ตอนที่ 5 น้องสี่มาเยี่ยมตอนที่ไม่มีชื่อ

1850 คำ
ตอนที่ 5 น้องสี่มาเยี่ยม "พี่สามท่านนอนพักอยู่หรือไม่เจ้าคะ" เซียวเยวี่ยหลันวางตำราในมือลง พลางหันไปมองทางหน้าประตูห้อง ใบหน้าเล็กของน้องสี่เซียวอี้ซินโผล่เข้ามาพลางส่งยิ้มอ่อนหวานมาให้ เห็นอย่างนั้นริมฝีปากบางก็ยกเหยียดขึ้นก่อนจะหายไปอย่างรวดเร็ว "น้องสี่หรือ เข้ามาเถอะข้าพักพอแล้ว" เซียวอี้ซินรีบเดินเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว นางยิ้มเขินอายเหมือนประหม่า ทุกครั้งก็เป็นเช่นนี้ น้องสาวคนนี้ชอบใช้ความไร้เดียงสาหลอกตาผู้คนเสมอ ครั้นเข้ามาถึงนางก็รีบนั่งลงด้านหน้าของพี่สามของนาง มือเล็ก ๆ ยื่นเกาะแขนอีกฝ่ายเอาไว้อย่างออดอ้อน "พี่สามอย่าโกรธข้าเลยนะเจ้าคะ ความจริงข้าได้ยินว่าท่านฟื้นขึ้นมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ข้ามัวแต่ช่วยท่านแม่ตรวจบัญชีร้านค้า เอ่อ...สินเดิมของท่านแม่น่ะเจ้าค่ะ" นางกัดริมฝีปากลงอย่างประหม่า รีบบอกว่าเป็นร้านค้าสินเดิมของมารดา หากบอกว่าตรวจกิจการของสกุลเซียวที่ท่านย่าแบ่งออกมาจากมือท่านป้าสะใภ้ใหญ่ เกรงว่าพี่สามคงไปอาละวาดมารดานางแล้ว เฮอะ!!!...ก็ใครใช้ให้ท่านป้าสะใภ้ใหญ่เลอะเลือนเพราะบุตรสาวป่วยกันเล่า ในเมื่อท่านย่ายกการดูแลจวนให้มารดานางแล้ว บ้านใหญ่ก็อย่าหวังจะได้คืนเลย แต่ถึงอย่างนั้นดวงตาเรียวก็ยังดูโศกเศร้า หยาดน้ำตาเกาะอยู่บนขนตา แลดูน่าทะนุถนอมเป็นอย่างมาก หากเป็นเมื่อก่อนเซียวเยวี่ยหลันคงรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดให้อย่างเร็วกระมัง "จริงสิ...ที่ร้านท่านแม่มีสินค้าเข้ามาใหม่ นี่พี่สามดูสิชอบหรือไม่ ข้าเอามามอบให้ท่าน ถือว่าเป็นการขอโทษจากน้องสาวผู้นี้ ความจริงแล้วข้าโทษตัวเองมาตลอด หากข้าไม่ชวนท่านไปช่วยจับลูกแมวน้อย ท่านก็คงไม่พลาดตกลงไปในน้ำจนล้มป่วย พี่สามท่านตีข้าเถอะ ล้วนเป็นความผิดของข้า" "ในเมื่อเจ้าไม่ตั้งใจ แล้วข้าจะตีเจ้าได้อย่างไร น้องสี่อย่าคิดมากเลย" "เช่นนั้นท่านรับถุงหอมนี่ไปนะเจ้าคะ ข้าตั้งใจนำมันมามอบให้ท่าน ผ้าลายนี้เป็นลายใหม่ที่เพิ่งส่งมาจากเจียงหนาน ท่านแม่นำมาตัดชุดให้ข้า ข้าจึงแบ่งมาเย็บถุงหอมให้ท่าน ท่านดูสิข้าเองก็พกไว้หนึ่งถุง