แสดงว่า รัก

2057 คำ
ทั้งสองคนเดินทางไปที่ห้างสรรพสินค้า อานนท์ต้องการจะนอนพักที่บ้านหลังใหม่ภายในคืนนี้ ดังนั้นเขาต้องได้เฟอร์นิเจอร์ภายในคืนนี้ และให้ปรางทิพย์เลือกทุกอย่าง "คุณไม่เอาค่ะ ไม่จับอายเขา"ปรางทิพย์ใช้มืออีกข้างแกะมือของอานนท์ที่จับมือของเธอไว้ออก "ไม่เจอตั้งหลายวัน อย่าใจร้ายนักเลย ขอจับหน่อยเถอะ ผมจะได้อุ่นใจนะ" "ฉันล่ะเหนื่อยกับคุณจังเลย แล้วบอกว่าฉันดื้อ คุณนั่นแหละดื้อ" “คุณจะไม่เลือกอะไรเองเลยเหรอ เดี๋ยวฉันเลือกแล้วคุณอย่ามาเสียใจทีหลังนะคะ” “ไม่เสียใจครับ ปรางช่วยเลือกให้หน่อยเอาแบบที่ชอบและอยากได้เลยครับ” “คุณจะนอนคืนนี้เลยเหรอคะ แล้วไม่ต้องทำบุญบ้านหรือให้พ่อแม่มาดูเหรอคะ” “ผมเอาพระเข้าบ้านแล้ว วันนี้ฤกษ์ดีและสะดวก ไม่ต้องห่วงครับ เดี๋ยววันไหนว่างจะไปรับแม่มานอนด้วย” “ยังไงคืนนี้คุณก็จะนอนที่บ้านใหม่ใช่ไหมคะ” “ครับ รบกวนด้วยนะ” เขาพูดขนาดนั้น เธอก็ต้องหาที่นอนให้เขานอนชั่วคราวไปก่อน ปรางทิพย์ใช้เวลาเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์เกือบสามชั่วโมง ดีที่บ้านเธออยู่ไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้า และที่นี่มีทุกอย่างครบถ้วน แต่ทุกเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่บริษัทฯจะส่งให้ในวันพรุ่งนี้ช่วงเช้า ซึ่งเป็นวันหยุดของเธอ “คุณคะทุกอย่างส่งได้พรุ่งนี้ ถ้าคุณจะนอนที่บ้านจริงๆต้องเป็นที่นอนปิกนิกไปก่อนนะคะ” “ครับ ไม่มีปัญหา เออ....พรุ่งนี้ผมรบกวนปรางช่วยมาดูบ้านช่วยผมหน่อยได้ไหม แค่มาดูเฉยๆเรื่องการจัดวางมันมีแบบของมันอยู่แล้ว พนักงานเขามาจัดให้ แต่ผมอยากให้คุณอยู่ด้วย” “มีคนทำแล้วจะให้ฉันมาทำไมคะ พรุ่งนี้วันหยุดฉันจะตื่นสาย” “งั้นไม่เป็นไร ปรางนอนพักผ่อนให้เต็มที่เลย แล้วเดี๋ยวเที่ยงผมรับไปกินข้าวกลางวันนะ” “ห้ามคุณโทรกวนฉันนะคะ หยุดวันเดียวฉันอยากพักผ่อนให้เต็มที่” “ครับสัญญาว่าจะไม่โทรกวน เดี๋ยวผมเห็นคุณเปิดหน้าต่างตอนไหนแล้วผมจะโทรหา” “นี่อย่าบอกนะคะว่าห้องคุณกับห้องฉันตรงกัน” “ครับ ผมเลือกเอง” ปรางทิพย์มองหน้าเขานิ่งๆ บทจะรุกก็รุกเหลือเกิน จนเธอนจะตั้งตัวไม่ทัน จะรอดูว่าจะทำได้นานขนาดไหน ยังไงก็ยังหวั่นใจแรกๆก็ดีแบบนี แต่ต่อไปจะเป็นยังไงก็ยังไม่รู้เลย เธอเคยอ่านหนังสือ หรือแม้แต่คำบอกเล่าของเพื่อนๆหลายคน ผู้ชายเวลาอยากได้ก็ทำทุกอย่าง เพื่อที่จะให้ได้ แต่พอได้สมใจแล้วก็ไม่ได้สนใจหรือดูแลเหมือนแรกๆซึ่งเธอไม่อยากให้เป็นแบบนั้นที่เคยได้ยินและได้เห็นมา