ในตอนที่จางหนิงออกมาจากห้องอีกครั้งก็พบว่า ฉู่หยางไปซื้ออาหารมาไว้ให้บนโต๊ะ และเวลานี้เขากำลังเอาผ้าปูที่นอนออกมาซัก
จางหนิงถือเก้าอี้ตัวเล็กลงไปนั่งตรงข้ามกับเขา "แค่เห็นผ้าปูที่นอนผืนนี้…ก็รู้แล้วว่าเมื่อคืนนี้พวกเรารุนแรงกันมากแค่ไหน”
มือของฉู่หยางหยุดชะงักลงชั่วคราว เพราะเขานึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ชายหนุ่มไม่อาจปฏิเสธได้ว่าตนเองนั้นรู้สึกดีมาก ๆ
จางหนิงอมยิ้มมองอีกฝ่ายเล็กน้อย ก่อนจะเขยิบตัวเข้าไปใกล้เพราะอยากจะช่วยซักผ้าปูที่นอนด้วย แต่ก็ถูกอีกฝ่ายห้ามเอาไว้ “ร่างกายเธอยังไม่มีแรง นั่งอยู่เฉย ๆ เถอะ”
ฉู่หยางจัดการซักคราบต่าง ๆ ออกจนหมด ก่อนจะล้างเอาผงซักฟอกออกแล้วนำไปตากในสวน วันนี้แดดค่อนข้างดี อีกไม่นานผ้าปูที่นอนก็คงจะแห้ง
“กินข้าวกันเถอะ…ช่วงสายทางสหกรณ์บอกว่าจะมีปลามาขาย…พี่จะไปซื้อมาให้เธอบำรุงร่างกายเสียหน่อย”
ดังนั้นอาหารเที่ยงและเย็นของพวกเขาจึงเป็นน้ำแกงปลา
ในตอนกลางคืนฉู่หยางก็นำหมอนและผ้าห่มจากห้องของเธอมาไว้บนเตียงของเขา ตอนนี้สถานะของคนทั้งคู่กลายเป็นสามีภรรยากันอย่างแท้จริง ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการจะนอนบนเตียงเดียวกันเหมือนกับคู่สามีภรรยาคนอื่น ๆ
“คืนนี้พี่จะไม่ทำอะไรเธอ ไว้หายดีก่อนค่อยว่ากัน” คนทั้งสองกอดกันไปสักพัก จางหนิงก็รู้ว่าอีกฝ่ายนั้นมีความต้องการมากเพียงใด แต่เขาพยายามอดทนและจูบเบา ๆ ที่หน้าผากของเธอเท่านั้น
"ถ้าพี่หยางไม่ไหวจริง ๆ ฉันสามารถใช้มือช่วยพี่ได้นะคะ" ร่างกายของจางหนิงยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เธอจึงไม่สามารถที่จะตามใจทั้งตนเองและเขาได้
ใบหน้าของฉู่หยางขึ้นเล็กน้อย “ไม่เป็นไรพี่รอได้ ” เขาพูดแล้วก็กอดเธอไว้แนบกับอก ใช้ร่างกายเย็น ๆ ของภรรยาสาวทำให้จิตใจของตนเองสงบลง
เช้าวันรุ่งขึ้นฉู่หยางลงมือทำปลานึ่งซีอิ้วด้วยตัวเอง เขาก็เรียกเธอออกมากิน
“เที่ยงนี้ พี่ไม่ได้มากินข้าวด้วยนะ แต่ยังมีปลาเหลืออีกสองตัวอยู่ในถังไม้ หรือถ้าไม่อยากกินก็ไปซื้อกับข้าวที่โรงอาหารเอาก็ได้” ฉู่หยางกำชับก่อนที่จะออกไปทำงาน
“ได้ค่ะ” พูดจบหญิงสาวก็เขย่งปลายเท้าขึ้นไปหอมแก้มเขา “ตั้งใจทำงานนะคะ”
ฉู่หยางอมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะหอมแก้มของเธอกลับเช่นกัน
วันนี้ชายหนุ่มจึงทำงานอย่างอารมณ์ดีเป็นพิเศษ จนลูกน้องที่ทำงานด้วยกันอดไม่ได้ที่จะทัก
“ผู้กองฉู่อารมณ์ดีมากเลยนะครับ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้เขาก็หันไปมองอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม “ใช่…วันนี้ผมอารมณ์ดีมาก”
ถ้ารู้ว่าการได้ร่วมรักจะให้ความรู้สึกวิเศษเช่นนี้ เขาคงย้อนเวลากลับไปตั้งแต่วันแรกที่เจอกับจางหนิง และรีบทำให้เธอเป็นของตัวเองโดยเร็วที่สุด
……
ฝ่ายจางหนิงที่กำลังตัดเสื้อชุดใหม่อยู่ในบ้าน พี่สะใภ้หวังก็มาหาพอดี
"หนิงหนิง ไม่ได้เจอแค่ไม่กี่วันผิวพรรณของเธอดูเปล่งประกายมากเลยนะ ใช้ครีมบำรุงผิวแบบไหนหรือ” พี่สะใภ้หวังกลับขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ
จางหนิงไม่ได้บอกไปว่าเป็นเพราะเธอและฉู่หยางได้เป็นสามีภรรยากันอย่างแท้จริง ผิวพรรณของเธอจึงเปล่งปลั่งขึ้นมามากกว่าปกติ เธอแค่ยิ้มและบอกว่า “ช่วงนี้ฉันได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ผิวพรรณก็เลยดีขึ้นมากค่ะ"
"อ้อ…อย่างนี้นี่เอง” พี่สะใภ้หวังพยักหน้า
ก่อนจะพูดถึงธุระที่มาหาอีกฝ่าย "วันพรุ่งนี้ทหารจากแผนกขนเสบียงจะเข้าไปในเมืองเพื่อซื้ออาหารเข้ามาที่ค่าย พวกภรรยาทหารจะขอติดรถไปด้วย เธออยากจะไปด้วยกันหรือเปล่า”
จางหนิงคิดว่าข้าวของในบ้านใกล้จะหมดหลายอย่าง และบางชิ้นในสหกรณ์ก็ไม่มีขาย เธอจึงอยากจะไปด้วย “ฉันอยากจะไปด้วยค่ะ เพราะในครัวก็เหลืออาหารกับน้ำมันไม่มากแล้วเหมือนกัน”
พี่สะใภ้หวังพยักหน้า "ได้ ๆ พวกเราซื้อของคราวละเยอะ ๆ เธอไม่ต้องกังวลเรื่องการยกของหนัก เพราะเดี๋ยวพวกพลทหารจะคอยช่วยเหลือเราในการขนย้ายเอง"
จางหนิงจึงถามเรื่องเวลานัดเดินทาง “เราจะออกเดินทางประมาณกี่โมงคะ"
"ประมาณหกโมงเช้า พวกเราไปเจอกันที่หน้าค่ายทหาร กว่าจะไปถึงในเมืองก็คงจะเกือบแปดโมงเช้าพอดี” พี่สะใภ้หวังกล่าว
พวกเธอคุยกันอยู่สักพักก่อนที่พี่สะใภ้หวังจะขอตัวกลับไป หลังจากนั้นจางหนิง ก็กลับมาตัดผ้าเพื่อทำชุดนอนคู่รัก
จางหนิงตัดเสื้อผ้าในรูปทรงแบบง่าย ๆ คือเสื้อแขนสั้นกับกางเกงขายาว หลังจากตัดและใช้จักรเย็บผ้าเย็บตะเข็บจนเรียบร้อย เธอก็เอาไปซักตากแห้งไว้ด้านนอก
เมื่อเห็นเสื้อผ้าตัวหนึ่งใหญ่ตัวหนึ่งเล็กตากคู่กันหญิงสาวก็ยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ
เมื่อถึงช่วงบ่ายคล้อย หญิงสาวก็เริ่มเตรียมอาหารเย็น เธอไปซื้อซาลาเปาไส้ผักและหมูตุ๋นที่โรงอาหาร ก่อนจะลงมือทำปลาทอดเพิ่มเข้าไปอีกหนึ่งเมนู
ฉู่หยางกลับมาเกือบหนึ่งทุ่ม พวกเขาทั้งสองก็กินอาหารเย็นด้วยกัน สายตาของชายหนุ่มมองไปที่นอกบ้านและเห็นว่ามีเสื้อผ้ากำลังตากเอาไว้
“นี่คือชุดใหม่ที่เธอตัดหรือ”
จางหนิงพยักหน้า “ใช่ค่ะมันเป็นชุดคู่รัก”
“อ้อ” ฉู่หยางรู้สึกขัดเขินกับคำว่าคู่รักอยู่บ้าง แต่ชายหนุ่มก็ไม่ปฏิเสธว่าเขาชื่นชอบคำเรียกนี้มาก
จางหนิงชวนเขาคุยเรื่องที่พี่สะใภ้หวังมาชวนให้ไปซื้อของในเมือง
“ก็ดีเหมือนกันนะ” ฉู่หยางพยักหน้าเห็นด้วย จากนั้นก็ให้เงินเธออีกสองร้อยหยวน
“เงินที่พี่หยางให้ยังเหลืออยู่อีกตั้งเยอะค่ะ” จางหนิงใช้ไปไม่มาก ตอนนี้เงินที่เขาให้รวมกันแล้วก็ยังเหลืออยู่เกือบห้าร้อยหยวน
"เงินนี่ไม่จำเป็นต้องซื้อแต่อาหารเท่านั้น พี่ได้ยินมาว่าห้างสรรพสินค้าในเมืองมีเสื้อผ้าสำเร็จรูปสวย ๆ ทั้งนั้น เธอก็ซื้อมาใส่เถอะ”
จางหนิงได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้า “ได้ค่ะ”
หลังจากนั้นชายหนุ่มนิ่งไปสักพักก่อนจะเอ่ยถามขึ้นมาอย่างอดทนไม่ไหว "วันนี้เธอพร้อมหรือยัง"
จางหนิงรู้ว่าเขาต้องการอะไร แต่เธอยังไม่หายดี และพรุ่งนี้ก็ต้องเดินทางไกล หญิงสาวจึงไม่อยากให้ตนเองลำบาก “วันนี้ยังไม่ได้ค่ะ มันยังเจ็บอยู่เลย"
ฉู่หยางได้ฟังก็ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย “ถ้าอย่างนั้นวันนี้พี่คงต้องออกกำลังกายแล้วแหละ”