แต่ของข้าเป็นลายดอกเหลียนฮวา" เซียวเยวี่ยหลันรับถุงหอมสีชมพูปักลายดอกไห่ถังอย่างงดงาม แน่นอนว่าดอกไห่ถังเป็นดอกไม้ที่นางชื่นชอบเป็นอย่างมาก ส่วนน้องสี่ของนางก็เหมาะกับเหลียนฮวายิ่งนัก แม่ดอกบัวขาวดอกนี้ช่างน่าบดขยี้เหลือเกิน นางลูบถุงหอมในมือเบา ๆ ในใจก็พลันนึกไปถึงถุงหอมอีกใบที่อยู่ในตำหนักบูรพา ถุงหอมที่เย็บขึ้นมาเพื่อมอบให้ไป๋ซ่งเจี๋ย ทว่าเขามันเสแสร้งแกล้งขอให้นางเย็บขึ้นมาอีกใบ เพื่อมอบให้องค์รัชทายาท "...เสด็จพี่รัชทายาทนอนไม่ค่อยหลับ ถึงอย่างไรเจ้ากับพระองค์ก็เคยสนิทกัน เช่นนั้นก็เย็บให้พระองค์สักถุงดีหรือไม่ แต่เจ้าอย่าได้เอาไปมอบให้ด้วยตนเองเชียว ข้ากลัว เจ้าก็รู้ว่าเสด็จพี่มีใจต่อเจ้า ฝากนางกำนัลไปมอบให้เถอะ" "ให้หมอหลวงปรุงยาถวายก็ได้แล้วมิใช่หรือ ยังต้องพึ่งถุงหอมหม่อมฉันไปทำไมกัน" "หลันเอ๋อร์...เจ้าอย่าใจแคบเลย อย่างไรเสด็จพี่รัชทายาทก็ทรงดีต่อพวกเรา ข้าเองก็เป็นห่วงพระวรกายพระองค์..." หึ!!!...นึกถึงคำพูดในชาติก่อนแล้วก็รู้ว่า นางช่างโง่เขลานัก ถุงหอมนั่นก็แค่หมากที่ต้องการใช้นางกำจัดเขาเท่านั้น หัวใจนางจมดิ่งลงไป มือเรียวขยำจนของในมือบิดเบี้ยวผิดรูป รอยยิ้มของเซียวอี้ซินเริ่มแข็งค้าง ดวงตานางขยายและหดลงอย่างรวดเร็ว เหงื่อที่ฝ่ามือไหลจนเปียกชื้น หรือนางจะรู้ว่าเหตุการณ์ที่สระน้ำมิใช่อุบัติเหตุ หรือจะรู้เรื่องที่ท่านย่าลำเอียงมอบอำนาจมาให้บ้านสายรองของนาง แต่ไม่ว่าจะอย่างไรล้วนไม่เป็นผลดีต่อนางทั้งสิ้น หญิงสาวพยายามกดความตื่นกลัวเอาไว้อย่างเต็มกำลังความสามารถ ต้องตั้งสติให้ได้ หากพี่สาวผู้โง่เขลารู้ความจริง เรื่องราวคงไม่เงียบเช่นนี้ อย่างน้อย ๆ เซียวเซิ่งหมิ่นไอ้คนไร้สมองนั่นจะต้องมาเอาเรื่องบ้านสายรองแน่นอน "พี่สาม...ท่านไม่ชอบหรือ" เซียวเยวี่ยหลันหลุดออกจากภวังค์ ใบหน้าหวานหันไปมองช้า ๆ คิ้วเรียวกระดกขึ้น พร้อมกับมุมปากที่คล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม "เหตุใดจึงคิดเช่นนั้น ข้าชอบมากลำบากเจ้าแล้ว" นางยิ้มออกมาจากมุมปาก แต่หากสังเกตดี ๆ ในดวงตาของนางหาได้มีรอยยิ้มไม่ ใบหน้าหวานเอียงไปมองสาวใช้ของเซียวอี้ซินที่อยู่ด้านหลังของน้องสาว พลางยกคิ้วขึ้น "เอ๋...