "ป๊าม้า…หนูไปดูคอนโดนะคะ แล้วเลยไปเจอเพื่อนที่ห้างด้วยค่ะ" "ให้ลุงร่วมไปส่งก่อนไหม เรายังไม่ชำนาญทางหนิ" "ไม่เป็นไรค่ะ พายสำรองเวลาไว้แล้ว ขับรถเองจะได้ศึกษาเส้นทางด้วย พายไปนะคะ" ว่าจบฉันก็รีบเดินออกจากบ้าน เปิดประตูรถป้ายแดงเข้าไปนั่งพร้อมใช้งานวันแรกด้วยความตื่นเต้น แต่ที่ตื่นเต้นมากกว่าคือฉันจะได้เจอหน้าสี่สาวสุดสวยเพื่อนสมัยมัธยมแล้ว ไม่ได้เจอกันนานมากมีเรื่องร้อยแปดพันเก้าที่ต้องเมาท์แน่นอน แต่ก่อนไปต้องไปตรวจเช็คคอนโดก่อน ฉันรีบเปิดเส้นทางไปคอนโดที่เฮียพร้อมส่ง เห็นว่าเป็นคอนโดของเพื่อนสนิทที่เคลมไว้ว่าหรูหราถูกใจฉันแน่นอน ซึ่งฉันจะเชื่อก็ต่อเมื่อได้เห็นกับตาเท่านั้นแหละ รีบมุ่งตรงขับรถตามเส้นทางที่สุดแสนจะงุนงง ใช้เวลาเดินทางเกือบหนึ่งชั่วโมงทั้งที่ในแอปบอกแค่สามสิบนาที หลงไปตามระเบียบ ความหัวเสียทำให้ฉันรีบกดลิฟต์ขึ้นไปด้วยใบหน้าบูดบึ้ง ถ้ารู้ว่ารถจะติดและขับยากขนาดนี้ฉันให้คนขับรถมาด้วยดีกว่า หงุดหงิดชะมัดเลย… ไม่นานลิฟต์หรูก็พาฉันมาถึงชั้นสูงสุดของคอนโด ความหงุดหงิดใจของฉันหายไปทันทีที่เห็นห้องของฉันสวยมากๆ ฉันรีบเปิดม่านเชยชมวิวทิวทัศน์ที่เห็นทั่วกรุงเทพ เฟอร์นิเจอร์ในห้องครบคัน ตกแต่งหรูหราพร้อมอยู่ชอบใจฉันมาก แถมชั้นนี้ยังมีแค่ห้องเพียงสองห้องเท่านั้น และดูเหมือนว่าห้องข้างๆ ฉันจะใหญ่กว่าเพราะระเบียงที่ติดกันกว้างกว่าห้องฉันอีก แถมยังมีต้นไม้ตกแต่งสวยงามจนฉันอยากอยู่ห้องนั้นแทน ฉันชะโงกพยายามมองเข้าไปอีกห้องเผื่อจะเห็นเจ้าของเพื่อทำความรู้จักสร้างมิตรภาพ ฉันมั่นใจว่ามีคนอยู่เพราะต้นไม้ดูได้รับการดูแลมาอย่างดี จนฉันพยายามมองก็เหมือนว่าตอนนี้เจ้าของห้องจะไม่อยู่ ฉันเลยเลิกพยายามแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องตัวเอง ค่อยทักทายเอาวันหลัง…
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม