ตอนที่ 5

1196 คำ
สายตาคมกริบของเขาจดจ้องอยู่ที่ดวงหน้าสะสวย เม็ดเหงื่อที่พรมพราวอยู่ใต้ไรผมและหน้าผากนูนสวยกลับไม่ได้ทำให้ความน่าสะดุดตาและมีเสน่ห์ของหญิงสาวชาวเวียดนามคนนี้ลดน้อยลงแต่อย่างใด ในทางตรงกันข้าม แสงแดดที่สาดมากระทบพวงแก้มเรื่อละมุน ขับให้ผิวขาวผ่องยิ่งเปล่งปลั่ง ละมุนละไมไปด้วยเลือดเนื้อของวัยสาวจนเขาอยากเอื้อมมือออกไปลูบไล้สัมผัส ไทเลอร์ยอมรับว่าเคยเห็นผู้หญิงเวียดนามสวยๆ มาก็เยอะ…แต่ไม่เคยเจอใครสวยจับจิตจับใจเหมือนแอลลี่ ยืนยันด้วยทุกเวลานาทีที่กำลังคุยกัน สายตาของเขาแทบไม่ละจากใบหน้าของเธอ             ชายหนุ่มบอกไม่ถูกว่าเพราะอะไรที่ทำให้เขาเกิดความประทับใจในตัวหญิงสาวคนนี้ตั้งแต่แรกเห็น อาจจะเป็นเพราะดวงตาสวยปนโศกคู่นั้น             แม้ว่าในบางขณะ แววในดวงตาซึ่งเปล่งประกายออกมาจะดูลึกลับ ยากเกินจะอ่านออก แต่ในความลึกเร้นนั้นก็แฝงความน่าสนใจเอาไว้ไม่น้อย…รอยยิ้มน้อยๆ ที่ผุดเผยขึ้นมาอย่างมีปริศนา ทำให้แอลลี่ดูเหมือนเด็กสาวที่แอบไปทำความผิดในเรื่องต้องห้ามจนต้องเก็บงำความลับบางอย่างเอาไว้ตลอดเวลา ความคิดอ่านที่ไม่สามารถแพร่งพรายให้ใครรู้…ยิ่งทำให้แอลลี่กลายเป็นผู้หญิงลึกลับ น่าค้นหาเสียเหลือเกินสำหรับไทเลอร์ “ดูสิ…เสื้อผ้าคุณเปรอะหมดเลย เพราะความไม่ระวังของผมแท้ๆ” สายตาสงสารแลสำรวจเรือนร่างของหญิงสาวด้วยความรู้สึกผิด “ถัดไปอีกป้ายรถเมล์มีปั๊มน้ำมันค่ะ…เดี๋ยวเดินไปล้างทำความสะอาดในห้องน้ำก็ได้ค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” เธอรู้ว่าหลังจากกล่าวจบประโยค เขาจะต้องเหนี่ยวรั้งเอาไว้อย่างแน่นอน ซึ่งก็เป็นจริงอย่างที่แอลลี่คาดเอาไว้ บางทีผู้ชายเจ้าชู้อย่างไทเลอร์ก็อ่านไม่ยาก “ได้ยังไง…ถ้าขืนปล่อยให้คุณเดินจากไปแบบนี้จะยิ่งทำให้ผมรู้สึกแย่ไปใหญ่…ขอให้ผมได้ชดใช้ที่ทำเสื้อผ้าคุณเลอะเทอะไปหมด” เขารีบแสดงความรับผิดชอบ ทั้งที่แอลลี่ก็ไม่มีท่าทีว่าจะเรียกร้องแต่อย่างใด “ไม่เป็นไรค่ะ…เดี๋ยวฉันไปเองได้ค่ะ” น้ำเสียงบอกความเกรงใจ “ไม่ได้ครับ…ผมคิดว่าสภาพของคุณเปรอะเปื้อนจนต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่แล้วล่ะ เอาอย่างนี้ดีกว่า…ผมขออนุญาตไปส่งคุณที่บ้านนะครับ…คุณพักอยู่ที่ไหนครับ” แอลลี่นึกในใจว่าคำเล่าลือในแวดวงไฮโซที่ว่าเขาคือ ‘เสือผู้หญิง’ นั้นคงไม่ผิดแน่ๆ นี่แค่เจอกันยังไม่ถึงสิบนาทีเลยด้วยซ้ำ ไทเลอร์ก็รุกเร้าถึงขั้นจะไปถึงห้องเธอให้ได้ ทว่าหญิงสาวก็มั่นใจว่าเธอไม่ใช่ลูกกวาง ไม่ใช่กระต่ายน้อยที่เงอะงะออกมาให้เสือขย้ำได้ง่ายๆ และโอกาสนี้จะเป็นสะพานที่ทอดพาเธอไปสู่ชีวิตของผู้คนในตระกูลอัครพลไพศัลย์ได้รวดเร็วขึ้น “จะดีหรือคะ…ฉันพักอยู่ไกลนะคะ กลัวว่าจะเสียเวลาทำงานของคุณ” เธอส่งสายตาเกรงใจออกไปให้เขารู้ “ไกลแค่ไหนก็ไม่ใช่ปัญหาครับ วันนี้ผมว่างแล้วครับ เพิ่งบอกกับเลขาฯ ไปเมื่อครู่ว่าจะไม่เข้าออฟฟิศ อืม…ถ้าคุณไม่ขัดข้องผมขอไปส่งนะครับ ท่านประธานบริษัทตัดสินใจรับคุณแล้วก็จริง แต่ผมอยากสัมภาษณ์เพิ่มเติมอีกสักนิด เอ่อ…เรียกว่าสัมภาษณ์อาจจะดูเป็นทางการไปหน่อย เอาเป็นว่าคุยกันไปพลางๆ ในรถจะดีกว่า เราจะได้รู้จักกันดีขึ้น เพราะว่างานของคุณขึ้นตรงกับผม…ถ้าได้คุยกันในรายละเอียด จะทำให้คุณเข้าใจหน้าที่รับผิดชอบได้เร็วขึ้น” เขาทำเสียงจริงจัง หญิงสาวรู้สึกว่าการอาสาไปส่งเธอกลายเป็นการเป็นงานขึ้นมาในทันที แม้ว่าสายตาของไทเลอร์นั้นอ่านไม่ยากว่าเขาต้องการอะไรจากผู้หญิงสวยอย่างเธอ “งั้นก็ได้ค่ะ…” หญิงสาวพยักหน้าน้อยๆ “เชิญครับ” ชายหนุ่มผายมือไปยังรถคันหรูที่วาบวับอยู่ในประกายแสงแดดของยามสาย จอดเลียบไหล่ทางห่างออกไปเพียงไม่กี่ก้าว หญิงสาวก้าวตามร่างสูงใหญ่ไปช้าๆ ไทเลอร์รีบอ้อมไปเปิดประตูอีกข้าง เมื่อแอลลี่ทรุดร่างรัดรึงลงนั่งเป็นที่เรียบร้อยเขาก็ก้าวยาวๆ อ้อมหน้ารถเข้ามานั่งในตำแหน่งคนขับ สตาร์ตเครื่องยนต์แล้วรีบเลี้ยวออกไปจากประตูทางเข้าด้านหน้าโรงแรมในทันทีก่อนที่สายตาไม่พึงประสงค์ของคนรู้จักจะมาเห็นเข้าเสียก่อน เห็นได้ชัดว่าเขาค่อนข้างระมัดระวังว่าจะตกเป็นเป้าสายตา ระหว่างทางที่นั่งรถมาด้วยกัน ไทเลอร์เป็นฝ่ายชวนแอลลี่คุยตลอดทาง อันที่จริงก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับงานอย่างที่เขาเกริ่นเอาไว้ก่อนหน้าเลยสักนิด ด้วยแต่ละคำถามที่ไทเลอร์อยากรู้ ล้วนมุ่งตรงมาที่เรื่องส่วนตัวของเธอเสียมากกว่า “อยู่เมืองไทยมานานหรือยังครับ…” สายตาคมชำเลืองแลมาเล็กน้อยขณะถาม “เพิ่งมาอยู่เมืองไทยได้ปีเดียวค่ะ…พอเรียนจบแล้วได้งานทำก็ตัดสินใจมาอยู่เมืองไทย แต่ก็ไปๆ กลับๆ ระหว่างเมืองไทยกับเวียดนามค่ะ…ครอบครัวของฉันอยู่ที่เวียดนาม” หญิงสาวรู้สึกเจ็บปวดใจเมื่อต้องเอ่ยถึงคำว่า ‘ครอบครัว’ ซึ่งทุกวันนี้มีแค่เธอกับมารดาที่น่าสงสาร “คุณ…เอ่อ ยังโสดใช่ไหมครับ ผมหมายถึงแฟน” ไทเลอร์ตัดสินใจถามในเรื่องที่เขาอยากรู้มาตลอดทาง อันที่จริงเขารู้แล้วว่าสถานภาพเธอโสดจากจดหมายสมัครงาน แต่ก็ยังไม่วายละลาบละล้วงอยากรู้ไปถึงเรื่องแฟน ถ้าหากแอลลี่ไม่เคยรู้จักผู้ชายคนนี้มาก่อนจากข่าวซุบซิบในแวดวงไฮโซว่าเขาเจ้าชู้และเป็นเสือผู้หญิงตัวยง เธอคงรู้สึกตกใจที่เขาถามออกมาตรงๆ ทำเอาตั้งตัวไม่ทัน             “โสด…แต่ฉันมีแฟนแล้ว เราคบหากันได้สักพักแล้วล่ะค่ะ”             คนถูกถามตอบตามตรง ไทเลอร์พยายามซ่อนอาการตกใจจากสิ่งที่ได้ยิน เขารู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่อันที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องแปลกตรงไหนไม่ใช่หรือ ถ้าผู้หญิงสวยๆ อย่างแอลลี่จะมีแฟนแล้ว และเรื่องที่เธอมีแฟนก็ไม่ใช่เหตุผลสำคัญที่จะหยุดความต้องการของไทเลอร์ที่มีต่อแอลลี่             “แฟนคุณเป็นคนไทยหรือคนเวียดนามครับ”             น้ำเสียงของไทเลอร์เต็มไปด้วยความอยากรู้             “เวียดนามค่ะ”             “แล้วตอนนี้เขาอยู่ไหนครับ”             “อยู่ที่เวียดนามค่ะ”             เป็นคำตอบซึ่งทำให้ไทเลอร์รู้สึกโล่งอกขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก  
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม