วันรุ่งขึ้นเมื่อจางหนิงตื่นขึ้นมา ในตอนที่กำลังลุกขึ้นจากเตียง เธอก็ปวดเมื่อยไปทั่วทั้งร่างโดยเฉพาะส่วนกลางกายที่ยังรู้สึกร้อนวูบวาบ
ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าทำไมคนส่วนใหญ่ถึงได้เลือกให้วันเสาร์เป็นวันแต่งงานและวันอาทิตย์เป็นวันหยุด เพราะการเข้าหอมันช่างเหนื่อยเหลือเกิน
จางหนิงคิดถึงการร่วมรักอันร้อนแรงของพวกเขา เมื่อคืนนี้ ใบหน้าของจางหนิงก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย
ผ้าปูที่นอนใต้ร่างของเธอในเวลานี้ยับยู่ยี่ บ่งบอกว่าเมื่อคืนนี้พวกเขาทั้งคู่ร้อนแรงกันมากแค่ไหน
จางหนิงเงยหน้าขึ้นมองผู้ชายตัวสูงกว่า ซึ่งในเวลานี้เขาก็กำลังลืมตามองเธออยู่เหมือนกัน
ฝ่ามือใหญ่ลูบแก้มเธอเบา ๆ "ยังเจ็บอยู่ไหม"
ในตอนแรกชายหนุ่มสามารถควบคุมตัวเองได้ดี แต่แล้วเขาก็ค่อย ๆ ถูกความปรารถนาครอบงำและเคลื่อนไหวหนักมากกว่าเดิมเรื่อย ๆ
มองดูร่องรอยจุมพิตบนร่างกายของภรรยา เขาก็รู้สึกพึงพอใจมาก…ในที่สุดก็สามารถทำให้เธอกลายเป็นของตัวเองอย่างแท้จริงไม่ใช่ความฝันอีกแล้ว
แต่เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมีใบหน้าเหนื่อยล้าและใต้ตามีรอยคล้ำ เขาก็รู้สึกผิดขึ้นมาที่เมื่อคืนเรียกร้องเอาจากเธอมากเกินไป
"มันยังเจ็บนิดหน่อยค่ะ” จางหนิงหน้าแดงเล็กน้อย
เมื่อคืนนี้ผู้ชายตรงหน้าทำตัวเหมือนกับสัตว์ป่าที่ต้องการเธออย่างไม่รู้จบ หญิงสาวนับไม่ได้ว่าตนเองถึงจุดสุดยอดไปกี่ครั้ง และในตอนนี้ส่วนกลางกายของเธอนั้นก็ยังคงรู้สึกเหนอะหนะ
ฉู่หยางเห็นใบหน้าของของเธอแดงก่ำ ท่าทางของเธอในเวลานี้ช่างน่ารักและมีเสน่ห์ไปอีกแบบ ยิ่งมองก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกร้อนรุ่มและเกือบจะสูญเสียการควบคุมแทบอยากจะกดเธอลงไปบนเตียงอีกครั้ง
“พี่จะไปต้มน้ำให้เธออาบ” ชายหนุ่มหันหน้าหนีและลุกขึ้้นจากเตียง ก่อนจะสวมเสื้อผ้าอย่างรวดเร็วรีบเดินออกไปนอกห้อง
จางหนิงเองก็ลุกขึ้นมาใส่เสื้อผ้าและกลับห้องของตนเองเช่นกัน หลังจากนั้นไม่นานชายหนุ่มก็มาตามเธอให้ไปอาบน้ำ
ก็อก! ก็อก! ก็อก!
“น้ำร้อนพี่ผสมเอาไว้แล้ว…เธอไปอาบเถอะ”
จางหนิงพยักหน้าเพราะรู้สึกเหนียวเหนอะหนะไปทั้งตัว ส่วนล่างของเธอก็เปรอะเปื้อน น้ำรักสีขาวขุ่นที่คนตัวโตหลั่งเข้ามานั้นมีจำนวนมากเหลือเกิน
เธอรีบเดินไปที่ห้องอาบน้ำและทำความสะอาดมันออกจนหมด
จางหนิงคิดว่าคงจะเป็นเวลานานมากแล้วที่อีกฝ่ายไม่ได้ปลดปล่อย น้ำของเขาถึงได้ออกมาเยอะมากถึงเพียงนี้
‘สามีของเธอทั้งแข็งแรงใหญ่ยาว มันทำให้เธอแทบจะหุบขาไม่ได้เลยทีเดียว!’
หลังจากทำความสะอาดร่างกายและเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ เธอก็คิดจะใช้ยาขี้ผึ้งที่พี่สะใภ้หวังให้มา เพราะว่าบริเวณส่วนนั้นรู้สึกเจ็บเล็กน้อย
“ยังเจ็บอยู่เหรอ” ฉู่หยางถามเมื่อเห็นว่าเธอกำลังเดินกลับห้องด้วยท่าทางประหลาด
“ค่ะ”
ฉู่หยางได้ยินก็ยิ่งรู้สึกผิด “เมื่อคืนพี่รุนแรงมากเกินไป หลังจากนี้พี่จะพยายามไม่แตะต้องเธออีก”
จางหนิงรีบห้ามอีกฝ่ายเอาไว้ “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เดี๋ยวทายาก็คงจะดีขึ้นเอง”
“ยาอะไรหรือ” ฉู่หยางถามขึ้นมาด้วยความสงสัย
จางหนิงเดินเข้าไปในห้องและหยิบตลับยาข้างหัวเตียงขึ้นมาให้อีกฝ่ายดู “เป็นยาที่พี่สะใภ้หวังเคยให้มาค่ะ…เธอบอกว่ามันช่วยในเรื่องแก้ปวดลดบวม”
ฉู่หยางเอื้อมไปหยิบตลับยาขึ้นมา เขาเปิดฝาออกและพบว่ามันเป็นเหมือนขี้ผึ้งที่มีกลิ่นหอมเย็น ด้านใต้ยังมีกระดาษที่เขียนคำแนะนำในการใช้มาด้วย “เดี๋ยวพี่จะทาให้”
“จะดีเหรอคะ” จางหนิงทำด้วยความเกรงใจแต่สุดท้ายเธอก็ไปนั่งบนเก้าอี้
ฉู่หยางเปิดกระโปรงของเธอขึ้นและเบี่ยงกางเกงชั้นในออกไปทางด้านข้าง มือหนาปาดขี้ผึ้งลงไปทาบริเวณกลีบเนื้อของหญิงสาวที่บวมแดงเล็กน้อย
“อือ…พี่หยาง อย่าล้วงลึกมากขนาดนั้นค่ะ” จางหนิงรู้สึกได้ถึงยาเย็น ๆ ที่ส่งเข้าไปถึงด้านใน หญิงสาวไม่ปฏิเสธว่ามันทำให้เธอสบายมาก แต่นิ้วของเขามันทำให้เธอเกิดอารมณ์
“ในกระดาษเขียนข้อแนะนำว่า…ยานี้ต้องทาข้างในด้วยมันถึงจะได้ผล”
นิ้วยาวของชายหนุ่มสอดเข้าไปในร่องรักคับแคบ
“ทาเสร็จหรือยังคะ” หญิงสาวเอ่ยถามเสียงแผ่วเบา ร่างกายเริ่มรู้สึกร้อนรุ่ม
“เรียบร้อยแล้ว” ฉู่หยางชักนิ้วออกมาและพบว่ามันเปียกชุ่มไปหมด เขาหยิบกระดาษชำระข้างหัวเตียงขึ้นมาเช็ดมือ ก่อนจะจัดกระโปรงของเธอให้เรียบร้อยตามเดิม
“ไว้หายเมื่อไหร่ค่อยมาทำต่อ” พูดจบเขาก็เดินออกจากห้องไป
จางหนิงมองตามด้วยความเสียดายอยู่บ้างเล็กน้อย เธอตั้งสติก่อนจะลุกขึ้นยืนและเดินไปมาและพบว่าความรู้สึกเจ็บบรรเทาลงไปมากทีเดียว