ไม่อยากเอาชีวิตไปเสี่ยง ดูครอบครัวเขา ครอบครัวเธอ ล้วนมีปัญหาเรื่องแบบนี้ สุดท้ายต้องแยกทางกัน หรือมีเหตุให้แยกกัน “ขอบคุณครับ ป่ะไปกินข้าวก่อนนะค่อยเข้าบ้าน จะได้ซื้อของไปฝากแม่กับพยาบาลด้วย” อานนท์พาปรางทิพย์แวะกินข้าวก่อนกลับบ้าน บ้านกับห้างไม่ไกล ปรางทิพย์อยากกลับถึงบ้านเร็วๆเธอทำตัวไม่ค่อยถูก เขาไม่ค่อยพูดแต่เขาแสดงออก ทั้งหน้าตาท่าทาง “ฝันดีนะครับ ก่อนนอนผมโทรหานะ” หญิงสาวลงรถได้รีบเดินเข้าบ้าน หลานชายของเธอหลับไปแล้ว นางปวีณายังนั่งดูทีวีอยู่ในห้องนั่งเล่น “มาแล้วเหรอลูก ซื้ออะไรมาเยอะแยะเลย” “แม่กินข้าวแล้วใช่ไหมคะ คุณอานนท์ซื้อมาฝากแม่กับพยาบาลค่ะ” “แม่คะ คุณอานนท์เขามาซื้อบ้านข้างๆเราแม่รู้หรือยัง” “รู้แล้วลูก เขามาขอคำปรึกษาแม่ตั้งแต่เช้าแล้ว คุยกันเสร็จก็ออกไปจัดการ บ่ายมาก็ตกลงซื้อเลย รวดเร็วจริงๆ” “จริงค่ะแม่ เร็วมากแถมติดบ้านเราซะด้วย คืนนี้ปรางนอนกับแม่ มีเรื่องจะคุยด้วยค่ะ แต่เดี๋ยวไปอาบน้ำก่อน เดี๋ยวมานะคะ” นางปวีณารู้แล้วว่าลูกสาวจะคุยเรื่องอะไร เมื่อสายของวันนี้ หลังจากที่อานนท์คุยเรื่องบ้านเสร็จ เขาเข้ามาหาและบอกว่า รักชอบลูกสาว ขออนุญาตคบหา นางเองไม่ได้รังเกียจ เห็นว่าเขาเป็นผู้ใหญ่ ใจเย็น ไม่ต้องถามเรื่องฐานะ รู้ว่าครอบครัวเขามีเงิน ถือเป็นความโชคดีของลูกสาว แต่นั่นแหละลูกสาวคนโตของนาง มีปม นางกับสามีหย่าร้างกัน และมาเจอเรื่องของน้องสาว ยิ่งทำให้ปรางทิพย์คิดเยอะ กับเรื่องการมีคู่ครอง นางเข้าใจลูกสาว และเชื่อว่าอานนท์ก็เข้าใจเช่นกัน ลูกสาวคนโตไม่เปิดโอกาสให้ผู้ชายคนไหน และไม่เคยมีใครได้ใกล้ชิดเหมือนอานนท์ ทั้งที่แรกๆลูกสาวนางทำไม่ดีกับเขาไว้หลายอย่าง เชื่อว่าอานนท์จริงใจ ความจริงปรางทิพย์อายุก็สมควรที่จะมีครอบครัวได้แล้ว แต่อย่างว่า ถ้าเขาไม่รักไม่ชอบนางก็ไม่ยุ่ง ปล่อยลูกให้เขาตัดสินใจเอง “แม่คะ คิดอะไรอยู่ปรางเข้ามาตั้งนานแล้ว เห็นแม่นอนนิ่งเลย” “แม่ใจลอยจริงๆ ว่าแต่หนูปรางมีอะไรจะคุยกับแม่เหรอลูก” “แม่คิดว่าคุณอานนท์เขาเป็นยังไงคะ “ “เอาด้านไหนล่ะลูก หน้าตา ฐานะ ความสุภาพ สุขุม ใจเย็น จิตใจดี แม่ว่าเขามีครบนะ “ “คุณอานนท์บอกว่าชอบปราง แต่เขาก็ไม่ได้เร่งรัดอะไรนะคะ ปรางควรทำยังไง” “ถามใจตัวเองก่อนว่าจริงๆแล้วปรางคิดยังไงกับเขา ไม่ต้องคิดถึงใคร คิดถึงตัวเองให้มาก ไม่ต้องเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร อนาคตไม่ต้องไปคิดให้มันรำคาญใจ ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด แค่นั้นแหละที่แม่อยากจะบอก ถึงขนาดมาซื้อบ้านอยู่ใกล้ๆนี่ คงไม่มีใครขวางเขาได้หรอก” “ปรางว่าปรางใจร้อน เขาใจร้อนกว่าปรางอีกนะคะแม่” “ธรรมดาลูก เขามาสารภาพกับแม่แล้วเมื่อเช้า มาขออนุญาตคบกับหนูปราง ก็ดีชัดเจนดีไม่ได้เสียหายอะไร ครอบครัวเขากับเราก็คล้ายๆกัน ติดที่ฐานะเขาพร้อมกว่าเรามาก” “ปรางรู้สึกว่าอยู่ใกล้เขาแล้วปรางใจเย็นลงเยอะมาก มีสติ เขาไม่เหมือนผู้ชายคนอื่นๆที่ปรางเคยรู้จัก เป็นผู้ใหญ่มีเหตุผล” “สบายใจแล้วค่ะ คุณเขาโทรมาพอดีเลย ปรางขอรับสายก่อนนะคะ” ปรางทิพย์ออกมารับสายอานนท์ด้านนอก ปล่อยให้นางปวีณานอนยิ้มมองตามหลังลูกสาวที่รีบรับโทรศัพท์หนุ่ม ที่ตามจีบจริงจังเหลือเกิน คนหนุ่มสาวสมัยนี้ใจร้อนจริงๆ นางมองว่าอานนท์ใจเย็น สุขุม แต่เรื่องความรัก ไม่มีใครที่จะใจเย็นใจหรอก ใจร้อนกันทั้งนั้น ไม่ว่ารุ่นไหนสมัยไหน “ปรางทิพย์ ทำไมที่ห้องไม่เปิดไฟเลย นอนแล้วเหรอ” “นี่คุณแอบดูฉันเหรอคะ” “ใช่ ผมเลยโทรหาไง อยู่ได้ยังไงมืดๆไม่เปิดไฟ” “ฉันมานอนกับแม่ค่ะ แล้วก็กำลังจะนอนแล้ว คุณก็พักผ่อนนะคะ” “ยังอยากคุยอยู่เลย คิดถึงด้วย” “โอ้ยคุณ เล่นใหญ่นะคะเนี้ย แต่ฉันง่วงแล้วขอนอนก่อนได้ไหมคะ” “พรุ่งนี้ก่อนนอนคุยนานกว่านี้ได้ไหมครับ” “ไว้ให้ถึงพรุ่งนี้ก่อน แต่ตอนนี้ฉันง่วงแล้ว ฝันดีนะคะ” อานนท์ปิดไฟ หลับไปด้วยความสุขใจ นานแล้วที่เขาไม่เคยมีความสุขแบบนี้ ปรางทิพย์ทำให้เขามีความสุข ทำให้หัวใจของเขากระชุ่มกระชวย รู้สึกมีชีวิตชีวาอีกครั้ง คือความมั่นคงทางใจของเขา “กันญา นี่พี่เราเขาซื้อบ้านแล้วจริงๆเหรอลูก ดูให้แม่หน่อยมองไม่ค่อยเห็นเลย”คุณบุษบาส่งโทรศัพท์ให้กับลูกสาวคนเล็กช่วยดูให้ “จริงค่ะแม่ เมื่อวานพี่นนท์บอกกันญาแล้ว แต่ไม่คิดว่าจะเร็วแบบนี้ กันญาดีใจนะคะแม่ ในที่สุดพี่นนท์ก็เจอคู่ครองแล้ว จะได้แต่งงานแต่งการซะที เป็นโสดมานานแล้ว” “แล้วหนูปรางล่ะลูก เขาจะว่ายังไง จะชอบพี่เราไหม” “แม่เชื่อกันญานะคะ ปรางชอบพี่นนท์ค่ะ แต่ยังไม่รู้ตัวเท่าไหร่อาจจะยังไม่กล้าเปิดใจ” “ยังไงกันลูก แม่ไม่เข้าใจ” “ก็ครอบครัวเขาแตกแยก พ่อแม่หย่าร้างกัน น้องสาวก็มาเสียชีวิต เหตุที่เสียชีวิตเพราะได้คู่ครองไม่ดี อาจทำให้ปรางกลัวก็ได้ค่ะแม่” “แม่อยากจะบอกหนูปรางมากๆเลยนะว่า ลูกชายของแม่เนี้ยไม่มีทางที่จะเป็นเหมือนชายอื่น ลองได้รักแล้วเขาจะรัก พี่ชายเรานิสัยเหมือนแม่ หนักแน่นมั่นคง “ “วันมะรืนพี่นนท์จะมารับเราไปที่บ้านใหม่ของเขา