ไฉ่หงทำไมจึงยืนเช่นนั้น เจ็บขาหรือ" ทันทีที่คำถามนี้หลุดออกไป ทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบทันที ได้ยินแม้กระทั่งเสียงสูดลมหายใจของไฉ่หง นางไม่เร่งรีบเอ่ยคำถามจบก็หันไปยกจอกชาขึ้นดื่ม ทว่าปลายหางตาก็เหลือบไปมองน้องสาวกับสาวใช้คู่นั้น ใบหน้าทั้งคู่ต่างก็ซีดเผือด หากไม่ได้ทำสิ่งใดผิด มีอันใดต้องหวาดกลัวกัน แต่กลับเป็นเซียวอี้ซินที่ผุดลุกขึ้นไปผลักศีรษะของไฉ่หงจนล้มลง นางกระทืบเท้าแสดงความโกรธเกรี้ยวออกมาอย่างที่ไม่เคยทำ แต่ดูจะเกินจริงไปสักนิด ต้องรู้เอาไว้ว่าสิ่งที่ไม่เคยทำกลับทำออกมาได้ดี เช่นนั้นคนดูย่อมรู้ว่าโกหก "นังบ่าวโง่!!!...ข้าบอกแล้วมิใช่หรือว่าไม่จำเป็นต้องตามข้ามา ข้ามาหาพี่สามจะเกิดเหตุร้ายกับข้าได้อย่างไร ตัวเองเจ็บเช่นนี้แล้ว จะเอาปัญญาที่ใดมาดูแลข้า ไสหัวกลับเรือนไปเสีย หากรักษาตัวไม่หายดีอย่าโผล่หน้ามาให้ข้าเห็น" ครั้นเมื่อตำหนิสาวใช้เสร็จก็สะบัดหน้าหันกลับมาหาเซียวเยวี่ยหลัน ใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกละอาย "พี่สามข้าเสียมารยาทแล้ว ก็ไฉ่หงน่ะสิข้าบอกว่าไม่ต้องตามมา นางก็ไม่ฟังดูเอาเถอะ ข้าเป็นคุณหนูสามของจวนราชครู แต่สาวใช้ผู้หนึ่งกลับไม่ฟังคำพูดข้า ช่างน่าโมโหนัก" คำพูดเซียวอี้ซินเต็มไปด้วยโทสะ แต่กระนั้นก็ไม่ลืมเหลือทางรอดให้กับสาวใช้ เหตุใดเมื่อก่อนนางไม่เคยรู้เลยว่า น้องสาวจะเก่งกาจถึงเพียงนี้ "อย่าได้โมโหไปเลย ก็แค่บ่าวชั่วผู้หนึ่ง สมควรแล้วหรือที่จะทำให้เจ้าโมโห หากไม่ดีก็เรียกพ่อบ้านมาขายทิ้งไปเสีย เจ้าจะได้ไม่ต้องโมโหจนเสียสุขภาพเช่นนี้" คราวนี้เซียวอี้ซินหน้าซีดเผือดลงอย่างเห็นได้ชัด ทว่าคุณหนูสามก็ยังคงแสร้งมองไม่เห็น "เฮ้อ...หากนังบ่าวชั่วนั่นทำผิด ข้าก็จะไม่ลังเลเลย แต่ที่นางต้องเป็นเช่นนี้เพราะข้าเอง พี่สามหลังจากที่ท่านตกลงไปในสระน้ำ ข้าจะกระโดดลงไปช่วยแต่ไฉ่หงกลับมาขวางเอาไว้ ข้าร้อนใจทุบตีนางไปหลายครั้ง จนทำให้นางพลาดสะดุดล้ม แต่พอนางลุกขึ้นมาได้ นางก็รีบบอกกับข้าว่า นางจะลงไปช่วยพี่สามก่อน ขึ้นมาแล้วให้ข้าทุบตีได้ตามใจ ข้าจะพูดอันใดได้อีก เฮ้อ...จะว่าไปที่นางเป็นเช่นนี้เพราะข้าแท้ ๆ" "เป็นเช่นนี้เอง เช่นนั้นข้าก็ต้องขอบใจสาวใช้ของน้องสี่ด้วย เจียอีเจ้าหยิบปิ่นทองอันใหม่ไปมอบให้ไฉ่หงด้วยก็แล้วกัน บอกนางว่าเป็นของแทนน้ำใจจากข้า" "เจ้าค่ะ" เจียอีเดินเข้ามาหยิบปิ่นปักผมตามที่คุณหนูบอก ครั้นเมื่อได้แล้วก็รีบเดินตามไฉ่หงออกไป เซียวอี้ซินฉวยโอกาสลอบมองในห้อง ครั้นเห็นกองของขวัญจากตำหนักของไป๋ซ่งเจี๋ย นางก็เม้มริมฝีปากขึ้นดวงตามืดลง "จริงสิพี่สาม พรุ่งนี้ท่านจะไม่ไปงานเลี้ยงในวังหรือ ข้าได้ยินท่านย่าพูดเมื่อเช้า บอกว่างานวันนี้เป็นการคัดเลือกพระชายาให้ท่านอ๋องทั้งหลาย พี่สามท่านไม่ไป พรุ่งนี้ซ่งอ๋องก็คงเลือกพระชายาไม่ได้แล้ว" "เหตุใดจึงจะเลือกไม่ได้กันเล่า ข้าเกี่ยวอันใดด้วย" รอยยิ้มมุมปากกดลึก นางยกถุงหอมในมือขึ้นมาดูเล่น ไม่ได้สนใจคำพูดของน้องสาว หึ!!!...ดูท่าคงดีใจมากกระมังที่นางไม่ได้ไป แต่เห็นอีกฝ่ายยิ่งแสดงความดีใจจนออกนอกหน้าเช่นนี้ นางควรจะยกเลิกให้อีกฝ่ายดิ้นรนบ้างดีหรือไม่ "โธ่...พี่อย่าปิดบังข้าเลย ใครบ้างจะไม่รู้ว่า ท่านอ๋องถูกตาต้องใจท่าน งานเลี้ยงพรุ่งนี้ก็ทำไปตามธรรมเนียมเท่านั้นเองกระมัง" ในแคว้นต้าหยวนองค์ชายที่ถึงวัยเลือกคู่ พระมารดาในวังหลวงจะจัดงานเลี้ยงเพื่อคัดเลือกสตรีมากความสามารถขึ้นมาดูตัว แต่หากจะว่าไปตามความจริงแล้ว ในจำนวนสตรีเหล่านี้ก็มักจะมาร่วมงานพอเป็นพิธีเท่านั้น เพราะสตรีที่ถูกวางตัวเป็นพระชายา จะถูกจับจองเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว แต่งพระชายามิใช่ต้องการหน้าตาหรือความสามารถ แต่ต้องการอำนาจหนุนหลังต่างหากที่เป็นเรื่องจริง "เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว แต่หากเจ้าเป็นห่วงข้า เช่นนั้นพรุ่งนี้ข้าย่อมต้องไม่พลาดแล้วกระมัง" เป็นอย่างที่คิดรอยยิ้มของคุณหนูสี่สกุลเซียวพลันเกร็งค้าง ทว่าเพียงแค่พริบตาเดียว นางก็ยิ้มออกมาเหมือนไม่รู้สึกอันใด เซียวอี้ซินโกรธจนขนคิ้วกระตุก นางไม่อยากแสร้งนั่งยิ้มอยู่ตรงนี้แล้ว ครั้นเห็นว่าพี่สาวที่น่ารังเกียจแสดงความอ่อนเพลียขึ้นมา จึงฉวยโอกาสรีบขอตัวกลับก่อน ทันทีที่กลับมาถึงเรือนตนเอง ก็รีบเข้าไปในห้องปิดประตูเขวี้ยงข้าวของจนแตกหัก "นังสารเลวเหตุใดจึงไม่จมน้ำตายไปเสีย ป่วยจนไร้เรี่ยวแรงก็ยังจะหน้าด้านไปงานเลี้ยง กลัวว่าท่านอ๋องจะถูกใจข้าหรืออย่างไร หึ!!!...หากไม่ใช่เพราะอำนาจท่านลุง มีหรือสตรีไร้ยางอายเช่นนี้จะคู่ควร"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม