“เฮีย เชี้ยย! นี่กูตาฟาดไปหรือเปล่าวะ”
“ฉิบหาย นี่มันเรื่องจริง”
ฉันสะดุ้งขึ้นมาเล็กน้อยเพราะตอนนี้กำลังอ่านนิยายโดยที่ยังนั่งกอดแขนพี่เขาอยู่เช่นเดิมเพิ่มเติมคือพึงศีรษะไปกับท่อนแขนแข็งแกร่งของคนตัวสูงด้วย โดยที่ตาก็อยู่ในอักษรที่เลื่อนขึ้นแบบอัตโนมัติผ่านหน้าจอไอแพด ส่วนพี่เขาก็นั่งอ่านแล้วก็เซ็นเอกสารหลายต่อหลายแฟ้มที่เลขานำมาให้ พอได้ยินเสียงฉันเลยเงยหน้าขึ้นไปมอง ก็เห็นว่าเป็นผู้ชายสองคน ส่วนสูงไล่เลี่ยกัน หน้าตาก็คล้ายกันบางส่วน ไม่ถึงกับเหมือนกัน แต่สไตล์การแต่งตัวก็คล้ายกับคนตัวสูงทั้งสองคนเลย ผมก็ตัดทรงคล้ายกัน แต่ถ้าเปรียบเทียบแฟนฉันเหมือนจะสูงกว่าเล็กน้อย นี่หรือเปล่าที่เป็นน้องฝาแฝดที่พี่เขาบอก ฉันหันมาทางคนตัวสูงโดยที่พี่เขาก็ดุผู้ชายทั้งสองคนตรงหน้าออกไปด้วยใบหน้าที่น่ากลัว แต่ถ้าเขาสามคนเป็นพี่น้องกัน ต้องบอกว่างานดีทั้งบ้านเลยนะเนี่ย ผิวขาว ไร้สิว ตัวสูงโปร่ง แต่งตัวไม่เยอะไม่น้อยแต่ดูดีและหล่อมากกันทั้งบ้าน
“ก่อนจะเข้าห้องควรเคาะประตู พวกมึงสองคนไม่อยากมีมือกันแล้วใช่ไหม ออกไปเคาะแล้วเข้ามาใหม่”
มือผมที่กำลังลงลายมือชื่อชะงักเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจเบาๆ จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมามองไอ้น้องชายฝาแฝดที่รวมกันแล้วไม่ถึงบาทด้วยสายตาที่ไม่พอใจเล็กน้อย เพราะผมสอนมันมาตั้งแต่เด็กในเรื่องนี้ พวกมันสองคนก็ไม่เคยจำ แล้วมันตกใจอะไรของมัน พอโดนผมสั่งพวกมันก็เถียงกันขึ้นมาทันที
“เห็นไหม กูแล้วว่าให้เคาะ”
“ก็กูรีบนี่หว่า มึงนั่นแหละ”
“ออกไป ด่วน”
“คร้าบบบ!!”
ฝาแฝดชายอย่างกองทัพและกองปราบที่มีใบหน้าและส่วนสูงที่คล้ายกันต่างพากันก้มศีรษะด้วยความยียวน เพราะในทุกวันแค่ได้แกล้งไอ้พี่ชายจอมเนียบให้ด่าเล่นๆ ก็เหมือนว่าจะนอนหลับฝันดี พอหันมาปาความผิดใส่กันเสร็จแล้วขายหนุ่มที่มีใบหน้าหล่อเหล่าคล้ายพี่ชายคนโตทั้งสองคนก็เดินออกมาข้างนอกพร้อมปิดประตู จากนั้นก็เคาะและเปิดเข้ามาอย่างมีมารยาท ไม่เช่นนั้นไอ้พี่ใหญ่คงจะได้ขาดใจตาย พี่มันก็เนียบเกิ๊น
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
“ขออนุญาตเข้าพบครับ คุณกองพล“
“และภรรยาของคุณกองพล”
“อืม ตั้งแต่มึงสองคนเป็นน้องกูมา 25 ปี พึ่งได้ยินพูดเข้าหูกูก็วันนี้แหละ แล้วมีอะไร อ่อ หนูจำไอ้สองคนนี้ได้ไหม ไอ้กองทัพกับไอ้กองปราบ ตอนเด็กๆ มันก็เคยไปเล่นกับหนูนะ”
ฉันมองผู้ชายทั้งสองคนตรงหน้าก่อนจะหันกลับมาหาคนตัวสูงพร้อมรอยยิ้มพิมพ์ใจ เพราะฉันจำไม่ได้จริงๆ เพราะไม่เคยจินตนาการถึงน้องของพระรอง ขนาดพระรองเองยังถูกเล่าแค่สองสามอีพี
“โทษทีนะคะ แต่หนูจำไม่ได้ มันนานแล้วอะค่ะ เจอกันอีกทีพี่ๆ เขาก็โตแล้ว”
“หึหึ ไม่เป็นไร พี่ก็ถามไปงั้นแหละ แล้วพี่ก็ภาวนาให้หนูตอบแบบนี้ จำพี่ได้คนเดียวก็พอ เพราะขนาดพี่เองยังไม่อยากจะจำมันเลย รู้จักพวกมันจะปวดหัวเปล่าๆ”
ผมมองคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆ ก่อนจะยิ้มให้และตอบกลับไปอย่างรวดเร็วหลังเห็นแววตาที่คล้ายว่าจะรู้สึกผิด แล้วแค่น้องจำผมได้ก็พอแล้ว ไอ้พวกนี้มันเหมือนลิง ผมเองก็ไม่อยากให้มันมาสนิทกับแฟนผมเท่าไหร่ ผมหวง ถึงแม้พวกมันแล้วคนตัวเล็กข้างๆ จะไม่ได้คิดอะไรต่อกันก็เถอะ
“แค่กๆ โอ๊ยยย สำลักความหวานเว้ย!”
“เออ ตอนรู้ว่าเขาไม่รักตัวเองมาชวนน้องชายอย่างกูเมาทุกวัน จนเส้นเลือดของกูจะเปลี่ยนเป็นเส้นเหล้า พอเขาตอบตกลงคบก็ลืมน้องสุกที่รักสองคน นี่แหละนะ นี่ ตัวเล็ก เราจำพี่สองคนไม่ได้เหรอ พี่ออกจะหล่อนะ หล่อกว่าไอ้เฮียพลอีก”
กองทัพและกองปราบพากันตัดพ้อพี่ชายด้วยน้ำเสียงและอารมณ์ที่มาเต็มเพราะความหมั่นไส้ เพราะก่อนหน้านี้แอบรักเขาข้างเดียว พอรู้ว่าเขาแอบชอบคนอื่นตัวเองก็ชวนน้องชายที่แสนดีแบบพวกเขาสองคนเมาทุกวัน จากนั้นสองหนุ่มจึงได้นั่งลงที่เก้าอี้โดยที่กองทัพวางแขนลงบนโต๊ะทำงานของพี่ชายก่อนจะมองน้องสาวที่พวกเขาเอ็นดูในวันน้ั้นและถามออกไปแบบไม่ได้โกรธเคืองใดๆ เพราะถึงแม้จะเคยเล่นกันตอนเด็ก แต่เมื่อโตขึ้นทุกคนต่างก็แยกย้ายและด้วยที่ไม่ได้เจอกันบ่อยๆ และนานมาก มาเจอกันอีกทีจำกันไม่ได้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
“ฮ่าๆ เออ อันนี้จริง พี่ด้วย จำพี่ปราบได้ไหม”
“ตอนแรกจำไม่ค่อยได้ แต่หลังจากนี้จะจำให้ได้ค่ะ เพราะพี่ๆ เป็นน้องชายของแฟนหนู”
“โอโหหหหหหหห”
ฉันตอบพี่ชายทั้งสองคนออกไปจากนั้นก็ได้ยินเสียงล้อเลียนไปทั่วห้องโดยที่คนตัวสูงก็หัวเราะออกมาอย่างชอบใจผิดกลับผู้ชายทั้งสองคนที่พากันทำหน้าเหม็นความรักแบบสุดๆ แต่ดูแล้วพี่ร้องสามคนนี้คงสนิทกันมากนะ และด้วยความที่อายุห่างกันแต่ปีเดียว จากแฝดสองก็เหมือนแฝดสามในทันที
“กูว่าไม่ใช่แค่ไอ้เฮียหรอก น้องสาวกูก็คลั่งรักไม่เบา นี่ พี่ถามอะไรแบบตรงๆ ได้ปะ”
กองปราบรู้สึกคันปากเพราะอยากถามคำถามหนึ่งออกไป ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันไม่สมควร แต่เขาเองก็เพียงอยากจะแน่ใจว่าต้นรักที่พี่ชายกำลังปลูกกับน้องสาวที่เขาเห็นและเอ็นดูมาตั้งแต่เด็กมันใช่เรื่องจริง เพราะถึงจะด่าจะกวนประสาทกันแค่ไหนแต่พวกเขาทั้งสามคนก็เป็นห่วงกันอยู่ไม่น้อย
“อืมๆ ได้เลยค่ะ หนูตอบได้หมดเลย”
“เรารักไอ้เฮียมันจริงๆ ใช่ไหม ลืมไอ้ไบร์ทได้แล้วใช่ปะ”
พลั้ว!
“เฮียไม่ต้อง สัสปราบ คำถามเชี้ยอะไรของมึง ถามไม่ดูเวลา มึงนี่นะ เฮียตัดเงินค่าขนมของมึงแน่”
กองทัพหันไปตบหัวน้องชายฝาแฝดของตัวเองในทันที แล้วเขาเองก็หัวจะปวด รู้แหละว่าเป็นคำที่แม้แต่ผมเองก็อยากจะรู้ แต่ยังมันก็ไม่ควร แล้วพอหันไปเห็นร่างมัจจุราชมาเข้าสิงพี่ชายก็รู้สึกร้อนๆ หนาวๆ แทนน้อง แล้วเขารักและดูแลของเขามาอย่างดี ไอ้น้องเวรนี่มันชักศึกเข้าบ้านชัดๆ
“เออๆ เราไม่ต้องตอบก็ได้”
“หนูตอบได้ แล้วหนูก็อยากตอบ หนูรู้สึกว่าตอนที่ชอบไอ้ไบร์ทมันเป็นความรู้สึกของเด็กคนหนึ่งมากกว่า ความรักก็ยังไม่รู้จัก สนิทกันโตมาด้วยกันมันเลยคิดกว่าตัวเองชอบ แต่ตอนนี้นี้หนูรู้สึกถึงความรู้สึกนั้นแล้ว หนูชอบพี่กองพลจริงๆ แล้วก็ไม่ได้คิดเอาพี่กองพลมาเป็นตัวแทนใครเพื่อรักษาจิตใจ เพราะตอนนี้หนูเกลียดไอ้ไบร์ทมาก มันเป็นผู้ขายสันดานชายแท้แบบมากๆ หนูยังงงอยู่เลย หล่อก็ไม่หล่อ สันดานชายแท้แบบสุดๆ ก่อนหน้านี้หนูไปชอบมันทำไมก็ยังไม่รู้ตัวเองเลย สู้พี่พลของหนูก็ไม่ได้ หล่อเหมือนพระเจ้าตั้งใจปั้น อบอุ่นก็ที่หนึ่ง ใส่ใจมากๆ เจอแบบนี้ใครไม่รักก็บ้าแล้ว คิกๆ”
แปะ แปะ แปะ
“นี่ เพลงอะ เก่าไปปะ”
“จริงเหรอ หนูได้ยินจากใน TT มานะ”
“ดูครับ ตอบคำถามยังไงให้ได้ใจผัว”
“งื้ออออ แฟนกันค่ะ ยังไม่ใช่ผัว แต่ถ้าวันไหนใช่ หนูจะไม่ขัดกับคำเรียกนี้ก็แล้วกันนะคะ โอเคปะ”
ผมยกยิ้มที่มุมปากหลังได้ยินคนตัวเล็กตอบไอ้สองแฝดกวนประสาทนี้กลับไปแล้วพอตอบคำถามที่จริงจังเสร็จจากนั้นก็หันมาทำหน้าตาดื้อๆ ผสมกับเจ้าเล่ห์นิดๆ ส่งให้ไอ้สองคนนี้ไป
“เป็นไงๆ น้องกูสุดไหมล่ะ”
“สุดมากๆ นี่ เรามีเพื่อนมั่งเปล่า ช่วยพี่หาเมียบ้างสิ”
“ไม่มีหรอก จะเลิกคบละ แต่ถ้าหนูมีเพื่อนที่น่ารักหนูก็จะ ไม่แนะนำให้พี่หรอก”
“อ้าว ไอ้น้องสาวตัวแสบ พี่เหงานะเว้ย”
“อืม นั่นสิ เตียงพี่หนาวมากนะ”
“พี่ก็ห่มผ้าให้เตียงสิคะ แค่นี้มันก็ไม่หนาวแล้ว”
กองพลกับกองปราบเม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรงก่อนจะหันมาพยักหน้าให้กันก่อนจะหันกลับมาที่ใบหน้าสวยและอวบอิ่มของน้องที่มีความรู้สึกมันเขี้ยวไปหมด แต่จะใช้มือบีบแก้มพองๆ นั้นให้หายแค้นก็คงจะสู้ว่าที่ผัวไอ้น้องตัวแสบไม่ไหว
“มันแสบใช่เล่นนะ”
“อืม ไอ้เด็กคนนี้โตมาแล้วไม่ธรรมดา”
“คิกๆ พี่ๆ เอ็นดูหนูมากเลยเหรอ”
“มาก!!”
ฉันหัวเราะออกมาอย่างชอบใจแบบกลั้นไม่อยู่ ซึ่งหน้าตาพี่เขาทั้งสองคนก็ดูอยากจะหยุมหัวฉันมากแหละแต่ต้องหักห้ามใจ ดีหน่อยที่กวนพี่เขาแล้วยังมีบารมีแฟนปกป้อง คิกๆ
“ว่าแต่พวกมึงมาทำไม”
“จะชวนเฮียกลับบ้านอะดิ”
“ทำไม มีเรื่องอะไร”
“จะชวนไปกินเหล้าแล้วคุยงานนิดหน่อย ว่าจะใช้ไม้แข็งกับไอ้พวกที่ยืมเงินไปแล้วคิดจะบิดอะดิ แต่ต้องปรึกษาเฮียก่อน งานเฮียใกล้เสร็จยังอะ”
“อืม เหลืออีกสองฉบับก็เสร็จแล้ว ยังไงค่อยคุยกัน”
ผมมองหน้าน้องชายและสายตาที่มันส่งมาก็เข้าใจได้ทันทีว่าเป็นเรื่องด่วน แล้วนอกจากธุรกิจที่ขาวสะอาดพวกผมสามพี่น้องเปิดบริษัทเงินกู้ด้วย ทั้งในระบบและนอกระบบ แต่ทั้งในและนอกมันก็จะมีปัญหาการจ่ายหนี้ที่ล่าช้าอยู่ดี สองสามเดือนไม่จ่ายก็มี
“ป๊ากับม๊าก็เงียบไปเลยนะ สามสี่ชั่วโมงไม่ตอบแชท”
“เดี๋ยวก็ตอบ ป๊าม๊าเขาไปแสวงบุญ ใครเขาจะมามั่วเล่นโทรศัพท์ล่ะ”
“เออ ก็จริง”
“ไม่มีอะไรแล้วพวกมึงก็กลับบ้านไปก่อนเลยสิ”
“ไม่ไป รอไปพร้อมพี่ชายสุดที่รัก”
“กวนตีน”
“ฮ่าๆ”
ชายหนุ่มทั้งสองคนหัวเราะออกมาอย่างชอบใจพร้อมกันหลังแกล้งพี่ชายได้ เพราะไอ้เฮียมันคงอยากจะอยู่กับแฟนสองต่อสอง แต่มีเหรอที่เขาสองคนจะให้ไอ้พี่ชายคนนี้สมหวัง จากนั้นกองทัพและกองปราบก็พากันหยิบโทรศัพท์และพากันเล่นเกมส์เพื่อรอพี่ชายเพียงคนเดียว
“ถ้ามีอะไรเร่งด่วนโทรหากูได้ตลอดนะ”
“ครับเฮีย”
“เชิญครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
ฉันยิ้มให้คนตัวสูงแล้วก็เข้ามานั่งในรถโดยที่พี่เขาเป็นคนเปิดแล้วก็ปิดประตูให้ อ่อ หลังจากพี่เขาทำงานเสร็จก็โทรเรียกและสั่งงานกับเลขาเสร็จเรียบร้อยพี่น้องสามคนก็พากันขับรถออกจากบริษัทมา แล้วพอได้ยินคำถามของพี่เขาเท่านั้นแหละ
“อืม วันนี้พ่อแม่หนูก็ไม่อยู่ถ้าหนูอยู่บ้านคนเดียวพี่ก็เป็นห่วง งั้นหนูไปดูแมวที่ห้องพี่ไหม”
“คิกๆ ได้ข่าวว่าพี่แพ้ขนแมวไม่ใช่เหรอคะ แล้วแบบนี้ไปดูแมวอะไรเอ่ย”
ผมปรายตาคนตัวเล็กข้างๆ ที่หัวเราะออกมาแบบถูกใจ แล้วยิ่งน้องยิ้มน้องหัวเราะก็ยิ่งทำให้น้องดูน่ารักแล้วก็ดูสดใสมาก เพราะพอยิ้มตาก็เป็นสระอิแล้วก็มีลักยิ้ม ผมเลยใช้มือวางบนศีรษะแล้วก็ใช้มือโยกไปมาเบาๆ ก่อนจะตอบกลับไปด้วยเเสียงอ่อนโยน
“หึหึ จริงด้วย งั้นหนูดูพี่ก็ได้ พี่น่ารักกว่าแมวอีก”
“จ้า ไม่เถียงก็ได้ว่าพี่น่ารัก นี่หนูว่าจะเตรียมปลาทูไปให้แมวที่ห้องพี่เลยนะเนี่ย”
“แค่หนูไปก็พอแล้ว”
“แต่ห้องพี่ไม่มีแมวนะ แต่ปัญหานี้แก้ไขได้ เดี๋ยวหนูเป็นแมวให้พี่เอง”
“แฮ่ม งั้นพี่ว่าเดี๋ยวพี่จ้างไอ้สองแฝดไม่เต็มบาทมันไปที่อื่นดีกว่า พี่จะได้อยู่ในห้องกับแมวพี่”
“พี่พลอะ พี่ช็อตฟีลหนูบ้างก็ได้”
“ช็อตทำไม ก็พี่ชอบ”
“งื้ออ พี่อะ หนูเขินนะ”
“หึหึ ตัวแสบเอ๊ย”
จ้ะ ตอนแรกก็คิดว่าตัวเองเป็นแม่แมว แต่ตอนนี้เหมือนตัวเองเป็นปลาทูที่รอให้พี่เขามาคาบไปเลยนะเนี่ย แล้วพอเห็นหน้าตาที่จริงจังของพี่เขานั้น บอกเลยว่า ตัวฉันเองท้าทายผิดคนแล้วแหละ