สงสัยจะทำเป็นเรือนหอแน่เลย” “ขอให้จริงเถอะ แม่นี่รอมานานเหลือเกิน ถ้าพี่เราเขาแต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝา แม่ก็จะได้สบายใจ ต่อไปนี้ก็ไม่ห่วงอะไรแล้ว หลังพี่เราแต่งงานแม่จะไม่ทำงานแล้วนะ จะปล่อยให้พี่เขาดูแลทั้งหมด เผื่อแม่จะไปเที่ยวหาลูกที่ญี่ปุ่น ไปอยู่นานๆแบบไม่ต้องห่วงงาน” “ดีจังเลยค่ะแม่ งั้นแม่ไปคุยกับคุณน้าปวีณาเรื่องสู่ขอปรางให้พี่นนท์เร็วๆนะคะ กลับญี่ปุ่นครั้งนี้ แม่จะได้ไปพร้อมกันญาเลย” “นี่เราคิดและวางแผนไปไกลหรือเปล่าลูก ยังไม่รู้เลยว่าหนูปรางเขาจะตอบตกลงเมื่อไหร่” “แต่กันญาว่า ปรางต้องมองเห็นความจริงใจของพี่นนท์ค่ะแม่” “ขอให้เป็นอย่างนั้นเถอะลูก แม่จะได้โล่งและสบายใจสักที” คุณบุษบาดีใจที่ลูกชายเจอผู้หญิงที่ชอบสักที อายุขนาดเขาควรที่จะมีแฟนและสร้างครอบครัวนานแล้ว เห็นทีจะต้องจัดการเรื่องมรดกให้เสร็จเรียบร้อย คุณบุษบามีลูกสองคน คนส่วนมากแทบจะไม่มีใครรู้เลยว่ามีลูกสาวอีกคน อรกันญาจบประถมหกก็ย้ายไปอยู่กับน้าซึ่งเป็นน้องของคุณบุษบาซึ่งมีธุรกิจร้านอาหารอยู่ที่ญี่ปุ่น และหลังรู้ว่าพ่อมีปัญหาเรื่องผู้หญิง และหย่าร้างกับแม่ อรกันญาโกรธพ่อมากไม่ยอมเจอหน้า ตัดสินใจเรียนต่อที่ญี่ปุ่น เรียนจบและทำงานและแต่งงานกับคนญี่ปุ่น อาศัยอยู่ที่นั่นไม่กลับเมืองไทย ในหนึ่งปีจะกลับมาเยี่ยมแม่กับพี่ชายบ้างพักอยู่เพียงหนึ่งหรือสองเดือนเท่านั้น แต่ไม่ยอมพบพ่อและยังคงไม่ให้อภัย รู้ว่าเป็นผู้ให้กำเนิด แต่เลือกที่จะไม่พบเจอดีกว่า ตั้งแต่รู้ว่าพ่อมีดารารายอีกคน อรกันญาไม่ยอมเจอหน้าพ่อ และไม่ขอรับมรดกที่พ่อจะมอบให้ ไม่มีชื่อในธุรกิจของพ่อ หรือธุรกิจอะไรที่แม่กับพ่อมีชื่อร่วมกัน อรกันญาขอไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย ทำเหมือนพ่อไม่มีตัวตน ถึงจะรู้มาว่าพ่อได้เลิกรากับดารารายแล้ว รู้ว่าปราโมทย์ไม่ได้เป็นพี่น้องกัน รู้ว่าพ่อถูกดารารายหลอก ถึงจะรู้ว่าพ่อสำนึกผิด ก็ยังไม่ยอมเจอหน้าอยู่ดี คุณบุษบาไม่ได้บังคับลูกว่าต้องให้อภัยแค่ลูกไม่เกลียดพ่อก็ดีแล้ว เรื่องอื่นๆปล่อยให้เขาคิดเอง อรกันญากับปรางทิพย์มีความคล้ายกันตรงนี้ เมื่อครั้งงานของอุสาวดีเห็นชัดเลยว่าปรางทิพย์หมางเมินกับผู้เป็นพ่อมาก คุณบุษบารู้ว่าคงเพราะเสียใจ และสิ่งนี้คงเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ยังไม่ยอมมีแฟนและแต่งงานสักที
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม